รีวิวกล้อง EOS M5 ตอนที่ 1: EVF ในตัวกล้องจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ช่างภาพมืออาชีพที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ
กล้องมิเรอร์เลสตระกูล EOS M ของ Canon ได้สร้างชื่อในเรื่องการถ่ายภาพได้อย่างเหนือชั้นและให้คุณภาพของภาพถ่ายในระดับสูง เช่นเดียวกับกล้อง EOS M5 ซีรีส์ระดับเรือธงที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2016 ผู้ใช้งานที่จริงจังซึ่งใฝ่ฝันที่จะเป็นช่างภาพมืออาชีพจะชื่นชอบในดีไซน์ของตัวกล้อง ซึ่งมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ในตัว ในบทความนี้ เราลองมาดูรายละเอียดและความสามารถของกล้องรุ่นนี้กัน (เรื่องโดย Kazuo Nakahara)
*รีวิวนี้ใช้กล้องที่เป็นตัวต้นแบบ และรูปลักษณ์ภายนอกของกล้องอาจแตกต่างจากผลิตภัณฑ์จริง
โดดเด่นด้วย Dual Pixel CMOS AF สำหรับการโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็ว
ความก้าวหน้าที่สำคัญที่สุดของ EOS M5 ครั้งนี้คือ เป็นกล้องในซีรีส์ EOS M ตัวแรกที่โดดเด่นด้วยเซนเซอร์ความละเอียดประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับการใช้งานระบบ Dual Pixel CMOS AF สามารถทำการโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วผ่าน AF ตรวจจับแบบ Phase Difference ตามระนาบภาพ
Dual Pixel CMOS AF ช่วยให้ AF ทำงานรวดเร็วขึ้นในระหว่างการถ่ายภาพแบบ Live View จนถึงจุดที่ทัดเทียมกับการทำงานของระบบ AF ตรวจจับแบบ Phase Difference ในระหว่างการถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความไม่แน่นอนที่มักเกิดขึ้นกับกล้องมิเรอร์เลส ซึ่งความเร็วของ AF อาจทำงานช้าลงสำหรับภาพบางประเภท ผมได้ทดสอบกล้อง EOS M5 กับตัวแบบหลากหลายประเภททั้งตัวแบบที่เคลื่อนไหวและหยุดนิ่ง และสัมผัสจากประสบการณ์จริงว่า AF ทำงานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกง่ายดายมาก จนผมรู้สึกราวกับว่ากำลังถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR
ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 7 สามารถชดเชยการเบลอจากการกระจายแสง ซึ่งช่วยในการถ่ายภาพโดยตั้งค่ารูรับแสงต่ำ (ค่า f สูง) เช่น ระหว่างการใช้โฟกัสแบบแพนกล้อง นอกจากนี้ ความสามารถในการลดจุดรบกวนยังได้รับการพัฒนาขึ้น พร้อมด้วยความไวแสง ISO ปกติสูงถึง ISO 25600 ในกล้องมิเรอร์เลส ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาพจำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์และประมวลผลทันที ซึ่งหมายความว่าความเร็วและความสะดวกง่ายดายในการถ่ายภาพจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการประมวลผลภาพ การติดตาม AF ของระบบ DIGIC 7 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นและหน้าจอ EVF ที่สามารถแสดงผลได้อย่างไม่มีสะดุดประสานการทำงานร่วมกับ Dual Pixel CMOS AF ทำให้กล้องระดับสูงนี้สามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วและทรงพลัง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับถ่ายภาพตัวแบบที่เคลื่อนไหว
A: โฟโตไดโอด A
B: โฟโตไดโอด B
C: พิกเซลสามารถโฟกัสอัตโนมัติเพื่อตรวจจับแบบ Phase-Difference
Dual Pixel CMOS AF ใช้ประโยชน์จากเซนเซอร์ตรวจจับแบบ Phase-Difference ที่อยู่บนพิกเซลภาพทั้งหมดผ่านการทำงานของ AF ตรวจจับแบบ Phase Difference ตามระนาบภาพ
EVF ในตัว ความละเอียดประมาณ 2.36 ล้านจุด
ขณะที่กล้อง EOS ซีรีส์ M โดดเด่นในเรื่อง EVF ในตัวที่มีความละเอียดสูงถึง 2.36 ล้านจุด แต่ EOS M5 มีการดีไซน์บอดี้กล้องที่คล้ายกับกล้อง DSLR อย่างมาก ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า EOS M3 เล็กน้อย หน้าจอ LCD ด้านหลังซึ่งสามารถปรับเอียงขึ้นลงได้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมที่ 3.2 นิ้ว ความละเอียดประมาณ 1.62 ล้านจุดของพิกเซลที่ใช้งานจริง โครงสร้างของกล้องก็เหมาะสำหรับการถ่ายภาพตัวเองหรือง่ายต่อการจับถือ และมีการเพิ่มปุ่มและระบบควบคุม จึงเห็นได้ชัดเจนว่ากล้องได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงประสบการณ์การถ่ายภาพที่ราบรื่น
จุดมองภาพระยะประมาณ 22 มม. ช่วยให้ผู้ใช้ซึ่งสวมใส่แว่นตาเพลิดเพลินกับทัศนียภาพโดยไม่มีสิ่งกีดขวางผ่านช่องมองภาพทั้ง 4 มุม
EOS M5 รวมคุณสมบัติของ Touch & Drag AF ใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกหน้าจอสัมผัสและจัดตำแหน่งเฟรม AF ขณะมองผ่าน EVF ได้ง่ายและรวดเร็ว คุณสมบัตินี้จึงเป็นคุณสมบัติที่สะดวกซึ่งควรมีไว้เพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของตัวแบบ รวมถึงจับโฟกัสแบบ Pinpoint บนพื้นที่ที่ละเอียดได้
การออกแบบภายนอกยังช่วยเพิ่มแอมป์ที่ใช้งานง่าย
มีการเพิ่มปุ่มฟังก์ชั่นใหม่ ([DIAL FUNC.]) และวงแหวน Quick Control เข้าไปที่ส่วนบนสุดของตัวกล้อง ปุ่ม [DIAL FUNC.] ช่วยให้สามารถสลับโหมดเพื่อปรับการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านฟังก์ชั่นที่สามารถปรับตั้งค่าได้หลากหลาย เช่น สมดุลแสงขาว ความไวแสง ISO และโหมด AF เนื่องจากปุ่มเหล่านี้ถูกวางไว้ห่างจากส่วนมือจับเล็กน้อย จึงอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความคุ้นเคย แต่การจัดกลุ่มฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อยที่สุดเข้าด้วยกันจะทำให้ใช้งานกล้องง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องละสายตาไปจากช่องมองภาพ
ฝาปิดด้านหน้า ฝาปิดด้านหลัง และส่วนมือจับทำจากโพลีคาร์บอเนตและยางสังเคราะห์ พร้อมวัสดุตกแต่งพื้นผิวที่มีคุณภาพสูง เช่นเดียวกับวงแหวนและปุ่มควบคุม จึงให้สัมผัสที่หรูหรา เนื่องจากกล้องรองรับทั้ง Wi-Fi และเทคโนโลยีบลูทูธพลังงานต่ำ จึงมีคุณสมบัติมากมายที่ทำให้บลูทูธสามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนได้ Canon ทุ่มเทความพยายามเพื่อผลิตกล้องมิเรอร์เลสที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
เมื่อกดปุ่ม [DIAL FUNC.] กล้องจะแสดงการตั้งค่าต่างๆ สำหรับฟังก์ชั่น อาทิ WB และความไวแสง ISO และหากต้องการตั้งค่าฟังก์ชั่นเหล่านี้ให้หมุนวงแหวน Quick Control
แฟลชป็อปอัพติดกล้อง ในกล้อง EOS M3 แฟลชป็อปอัพติดกล้องจะอยู่ด้านข้างกล้อง แต่ในกล้อง EOS M5 จะอยู่บริเวณกลางตัวกล้อง
จอภาพ LCD ด้านหลังแบบปรับเอียงขึ้นลงได้ ซึ่งสามารถปรับเอียงขึ้นได้ประมาณ 85° และปรับเอียงลงได้ประมาณ 180°
ส่วนมือจับมีความลึกกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ทำให้สามารถจับถือกล้องได้อย่างกระชับถนัดมือยิ่งขึ้น แผงด้านซ้ายมีช่องต่อรีโมทคอนโทรล ส่วนแผงด้านขวามีช่องต่อ Mini HDMI output และปุ่ม Wi-Fi
ข้อมูลจำเพาะของกล้อง
เซนเซอร์ภาพ: เซนเซอร์ CMOS ความละเอียดประมาณ 24.2 ล้านพิกเซล
ประเภทของโฟกัสอัตโนมัติ: Dual Pixel CMOS AF
จุด AF: 49 จุด
ระบบประมวลผลภาพ: DIGIC 7
ความไวแสง ISO: 100 - 25600
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง: 9 fps (พร้อม AF lock), 7 fps (พร้อมการติดตาม AF )
ความเร็วชัตเตอร์: 1/4000- 30 วินาที
จอ LCD: กว้าง 3.2 นิ้ว (3:2) ความละเอียดประมาณ 1.62 ล้านจุด สามารถปรับเอียงขึ้นประมาณ 85° ปรับเอียงลงต่ำประมาณ 180°
EVF ในตัว: มี
แฟลชติดกล้อง: มี
เครือข่าย: Wi-Fi, NFC, เทคโนโลยีบลูทูธพลังงานต่ำ
ขนาด (กว้าง x สูง x หนา): ประมาณ 115.6 × 89.2 × 60.6 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 427 กรัม (รวมแบตเตอรี่ การ์ดหน่วยความจำ)
*ข้อความสีแดงหมายถึงคุณสมบัติใหม่/ได้รับการปรับปรุง
รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสาร เคล็ดลับและลูกเล่นในการถ่ายภาพได้โดย ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเรา!
เกิดที่เมืองฮอกไกโดในปี 1982 Nakahara ผันเข้าสู่วงการถ่ายภาพหลังจากทำงานในบริษัทผลิตสารเคมี เขาถ่ายภาพที่ Vantan Design Institute เป็นหลักและเป็นผู้บรรยายในเวิร์คช็อปและสัมมนาด้านการถ่ายภาพ นอกเหนือจากการทำงานถ่ายภาพโฆษณา นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการถ่ายภาพอย่าง studio9 อีกด้วย
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation