Canon EOS 80D – กล้อง DSLR ระดับกลางที่พัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของ AF ให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016 Canon ได้แถลงเปิดตัวกล้อง EOS 80D กล้อง DSLR ระดับกลางตัวใหม่ ซึ่งมีเซนเซอร์ภาพ 24.2 ล้านพิกเซล ช่องมองภาพที่ครอบคลุมถึง 100% และความไวแสง ISO ปกติสูงถึง ISO 16000 ต่อไปนี้เป็นรายงานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ทราบของกล้องรุ่นใหม่นี้ (เรื่องโดย: Osamu Takeishi (Digital Camera Watch))
มาพร้อมกับเซนเซอร์แบบ APS-C ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ DIGIC 6 และเลนส์คิทใหม่เอี่ยม
EOS 80D Kit (EF-S18-55mm IS STM)
EOS 80D Kit II (EF-S18-135mm IS USM)
EOS 80D ซึ่งเป็นรุ่นถัดจาก EOS 70D ที่ออกสู่ตลาดในเดือนสิงหาคม 2013 ไม่เพียงมาพร้อมเซนเซอร์ภาพและระบบประมวลภาพที่ปรับโฉมใหม่เท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติที่ปรับปรุงใหม่ รวมถึงฟังก์ชั่น AF ที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
EOS 80D มีตัวเลือกให้เลือกซื้อถึง 3 ชุดด้วยกัน นอกเหนือจากเฉพาะตัวกล้องและชุดที่มาพร้อมเลนส์ EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS STM (EOS 80D Kit) แล้ว ยังมีชุดให้เลือกอีก 2 ชุดคือ Kit II และ Kit III EOS 80D Kit II ประกอบด้วยเลนส์ EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS USM ใหม่ ซึ่งใช้พลังงานจาก Nano USM ที่เพิ่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ และไม่เพียงสามารถทำงานร่วมกับ AF อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งเทียบได้กับ AF บนเลนส์ STM เท่านั้น แต่ยังมีความเร็ว AF ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพอันน่าทึ่งอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบป้องกันการสั่นไหวของภาพให้สามารถทำงานได้เทียบเท่ากับความเร็วชัตเตอร์ 4 สต็อป เพิ่มขึ้นจาก 3.5 สต็อปในรุ่นก่อนหน้านี้ ส่วน EOS 80D Kit III มีเลนส์ EF-S18-200mm f/3.5-5.6 IS
เซนเซอร์ภาพของ EOS 80D คือเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าที่มีความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล ส่วนตัวประมวลผลภาพใช้ระบบ DIGIC 6 (รุ่นก่อนหน้านี้เป็นระบบ DIGIC 5+) และมีความไวแสง ISO ปกติสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก ISO 12800 เป็น ISO 16000 ขณะที่ความไวแสง ISO ยังขยายได้สูงสุดที่ ISO 25600 เช่นเดิม
เซนเซอร์แบบ APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้งานได้กับ Dual Pixel CMOS AF
ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 6
แผงวงจรหลัก
เช่นเดียวกับกล้องรุ่นก่อนหน้านี้ จุด AF ทั้งหมดบน EOS 80D ใช้เซนเซอร์แบบบวก แต่จำนวนของเซนเซอร์เพิ่มขึ้นจาก 19 จุดเป็น 45 จุด ขณะที่บริเวณที่ตรวจจับภาพยังเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย จุด AF ที่กึ่งกลางภาพมีระดับความสว่างในการโฟกัสต่ำพอๆ กับ EV-3 (รุ่นก่อนหน้านี้อยู่ที่ -0.5) และโฟกัสด้วยปริมาณแสง f/8 ได้สูงสุดที่ 27 จุด
เซนเซอร์ AF มีจุด AF แบบบวกทั้งหมด 45 จุด ซึ่งในจำนวนนี้มี 27 จุดที่สามารถโฟกัสด้วยปริมาณแสง f/8 ได้
Servo AF บนกล้อง EOS 80D ใช้ AI Servo AF II เช่นเดียวกับรุ่น EOS 70D อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการเพิ่มจำนวนจุด AF เป็น 45 จุดแล้ว กล้อง EOS 80D ยังมีฟังก์ชั่น AF ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรุ่นก่อนหน้านี้ ได้แก่ "การเปลี่ยนจุด AF อัตโนมัติ" "จุด AF เริ่มต้นสำหรับ AI Servo AF สำหรับการเลือกจุด AF อัตโนมัติ 45 จุด" และ "ระบบติดตามด้วยสี" (ซึ่งจะติดตามตัวแบบโดยใช้ข้อมูลสี)
เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ กล้องนี้สามารถใช้ระบบ Dual Pixel CMOS AF ระหว่างการถ่ายภาพแบบ Live View ได้ ในขณะที่กล้องในรุ่นต่างๆ มาพร้อมกับ Contrast AF เมื่อมีการใช้เลนส์และท่อต่อเลนส์ที่ไม่สามารถใช้งานกับ Dual Pixel CMOS AF ได้ แต่สำหรับในกล้อง EOS 80D ปัญหาการใช้งานร่วมกันไม่ได้นี้ได้หมดไป และสามารถทำการโฟกัสได้โดยใช้เพียง Dual Pixel CMOS AF เท่านั้น
เซนเซอร์การวัดแสงได้รับการปรับปรุงเป็นเซนเซอร์การวัดแสง RGB+IR ความละเอียด 7,560 พิกเซล จากเซนเซอร์แบบ 63 โซนในรุ่นก่อนหน้านี้ ดังนั้น คุณจึงสามารถถ่ายภาพแบบ Anti-flicker ได้เช่นเดียวกับกล้องรุ่นใหม่อื่นๆ
เซนเซอร์การวัดแสง RGB+IR ความละเอียด 7,560 พิกเซล
ด้วยอัตราความเร็ว 7 เฟรมต่อวินาที ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจึงไม่แตกต่างจากกล้องรุ่นก่อนหน้า ความเร็วในการพับขึ้น/ลงของกระจกหลักและกระจกรองจะถูกควบคุมเพื่อให้ลดความเร็วลงในระดับที่เหมาะสมก่อนที่จะมาบรรจบกัน อีกทั้งยังมีกลไกลการควบคุมสำหรับใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่ากระจกหลักและกระจกรองจะไม่เคลื่อนไปพร้อมกัน ดังนั้น มาตรการนี้จะช่วยให้กระจกทั้งคู่กระเด้ง และยังช่วยลดการสั่นไหวของกล้องและเสียงการทำงานของกระจกอีกด้วย
กล่องกระจก
ชุดชัตเตอร์
รูปแบบของภาพแบบ "Fine Detail" ซึ่งมีในอยู่ในกล้องรุ่นต่างๆ เช่น EOS 5DS ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในกล้องรุ่น EOS 80D เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถทำการแก้ไขความบิดเบี้ยวในระหว่างการถ่ายภาพ นอกเหนือจากการแก้ไขแสงสว่างที่ขอบภาพและการแก้ไขความคลาดสี
คุณจะพบโหมดภาพทุกประเภทได้ใน "โหมดฉากพิเศษ" และมีการรวบรวมฟิลเตอร์สร้างสรรค์และตัวเลือกการถ่ายภาพแบบ HDR ไว้ใน "โหมดฟิลเตอร์สร้างสรรค์" ซึ่งสามารถเข้าใช้งานได้ทางวงแหวนเลือกโหมด
วงแหวนเลือกโหมด ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงโหมดฉากพิเศษและโหมดฟิลเตอร์สร้างสรรค์ได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเลือกโหมดการถ่ายภาพเป็น [โหมดฟิลเตอร์สร้างสรรค์] ไอคอนขนาดใหญ่จะแสดงขึ้นบนจอ LCD ที่แผงด้านหลัง เพื่อให้คุณสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ตามที่ต้องการได้
กล้องรุ่น EOS 80D มีพื้นที่ครอบคลุมช่องมองภาพเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าที่มีประมาณ 98% เป็น 100% ซึ่งนับว่าเป็นการรวมช่องมองภาพที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 100% ไว้ในกล้องรุ่น EOS ระดับกลางเป็นครั้งแรก
เพนทาปริซึมที่ทำให้ได้ช่องมองภาพที่ครอบคลุมทั้ง 100%
จอ LCD ยังคงเป็นแบบปรับหมุนได้ และกล้องยังใช้ฟังก์ชั่น Wi-Fi/NFC ได้อีกด้วย
ขณะที่คุณอาจกังวลกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ Full HD แต่กล้อง EOS 80D สามารถถ่ายภาพที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาที มากกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ถ่ายได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ HDR ได้ด้วย เมื่อใช้ฟังก์ชั่นนี้ ภาพจะถูกถ่ายสลับกันทั้งแบบเปิดรับแสงปกติและการเปิดรับแสงน้อย จากนั้นจะนำไปผสานรวมกันเป็นเฟรมเดียวเพื่อให้ได้ภาพเคลื่อนไหว HDR ในแบบ Full HD นอกจากนี้ กล้องยังสามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ Time-lapse ได้อีกด้วย
สายคล้องที่ให้มาพร้อมกล้อง
ส่งข่าวสารรายวันเกี่ยวกับเรื่องราวของกล้องดิจิตอลและอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมถึงซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพ นอกจากนี้ยังเผยแพร่บทความต่างๆ เช่น รีวิวการใช้กล้องดิจิตอลจริงพร้อมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องรุ่นใหม่ๆ
http://dc.watch.impress.co.jp/