หลักการง่ายๆ โดยทั่วไปของเราคือ แพ็คกระเป๋าใบเล็กๆ เนื่องจากคุณอาจต้องออกไปข้างนอกและใช้เวลาตลอดทั้งวัน (และอาจจะทั้งคืนด้วยซ้ำ) ดังนั้น การนำอุปกรณ์ไปให้น้อยชิ้นที่สุด และมีเพียงกระเป๋าใบเล็กๆ จะช่วยให้คุณสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากจะหาอุปกรณ์ได้รวดเร็วขึ้นแล้ว คุณยังไม่ต้องแบกของให้เหนื่อยและหนักอีกด้วย

กระเป๋ากล้องพื้นฐานที่สุดสำหรับการเดินทางของคุณ

พยายามพกอุปกรณ์กล้องไว้กับตัวเมื่อใดก็ตามที่ทำได้ เนื่องจากการเช็คอินอุปกรณ์อันมีค่าของคุณมีความเสี่ยงและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ดังที่เราทุกคนทราบกันดีว่าสัมภาระที่ผ่านการเช็คอินอาจมีสภาพชำรุดเสียหาย

แต่ที่สำคัญที่สุด โปรดจำไว้เสมอว่าคุณกำลังไปพักผ่อน ดังนั้น ไม่ต้องคิดมาก เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

1) กล้องชนิดใด กระเป๋าแบบไหน

แล้วคุณควรนำกล้องชนิดใดไป เราเชื่ออย่างมากว่ากล้องที่ดีที่สุดคือกล้องที่คุณใช้งานอยู่เป็นประจำ ดังนั้น หากคุณคิดว่าการนำกล้อง DSLR ราคาแพงไปนั้นจะสร้างความน่ากังวลจนเกินไป ให้คุณมั่นใจได้เลยว่ากล้องทรงพลังอย่าง Canon PowerShot SX540 HS สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน

กล้อง PowerShot SX540 HS

ด้วยรูปแบบเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 442 กรัม จึงพกพาได้สะดวกมาก PowerShot SX540 HS ยังมีเลนส์อเนกประสงค์ ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเลนส์มุมกว้างที่ 24 มม. และเลนส์เทเลโฟโต้ 1,200 มม. ที่ดี อีกทั้งยังมี Wi-Fi ในตัว คุณจึงสามารถแชร์ภาพถ่ายได้แทบจะทันที

หากคุณนำอุปกรณ์ไปจำนวนมาก อาจลองพิจารณากระเป๋าเป้ใส่กล้องที่บุด้านในอย่างดี เพราะจะช่วยกระจายน้ำหนักบนหลังของคุณได้อย่างทั่วถึง อย่างไรก็ดี เนื่องจากเราสนับสนุนการเดินทางแบบเบาๆ เราจึงแนะนำให้ใช้กระเป๋าที่มีขนาดเล็กกว่า

เราชอบสไตล์ของกระเป๋าใส่เอกสาร เนื่องจากสามารถเปิดออกและหยิบใช้ได้สะดวกในครั้งเดียว กระเป๋าขนาดเล็กเช่นนี้ยังง่ายต่อการเก็บไว้แนบตัวเมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน

กระเป๋ากล้องขนาดเล็ก เบา และปกป้องจากสภาพอากาศเช่นนี้นับเป็นตัวเลือกที่ดี

หากคุณไปยังสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการล้วงกระเป๋า เราขอแนะนำให้ใช้เทปกาวผ้าติดทับชื่อแบรนด์ที่เห็นได้ชัดบนกระเป๋าของคุณ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเป้าสายตา

นอกจากนี้ กระเป๋าของคุณควรปกป้องจากสภาพอากาศ หรืออย่างน้อยควรทนแดดทนฝนได้ดี เพราะสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือ อุปกรณ์ที่เปียกจนไม่สามารถใช้งานได้

2) การจัดกระเป๋ากล้องของคุณ

อย่าจัดกระเป๋าในนาทีสุดท้าย หากคุณเพิ่งเริ่มจัดกระเป๋ากล้องใหม่เป็นครั้งแรก เราขอแนะนำให้เริ่มจัดกระเป๋าตั้งแต่เนิ่นๆ มากที่สุด

ตัวอย่างกระเป๋าเดินทางที่ใส่กล้อง DSLR ขนาดกะทัดรัด

กระเป๋ากล้องส่วนใหญ่ อย่างเช่น Classic Camera Bag M(RL CL-01M) นี้สามารถปรับช่องใส่ได้ (มักใช้แถบเวลโคร) ดังนั้น คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถใส่อุปกรณ์ของคุณได้พอเหมาะพอดี

ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บอดี้กล้องและเลนส์ของคุณไม่ควรกลิ้งไปมาหรือเบียดเสียดจนเกินไปในขณะที่คุณขยับเขยื้อน

ช่องบรรจุที่บุด้านในมีความสำคัญ

นอกจากนี้ คงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรที่จะใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากคุณมีเลนส์หรือบอดี้กล้องแบบพิเศษ เราขอแนะนำให้จัดอุปกรณ์แต่ละอย่างไว้ในช่องของตัวเองที่บุด้านในไว้อย่างดี ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการครูดหรือกระแทก ไม่ควรใส่อุปกรณ์อัดแน่นจนเกินไป

กล้องหรือเลนส์ของคุณควรใส่ในช่องได้พอดี

3. การจัดอุปกรณ์เสริม

เราแนะนำให้เก็บอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น การ์ดหน่วยความจำและแบตเตอรี่สำรองไว้ในกระเป๋าด้านนอก หากมี วิธีนี้จะช่วยให้คุณหยิบสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้นและสามารถถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องได้

อย่าออกจากบ้านโดยไม่นำอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ติดตัวไปด้วย!

จำไว้ว่าควรนำอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดกล้องและเลนส์ติดตัวไปด้วย การมีปากกาเช็ดเลนส์หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ติดกระเป๋าไว้ย่อมเป็นการดี

หากคุณเดินทางไปยังสถานที่ที่มีอากาศเย็น (โดยเฉพาะที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา) โปรดอย่าลืมนำแบตเตอรี่สำรองไปมากกว่าหนึ่งก้อน เนื่องจากแบตเตอรี่ของกล้องจะ "หมดไว" ได้ง่ายมากในสภาพอากาศเช่นนั้น และคุณคงไม่อยากเซ็งกับกล้องที่ไม่มีแบตเตอรี่

เคล็ดลับพิเศษ หากคุณเดินทางไปในสถานที่ที่เปียก ชื้น หรือเต็มไปด้วยหิมะ นี่คือกลเม็ดเด็ดที่ช่วยให้อุปกรณ์เสริมของคุณไม่เปียกและใช้งานได้ดี นั่นคือให้ใช้ภาชนะกันอากาศเพื่อกันความชื้น

ขาตั้งกล้องขนาดกะทัดรัดสำหรับการเดินทาง

การพกพาขาตั้งกล้องสำหรับเดินทางมีประโยชน์อย่างมาก เราชอบขาตั้งกล้องที่สามารถวางบนอะไรก็ได้ เพื่อให้ตั้งกล้องได้อย่างมั่นคงเป็นพิเศษ

ภาพทั้งหมดนี้ถ่ายด้วยกล้อง Canon EOS 6D โดยใช้เลนส์ Canon EF16-35mm f/4L IS USM

---

	PowerShot SX540 HS คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
	RL CL-01M คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม