ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

Inspirations >> Photos & People

แรงบันดาลใจจาก Canon: บทสัมภาษณ์ Bang Dzoel

2020-07-01
1
634
ในบทความนี้:

Bang Dzoel เป็นช่างภาพที่ไม่ธรรมดา เขาเกิดมาโดยไร้ซึ่งแขนและขา เขาต้องพบเจอกับความท้าทาย อคติและความยุ่งยากต่างๆ มาตลอดชีวิตทั้งในช่วงวัยเยาว์และเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วปัจจุบัน Bang Dzoel เป็นช่างภาพชื่อดังซึ่งเดินทางถ่ายภาพไปทั่วโลกและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นในทุกที่ที่เขาไป

Bang Dzoel เป็นช่างภาพชาวอินโดนีเชีย ผลงานของเขาเป็นที่รู้จักกันดีทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติและระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายบุคคล ธรรมชาติหรืองานแต่งงาน เขาทำงานตามที่ได้รับมอบหมายในประเทศต่างๆเขาเป็นทั้งนักศึกษาด้านกฎหมาย นักสเก็ตบอร์ดผู้เก่งกาจและมือคีย์บอร์ดและเบสมากฝีมือ

คงไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว Bang Dzoel มีอิทธิพลต่อผู้คนมากมายทั้งในเรื่องการงานและชีวิตส่วนตัวของเขาและเป็นข้อพิสูจน์ที่ว่า คนเราสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้หากมีแรงผลักดันและความมุ่งมั่นที่มากพอ

บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้จะทำให้คุณได้รู้จักกับชีวิตและการถ่ายภาพของ Bang Dzoel ที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนจำนวนมาก

คุณ Dzoel เราอยากให้คุณช่วยแนะนำตัวเองสักเล็กน้อย คุณมาจากที่ไหนและทำอะไร?
ขอสันติภาพจงมีแต่คุณ ผมมีชื่อจริงว่า อาชแมด ซัลการ์นาอิน (Ahmad Zulkarnain) ครับ บางคนเรียกผมว่า Bang Dzoel หรือ Zul ผมเป็นคนอินโดนีเชีย ที่อินโดนีเซีบ ในฐานะช่างภาพ ผมมักจะมองหาช่วงเวลาสำหรับการจับภาพอยู่เสมอผมมองหาจนกระทั่งผมได้พบกับช่วงเวลาที่สุดแสนพิเศษซึ่งผมจับภาพได้โดยใช้กล้องถ่ายรูปที่ผมมี

คุณรู้สึกอย่างไรเวลาที่ถือกล้องถ่ายรูปและจับภาพต่างๆ?การถ่ายภาพทำให้ผมได้รู้จักตัวเองมากขึ้นและทำให้ผมได้ค้นพบตัวตนของผมซึ่งทำให้ผมรู้สึกพิเศษ ผมพยายามค้นหาพรสวรรค์หรือศักยภาพที่มีอยู่ในตัวของผมไม่ว่าจะเป็นดนตรี การเล่นสเก็ตช์บอร์ดหรือสิ่งต่างๆ ที่ผมพยายามเรียนรู้และการถ่ายภาพนี่เองที่ทำให้ผมได้ค้นพบตัวตนของผม

คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับตัวคุณเองจากการถ่ายภาพ?
อันที่จริง ผมผ่านอะไรมาเยอะมากๆ ก่อนที่จะกลายมาเป็นช่างภาพมืออาชีพแบบทุกวันนี้ ผมใช้เวลาเรียนรู้อยู่พักใหญ่ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับนี้ น่าจะสัก 5 ปีหรือ 6 ปีได้ งานแรกที่ผมทำก็คือการถ่ายภาพ ผมเป็นช่างภาพที่ถ่ายภาพสำหรับการแสดงตัวตนอย่างรูปติดหนังสือเดินทางอะไรแบบนั้น ในตอนนั้นผมต้องยืมกล้องคนอื่นมาใช้ด้วยซ้ำไป ตอนที่ผมเปลี่ยนงาน ผมใช้กล้องถ่ายรูปแบบผ่อนจ่าย กล้องตัวนั้นก็คือ Canon 1100D ผมใช้กล้องที่ว่านี่ประมาณหนึ่งปีหรือสองปีได้ หลังจากเรียนรู้และมีทักษะมากขึ้น ผมก็อัปเกรดกล้องถ่ายรูปที่ผมใช้ ผมชอบอ่านข้อมูลหรือค้นหาข้อมูลใน YouTube จะบอกว่าว่าผมเรียนถ่ายภาพจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองก็คงได้หลังจากนั้น ผมก็ได้ทุนการศึกษาไปเรียนถ่ายภาพที่โรงเรียนสอนถ่ายภาพ Darwis Triadi ในจาการ์ต้า

คุณได้สร้างสไตล์การถ่ายภาพแบบไหนขึ้นมา?
ผมมักจะโยงการถ่ายภาพเข้ากับเรื่องราวของขนบประเพณีและถ่ายภาพที่แสดงวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านอินโดนีเชียเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ผมอยากจะบันทึกและจับภาพวัฒนธรรมดังกล่าวไว้สำหรับใช้เป็นทรัพยากรทางการศึกษาสำหรับคนรุ่นหลังของอินโดนีเชีย

คุณมองว่าอะไรคือผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ?
นับจนถึงปัจจุบัน ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมก็คือภาพถ่ายผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะภาพแฟชันผมถ่ายภาพบุคคลของ CEO ขององค์กรต่างๆ เช่นกัน

คุณพอจะอธิบายได้ไหมว่าทำไมงานถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ถึงเป็นหนึ่งในความสำเร็จของคุณ?
การถ่ายภาพผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสบายเพราะผมไม่ต้องออกไปเจอแดดร้อน ผมสามารถถ่ายงานพวกนี้ในห้องได้การทำงานก็ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรมาก แถมผมยังสามารถควบคุมแสงโดยการใช้แสงในแบบที่ผมต้องการได้อีกด้วย

นี่คือความสำเร็จครั้งใหญ่สุดของคุณเพราะคุณสามารถจัดการถ่ายภาพในภูมิประเทศและสภาวะที่ไม่เสถียรในส่วนของสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมได้?
ใช่ครับ ไม่มีอุปสรรคและไม่มีความยุ่งยากอะไรในเรื่องของภูมิประเทศเลย อันที่จริงนั้น งานอดิเรกของผมคือการเดินทางและการเดินเขารวมถึงการถ่ายภาพบนยอดเขานอกจากนี้ผมยังชอบการดำน้ำตื้น การดำน้ำและการเล่นเซิร์ฟอีกด้วย

คุณพูดคุยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่เช่นกัน คุณพูดเกี่ยวกับอะไรบ้าง?
ผมมักจะพูดเกี่ยวกับการปลูกฝังจิตวิญญาณและการขอบคุณในทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่พวกเรา พวกเราส่วนใหญ่มักจะลืมการขอบคุณและการกตัญญูรู้คุณ นี่เองคือเหตุผลที่ผมมักจะเน้นเรื่องเหล่านี้ในการพูดคุยของผม ผมอาจจะเป็นคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับความพิการ แต่ผมก็ยังรู้สึกสำนึกในบุญคุณและขอบคุณพรที่ผมได้รับคนส่วนมากที่ไม่พิการควรจะรู้สึกขอบคุณสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้พวกเขาให้มากขึ้นเช่นกัน

คุณมีคำแนะนำอะไรที่คุณอยากจะบอกช่างภาพหนุ่มสาวและผู้ทุพพลภาพบ้างไหม?
ประการแรก อย่ามัวเสียเวลาไปกับอะไร หากคุณมัวแต่คิดว่าจะทำอะไรแต่ไม่ลงมือทำอะไรเลย ชีวิตของคุณก็จะไม่มีค่าอะไร ประการที่สอง พวกเราไม่ได้พิการ พวกเราแค่แตกต่างไปจากคนอื่นสำหรับผมแล้ว รูปแบบที่แท้จริงที่สุดของความพิการไม่ใช่ความพิการทางกายภาพ แต่เป็นความพิการทางพฤติกรรมต่างหาก

มีคนหนุ่มสาวมาหาคุณเพื่อบอกคุณว่าคุณเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่พวกเขาบ้างไหม?
มีมากเลยล่ะครับ และผมเองก็รู้สึกภูมิใจเพราะผมไม่เคยคาดหวังว่าผมจะมีอิทธิพลในวงกว้างขนาดนี้ อิทธิพลของผมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอินโดนีเชียเท่านั้น แต่ยังหมายถึงต่างประเทศอีกด้วย ในปี 2018 ผมได้เข้าร่วมในการแสดงผลงานภาพถ่ายซึ่งจัดขึ้นที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี นอกจากนี้ ผมก็ยังมีงานแสดงผลงานของผมเองในสุราบายา ประเทศอินโดนีเชียเช่นกันในเดือนพฤษภาคม 2020 ผมจะมีงานแสดงผลงานภาพถ่ายในบราซิล 

และคุณได้ค้นพบอะไรเกี่ยวกับตัวคุณบ้างไหม? แล้วคุณมีความมั่นใจไหม?
ผมมีกลุ่มเพื่อนๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้ผมเรียนด้านการถ่ายภาพต่อ นอกจากนี้ยังมีชุมชนแห่งความช่วยเหลือที่คอยสนับสนุนผมตอนที่ผมเรียนถ่ายภาพอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บนเส้นทางสู่การเป็นช่างภาพมืออาชีพซึ่งผมใช้เวลาศึกษาเกี่ยวกับการถ่ายภาพมาได้ห้าปีหรือหกปีเท่านั้น ผมเคยมีอดีตที่เลวร้ายสุดๆ เช่นกันในช่วงแรกๆ ผมเคยพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำไป จนกระทั่งผมได้เปลี่ยนมุมมองในการคิดและการใช้ชีวิตจนกระทั่งผมเติบโตขึ้นและได้กลายมาเป็นผมในทุกวันนี้

คุณเติบโตขึ้นมาในแบบไหน?
ในช่วงวัยเด็กของผม ผมต้องเจอกับการเลือกปฏิบัติทั้งจากครอบครัว เพื่อนๆ เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนเล่นของผม หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษา ผมก็ออกจากโรงเรียน ผมเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนพิเศษซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่อง ที่นั่นผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับสุขภาพจิตและมีความมั่นใจในการแข่งขันกับผู้ที่ไม่ทุพพลภาพจากนั้นผมก็เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยโดยมีวิชาเอกคือกฎหมาย 


Canon EOS 6D, EF50mm f/1.8L STM lens, f/1.8, 50mm, 1/640 sec, ISO100

หากคุณสะดวกใจที่จะแชร์เรื่องราวกับเรา ช่วงเวลาที่เจ็บปวดหรือประสบการณ์ที่ทำให้คุณหัวใจสลายคือตอนไหน?
เหตุการณ์หนึ่งในชีวิตที่ทำให้ผมหัวใจสลายคือตอนที่พ่อกับแม่ของผมไม่ยอมรับผมเป็นลูกชาย ผมถูกเอาไปทิ้งที่แม่น้ำและถูกปล่อยทิ้งไว้อยู่อย่างนั้น

คุณรู้สึกอย่างไรในเรื่องดังกล่าว?
ผมภูมิใจนะครับ ผมภูมิใจเพราะการกระทำของพ่อแม่ผมทำให้เกิดบูมเมอแรงเอฟเฟ็กต์ การกระทำของพ่อแม่ได้กลายมาเป็นแรงกระตุ้นสำหรับผม แรงกระตุ้นที่ทำให้ผมยืนหยัดเพื่อพิสูจน์ให้คนทั้งอินโดนีเชียและคนทั้งโลกได้รู้ว่า ความทุพพลภาพไม่ใช่เชื้อไวรัส ความพิการไม่ได้เป็นเชื้อโรค ความทุพพลภาพไม่ได้เป็นความไร้ค่า แท้จริงนั้น คนที่มีความทุพพลภาพคือคนที่แตกต่างไปจากคนอื่น พวกเขามีความสามารถที่แตกต่างออกไปและต้องการโอกาสในการดำเนินชีวิตและโอกาสในการทำงานพวกเขาต้องการโอกาสที่จะได้ค้นพบอนาคตของพวกเขา

เป็นเรื่องที่น่าทึ่งจริงๆ ที่ถึงจะเอาคุณไปทิ้งแม่น้ำ แต่พ่อแม่ของคุณกลับรู้สึกเห็นใจและพาคุณกลับมา จากนั้นสายสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพ่อแม่ก็แน่นแฟ้นขึ้นโดยเฉพาะกับแม่ของคุณ คุณและพ่อแม่ของคุณสร้างความผูกพันที่เหนียวแน่นได้อย่างไร?
หลังจากผ่านไปสักพัก พ่อกับแม่ของผมก็ตระหนักว่า พระเจ้าได้มอบผมมาให้พวกท่าน นี่เป็นเรื่องของโชคชะตาสุดท้ายแล้ว พ่อแม่ของผมก็เริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของผมแม้ว่าจะยังลังเลใจอยู่บ้าง ในที่สุดความสัมพันธ์ของพวกเราก็แข็งแกร่ง

มีใครที่เป็นแรงกระตุ้นหรือคอยให้ความช่วยเหลือคุณบ้างไหม?
มีครับ แม่ของผมเอง! แม่มักจะบอกผมอยู่เสมอว่า ผมเป็น 'คนที่ถูกเลือก' อย่างเช่น “ลูกเป็นคนที่ถูกเลือกแล้วว่าจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ในสักวัน”นี่คือคำพูดของแม่ที่ผมยังคงจำมาจนถึงทุกวันนี้แม้ว่าแม่ของผมจะไม่อยู่แล้วก็ตาม

แม่ของคุณเสียชีวิตนานหรือยังและด้วยสาเหตุอะไร?
แม่ของผมเสียชีวิตเมื่อ 4 ปีที่แล้วเพราะเป็นมะเร็ง

นี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากๆ คุณเอาชนะและจัดการกับความสูญเสียได้อย่างไร?
ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งยากและชุลมุนวุ่นวายมากที่สุดสำหรับผมเพราะแม่คือคนที่เป็นแรงกระตุ้นหลักของผม ผมเหมือนกับสูญเสียทุกอย่างไป ผมต้องใช้เวลาอยู่เป็นปีกว่าจะกลับมายืนได้อีกครั้ง ตอนที่แม่ของผมเสียชีวิต ผมยังคงตกงานก็เลยไม่มีรายได้ จากนั้นผมก็คิดได้ว่า หากผมมัวแต่คิดเรื่องการสูญเสีย ผมก็คงจะไม่สามารถดำเนินชีวิตของผมต่อไปได้ จะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของผมหลังจากนั้น? จะเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของผม?ผมก็เลยบอกกับตัวเองว่า ผมจะต้องลุกขึ้นยืนและทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูพ่อของผม  


Canon EOS 5D Mark II, EF50mm f/1.8L STM lens, f/2.8, 50mm, 1/250 sec, ISO200

หลังจากนั้นคุณก็เลยเลือกที่จะรับงานถ่ายภาพใช่ไหม? คุณกลายมาเป็นช่างภาพได้อย่างไร?
ใช่ครับ หลังจากที่แม่ของผมจากไปผมก็หันมาศึกษาการถ่ายภาพอย่างจริงจัง

การถ่ายภาพทำให้คุณนึกถึงแม่ของคุณไหม?
อืม แน่นอนครับ ที่ผ่านมา แม่ของผมอยากให้ผมทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงมากอย่างการทำงานภาคสนามอะไรแบบนี้ นั่นเป็นเพราะผมไม่สามารถทำงานกลางแจ้งแบบนั้นได้ และอย่างน้อยๆ ผมควรทำงานด้วยความชาญฉลาดของผมการถ่ายภาพทำให้ผมได้ค้นพบทุกสิ่ง

อะไรคือสิ่งที่ยากลำบากที่สุดที่คุณต้องเผชิญตอนที่คุณเรียนรู้ที่จะเป็นช่างภาพ?
มีความท้าทายและความยากลำบากต่างๆ จำนวนมากที่ผมพบเจอมา หนึ่งในนั้นก็คือการเลือกปฏิบัติระหว่างคนที่เป็นช่างภาพด้วยกัน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมอยากจะลงเรียนแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น พอผมถามว่าทำไม พวกเขาบอกว่า เพราะผมเป็นคนพิการ อย่างไรก็ตาม ผมไม่หยุดอยู่แค่นั้น ผมจะต้องค้นหาศักยภาพในตัวผมให้เจอหนึ่งในการที่จะทำเช่นนั้นได้ก็คือครูที่ดีที่สุดของผม Google กับ YouTube นั่นเองครับ

อาจพูดได้ว่า นั่นเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สาหัสที่สุดที่คุณเผชิญมาเลยใช่ไหม? แล้วคุณเอาชนะความท้าทายเหล่านั้นมาได้อย่างไร?
ที่จริงผมก็ไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษอะไรหรอก ผมก็แค่ต้องปรับใช้จากกล้องถ่ายรูปตัวเก่ามาถึงกล้องถ่ายรูปตัวใหม่ ผมต้องปรับใช้เพราะผมไม่ได้ใช้นิ้วในการใช้งานกล้อง DSLR แต่ผมต้องใช้ปากของผมแทน

คุณบอกว่าคุณเคยตกจากหน้าผาในขณะที่กำลังถ่ายภาพ! คุณพอจะแชร์ประสบการณ์ในเรื่องนี้ได้ไหม?
นั่นเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเรียนรู้การถ่ายภาพ ก่อนที่จะมาถ่ายภาพแฟชันกับผลิตภัณฑ์ ผมเริ่มต้นเรียนรู้จากการถ่ายภาพภูมิทัศน์ ผมทราบดีว่าภูมิประเทศแถวน้ำตกเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายและผมก็รู้ดีอีกเช่นกันว่าผมจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ในที่สุด ผมก็ตกลงมาจากความสูง 10 เมตรอย่างไรก็ตาม สิ่งแรกที่ผมมองดูไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่ผมได้รับแต่เป็นกล้องถ่ายรูปของผมต่างหาก


Canon EOS 6D, EF70-200mm f/4L USM lens, f/4, 184mm, 1/200 sec, ISO640

คุณจะบรรยายตัวคุณว่าอย่างไร? คุณเป็นคนสนุกสนานไหม? รักการผจญภัยไหม? ชอบหัวเราะหรือว่าจริงจัง?
ในภาษาอินโดนีเชีย น่าจะเป็นคำว่า ‘Goplak’ คำว่า ‘Goplak’ เป็นคำที่ใช้บรรยายถึงคนที่ชอบความสนุกสนานน่ะครับผมสามารถสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับใครก็ได้โดยไม่สนใจว่าคนๆ นั้นจะพิการหรือไม่

เพื่อนๆ ของคุณเรียกคุณว่า ‘Goplak’ กันไหม?
โอ้ แน่นอนครับ หลายคนเลยล่ะ

คุณชอบไปเดินเขากับดำน้ำตื้น คุณไม่รู้สึกกลัวบ้างเลยเหรอ?
ไม่ ไม่เลยครับอันที่จริง ในอนาคต ผมอยากจะลองถ่ายภาพใต้น้ำดูบ้างหากเป็นความประสงค์ของพระเจ้า

กล้องตัวโปรดของคุณของคุณล่ะ?
กล้องตัวโปรดของผมคือ Canon 5D Mark II, Canon 6D และ Canon 1DX

กล้องพวกนี้หนักเกินไปสำหรับคุณตอนที่คุณต้องถือกล้องหรือเปล่า?
ไม่เลยครับ ผมเคยใช้ Canon 5D Mark II กับเลนส์เทเลโฟโต้ F2.8 ด้วยซ้ำไปนั่นเป็นกล้องถ่ายรูปตัวโปรดของผมเลยล่ะ

แสดงว่าคุณแข็งแรง ว่าไหม?
ก็น่าจะนะครับ ฮ่าๆ!

คุณอยากจะกล่าวอะไรก่อนจบการสัมภาษณ์ในครั้งนี้บ้างไหม?
แน่นอนครับ ผมอยากจะขอบคุณการสนับสนุนจาก Canon ในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้ กล้องถ่ายรูปบางตัวของผมมาจากการสนับสนุนที่ผมได้รับจาก Canon อินโดนีเชีย เมื่อไม่นานมานี้ ผมโทรศัพท์ไปหา Merry Harun จาก Canon อินโดนีเชีย เพื่อขอความช่วยเหลือเพราะผมต้องใช้แฟลช Speedlite สำหรับทริปไปสิงคโปร์ของผมเธอตกลงและส่งแฟลชมาให้ผมตอนที่ผมอยู่ที่บันยูวังงี

ว้าว เป็นการจัดส่งสุดพิเศษ เยี่ยมสุดๆ ไปเลย! มีถ้อยคำสร้างแรงบันดาลใจอะไรที่คุณอยากบอกผู้ที่อ่านการถามตอบในครั้งนี้ไหมครับ?
จงมุ่งมั่นต่อไปและอย่ายอมแพ้!

คุณสามารถดูภาพถ่ายของ Bang Dzoel ได้ที่อินสตาแกรมของเขา ชมวิดีโอสัมภาษณ์ Bang Dzoel ของ Canon ได้ที่นี่:

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา