ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

5 สิ่งที่ระบบประมวลผลภาพ DIGIC สามารถทำได้

2018-11-22
1
3.93 k
ในบทความนี้:

กล้องดิจิตอลของ Canon ในปัจจุบันมีระบบประมวลผลภาพ DIGIC (ย่อมาจาก “Digital Imaging Integrated Circuit”) แต่คุณทราบหรือไม่ว่าระบบนี้ทำหน้าที่อะไรภายในกล้อง ในบทความนี้ เราจะมาดู “สมอง” ของกล้องกันว่ามีส่วนสำคัญอย่างไรในประสิทธิภาพการทำงานของกล้อง (เรื่องโดย: Ryosuke Takahashi)

ชิป DIGIC 8 ในวงจร

 

จริงๆ แล้ว DIGIC มีหน้าที่อะไร

ระบบประมวลผลภาพเป็นส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ ซึ่งเปรียบเสมือน “สมอง” ของกล้อง มีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานส่วนใหญ่ของกล้อง ตั้งแต่ฟังก์ชั่นการทำงานไปจนถึงการแสดงผลและบันทึกภาพ Canon เป็นผู้พัฒนาระบบประมวลผลภาพ DIGIC ด้วยตนเองและออกแบบระบบให้ตอบสนองความต้องการของกล้องโดยเฉพาะ

กล้อง EOS รุ่นต่างๆ ในปัจจุบันมีระบบประมวลผลภาพ DIGIC (เวอร์ชั่น DIGIC 4 ถึง 8) ที่เหมาะสมกับคุณสมบัติและฟังก์ชั่นของกล้อง

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 8

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC รุ่นใหม่ล่าสุด: DIGIC 8

 

ตำแหน่งของชิป DIGIC 8 ในกล้อง EOS R

เมื่อความสามารถในการทำงาน จำนวนพิกเซล และความซับซ้อนของกล้องเพิ่มมากขึ้น ภาระหน้าที่ที่ DIGIC ต้องแบกรับก็มากขึ้นตามไปด้วย ตัวอย่างเมื่อไม่นานมานี้คือ การโฟกัสอัตโนมัติของกล้อง EOS R ซึ่งระบบประมวลผลภาพต้องประมวลผลข้อมูลที่มากกว่าปริมาณสูงสุดที่กล้อง EOS 5D Mark IV ใช้ในขณะถ่ายแบบ Live View ถึง 40 เท่า นับเป็นความสำเร็จหนึ่งที่ระบบประมวลผลภาพรุ่นใหม่ DIGIC 8 ทำได้

กล่าวได้ว่าการพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ และกล้องรุ่นต่อๆ ไปในอนาคตนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของระบบประมวลผลภาพ DIGIC คุณสมบัติเช่น โหมดถ่ายแพนกล้อง ภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse และการแก้ไขเลนส์ในกล้องด้วย Digital Lens Optimizer นั้นจำเป็นต้องใช้กำลังการประมวลผลข้อมูลสูงมาก และใช้งานได้ผลด้วยความช่วยเหลือจากระบบประมวลผลภาพ DIGIC ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

 

Digital Lens Optimizer

เปิด ปิด Digital Lens Optimizer

EOS M50/ EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM/ FL: 24 มม. (เทียบเท่า 38 มม.)/ Aperture-priority AE (f/4.5, 1/80 วินาที, EV-0.3)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

การที่กล้องมีคุณสมบัติเช่น Digital Lens Optimizer และฟังก์ชั่นการแก้ไขความคลาดของเลนส์นั้นจำเป็นต้องใช้กำลังการประมวลผลภาพที่ค่อนข้างสูง ซึ่งกล้องมิเรอร์เลส (EOS M50) สามารถทำเช่นนี้ได้เป็นครั้งแรกด้วยระบบประมวลผลภาพ DIGIC 8

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC แต่ละเวอร์ชั่นมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลในระดับสูงขึ้นและเร็วขึ้นจากเวอร์ชั่นก่อนหน้า ต่อไปนี้ เราจะมาดูกันว่าระบบประมวลผลภาพนี้มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการถ่ายภาพและคุณภาพของภาพอย่างไร

 

1. ภาพสวยแม้ใช้ความไวแสง ISO สูง

เมื่อมีการนำชิป DIGIC ไปใช้เป็นครั้งแรกนั้น ความไวแสง ISO มาตรฐานสูงสุดที่เป็นไปได้อยู่ที่ประมาณ ISO 1600 ปัจจุบัน เมื่อใช้ DIGIC 8 คุณสามารถเพิ่มความไวแสง ISO ได้สูงถึง ISO 40,000 ในกล้อง EOS R ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาความสามารถในการถ่ายภาพในที่มืดได้อย่างยอดเยี่ยม

แน่นอนว่า การพัฒนาความสามารถของเซนเซอร์ภาพมีส่วนสำคัญในคุณสมบัติข้อนี้ แต่ DIGIC ก็ทำหน้าที่ควบคุมคุณสมบัติการลดจุดรบกวนจากความไวแสง ISO สูงเช่นกัน โดยระบบจะแยกจุดรบกวนและข้อมูลภาพถ่ายออกจากข้อมูลภาพปริมาณมหาศาลโดยทันทีและลดจุดรบกวนด้วยระบบดิจิตอล เพื่อให้ภาพที่แม้ถ่ายด้วยความไวแสง ISO สูงยังคงความสวยงามโดยมีจุดรบกวนน้อยที่สุด

ภาพสะพานในยามค่ำคืน ถ่ายด้วยกล้อง EOS M50

EOS M50/ EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM/ FL: 45 มม. (เทียบเท่า 72 มม.)/ Manual exposure (f/8, 1/15 วินาที, EV±0)/ ISO 12800/ WB: อัตโนมัติ

ความสามารถในการประมวลผลของ DIGIC ช่วยในการลดจุดรบกวนจากความไวแสง ISO สูง ภาพที่ถ่ายในที่ที่มีแสงน้อยด้วยความไวแสง ISO สูง จึงมีความคมชัดโดยมีจุดรบกวนน้อยที่สุด

 

2. AF และการตรวจจับตัวแบบที่รวดเร็วและแม่นยำ

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC ได้เปลี่ยนแปลงฟังก์ชั่นการทำงานของระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประทับใจของ Dual Pixel CMOS AF สำหรับ Dual Pixel CMOS AF นั้น แต่ละพิกเซลในเซนเซอร์ภาพประกอบด้วยโฟโตไดโอดสองอันที่ทำงานเป็นอิสระจากกัน และข้อมูลที่ได้จากโฟโตไดโอดแต่ละอันจะนำมาใช้ในการตรวจจับแบบ Phase Difference และหาจุดโฟกัส ขณะถ่ายภาพ ระบบ DIGIC จะประมวลผลข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว โดยประเมินความสว่างและสีของตัวแบบ และตรวจจับใบหน้าในทันที จากนั้นจะส่งข้อมูลนี้ไปยังเลนส์และปรับเลนส์โฟกัสเพื่อให้จับโฟกัสที่ตัวแบบ

DIGIC 8 ไม่เพียงแต่นำข้อมูลสองมิติของตัวแบบมาประมวลผลเท่านั้น แต่ยังนำข้อมูลความลึกระหว่างตัวแบบกับแบ็คกราวด์มาประมวลผลด้วย ผลที่ได้คือความสามารถในการจดจำและติดตามตัวแบบที่รวดเร็วและแม่นยำกว่าที่เคยมี

ภาพพอร์ตเทรตหญิงสาว ซึ่งแสดงกรอบ Eye Detection AF

Eye Detection AF

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการตรวจจับใบหน้าและดวงตา DIGIC 8 ทำให้ Eye Detection AF เป็นไปได้ Eye Detection AF จะทำงานได้เมื่อเปิดโหมดตรวจจับใบหน้า* โดยจะตรวจจับและแสดงกรอบ AF รอบดวงตาข้างที่ใกล้กับกล้องมากที่สุดโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถจับโฟกัสได้แม่นยำ
*ระหว่างการใช้ One-Shot AF และ ใบหน้า + การติดตาม AF

 

3. การถ่ายภาพต่อเนื่อง

กล่าวได้ว่าประสิทธิภาพในการถ่ายภาพต่อเนื่องของกล้องดิจิตอลนั้นขึ้นอยู่กับส่วนประกอบสองข้อ ได้แก่

1. ส่วนประกอบเชิงกลไก เช่น ชัตเตอร์และชุดกระจก และ
2. ส่วนประกอบซอฟต์แวร์ ซึ่งควบคุมกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การประมวลผลภาพไปจนถึงการบันทึกข้อมูลภาพลงไปในการ์ดหน่วยความจำ

กล้องมิเรอร์เลสและกล้อง DSLR ที่มีมากกว่า 50 ล้านพิกเซล ส่งผลให้ความต้องการส่วนประกอบซอฟต์แวร์แวร์เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ในการถ่ายภาพต่อเนื่องโดยใช้การติดตามตัวแบบอย่างต่อเนื่อง (AF ต่อเนื่อง) ระบบประมวลผลภาพ DIGIC จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีความสามารถในการจดจำตัวแบบและประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูง กำลังในการประมวลผลของ DIGIC รุ่นใหม่ล่าสุดทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำในการโฟกัสพร้อมทั้งเพิ่มอัตราความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องได้

ภาพที่ได้จากการถ่ายต่อเนื่องด้วยกล้อง EOS M50

ทั้ง EOS M50 และ PowerShot SX740 HS สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ด้วยความเร็วสูงกว่ากล้องรุ่นก่อนเพราะมีระบบประมวลผลภาพ DIGIC 8

 

4. Dual Sensing IS

ปกติแล้ว เลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้และกล้องคอมแพคของ Canon จะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) ในตัว ซึ่งทำงานโดยใช้หลักการป้องกันภาพสั่นไหวแบบเลนส์ชิฟต์ ในระบบนี้ การสั่นสะเทือนที่เกิดจากการสั่นของกล้องจะถูกตรวจจับโดยเซนเซอร์ไจโรที่อยู่ในเลนส์ จากนั้นไมโครคอมพิวเตอร์ภายในเลนส์จะประเมินข้อมูลนี้ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนชุดทำงานระบบ IS

นอกจากนี้ Dual Sensing IS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการป้องกันภาพสั่นไหวใหม่ล่าสุดของ Canon จะนำข้อมูลจากเซนเซอร์ภาพไปใช้ ข้อมูลปริมาณมหาศาลจากเซนเซอร์ภาพและเซนเซอร์ไจโรจะถูกส่งไปยังระบบประมวลผลภาพ DIGIC ซึ่งทำหน้าที่ประเมินและนำข้อมูลไปใช้ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของชุดระบบ IS ให้แม่นยำมากขึ้น จึงลดการสั่นไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Dual Sensing IS (มีใน DIGIC 7 เป็นต้นไป)

ระบบ Dual Sensing IS

1: เช่นเดียวกับระบบ IS แบบเดิม Dual Sensing IS ใช้เซนเซอร์ไจโรในการตรวจจับการสั่นไหว

2: นอกจากข้อ 1 แล้ว ข้อมูลภาพถ่ายจากเซนเซอร์ภาพ CMOS ยังถูกนำมาใช้ด้วย โดยมีการพัฒนาอัลกอริทึมแบบใหม่เพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ เพื่อตรวจจับปริมาณการสั่นของกล้องที่เกิดขึ้นในภาพ

3: วิธีการประมวลผลข้อมูลแบบคู่นี้นำไปสู่การพัฒนาในระบบ IS อย่างเห็นได้ชัด สามารถป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลได้ด้วยความเร็วชัตเตอร์ถึง 5 สต็อป* (ภาพนิ่งเท่านั้น ตามมาตรฐาน CIPA) จึงไม่เพียงแต่หยุดการเคลื่อนไหวของมือได้เท่านั้น แต่ยังสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ชัดเจนกว่าและช้ากว่าได้อีกด้วย
*ความเร็วชัตเตอร์ 4 หรือ 5 สต็อป ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง

 

5. วิดีโอ 4K

ในบรรดาฟังก์ชั่นทั้งหมดของกล้อง การถ่ายภาพเคลื่อนไหวนั้นต้องใช้กำลังในการประมวลผลภาพมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิดีโอ 4K เนื่องจากข้อมูลถูกบันทึกด้วยความละเอียดที่สูงกว่าวิดีโอ Full HD ถึง 4 เท่าโดยประมาณ ซึ่งเป็นการสร้างข้อมูลที่มากกว่าถึง 4 เท่า ความสามารถของระบบประมวลผลภาพจะเป็นตัวกำหนดอัตราเฟรมของภาพเคลื่อนไหว (ความราบรื่นของวิดีโอ) และดูว่าสามารถถ่ายภาพที่ความไวแสง ISO สูงได้หรือไม่

ความละเอียดสูงและคุณภาพอันน่าทึ่งของวิดีโอ 4K จะช่วยให้คุณสร้างวิดีโอที่เหมือนจริงราวกับดึงผู้ชมเข้าไปอยู่ในฉาก ไม่เพียงเท่านั้น คุณสมบัติ 4K Frame Grab ของ Canon ยังช่วยให้คุณบันทึกช่วงวินาทีสำคัญไว้ในวิดีโอได้โดยดึงเฟรมภาพออกมาจากภาพเคลื่อนไหว 4K และส่งออกในรูปแบบภาพนิ่งแบบ JPEG ที่มีความละเอียดสูง

 

DIGIC: พัฒนาและก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC รุ่นใหม่แต่ละรุ่นไม่ได้รับการพัฒนาเพียงแค่ในด้านประสิทธิภาพการทำงานพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณสมบัติของกล้องที่ระบบประมวลผลภาพรองรับด้วย ระบบประมวลผลภาพ DIGIC รุ่นใหม่ๆ นั้นทำให้คุณสมบัติข้างต้นเป็นไปได้ สำหรับรุ่นต่อๆ ไป เราอาจได้เห็นการพัฒนาของฟังก์ชั่นที่ต้องใช้กำลังในการประมวลผลภาพสูง เช่น ภาพเคลื่อนไหว EOS และการจดจำตัวแบบในระหว่างการถ่ายภาพ Live View 

แน่นอนว่า DIGIC ไม่ใช่เพียงระบบประมวลผลภาพธรรมดา แต่ความสามารถของระบบนี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดการพัฒนาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ควรพิจารณาสำหรับนวัตกรรมด้านการถ่ายภาพของ Canon ในอนาคต

 

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

เกี่ยวกับผู้เขียน

Ryosuke Takahashi

เกิดที่จังหวัดไอชิเมื่อปี 1960 Takahashi เริ่มทำงานอิสระในปี 1987 หลังจากทำงานในสตูดิโอถ่ายภาพโฆษณาและสำนักพิมพ์ นอกจากถ่ายภาพสำหรับงานโฆษณาและนิตยสารทั้งในและนอกญี่ปุ่นแล้ว เขายังทำหน้าที่เป็นนักรีวิวให้กับ "Digital Camera Magazine" นับตั้งแต่นิตยสารเปิดตัว ตลอดจนตีพิมพ์ผลงานต่างๆ มากมาย ในส่วนของการรีวิวผลิตภัณฑ์และเลนส์ Takahashi เน้นให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพที่ดึงประสิทธิภาพการทำงานของเลนส์ออกมาผ่านมุมมองและการทดสอบเฉพาะตัวของเขาเอง ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และเขาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Japan Professional Photographers Society (JPS) ด้วย

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา