Grace Tan เป็นช่างภาพมานานกว่าทศวรรษและตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจให้บริการถ่ายภาพ Stories.my ของเธอ การถ่ายภาพงานแต่งงานมีบทบาทสำคัญอย่างมากในอาชีพการงานที่กำลังเบ่งบานของเธอ ฉันได้รับความรู้มากมายเพื่อแบ่งปันกับบุคคลที่ปรารถนาอยากเป็นช่างภาพงานแต่งงาน จากการถ่ายภาพงานแต่งงานตั้งแต่ฮอลแลนด์ ไปบังคลาเทศ จนถึงนิวซีแลนด์

EOS 5D Mark IIl, EF24mm f/1.4L II USM lens, f/2.8, 24mm, 1/640 sec, ISO 320

ช่วยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Stories.My ซักเล็กน้อยได้ไหม

Grace: ฉันเริ่มผจญภัยเข้าสู่โลกแห่งการถ่ายภาพในปี 2006 และเริ่มธุรกิจถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอของฉันในปี 2008 ในปี 2010 แบรนด์ Stories.my เกิดขึ้น เราเน้นการถ่ายภาพงานแต่งงาน เด็ก และครอบครัว จุดแข็งของเราอยู่ที่การเล่าเรื่องและกระตุ้นอารมณ์ผ่านภาพของเรา นั่นคือเหตุผลที่เราตั้งชื่อแบรนด์ของเราว่า Stories เราเชื่อในการสัมผัสชีวิตโดยการสร้างเรื่องราวผ่านภาพสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต เราทำสิ่งนี้โดยการจับภาพช่วงเวลาของชีวิต สร้างความทรงจำ และทำให้ความสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านเลนส์ของเรา

สไตล์การถ่ายภาพงานแต่งงานของคุณเป็นแบบไหน? คุณแตกต่างจากช่างภาพคนอื่น ๆ อย่างไร

Grace: เราเชื่อในภาพคลาสสิกที่มุ่งเน้นไปยังอารมณ์ ปล่อยให้เรื่องราวของวันนั้นเป็นไปตามธรรมชาติ และจากนั้นอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมและในเวลาที่เหมาะสม คาดการณ์ช่วงเวลาสำคัญก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เพื่อที่จะให้รู้สึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เราจะไตร่ตรองชุดของภาพที่บอกเล่าเรื่องราวที่ดีที่สุดอย่างพิถีพิถัน เราจะให้สีตามธรรมชาติดังนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีคุณก็จะจดจำช่วงเวลาสำคัญนั้นได้ และไม่ต้องวิตกกังวลไปกับฟิลเตอร์สี ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือสีดำและสีขาวที่มีความคลาสสิคมาก นอกเหนือจากวิธีการที่เราถ่ายภาพและแก้ไขภาพแล้ว เรายังมีเป้าหมายที่จะทำความรู้จักกับลูกค้าของเราเป็นอย่างดี ด้วยการทำความเข้าใจพวกเขาโดยการส่งแบบสอบถามไปให้พวกเขาก่อนงานแต่งงาน นัดพบเพื่อพูดคุย และแม้แต่ให้คำแนะนำแก่พวกเขาเท่าที่จะทำได้ในเรื่องการจัดตารางเวลาใหม่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ นอกจากนี้เรายังสัญญาว่าจะส่งรูปภาพให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ภายใน 1 เดือนถ้าเป็นไปได้ เรามีประวัติผลงานที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากขณะนี้เราดำเนินธุรกิจมาเป็นปีที่ 11 แล้ว และเรามีบทวิจารณ์เชิงบวกมากกว่า 100 รายการใน Facebook และ Google

EOS 5D Mark IIl, EF35mm f/1.4L USM lens, f/1.8, 35mm, 1/640 sec, ISO 250

เราจะเริ่มธุรกิจถ่ายภาพงานแต่งงานได้อย่างไร

Grace: โปรดจำไว้ว่าคุณกำลังทำธุรกิจ ช่างภาพจำนวนมากให้ความสำคัญในฐานะที่เป็นศิลปินมาเป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณต้องมองไปที่กระบวนการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีหลักการพื้นฐานที่ถูกต้อง หากคุณไม่ตอบคำถามหลังจากผ่านไป 2-3 วัน หรือบอกลูกค้าว่าคุณจะโทรกลับแต่คุณไม่เคยโทรเลย ลูกค้าคนนั้นจะเชื่อใจคุณได้อย่างไรในวันสำคัญของพวกเขา หากคุณทำให้คู่รักงานแต่งงานของคุณรอถึง 4-5 เดือนสำหรับภาพถ่ายของพวกเขา พวกเขาจะเริ่มอารมณ์เสีย ดังนั้นการดำเนินธุรกิจถ่ายภาพงานแต่งงานไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำให้งานศิลปะนั้นถูกต้อง แต่ยังเกี่ยวกับการจัดกระบวนการทางธุรกิจของคุณเพื่อให้คุณสามารถส่งมอบบริการให้ลูกค้าได้อย่างดี

มีเคล็ดลับอะไรบ้างสำหรับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง

Grace: สื่อสารถึงความคาดหวังของลูกค้า และถามพวกเขาว่ารูปภาพแบบใดที่พวกเขาต้องการ ในตอนท้ายของวัน มันคือทั้งหมดสำหรับพวกเขา พวกเขาชอบอะไรและรูปภาพเหล่านี้จะย้ำเตือนให้พวกเขานึกถึงความรักที่พวกเขามีต่อกันอย่างไร ระยะเวลาการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่ยาวนานไม่จำเป็นต้องหมายถึงช่วงที่ดีกว่า โปรดจำไว้ว่าพวกเขาไม่ใช่หุ่นจำลอง พวกเขาเป็นคนจริงที่จะรู้สึกเหนื่อยล้าจากการโพสต์ท่าทาง ดังนั้นคุณต้องตระหนักถึงระดับพลังงานที่พวกเขามีด้วย

ช่างภาพ 'จับภาพช่วงเวลาสำคัญ' ไว้ได้อย่างไร

Grace: คาดการณ์ คาดการณ์ และก็คาดการณ์! หากเจ้าสาวกำลังพูดถึงพ่อของเธอ ดวงตาของฉันจะไม่จดจ่ออยู่แค่เพียงกับเธอ แต่ฉันจะเฝ้าดูปฏิกิริยาของพ่อเธอด้วย หากเธอกำลังเดินไปทางอ้อมกอด ฉันได้เลือกมุมไว้ล่วงหน้าแล้วและวางตำแหน่งตัวเองเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ ตื่นตัว ฟัง และสังเกต แล้วตอบสนองอย่างรวดเร็ว

EOS 5D Mark II, EF85mm f/1.2L II USM lens, f/1.2, 50mm, 1/640 sec, ISO 800

แนวโน้มหรือทิศทางการถ่ายภาพงานแต่งงานในมาเลเซียเป็นอย่างไรบ้าง

Grace: ทุกคนชอบงานแต่งงานกลางแจ้งที่มีขนาดเล็กกว่าและสนิทสนมใก้ลชิดกว่า แต่จริงๆ แล้วมันค่อนข้างท้าทายเนื่องจากมาเลเซียมีอากาศร้อนและชื้น! สไตล์เป็นแบบธรรมชาติมาก สีออกไปทางภาพยนตร์ และความเรียบง่ายเป็นกุญแจสำคัญ

สำหรับคนที่เริ่มถ่ายภาพ ค่าบริการของพวกเขาควรเป็นเท่าไร

Grace: สิ่งนี้เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เสมอ คุณทำงานนี้เป็นแบบเต็มเวลาหรือนอกเวลา? หากคุณทำงานนี้เป็นแค่งานฟรีแลนซ์ ฉันขอแนะนำให้คุณเริ่มถ่ายภาพกับช่างภาพที่มีประสบการณ์ก่อนพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรในการถ่ายภาพงานแต่งงานจริง หากคุณเป็นมือสมัครเล่นและต้องการถ่ายภาพงานแต่งงานด้วยตัวเอง และมีช่างภาพอย่างน้อย 2 คนที่ถ่ายภาพงานแต่งงานแบบเต็มวัน คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการเรียกเก็บเงิน RM2,000 หรือมากกว่า แต่โปรดแจ้งระดับประสบการณ์ให้คู่รักของคุณทราบด้วยเพื่อกำหนดความคาดหวังของพวกเขา ช่างภาพมืออาชีพคิดค่าบริการตั้งแต่ RM4,000 ถึง RM10,000 และสูงกว่าสำหรับการถ่ายภาพงานแต่งงาน รวมถึงการแก้ไขและจัดทำอัลบั้มภาพ เป็นต้น

การถ่ายภาพแต่งงานที่น่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่คุณเคยพบเจอเป็นแบบไหน

Grace: ในปี 2008 ฉันไปบังคลาเทศเป็นครั้งแรกเพื่อถ่ายภาพงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ของบังคลาเทศมากกว่า 10 วัน! พวกเราไม่เคยทราบถึงวัฒนธรรม สิ่งที่คาดหวัง (แน่นอนว่าไม่ใช่แขก 6,000 คนในงานพิธี) และภาษา แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดเราได้ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจ งานแต่งงานที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมายได้แก่ การถ่ายภาพในสถานที่อย่างซานโตรินี ออสเตรเลีย ฮอลแลนด์ อินโดนีเซีย ไทย นิวซีแลนด์ และอื่น ๆ และก็มีพวกเขาที่อยู่ในสวนหลังบ้านของเรา เช่น เวลาที่เราถ่ายภาพคู่รักชาวจีนที่เกาะเรดังโดยไม่มีแขกมาซักคน มีเพียงพวกเขา 2 คน! แต่สิ่งที่น่าสนใจคือว่า พิธีแต่งงานทั้งหมดถูกจัดขึ้นโดยมีเก้าอี้สำหรับแขกของโรงแรมที่จะนั่งเป็นสักขีพยานสำหรับการแต่งงานของพวกเขา ... คนแปลกหน้ากลายเป็นคู่รัก!

EOS 5D Mark II, EF135mm f/2L USM lens, f/2, 135mm, 1/250 sec, ISO 2000

หากมีสิ่งหนึ่งที่คุณได้เรียนรู้จากอาชีพของคุณ สิ่งนั้นคืออะไร

Grace: การถ่ายภาพงานแต่งงานทำให้ฉันเหน็ดเหนื่อย มีความสุข สนุกสนานและยังสามารถทำให้คุณหมดแรงด้วย รักษาจังหวะของตัวเอง มองหาทีมงานที่ยอดเยี่ยม และทำมันในขณะที่คุณยังมีพลังอยู่! ดูแลร่างกายของคุณเพราะคุณมีเพียงร่างเดียว และถ้าคุณเจ็บป่วยขึ้นมา อาชีพของคุณก็จบลง คิดให้ไกลกว่าแค่การถ่ายภาพถัดไปหรือแค่ปีหน้า ฝันถึงจุดที่คุณอยากยืนอยู่ในอีก 10 ปีนับจากนี้และมุ่งสู่เป้าหมายของคุณ

สำหรับบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพงานแต่งงาน ลองดู คุณลักษณะพิเศษเหล่านี้:

คุณลักษณะพิเศษของการถ่ายภาพงานแต่งงานด้วยกล้อง Canon: Brandon Ho แห่ง Pixioo

คุณลักษณะพิเศษของการถ่ายภาพงานแต่งงานด้วยกล้อง Canon: Trung Dinh