การถ่ายภาพกลางอากาศที่ช่วยให้เราเห็นโลกจากมุมมองที่ต่างออกไปอย่างมากอาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่ก็เป็นกระบวนการที่ให้ผลคุ้มค่าอย่างมาก ในบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ ช่างภาพมืออาชีพ Jeffry Lim ให้คำแนะนำและเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อถ่ายภาพกลางอากาศ

EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 38 มม./ Shutter-priority AE (f/3.5, 1/1600 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ

 

นิทรรศการการถ่ายภาพกลางอากาศได้รับเสียงตอบรับอย่างดีในมาเลเซีย

ภาพถ่ายขนาดใหญ่กว่า 50 ภาพถูกนำมาจัดแสดงที่นิทรรศการภาพถ่าย 'Aspiring New Zealand' ของ Jeffry Lim จัดขึ้นที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

นิทรรศการ 'Aspiring New Zealand' จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึง 7 พฤษภาคม 2017 ที่ Bangsar Shopping Centre ในกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยมีการจัดแสดงภาพถ่ายขนาดใหญ่จากฝีมือของช่างภาพมืออาชีพชาวมาเลเซีย Jeffry Lim กว่า 50 ภาพ ซึ่งถ่ายในระหว่างการเดินทางไปยังนิวซีแลนด์ในเดือนมิถุนายน 2016

 

คุณใช้เวลาถ่ายภาพสำหรับนิทรรศการนี้นานแค่ไหน นอกจากนี้ อยากให้คุณเล่าให้เราฟังถึงความยากลำบากที่คุณได้พบเจอสักหน่อยครับ

การถ่ายภาพใช้เวลาประมาณ 23 วัน ความยากลำบากที่ผมเจอมีทั้งสภาพอากาศที่หนาวจัด ความปั่นป่วนของเที่ยวบิน ลมพัดแรง ไม่มีแสงแดดและข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายภาพ (เนื่องจากสถานที่เหล่านี้ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวทั่วไป) นอกจากนี้ การได้ลองใช้ทักษะใหม่ๆ เมื่อถ่ายภาพจากเครื่องบินประเภทที่ต่างออกไปยังเป็นความท้าทายเช่นกัน นอกจากนี้ มีหลายครั้งที่สภาพอากาศบนท้องฟ้ามืดสลัว ทำให้ถ่ายภาพได้ยาก และต้องใช้เวลารอคอยนานจนกว่าท้องฟ้าจะโปร่ง

 

คุณต้องขออนุญาตเป็นพิเศษเพื่อถ่ายภาพหรือไม่

ในนิวซีแลนด์ คุณสามารถเลือกถ่ายภาพกลางอากาศโดยใช้เครื่องบินขนาดเล็กได้ โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตเป็นพิเศษเหมือนกับประเทศอื่นๆ ซึ่งโดยปกติจะทำให้การถ่ายภาพกลางอากาศได้ยาก

EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 70 มม./ Shutter-priority AE (f/5, 1/1250 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
Harvest Land (Kaikoura Flat): ภาพแนวตั้งที่แสดงพื้นที่ฟาร์มสีเขียวอันงดงามซึ่งให้ผลิตผลอันอุดมสมบูรณ์

 

คุณพบกับสถานการณ์ที่อันตรายขณะถ่ายภาพบ้างหรือไม่

ครับ เนื่องจากภาพส่วนใหญ่ถ่ายขณะที่ประตูเครื่องบินเปิด การเคลื่อนไหวบนที่สูงและความปั่นป่วนของอากาศในระหว่างที่ลมพัดแรงยิ่งทำให้ผมทรงตัวได้ยากขึ้น และนั่นทำให้ผมรู้สึกค่อนข้างไม่ปลอดภัย

 

เล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวน่าอัศจรรย์ที่สุดที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายภาพได้ไหมครับ

ก่อนหน้านี้ผมเคยใฝ่ฝันถึงคำว่า ‘Aspiring’ และในหลายๆ สถานที่ที่ผมไปเยือนก็มีคำๆ นี้แสดงอยู่บนป้าย เหมือนกับเตือนให้ผมค้นหาเกี่ยวกับคำๆ นี้ หลังจากค้นคว้าข้อมูลทางออนไลน์ ผมก็พบภูเขา Aspiring โดยบังเอิญ และตัดสินใจที่จะถ่ายภาพกลางอากาศในนิวซีแลนด์ การเดินทางโดยเครื่องบินยากพอควร เพราะเราเจอกับสภาพอากาศที่ปั่นป่วนรุนแรงตลอดเวลา และแสงแดดไม่เพียงพอที่จะถ่ายภาพให้ดูสวย ผมเริ่มสวดอ้อนวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากสวดมนต์แล้ว ความอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เพราะแสงอาทิตย์เริ่มปรากฏขึ้นหลังก้อนเมฆ และหมอกที่เคยปกคลุมเทือกเขาก็เคลื่อนตัวออกไป เผยให้เห็นยอดเขาเด่นชัดเหมาะแก่การถ่ายภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่งดงามและมหัศจรรย์มาก!

EOS 5D Mark III/ EF70-200mm f/2.8L IS II USM/ FL: 90 มม./ Shutter-priority AE (f/4, 1/1250 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ
Majestic Abba (ภูเขา Aspiring): แม้ว่าสภาพอากาศจะรุนแรงและมีแสงแดดเล็กน้อย แต่สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆ ดวงอาทิตย์ก็ปรากฏ และยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกค่อยๆ เด่นชัดขึ้น

 

เคล็ดลับความสำเร็จของการถ่ายภาพกลางอากาศ

ช่างภาพชาวมาเลเซีย Jeffry Lim เตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายภาพกลางอากาศในนิวซีแลนด์ ท่ามกลางอุณหภูมิ -30 °C ที่ความสูง 15,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล

การถ่ายภาพกลางอากาศซึ่งเป็นการถ่ายภาพประเภทหนึ่ง คือกิจกรรมการถ่ายภาพจากแพลตฟอร์มทางอากาศ เช่น เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ ว่าว บอลลูน หรืออากาศยานไร้คนขับ ภาพถ่ายทางอากาศแบ่งคร่าวๆ ออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ "oblique" คือภาพที่เล็งมุมต่ำลงพื้นดิน และ "vertical" คือภาพที่ถ่ายโดยมองมุมต่ำจากมุมเหนือศีรษะพอดี ภาพถ่ายกลางอากาศคือหนึ่งในจุดแข็งหลักของ Jeffry Lim และเขาสามารถถ่ายภาพทั้งสองประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้มุมภาพต่างๆ ที่เหมาะสมกับตัวแบบแต่ละชนิด

 

ช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับการถ่ายภาพกลางอากาศเป็นครั้งแรก และอะไรทำให้คุณคิดว่าการถ่ายภาพนี้น่าดึงดูดใจ

ตอนผมเป็นเด็ก ผมเคย "ขึ้น" เฮลิคอปเตอร์ไปกับทริปที่พาครอบครัวไปเที่ยวงานท้องถิ่น ทริปนั้นเองทำให้ผมค้นพบมุมมองการถ่ายภาพบนท้องฟ้าแบบต่างๆ

 

อะไรที่คุณคิดว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเมื่อถ่ายภาพจากบนเครื่องบิน

เครื่องบินต่างจากเฮลิคอปเตอร์ที่สามารถบินร่อนไปมาและลงจอดที่ใดที่หนึ่งได้ แต่เครื่องบินต้องบินตลอดเวลา ดังนั้น เรามีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะเก็บภาพสถานที่นั้นๆ จากจุดเดียวกัน การถ่ายภาพกลางอากาศจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายเพื่อให้ภาพที่สวยงามมากๆ

 

ในการถ่ายภาพจะใช้ระยะเวลาในการบินต่อเที่ยวนานเท่าไหร่

ระยะเวลาการบินอยู่ระหว่าง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเส้นทางการบินและพื้นที่ที่เราจะถ่ายภาพ

EOS 5D Mark III/ EF70-200mm f/2.8L IS II USM/ FL: 135 มม./ Shutter-priority AE (f/14, 1/1600 วินาที)/ ISO 640/ WB: อัตโนมัติ
Serene (Conway Ridge): ภาพในยามเช้าตรู่อันเงียบสงบนี้ถ่ายขณะบินอยู่เหนือท้องทะเลลึกอันกว้างใหญ่ไพศาลเพื่อตามหาวาฬและโลมา

 

โดยทั่วไปคุณเตรียมตัวอย่างไรก่อนถ่ายภาพ (แผนการบิน ฯลฯ) กระบวนการสร้างภาพที่คุณต้องทำก่อนจะถ่ายภาพสุดท้ายคืออะไร

การเตรียมตัวขั้นแรกคือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสมทั้งหมด สายรัดนิรภัย และเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นเพียงพอติดตัวไปด้วยเมื่อคุณขึ้นเครื่อง ประการที่สองคือ ต้องมีเส้นทางการบินพื้นฐาน และดูให้แน่ใจว่าเครื่องบินมีน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงพอตลอดการเดินทาง น่าเสียดายที่เราไม่สามารถเห็นสถานที่เฉพาะที่เราจะถ่ายภาพได้ จนกว่าเราจะบินไปจนถึงพื้นที่เป้าหมายจริงๆ เพราะธรรมชาติคาดเดาไม่ได้และอาจได้รับผลกระทบจากองค์ประกอบต่างๆ ได้ง่าย เช่น สภาพอากาศ ลม และสภาพแสงแดด ซึ่งแต่ละองค์ประกอบเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 

คุณใช้อุปกรณ์อะไรบ้างในการถ่ายภาพ (กล้อง เลนส์ ฟิลเตอร์)

กล้องที่ผมใช้คือ EOS 5D Mark III และเลนส์ที่ใช้คือ EF16-35mm f/2.8L II USM, EF24-70mm f/2.8L II USM และ EF70-200mm f/2.8L IS II USM นอกจากนี้ ผมยังใช้ฟิลเตอร์โพลาไรซ์

 

คุณสามารถป้องกันกล้องสั่นไหวขณะถ่ายภาพแบบถือด้วยมือจากบนเครื่องบินได้อย่างไร

จริงๆ แล้วเราไม่สามารถป้องกันกล้องสั่นไหวระหว่างที่อยู่บนเครื่องได้ แต่เราสามารถลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุดได้โดยการถ่ายภาพเร็วๆ และถ่ายให้มากขึ้น การตั้งค่ากล้องให้ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงและการใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ จะช่วยลดปัญหาภาพเบลอได้

EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 44 มม./ Shutter-priority AE (f/11, 1/1600 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
Flow (แม่น้ำ Tasman): การก่อตัวอันสวยงามของรูปแบบที่เกิดจากลำธารขนาดเล็ก ซึ่งแยกตัวจากน้ำแข็ง และไหลไปในทิศทางต่างๆ

 

แรงบันดาลใจและแรงกระตุ้นของช่างภาพ

Jeffry Lim ตรวจสอบความถูกต้องของสีในผลงานของเขาในระหว่างจัดทำหนังสือภาพถ่าย ‘Aspiring New Zealand’

Jeffry Lim ช่างภาพชาวมาเลเซียเข้าสู่เส้นทางการถ่ายภาพอาชีพตั้งแต่ปี 1995 และตลอดระยะเวลาหลายปี จุดแข็งหลักของเขาคือการถ่ายภาพกลางอากาศ อุตสาหกรรม นอกชายฝั่ง และท้องทะเล

 

อะไรทำให้คุณตัดสินใจผันตัวเป็นช่างภาพ

ผมเริ่มต้นเป็นช่างภาพวารสารศาสตร์ให้กับหนังสือพิมพ์ภาษาจีนท้องถิ่นฉบับหนึ่งสมัยเป็นนักเรียน เพื่อหาเงินค่าขนม ระหว่างช่วงเวลานี้ ผมได้ฝึกถ่ายภาพบ่อยครั้งและเรียนรู้ด้วยตัวเองตลอดมา จากจุดนั้นเองที่ทำให้ผมค้นพบว่าผมชอบการถ่ายภาพ และช่วยสร้างแรงบันดาลให้ผมค่อยๆ ผันตัวเป็นช่างภาพมืออาชีพ

 

อะไรที่คุณคิดว่าคือเสน่ห์และความสุขของการถ่ายภาพทิวทัศน์

การถ่ายภาพทิวทัศน์ทำให้ผมสามารถสร้างอารมณ์และความรู้สึกในภาพถ่ายที่แตกต่างไปตามฤดูกาลที่ผมถ่ายได้ อีกทั้งยังเป็นวิธีเชื่อมโยงเราเข้ากับทิวทัศน์ และนำประสบการณ์ที่ได้รับนั้นคืนกลับไปสู่ผู้ชม

EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 50 มม./ Shutter-priority AE (f/8, 1/1250 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ
Overcome (แม่น้ำ Macaulay): แม่น้ำที่คดเคี้ยวและไหลไปตามที่ราบต่างๆ สะท้อนถึงวิธีที่เราสามารถหาหนทางแก้ปัญหาเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต

 

โดยปกติแล้วคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้พบกับภาพทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา แต่ละครั้งคุณมีความประทับใจที่ต่างออกไปหรือไม่ หรือชวนให้คุณคิดถึงธีมของคุณหรือไม่

องค์ประกอบทางธรรมชาติที่ต่างกันย่อมสร้างสิ่งที่ต่างกัน ดังนั้น ภาพทิวทัศน์ที่งดงามตระการตาทั้งหมดจึงไม่อาจคาดเดาได้เลย เราจึงสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่ดูสวยแปลกตาได้

 

คุณทำงานถ่ายภาพมาเป็นเวลานานแล้ว ช่วยเล่าให้เราฟังว่าอะไรคือแรงผลักดันสำหรับคุณ

ผมชอบการเดินทางเพื่อถ่ายภาพ ความหลงใหล และทักษะต่างๆ ที่ถือเป็นพรจากพระเจ้า ผมมองตัวเองเป็นเสมือนผู้ส่งสารผ่านผลงานภาพถ่าย และนั่นคือแรงผลักดันของผม

EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 28 มม./ Shutter-priority AE (f/2.8, 1/1600 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
Forest City (เกาะ Motuariki): แสงอาทิตย์ตอนเช้าตรู่ทอดเงาลงบนต้นไม้ของเกาะ เกิดเป็นภาพซิลูเอตต์ที่ดูคล้ายกับตึกสูงระฟ้าในเมือง

 

สรุป

แม้ว่าการถ่ายภาพกลางอากาศจะเต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย แต่ Jeffry Lim มองตัวเองเป็นเสมือนนักเล่าเรื่องราวด้วยภาพ และเป็นผู้ส่งสารผ่านผลงานภาพถ่าย ซึ่งทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจในการเข้าสู่วงการถ่ายภาพประเภทนี้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะถ่ายภาพความงดงามของธรรมชาติให้ผู้ชมได้เห็น เมื่อช่างภาพเข้าใจตัวแบบที่งดงาม และทุ่มเทให้กับตัวแบบเหล่านี้ พวกเขาจะสามารถรวบรวมความกล้าและพลังอย่างไร้ขีดจำกัด และทำให้สามารถถ่ายภาพที่ให้ผลคุ้มค่ามากที่สุดได้

 

---

---