ตัวเปลี่ยนเกมสำหรับสายไฮบริด
ในการถ่ายภาพนิ่งและบันทึกภาพวิดีโอ ช่างภาพแบบไฮบริดต้องมีความคล่องตัวและใช้กล้องที่มีความสามารถรอบตัว EOS R6 Mark II อัดแน่นด้วยคุณสมบัติและเทคโนโลยีขั้นสูงของ Canon พร้อมมอบความได้เปรียบให้กับช่างภาพแบบไฮบริดและรองรับความต้องการในการถ่ายภาพและบันทึกภาพวิดีโอ
การถ่ายภาพต่อเนื่อง 40 fps – จับภาพช่วงเวลาที่สำคัญหรือการเคลื่อนไหวความเร็วสูงอย่างง่ายดายด้วยความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 40 fps พร้อมการติดตาม AF/AE
โฟกัสอัตโนมัติและการตรวจจับตัวแบบที่ดียิ่งขึ้น – ล็อคโฟกัสบนตัวแบบได้เร็วถึง 0.03 วินาที! EOS iTR AF ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตรวจจับและติดตามสัตว์และยานพาหนะชนิดใหม่ๆ เช่น ม้า รถไฟ และเครื่องบิน
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องสูงสุด 8 สต็อป – ช่วยเปิดโอกาสให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น หรือมั่นใจได้มากขึ้นกับการตั้งค่าแบบเปิดรับแสงนาน ซึ่งมีประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับการถ่ายภาพกลางคืน! อีกหนึ่งความได้เปรียบของการมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่แม่นยำคือ ความสามารถในการถ่ายภาพและบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่นจากมุมใดก็ได้โดยตั้งค่ากล้องน้อยที่สุด
Canon Log 3, FHD 180p และฟังก์ชันการบันทึกล่วงหน้า – EOS R6 Mark II สืบทอดความสามารถและคุณสมบัติต่างๆ ด้านด้านวิดีโอ เช่น Canon Log 3 จากระบบ Cinema EOS ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการถ่ายวิดีโอได้อย่างสร้างสรรค์ ถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นเมื่อคุณบันทึกฟุตเทจด้วยความละเอียด 180p full HD และสร้างเอฟเฟ็กต์สโลโมชั่นที่ช้ากว่าความเร็วปกติในการเปิดดูถึง 6 เท่า หากต้องถ่ายภาพตัวแบบที่คาดเดาไม่ได้อย่างสัตว์ป่า คุณสามารถลดโอกาสที่จะพลาดช่วงเวลาสำคัญได้ เพียงเปิดฟังก์ชันการบันทึกล่วงหน้าบน EOS R6 Mark II
เพลย์ลิสต์
บทความ
-
1
EOS R6 Mark II: จุดเปลี่ยนสำคัญครั้งใหม่ของ Canon สำหรับการถ่ายภาพแบบไฮบริด
ยกระดับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของคุณขึ้นไปอีกขั้นด้วย EOS R6 Mark II ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติการผลิตวิดีโอระดับมืออาชีพ รวมถึงการถ่ายภาพนิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก
-
2
EOS R6 Mark II กับ EOS R8: เลือกใช้กล้องรุ่นไหนดี
ข้อแตกต่างระหว่าง EOS R6 Mark II กับ EOS R8 และความสำคัญของข้อแตกต่างเหล่านั้น
-
3
ควรเลือกใช้กล้องรุ่นใดสำหรับการถ่ายวิดีโอท่องเที่ยว
เลือกกล้องที่เหมาะกับสไตล์วิดีโอท่องเที่ยวของคุณ
-
4
