ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

รีวิวกล้อง EOS M5 ตอนที่ 1: EVF ในตัวกล้องจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ช่างภาพมืออาชีพที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ

2016-10-06
2
12.2 k
ในบทความนี้:

กล้องมิเรอร์เลสตระกูล EOS M ของ Canon ได้สร้างชื่อในเรื่องการถ่ายภาพได้อย่างเหนือชั้นและให้คุณภาพของภาพถ่ายในระดับสูง เช่นเดียวกับกล้อง EOS M5 ซีรีส์ระดับเรือธงที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2016 ผู้ใช้งานที่จริงจังซึ่งใฝ่ฝันที่จะเป็นช่างภาพมืออาชีพจะชื่นชอบในดีไซน์ของตัวกล้อง ซึ่งมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ในตัว ในบทความนี้ เราลองมาดูรายละเอียดและความสามารถของกล้องรุ่นนี้กัน (เรื่องโดย Kazuo Nakahara)

*รีวิวนี้ใช้กล้องที่เป็นตัวต้นแบบ และรูปลักษณ์ภายนอกของกล้องอาจแตกต่างจากผลิตภัณฑ์จริง

 

โดดเด่นด้วย Dual Pixel CMOS AF สำหรับการโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็ว

ความก้าวหน้าที่สำคัญที่สุดของ EOS M5 ครั้งนี้คือ เป็นกล้องในซีรีส์ EOS M ตัวแรกที่โดดเด่นด้วยเซนเซอร์ความละเอียดประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับการใช้งานระบบ Dual Pixel CMOS AF สามารถทำการโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วผ่าน AF ตรวจจับแบบ Phase Difference ตามระนาบภาพ

Dual Pixel CMOS AF ช่วยให้ AF ทำงานรวดเร็วขึ้นในระหว่างการถ่ายภาพแบบ Live View จนถึงจุดที่ทัดเทียมกับการทำงานของระบบ AF ตรวจจับแบบ Phase Difference ในระหว่างการถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความไม่แน่นอนที่มักเกิดขึ้นกับกล้องมิเรอร์เลส ซึ่งความเร็วของ AF อาจทำงานช้าลงสำหรับภาพบางประเภท ผมได้ทดสอบกล้อง EOS M5 กับตัวแบบหลากหลายประเภททั้งตัวแบบที่เคลื่อนไหวและหยุดนิ่ง และสัมผัสจากประสบการณ์จริงว่า AF ทำงานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกง่ายดายมาก จนผมรู้สึกราวกับว่ากำลังถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 7 สามารถชดเชยการเบลอจากการกระจายแสง ซึ่งช่วยในการถ่ายภาพโดยตั้งค่ารูรับแสงต่ำ (ค่า f สูง) เช่น ระหว่างการใช้โฟกัสแบบแพนกล้อง นอกจากนี้ ความสามารถในการลดจุดรบกวนยังได้รับการพัฒนาขึ้น พร้อมด้วยความไวแสง ISO ปกติสูงถึง ISO 25600 ในกล้องมิเรอร์เลส ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาพจำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์และประมวลผลทันที ซึ่งหมายความว่าความเร็วและความสะดวกง่ายดายในการถ่ายภาพจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการประมวลผลภาพ การติดตาม AF ของระบบ DIGIC 7 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นและหน้าจอ EVF ที่สามารถแสดงผลได้อย่างไม่มีสะดุดประสานการทำงานร่วมกับ Dual Pixel CMOS AF ทำให้กล้องระดับสูงนี้สามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วและทรงพลัง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับถ่ายภาพตัวแบบที่เคลื่อนไหว

A: โฟโตไดโอด A
B: โฟโตไดโอด B
C: พิกเซลสามารถโฟกัสอัตโนมัติเพื่อตรวจจับแบบ Phase-Difference

Dual Pixel CMOS AF ใช้ประโยชน์จากเซนเซอร์ตรวจจับแบบ Phase-Difference ที่อยู่บนพิกเซลภาพทั้งหมดผ่านการทำงานของ AF ตรวจจับแบบ Phase Difference ตามระนาบภาพ

 

EVF ในตัว ความละเอียดประมาณ 2.36 ล้านจุด

ขณะที่กล้อง EOS ซีรีส์ M โดดเด่นในเรื่อง EVF ในตัวที่มีความละเอียดสูงถึง 2.36 ล้านจุด แต่ EOS M5 มีการดีไซน์บอดี้กล้องที่คล้ายกับกล้อง DSLR อย่างมาก ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า EOS M3 เล็กน้อย หน้าจอ LCD ด้านหลังซึ่งสามารถปรับเอียงขึ้นลงได้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมที่ 3.2 นิ้ว ความละเอียดประมาณ 1.62 ล้านจุดของพิกเซลที่ใช้งานจริง โครงสร้างของกล้องก็เหมาะสำหรับการถ่ายภาพตัวเองหรือง่ายต่อการจับถือ และมีการเพิ่มปุ่มและระบบควบคุม จึงเห็นได้ชัดเจนว่ากล้องได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงประสบการณ์การถ่ายภาพที่ราบรื่น

จุดมองภาพระยะประมาณ 22 มม. ช่วยให้ผู้ใช้ซึ่งสวมใส่แว่นตาเพลิดเพลินกับทัศนียภาพโดยไม่มีสิ่งกีดขวางผ่านช่องมองภาพทั้ง 4 มุม

 

EOS M5 รวมคุณสมบัติของ Touch & Drag AF ใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกหน้าจอสัมผัสและจัดตำแหน่งเฟรม AF ขณะมองผ่าน EVF ได้ง่ายและรวดเร็ว คุณสมบัตินี้จึงเป็นคุณสมบัติที่สะดวกซึ่งควรมีไว้เพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของตัวแบบ รวมถึงจับโฟกัสแบบ Pinpoint บนพื้นที่ที่ละเอียดได้

 

การออกแบบภายนอกยังช่วยเพิ่มแอมป์ที่ใช้งานง่าย

มีการเพิ่มปุ่มฟังก์ชั่นใหม่ ([DIAL FUNC.]) และวงแหวน Quick Control เข้าไปที่ส่วนบนสุดของตัวกล้อง ปุ่ม [DIAL FUNC.] ช่วยให้สามารถสลับโหมดเพื่อปรับการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านฟังก์ชั่นที่สามารถปรับตั้งค่าได้หลากหลาย เช่น สมดุลแสงขาว ความไวแสง ISO และโหมด AF เนื่องจากปุ่มเหล่านี้ถูกวางไว้ห่างจากส่วนมือจับเล็กน้อย จึงอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความคุ้นเคย แต่การจัดกลุ่มฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อยที่สุดเข้าด้วยกันจะทำให้ใช้งานกล้องง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องละสายตาไปจากช่องมองภาพ

ฝาปิดด้านหน้า ฝาปิดด้านหลัง และส่วนมือจับทำจากโพลีคาร์บอเนตและยางสังเคราะห์ พร้อมวัสดุตกแต่งพื้นผิวที่มีคุณภาพสูง เช่นเดียวกับวงแหวนและปุ่มควบคุม จึงให้สัมผัสที่หรูหรา เนื่องจากกล้องรองรับทั้ง Wi-Fi และเทคโนโลยีบลูทูธพลังงานต่ำ จึงมีคุณสมบัติมากมายที่ทำให้บลูทูธสามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ Canon ทุ่มเทความพยายามเพื่อผลิตกล้องมิเรอร์เลสที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า

เมื่อกดปุ่ม [DIAL FUNC.] กล้องจะแสดงการตั้งค่าต่างๆ สำหรับฟังก์ชั่น อาทิ WB และความไวแสง ISO และหากต้องการตั้งค่าฟังก์ชั่นเหล่านี้ให้หมุนวงแหวน Quick Control

 

แฟลชป็อปอัพติดกล้อง ในกล้อง EOS M3 แฟลชป็อปอัพติดกล้องจะอยู่ด้านข้างกล้อง แต่ในกล้อง EOS M5 จะอยู่บริเวณกลางตัวกล้อง

 

จอภาพ LCD ด้านหลังแบบปรับเอียงขึ้นลงได้ ซึ่งสามารถปรับเอียงขึ้นได้ประมาณ 85° และปรับเอียงลงได้ประมาณ 180°

 

ส่วนมือจับมีความลึกกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ทำให้สามารถจับถือกล้องได้อย่างกระชับถนัดมือยิ่งขึ้น แผงด้านซ้ายมีช่องต่อรีโมทคอนโทรล ส่วนแผงด้านขวามีช่องต่อ Mini HDMI output และปุ่ม Wi-Fi

 

ข้อมูลจำเพาะของกล้อง

เซนเซอร์ภาพ: เซนเซอร์ CMOS ความละเอียดประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล
ประเภทของโฟกัสอัตโนมัติ: Dual Pixel CMOS AF
จุด AF: 49 จุด
ระบบประมวลผลภาพ: DIGIC 7
ความไวแสง ISO: 100 - 25600
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง: 9 fps (พร้อม AF lock), 7 fps (พร้อมการติดตาม AF )
ความเร็วชัตเตอร์: 1/4000- 30 วินาที
จอ LCD: กว้าง 3.2 นิ้ว (3:2) ความละเอียดประมาณ 1.62 ล้านจุด สามารถปรับเอียงขึ้นประมาณ 85° ปรับเอียงลงต่ำประมาณ 180°
EVF ในตัว: มี
แฟลชติดกล้อง: มี
เครือข่าย: Wi-Fi, NFC, เทคโนโลยีบลูทูธพลังงานต่ำ
ขนาด (กว้าง x สูง x หนา): ประมาณ 115.6 × 89.2 × 60.6 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 427 กรัม (รวมแบตเตอรี่ การ์ดหน่วยความจำ)
*ข้อความสีแดงหมายถึงคุณสมบัติใหม่/ได้รับการปรับปรุง

 

รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสาร เคล็ดลับและลูกเล่นในการถ่ายภาพได้โดย ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเรา!

 

 

Kazuo Nakahara

 

เกิดที่เมืองฮอกไกโดในปี 1982 Nakahara ผันเข้าสู่วงการถ่ายภาพหลังจากทำงานในบริษัทผลิตสารเคมี เขาถ่ายภาพที่ Vantan Design Institute เป็นหลักและเป็นผู้บรรยายในเวิร์คช็อปและสัมมนาด้านการถ่ายภาพ นอกเหนือจากการทำงานถ่ายภาพโฆษณา นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการถ่ายภาพอย่าง studio9 อีกด้วย

http://photo-studio9.com/

 

Digital Camera Magazine

 

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา