PowerShot G7 X สมาชิกน้องใหม่ในซีรีย์ PowerShot G แม้ว่าตัวกล้องจะเล็กกะทัดรัด แต่กล้องรุ่นนี้ใช้เซนเซอร์ 1" CMOS และฟังก์ชั่นการถ่ายภาพที่เทียบเท่ากับกล้อง PowerShot G1 X Mark II ในบทความนี้ ผมจะอธิบายถึงความซับซ้อนของตัวกล้องพร้อมกับภาพถ่ายจากกล้องรุ่นนี้ (เรื่องโดย: Keita Sasaki)
หน้า: 1 2
ตัวกล้องขนาดเล็กกะทัดรัดแต่อัดแน่นด้วยเลนส์ที่ให้ความสว่างและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
สมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในกลุ่มกล้องซีรีย์ PowerShot G ได้ไม่นาน คือ "PowerShot G7 X" ซึ่งมาพร้อมกับตัวกล้องขนาดกะทัดรัดและเซนเซอร์ 1” CMOS และยังอัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นการถ่ายที่เทียบได้กับกล้อง PowerShot G1 X Mark II อย่างไรก็ตาม ขนาดที่เล็กไม่ได้เป็นคุณสมบัติเพียงข้อเดียวของกล้องนี้ เพราะยังมีลวดลายพื้นผิวของกล้องที่เข้ากันกับผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่ได้อย่างดี ก็เหมือนกับปากกาหมึกซึมนั่นแหละ เพื่อทดสอบศักยภาพที่แท้จริงของกล้อง PowerShot G7 X ผมจึงพกไปออกทริปดู กล้องสมาร์ทโฟนอาจเพียงพอถ้าคุณต้องการเพียงแค่บันทึกเรื่องราวในทริปของคุณ แต่ถ้าหากคุณกำลังต้องการค้นหาอะไรใหม่ๆ ของตัวเองแล้วล่ะก็ กล้องจริงๆ สักตัวจะช่วยเพิ่มความรู้สึกพิเศษให้การถ่ายภาพของคุณขึ้นอีก จากที่สัมผัส กล้อง PowerShot G7 X ให้ความรู้สึกพิเศษที่แตกต่างพร้อมทั้งความพึงพอใจ
A: (ก) 103 มม.
B: (ส) 60.4 มม.
C: (ล) 40.4 มม.
เซนเซอร์ 1” CMOS ติดตั้งไว้ในตัวกล้องคอมแพคขนาด (ก) 103 มม. x (ส) 60.4 มม. x (ล) 40.4 มม.
เลนส์ให้ความสว่างที่มีรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.8 – f/2.8 และทางยาวโฟกัสที่ 24 – 100 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม. ค่า f ที่ให้ความสว่างในระยะเทเลโฟโต้ยังเหมาะสำหรับการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านภาพถ่ายที่ใช้เอฟเฟ็กต์โบเก้อีกด้วย
จุดยึดสายคล้องทั้งสองด้านอยู่ในมุมที่ช่วยลดส่วนที่เกิน
พื้นผิวเซาะร่องลายเพชรสะท้อนถึงงานที่ทำขึ้นอย่างละเอียดประณีต ทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้งาน เส้นสีแดงเพิ่มความรู้สึกพิเศษเป็นเอกลักษณ์สำหรับกล้องซีรีย์ G ตัวนี้
หน้าจอสัมผัสแบบปรับเอียงได้สามารถเอียงขึ้นได้ถึง 180º เพื่อการถ่ายภาพเซลฟี่ การปรับหมุนทำได้อย่างลื่นไหล และกรอบจอ LCD ยังมีลวดลายที่ประณีตอีกด้วย
ด้านล่างของกรอบจอ LCD ได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันการลื่นหลุด พร้อมให้การยึดจับของนิ้วที่มั่นคงเพื่อให้สามารถปรับเลื่อนจอ LCD ได้ง่ายดาย
การถ่ายภาพพอร์ตเทรตตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า "เซลฟี่" กำลังอยู่ในกระแสความสนใจในขณะนี้ ด้วยมุมรับภาพเทียบเท่า 24 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม. คุณสามารถถ่ายภาพตัวเองให้ติดแบ็คกราวด์กว้างได้ง่ายๆ
วงแหวนควบคุม ซึ่งใช้หมุนเพื่อเปลี่ยนคุณสมบัติ อยู่ในตำแหน่งที่ลงตัวพอดีและง่ายต่อการใช้งาน
กริปสำหรับวางนิ้วโป้งขวาให้การยึดเกาะที่มั่นคง เพิ่มความมั่นใจขณะจับถือกล้อง
ที่ด้านขวาของตัวกล้องคือ ปุ่มสำหรับเชื่อมต่อกล้องเข้ากับสมาร์ทโฟนด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ซึ่งมาพร้อมกับเส้นเล็กบางที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นในการดีไซน์กล้องในภาพรวม
แฟลชแบบป๊อปอัพในตัวให้คุณตั้งค่าแฟลชเป็น [Auto], [On], [Slow Synchro] หรือ [Off] ขณะที่สามารถตั้งค่าจังหวะแฟลชเป็น [1st-curtain] หรือ [2nd-curtain] ได้
ปุ่มชดเชยแสงถูกกำหนดไว้ที่วงแหวนแยกต่างหาก เทียบกับวงแหวนปรับโหมดที่อยู่ด้านบน วงแหวนนี้จะแน่นกระชับมากกว่า จึงไม่ต้องกังวลว่าจะหมุนโดยไม่ตั้งใจ
PowerShot G7 X – เพื่อนเดินทางที่สมบูรณ์แบบ
ไม่มีคำนิยามที่ตายตัวของ "การเดินทาง" สำหรับผม สิ่งที่น่าสนใจที่สุด อยู่ที่การใช้เวลาในการสำรวจสถานที่ต่างๆ ที่ผมชอบโดยไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลจากหนังสือไกด์บุ๊กหรืออินเทอร์เน็ต สำหรับการเดินทางที่ไร้กังวล จะดีที่สุดหากมีสัมภาระน้อยชิ้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้น กล้อง PowerShot G7 X ซึ่งมีขนาดกะทัดรัดและประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลังพอๆ กับกล้อง SLR จึงเป็นคู่ใจการเดินทางที่เหมาะที่สุด
เลนส์กล้องมีมุมรับภาพเทียบเท่ากับ 24 – 100 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม. และรูรับแสงกว้างสุดค่อนข้างสว่างที่ f/1.8 – f/2.8 อีกด้วย แม้จะมีกล้องรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันที่มีความสว่างเท่ากันในระยะมุมกว้าง แต่มีไม่กี่รุ่นที่เลนส์สว่างเท่านี้ในระยะเทเลโฟโต้ ขณะที่ยังมีมุมกว้างตั้งแต่ 24 – 100 มม. นอกจากนี้ เซนเซอร์ 1” CMOS ถือว่าเป็นเซนเซอร์ขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับกล้องดิจิตอลคอมแพคทั่วๆ ไป การนำเอาเลนส์เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่มาเข้าชุดกับเซนเซอร์ภาพขนาดใหญ่ช่วยให้สามารถถ่ายทอดภาพได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น อย่างเช่นการใช้เอฟเฟ็กต์โบเก้ นับเป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับนักเดินทางที่มีประสบการณ์
ทั้งนี้ ยังมีฟิลเตอร์ ND ในตัว ซึ่งช่วยลดความเข้มของแสงได้สูงสุดถึง 3 สต็อป จึงยกระดับความยืดหยุ่นเมื่อคุณต้องการสร้างภาพเบลอแบบจงใจในภาพถ่ายตอนกลางวัน ในภาพตัวอย่างเหล่านี้ ทั้งภาพเด็กกับผู้ใหญ่ที่กำลังแบ่งร่มคันเดียวกันและภาพที่ถ่ายผ่านหน้าต่างรถไฟต่างถ่ายโดยใช้ฟิลเตอร์ ND และลดความเร็วชัตเตอร์ลง ด้วยความเร็วชัตเตอร์ระดับนี้ คุณน่าจะสามารถลดขนาดรูรับแสงลงได้แม้จะถ่ายภาพในวันที่มีเมฆอยู่บ้างก็ตาม อย่างไรก็ดี เมื่อใช้ฟิลเตอร์ ND คุณสามารถสร้างบรรยากาศที่นุ่มนวลโดยไม่ต้องลดขนาดรูรับแสงมากเกินไป ขณะเดียวกัน การตั้งค่าสมดุลแสงขาวที่กำหนดล่วงหน้าก็เหมือนกับกล้อง SLR คุณจึงสร้างสรรค์โทนสีเหลืองเพื่อขับเน้นอารมณ์เศร้าสร้อยได้อย่างง่ายๆ เพียงเลือก [ในร่ม] ขณะถ่ายภาพในช่วงกลางวัน
FL: 36.8 มม. (เทียบเท่า 100 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Program AE (1/100 วินาที, f/4, -1EV)/ ISO 125/ WB: อัตโนมัติ
ผมโชคดีที่บังเอิญพบเด็กผู้หญิงที่สวมเสื้อสีแดงเข้าพอดี
FL: 36.8 มม. (เทียบเท่า 100 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Shutter-priority AE (1/20 วินาที, f/4, ±0EV)/ ISO 125/ WB: ในร่ม
ร่มช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับวันฝนพรำเช่นนี้ได้อย่างดี แต่ผมรู้สึกว่า ร่มอย่างเดียวไม่เพียงพอ ผมจึงรอจนรถไฟวิ่งผ่านก่อน แล้วจึงลั่นชัตเตอร์
FL: 36.8mm (เทียบเท่า 100 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Aperture-priority AE (1/200 วินาที, f/2.8, +0.3EV)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
ระหว่างที่กำลังเดินทางด้วยรถไฟ ผมมองไปเห็นนาฬิกาข้อมือของชายคนหนึ่งจากด้านข้างที่นั่ง ภาพเกิดส่วนที่เบลออย่างสวยงามเมื่อรูรับแสงเปิดเกือบจะกว้างสุดที่ระยะเทเลโฟโต้
FL: 8.8 มม. (เทียบเท่า 24 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Star Trails (30 วินาที, f/2, -0.7EV)/ ISO 125/ WB: Star
ผมเลือกโหมด "Star" จากโหมดฉากพิเศษ (SCN) เพื่อถ่ายภาพเส้นแสงดาว ทีแรก แผนของผมคือออกไปถ่ายภาพสัก 30 นาที แต่ฟ้ากลับสางเมื่อผ่านไปเพียง 20 นาที ผมเลยต้องจบการถ่ายภาพเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้
เมื่อใช้โหมด "Star" คุณจะสามารถสร้างภาพถ่ายบุคคลที่มีดวงดาวเป็นแบ็คกราวด์ (Star Portrait), ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่มีท้องฟ้าพร่างดาว (Star Nightscape), การเคลื่อนที่ของดวงดาวบนท้องฟ้า (Star Trails) หรือภาพเคลื่อนไหวของการเคลื่อนที่ของหมู่ดาว (Star Time-Lapse Movie) โดยไม่ต้องใช้ความรู้ระดับมือโปร แน่นอนว่า ขาตั้งกล้องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการถ่ายภาพดวงดาว แต่ขาตั้งกล้องขนาดเล็กก็เพียงพอสำหรับกล้องไซส์เล็กเช่นนี้ ด้วยความไวในการตอบสนองของชัตเตอร์ที่รวดเร็ว คุณจึงถ่ายภาพตัวแบบที่เคลื่อนไหวในจังหวะที่เหมาะได้ ขณะที่จอ LCD สามารถปรับได้ถึง 180º เพื่อการถ่ายภาพเซลฟี่ ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมายที่ผมไม่สามารถพูดถึงในบทความนี้ได้ ผมขอแนะนำให้คุณลองด้วยตัวเอง โดยไปออกทริปกับกล้องคอมแพคตัวนี้สักครั้ง
FL: 8.8 มม. (เทียบเท่า 24 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Program AE (1/1,250 วินาที, f/2.2, -0.3EV)/ ISO 125/ WB: อัตโนมัติ
ณ เวลานั้น รู้สึกราวกับว่าผมได้ยินเสียงระฆังวัด ความสุขที่สุดอย่างหนึ่งในการถ่ายภาพ ก็คือ การที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกอันละเอียดอ่อนเช่นนั้นออกมาได้ผ่านภาพถ่าย
FL: 8.8 มม. (เทียบเท่า 24 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Program AE (1/60 วินาที, f/2.8, +2.7EV)/ ISO 250/ WB: อัตโนมัติ
ผมถ่ายภาพมุมต่ำนี้ด้วยหน้าจอสัมผัสที่ปรับเอียงได้ แสงที่เข้ามาในตึกช่วยถ่ายทอดความเป็นสถาปัตยกรรมโบราณได้เป็นอย่างดี
FL: 36.8 มม. (เทียบเท่า 100 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Program AE (1/80 วินาที, f/2.8, -1.3EV)/ ISO 800/ WB: ในร่ม
แสงจากโคมไฟเล็กๆ ที่ทางเดินด้านหลัง ช่วงเวลาพลบค่ำ คุณจะเจอกับฉากที่คุณไม่เคยได้เห็นในเวลากลางวัน เมื่อไปที่สถานที่เดิมอีกครั้งในช่วงเวลาอื่นระหว่างวัน คุณอาจได้เจอโอกาสดีๆ ในการถ่ายภาพอีก
FL: 8.8 มม. (เทียบเท่า 24 มม. ในฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.)/ Program AE (1/30 วินาที, f/2.8, ±0EV)/ ISO 125/ WB: อัตโนมัติ
Onomichi Suido ในเวลารุ่งเช้า เนื่องจากมีความชื้นสูงหลังจากที่ฝนตกติดต่อกันยาวนานและเมฆเริ่มปรากฏบนท้องฟ้า ผมจึงถ่ายภาพฉากตอนเช้าตรู่ให้มีบรรยากาศที่นุ่มนวลสบายๆ ได้
เกิดที่จังหวัดเฮียวโงะในปี 1969 ช่างภาพสตรีท หลังจากจบการศึกษาด้านการถ่ายภาพ Sasaki ทำงานที่ร้านสตูดิโอให้เช่าและเป็นผู้ช่วยช่างภาพมาก่อนที่จะผันตัวมาทำงานอิสระ กิจกรรมหลักของเขา ได้แก่ การเขียนบทความและการสร้างผลงานภาพถ่ายให้กับนิตยสารต่างๆ