ภายในบอดี้ขนาดกะทัดรัดของกล้องซีรีส์มิเรอร์เลส EOS M อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพระดับสูงเท่าที่กล้อง EOS สามารถมอบให้คุณได้ กล้อง EOS M3 รุ่นล่าสุดผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะด้านระบบโฟกัสอัตโนมัติและการควบคุม ต่อจากนี้ไป เราจะเผยถึงเรื่องราวเบื้องหลังของทีมนักพัฒนาที่แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่มีต่อกล้องรุ่นนี้ (บรรณาธิการโดย: Camera Biyori, ภาพโดย: Toru Matsushima)
ผู้วางแผน: Takenari Kawano
ผู้ออกแบบ: Hironori Oishi
วิศวกร: Jiro Yamamoto
วิศวกร: Shinobu Watanabe
วิศวกร: Takaaki Fukui
วิศวกร: Hiroyuki Ogino
รูปทรงมือจับใหม่ที่ดียิ่งขึ้น
- พวกเราในกองบรรณาธิการ "Camera Biyori" ก็ใช้กล้อง EOS M เช่นกัน ดูเหมือนว่ากล้อง EOS M3 จะมีคุณสมบัติใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเยอะและจับถือได้ง่ายมาก
Kawano ขอบคุณมากครับ กล้องซีรีส์มิเรอร์เลส EOS M ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิดที่ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับ "ความเร็ว", "ความสะดวกสบาย" และ "คุณภาพ" ของกล้องในกลุ่ม EOS SLR ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม สำหรับกล้อง EOS M3 เราเพิ่มเติมคุณสมบัติที่ผู้ใช้มองหา เช่น จอภาพ LCD แบบปรับเอียงขึ้นลงเพื่อความสะดวกเมื่อถ่ายภาพเซลฟี่, แฟลชติดกล้อง และช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ภายนอก (EVF) ในส่วนของการควบคุม เราแยกแป้นหมุนต่างๆ ออกจากกันเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานกล้องมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังนำฟังก์ชั่นใหม่ที่เรียกว่า "Creative Assist" มาไว้ในกล้องรุ่นนี้เพื่อผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ด้านการถ่ายภาพมากนัก แต่อยากจะถ่ายภาพให้สวยขึ้น ด้วย "Creative Assist" ผู้ที่เริ่มใช้งานจะสามารถพัฒนาทักษะการถ่ายภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- กล้องรุ่นนี้ดูจะแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ มากเลยนะครับ รู้สึกว่าหรูหราสง่างามมากกว่า
Oishi กล้อง EOS M3 มีคุณสมบัติหลากหลาย และยังสืบทอด "ความฉลาด" จากรุ่นก่อนหน้าอันเป็นลักษณะเฉพาะของกล้องซีรีส์นี้มาด้วย เราพิจารณาถึงปัจจัยสองอย่าง ได้แก่ ความสะดวกในการพกพากล้องไปยังที่ต่างๆ และประสิทธิภาพระดับมืออาชีพที่ให้ผู้ใช้สนุกกับประสบการณ์ในการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่
ภายในบอดี้ขนาดกะทัดรัดของกล้อง EOS M3 ตัวนี้เต็มไปด้วยประสิทธิภาพระดับสูง ความสามารถในการทำงานที่ดีเยี่ยม และการออกแบบขั้นสูงสำหรับกล้อง SLR
- คุณให้ความสำคัญกับเรื่องใดที่สุดครับ?
Oishi พื้นที่รอบปุ่มชัตเตอร์มีรูปทรงที่ทำให้คุณวางนิ้วชี้ด้านขวาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ส่วนมือจับไม่เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า และถือง่ายกว่า
Oishi ผู้ใช้ผู้หญิงถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักของกล้องมิเรอร์เลส SLR ดังนั้น เราจึงรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาและนำไปพิจารณาด้วย พื้นผิวแบบหนังที่ใช้ตรงส่วนมือจับพัฒนาขึ้นใหม่ และเรามองหาสิ่งที่ดีที่สุดในด้านรูปลักษณ์และลวดลายผ่านการปรับเปลี่ยนในหน่วยไมครอน ก่อนนี้ บอดี้กล้อง EOS M โดดเด่นเพราะมีพื้นผิวเรียบ แต่สำหรับ EOS M3 เราใส่พื้นผิวที่หยาบขึ้นเพื่อดีไซน์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ภาพวาดการออกแบบกล้อง EOS M3 บางส่วน เมื่อมองจากภาพวาดเหล่านี้ เราบอกได้เลยว่ามีการออกแบบเลย์เอาต์แป้นหมุนไว้หลายแบบ นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอให้ทำส่วนมือจับเป็นสีน้ำตาล เพิ่มเติมจากสีดำและสีเทา
กล้อง EOS M3 มีวงแหวนสำหรับการชดเชยปริมาณแสง ซึ่งไม่ยื่นออกจากตัวกล้องมากนัก และจัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ปรับหมุนง่าย ทั้งนี้ เรายังใส่ใจกับขนาด สัมผัส และเสียงกลไกเมื่อหมุนแป้นอีกด้วย
ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนดีไซน์พื้นที่บริเวณปุ่มชัตเตอร์ ความสะดวกในการกดปุ่มนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ทีมนักพัฒนาได้ลองใช้รูปทรงแป้นหลายแบบและจัดวางในมุมต่างๆ เพื่อให้ได้พื้นผิวตัดเฉียง วงแหวนอิเล็กทรอนิกส์วางรอบปุ่มชัตเตอร์เพื่อความสะดวกในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
ทุ่มเทใส่ใจในทุกรายละเอียด
- สีขาวช่วยให้มีสัมผัสที่สง่างามยิ่งขึ้นด้วยนะครับ
Oishi สิ่งที่เราตั้งใจให้เกิดขึ้นคือ การสร้างสีขาวที่ดูลุ่มลึกและสง่างามโดยเพิ่มชั้นสีแบบมุกทับบนสีพื้นขาว ขณะเดียวกัน เราเลือกใช้สีเบจอมเทากับส่วนมือจับ เพราะเราไม่อยากให้กล้องดูเป็นสำหรับผู้หญิงจนเกินไป ชิ้นส่วนภายนอกส่วนใหญ่ของบอดี้กล้องสีขาวและสีดำจะทำแยกกัน
Yamamoto เรื่องนี้เป็นงานหนักมากในส่วนของเรา เราทำเลนส์แพนเค้กสีเงินขึ้นใหม่ด้วย และยังนำสีอื่นๆ มาใช้ให้เข้ากับสีโลหะของที่ติดสายคล้อง แม้ว่าโดยส่วนตัว ผมคิดว่าใช้แค่สีเดียวก็น่าจะพอแล้ว (หัวเราะ)
ตัวอย่างสีสำหรับบอดี้กล้องสีดำ พื้นผิวที่หยาบกว่าที่ใช้กับกล้อง SLR ถูกนำมาใช้เพื่อถ่ายทอดสัมผัสของประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพ
สำหรับบอดี้กล้องสีขาว เลนส์สีเงินก็ได้รับการออกแบบใหม่ มีการพิจารณาดีไซน์แบบต่างๆ หลายแบบ ไม่เพียงสำหรับท่อเลนส์เท่านั้น แต่สำหรับสีเงินโทนต่างๆ ของเมาท์เลนส์ด้วย
ในส่วนของห่วงติดสายคล้อง เราใช้สีที่แตกต่างกันสำหรับบอดี้กล้องสีดำและสีขาว สีเงินใช้กับกล้องสีขาว ขณะที่กล้องสีดำจะใช้เป็นสีโทนเข้ม ชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงวงแหวนและปุ่มกดยังผลิตแยกกันตามสีของบอดี้กล้องด้วย
- ดังนั้น จำนวนสีที่ใช้จึงแบ่งเป็นสองโทน
Yamamoto กับงานประณีตอย่างนี้ อาจเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวหากเรามีสีมากถึงสี่หรือห้าสี (หัวเราะ)
Oishi เราเลือกสีที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ "กล้องคุณภาพสูง" มากที่สุด
- คุณชอบสีอะไรมากกว่ากัน?
Oishi ผมคงชอบสีขาวมากกว่า เพราะสิ่งที่ผมได้ทุ่มเทในการพัฒนากล้อง เราเริ่มด้วยการเลือกสีวัสดุเรซิ่น
Yamamoto ภาระกิจการเลือกวัสดุเป็นขั้นตอนที่สร้างความหนักใจ เพราะการเลือกสีขาวเพื่อใช้กับเรซิ่นอาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันแสง ทำให้แสงโดยรอบเข้าสู่เซนเซอร์ภาพ อีกหนึ่งปัญหาใหญ่คือวิธีการลดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ เนื่องจากจำเป็นต้องมีชั้นเคลือบผิวสำหรับทั้งสีขาวและสีดำเพื่อให้ได้เฉดสีที่เหมาะสม
- ด้วยจำนวนวงแหวนที่เพิ่มขึ้น กล้อง EOS M3 จึงใช้งานง่ายขึ้น
Yamamoto ไอเดียแรกของเราคือ ให้มีวงแหวนด้านหน้าสำหรับปรับค่ารูรับแสงและไม่ต้องมีวงแหวนชดเชยแสง แต่เมื่อมีการปรึกษาหารือกันมากขึ้น เราจึงตัดสินใจว่าอาจดีกว่าหากสามารถทำการปรับค่าแบบแมนนวลได้ และมีวงแหวนชดเชยแสง ขั้นต่อมาคือการค้นหารูปแบบการจัดวางที่ดีที่สุดในการใช้งานวงแหวนชดเชยแสง วงแหวนด้านหน้า และวงแหวนเลือกโหมด นอกจากนี้ เรายังต้องคำนึงถึงความเรียบง่าย เพราะเราไม่ต้องการให้กล้องมีการใช้งานที่ซับซ้อนเกินไป อาจไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะทำวงแหวนให้หมุนง่ายหากมีขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่ดีไซเนอร์ขอกับเราคือทำให้แบนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากวงแหวนที่แบนจะต้องใช้ปุ่มนิ้วควบคุม เราจึงให้ความสำคัญกับการกำหนดความหนืดของแป้นเมื่อมีการหมุน
ลักษณะเฉพาะของกล้อง EOS M3
- เซนเซอร์ฟอร์แมต APS-C ขนาดใหญ่
- ส่วนมือจับเพื่อความกระชับ
- คำอธิบายเมนูที่เข้าใจง่าย
- แฟลชภายในตัวกล้อง
- วงแหวนและปุ่มกดที่เอื้อต่อการใช้งานได้สะดวกง่ายดาย
- หน้าจอสัมผัส LCD ที่ไวต่อการตอบสนองแบบปรับหมุนได้ 180 องศา
กล้องในกลุ่มมิเรอร์เลส EOS M เพิ่ม "ความฉับไว" เพื่อ "ความเร็ว", "ความสะดวกสบาย" และ "คุณภาพ" ของกล้องซีรีส์ EOS มาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ เช่น เซนเซอร์ภาพที่มีความละเอียดประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล แป้นหมุนและการควบคุมอื่นๆ , จอภาพ LCD แบบปรับหมุนได้ และแฟลชติดกล้อง กล้อง EOS M3 รุ่นล่าสุดจึงมอบประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้ง่ายที่พัฒนายิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กล้อง EOS M3 คงไว้ซึ่งหน้าจอสัมผัสและเมนูที่ผู้ใช้เข้าถึงง่าย คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ นี่คือกล้องที่เราขอแนะนำให้กับทั้งผู้ใช้ที่มีประสบการณ์และผู้เริ่มใช้งาน
เซนเซอร์ภาพ/ 22.3×14.9 มม. CMOS
จำนวนพิกเซลที่ใช้งานจริง/ ประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล
ขนาด (กว้างxสูงxลึก)/ ประมาณ 110.9 x 68.0 x 44.4 มม.
น้ำหนัก (รวมแบตเตอรี่และการ์ดหน่วยความจำ)/ ประมาณ 366 กรัม
จอภาพ LCD/ จอภาพสี TFT กว้าง 3.0 นิ้ว (แบบปรับหมุนขึ้นลงได้)
Camera Biyori เป็นนิตยสารภาพถ่ายของญี่ปุ่น ซึ่งนำเสนอภาพถ่ายที่สวยงามและความสนุกสนานในการใช้กล้องในชีวิตประจำวัน และเพื่อเป็นการแนะนำกิจกรรมสนุกๆ เกี่ยวกับกล้องและการถ่ายภาพ ฝ่ายบรรณาธิการของนิตยสาร Camera Biyori ยังมีโรงเรียนสอนการถ่ายภาพ Camera Biyori ที่จะช่วยแนะนำผู้อ่านให้เข้าร่วมและสนุกสนานกับการถ่ายภาพ
จัดพิมพ์โดย Daiichi Progress Inc.