เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ถือว่า EOS 7D Mark II มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย กล้องรุ่นนี้เป็นการปรับโฉมใหม่ครั้งแรกในช่วงเวลาห้าปี บทความนี้เป็นบทสัมภาษณ์ทีมนักพัฒนาที่คุณจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาบอดี้กล้อง และความน่าสนใจของ EOS 7D Mark II ที่เปิดเผยเป็นที่แรก (เรื่องโดย: Ryosuke Takahashi)
Q: บอดี้กล้องรุ่นนี้มีโครงสร้างกันฝุ่นและความชื้นไหมครับ?
A:
”ใช่ครับ บอดี้ของกล้องรุ่นนี้ออกแบบมาโดยพิจารณาให้มีการป้องกันฝุ่นละอองและความชื้น” เพื่อตอบรับต่อความเห็นของผู้ใช้เกี่ยวกับการออกแบบกล้อง EOS 7D การป้องกันฝุ่นและความชื้นของกล้อง EOS 7D Mark II จึงแข็งแรงขึ้นถึง 4 เท่า พร้อมการพัฒนาหลายชิ้นส่วนของบอดี้ รวมทั้งจุดยึดสายคล้องและฝาปิดช่องใส่แบตเตอรี่
Q: วัสดุที่ใช้เป็นอย่างไรครับสำหรับบอดี้กล้องรุ่นนี้?
A:
”ฝาปิดด้านบน ด้านหน้า และด้านหลังใช้แมกนีเซียมอัลลอย ซึ่งทนทานและมีคุณสมบัติป้องกันแม่เหล็กไฟฟ้า” นอกจากจุดแข็งตรงนี้แล้ว แมกนีเซียมอัลลอยยังเป็นที่ทราบกันดีในเรื่องของประสิทธิภาพในการกระจายความร้อน วัสดุชนิดนี้ขาดไม่ได้เลยสำหรับการสร้างรูปแบบชิ้นงานที่คงทนแข็งแรง รวมถึงลวดลายและสัมผัสที่ดูงดงาม
Q: ขนาดของเพนทาปริซึมเหมือนกับของกล้อง EOS 7D ไหมครับ?
A:
”ชิ้นส่วนที่เกินจำเป็นถูกตัดออกไปเพื่อสร้างเพนทาปริซึมที่มีขนาดเล็กกว่าของกล้อง EOS 7D แต่ไม่มีความแตกต่างในด้านประสิทธิภาพการเป็นออพติคอลปริซึม” เราออกแบบมาโดยตั้งใจเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น ตัวรับสัญญาณ GPS โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพทางด้านออพติคอล
Q: จำนวนภาพสูงสุดที่ถ่ายได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มอยู่ที่เท่าไหร่?
A:
”ระหว่างการถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพที่อุณหภูมิ 23 องศาเซลเซียสและที่ AE 100% จำนวนภาพที่ถ่ายได้สูงสุดจะอยู่ที่ 800 ภาพครับ ถ้าใช้แฟลชในตัว 50% จะอยู่ที่ 670 ภาพ ถ้าเป็นภายใต้สภาวะเงื่อนไขเดียวกันโดยถ่ายแบบ Live View จำนวนภาพสูงสุดจะอยู่ที่ 270 และ 250 ที่ AE 100% และแฟลช 50% ตามลำดับ” จำนวนนี้คือจำนวนภาพเมื่อใช้แบตเตอรี่ LP-E6N
การถ่ายด้วยช่องมองภาพ (อุณหภูมิห้อง): ประมาณ 670 ภาพ
การถ่ายด้วยหน้าจอ Live View (อุณหภูมิห้อง): ประมาณ 250 ภาพ
Q: มีการพัฒนาอะไรใน GUI บ้างครับ?
A:
”แบบอักษรที่ปรับขนาดได้ถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงเรื่องการแสดงผลของอินเทอร์เฟซกล้อง นอกจากนี้ ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถแสดงผลบนหน้าจอ Playback ได้แล้ว และยังบันทึกรายการการตั้งค่าต่างๆ ลงใน เมนูส่วนตัว (My Menu) ได้มากขึ้นอีกด้วย” แบบอักษรที่ปรับขนาดได้นี้เป็นฟอนต์ที่คมชัดแทบไม่มีปัญหาเรื่องขอบหยักไม่ชัดเจน
Q: ช่องเสียบการ์ดคู่เป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง?
A:
”ช่องเสียบสล็อตการ์ดคู่เอื้อให้กล้องสลับการใช้งานการ์ดได้อย่างอัตโนมัติ และคุณสามารถบันทึกข้อมูลที่แตกต่างกันไปยังการ์ดอีกชิ้นหนึ่งได้ด้วย ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกประเภทการ์ดให้ผู้ใช้ ด้วยช่องเสียบการ์ดที่รองรับการ์ดทั้งแบบ CF และ SD และคุณยังสามารถเปิดดูหรือตรวจสอบภาพที่ถ่ายโดยกล้อง Canon ตัวอื่นบน EOS 7D Mark II ได้อีกด้วย”
Q: การมองเห็นของช่องมองภาพดีกว่ากล้อง EOS 7D ไหมครับ?
A:
”ลักษณะเฉพาะด้านออพติคอลเหมือนกันครับ แต่ด้วยการปรับปรุงแมตเซอร์เฟซของแผ่นโฟกัส ความหยาบจึงลดลงกว่ากล้อง EOS 7D และระบุโฟกัสได้ง่ายขึ้น” พื้นที่ครอบคลุมช่องมองภาพอยู่ที่ประมาณ 100% เท่ากันกับ EOS 7D และมีกำลังขยาย 1 เท่า จุดมองภาพประมาณ 22 มม.
A: เพนทาปริซึม
B: เซนเซอร์การวัดแสง
C: เลนส์ใกล้ตา
D: สำหรับการแสดงข้อมูลบนช่องมองภาพ
E: หน้าจอ LCD (ด้านล่าง) สำหรับการแสดงข้อมูลช่องมองภาพ
F: ฉากปรับโฟกัส
G: หน้าจอ LCD โปร่งแสง
H: แสง LED ของหน้าจอ LCD โปร่งแสง
I: แสงช่วยนำสำหรับให้ความสว่างบนหน้าจอ LCD โปร่งแสง
Q: แบตเตอรี่กริปจำนวนกล้อง EOS 7D นำมาใช้กับกล้อง EOS 7D Mark II ได้ไหมครับ?
A:
”กริปของรุ่นเดิมไม่สามารถใช้ได้นะครับ ขอให้ใช้ BG-E16 ที่ออกแบบมาสำหรับ EOS 7D Mark II โดยเฉพาะ” BG-E16 แบตเตอรี่กริปใหม่ทำจากแมกนีเซียมอัลลอย มีคุณสมบัติต้านฝุ่นละอองและความชื้น กริปนี้มาพร้อมกับปุ่มเลือกพื้นที่ AF แยกต่างหาก
Q: โครงสร้างของหน้าจอ LCD ใกล้เคียงกับ EOS 7D หรือเปล่าครับ?
A:
”ความละเอียดอยู่ที่ประมาณ 1,040,000 จุด ขณะที่ EOS 7D มีประมาณ 920,000 จุด และมีการนำหน้าจอ LCD รุ่น Clear View II มาใช้” อย่างที่พูดถึงในการสัมภาษณ์นะครับ จอ LCD ของ EOS 7D Mark II กว้างกว่าซึ่งสะท้อนถึงจำนวนจุดที่เพิ่มสูงขึ้น
หน้าจอ LCD แบบ Clear View
A: ฝาครอบป้องกัน
B: การเคลือบผิวเพื่อป้องกันการสะท้อน
C: แผงจอ LCD
หน้าจอ LCD Clear View II
A: การเคลือบผิวป้องกันรอยคราบ, การเคลือบผิวป้องกันการสะท้อน
B: ฝาครอบป้องกัน
C: วัสดุนำแสงแบบยืดหยุ่น
D: แผงจอ LCD
Q: เราสามารถใช้แบตเตอรี่รุ่นเดิมต่อไปได้ไหมครับ?
A:
”ได้ครับ” LP-E6N (1,865mAh) มีความจุมากกว่าเดิม แต่ยังคงรูปทรงเดียวกับ LP-E6 (1,800mAh) อยู่ ที่ชาร์จแบตเตอรี่เดิมก็ยังใช้ได้ด้วยนะครับ ดังนั้น อุปกรณ์ที่ซื้อมาใช้กับกล้อง EOS 7D จะยังไม่สูญเปล่าครับ
เกิดที่จังหวัดไอชิเมื่อปี 1960 Takahashi เริ่มทำงานอิสระในปี 1987 หลังจากทำงานในสตูดิโอถ่ายภาพโฆษณาและสำนักพิมพ์ และเนื่องจากรับถ่ายภาพให้กับนิตยสารชื่อดัง เขาจึงได้เดินทางจากที่อยู่ประจำ คือ ญี่ปุ่นและจีน ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และเขาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Japan Professional Photographers Society (JPS) ด้วย