EOS R6 Mark II: จุดเปลี่ยนสำคัญครั้งใหม่ของ Canon สำหรับการถ่ายภาพแบบไฮบริด
Canon เปิดตัวกล้อง EOS R6 Mark II ไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2022 แม้ว่ากล้องรุ่นใหม่นี้จะได้ชื่อว่าเป็นทายาทของ EOS R6 ยอดนิยม แต่ก็อัดแน่นไปด้วยการพัฒนาและการปรับปรุงต่างๆ ที่ทำให้กล้องรุ่นนี้มีคุณสมบัติโดดเด่นไม่แพ้กัน
คุณสมบัติการถ่ายภาพและวิดีโออันทรงพลังในบอดี้กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมตัวเดียว
คุณสมบัติการถ่ายภาพและวิดีโออันทรงพลังในบอดี้กล้องฟูลเฟรมตัวเดียว
EOS R6 มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพที่รวดเร็วและมีคุณภาพสูงเนื่องจากมีระบบประมวลผลภาพ DIGIC X และความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ด้วยอัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึกขั้นสูง คุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นบน EOS R6 Mark II ซึ่งมาพร้อมกับการปรับปรุงคุณสมบัติพื้นฐานจำนวนมาก
คุณสมบัติใหม่ที่โดดเด่น ได้แก่
- การบันทึกวิดีโอภายนอก RAW แบบ 6K
- การถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 40 เฟรมต่อวินาที (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์)
- เซ็นเซอร์ภาพ CMOS ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้และอื่นๆ อีกมากมายทำให้ EOS R6 Mark II เป็นกล้องที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งช่างถ่ายวิดีโอและช่างถ่ายภาพนิ่ง ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ระดับใดก็ตาม
ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 40 fps: ความละเอียดมากขึ้นสองเท่า พร้อมความเร็วแบบทวีคูณ
การถ่ายภาพนิ่ง: ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงแบบไม่ครอปได้สูงสุด 40 fps
สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง หนึ่งในการปรับปรุงที่โดดเด่นที่สุดของ EOS R6 Mark II คือความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่รวดเร็วขึ้นอย่างมากแม้ว่าจะใช้เซ็นเซอร์ภาพที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งมีความละเอียดสูงขึ้นถึง 24.2 ล้านพิกเซล เนื่องจากมีระบบประมวลผลภาพ DIGIC X อันทรงพลัง ที่ 40 fps ซึ่งรวดเร็วกว่า EOS R6 ถึงสองเท่า และมีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องเมื่อใช้การติดตาม AF/AE ที่รวดเร็วที่สุดในซีรีย์ EOS ทั้งหมด*1
(หมายเหตุ: ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพความเร็วสูงแบบกำหนดเองที่เพิ่มไว้ใน EOS R3 ด้วยเฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 1.2.1 สามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 195 fps เมื่อใช้ล็อค AF/AE)
EOS R6 Mark II ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกความเร็วระดับกลางในการถ่ายภาพต่อเนื่องได้แม้ว่าจะใช้โหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ (โหมด H: สูงสุดประมาณ 20; โหมด L: ประมาณ 5 fps) ซึ่งอาจเหมาะกับตัวแบบบางประเภทมากกว่า*2
ความเร็วสูงสุดในการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยชัตเตอร์กลอยู่ที่ 12 fps เมื่อใช้การติดตาม AF/AE ซึ่งเทียบเท่า EOS R6
โหมดป้องกันการสั่นไหวสองโหมดที่รองรับสถานการณ์หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีระดับแสงที่สม่ำเสมอแม้ในการถ่ายภาพต่อเนื่องในสถานที่ที่มีแสงความถี่สูง เช่น ไฟ LED และป้ายโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ กล้อง EOS R6 Mark II จึงมาพร้อมกับฟังก์ชั่นป้องกันการสั่นไหวความถี่สูงที่จะทำงานในโหมดขับเคลื่อนชัตเตอร์ทั้งหมด (กลไก อิเล็กทรอนิกส์ ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรก และภาพเคลื่อนไหว) ซึ่งแก้ไขปัญหาการสั่นไหวความถี่สูงที่ 50.0Hz ถึง 8192Hz (ชัตเตอร์กลและม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรก: สูงสุด 2048Hz) และเสริมการทำงานของโหมดป้องกันสั่นไหวที่มีอยู่ซึ่งจะทำงานในโหมดชัตเตอร์กลเท่านั้น และแก้ปัญหาการสั่นไหวความถี่ต่ำที่ 100 ถึง 120 Hz
ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดของกล้องอยู่ที่ 1/8000 วินาทีในโหมดชัตเตอร์กล และ 1/16,000 วินาทีในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเร็วกว่าความเร็วของ EOS R6 ถึงสองเท่า*3
*1 ข้อมูล ณ 2 พฤศจิกายน 2022
*2 ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจริงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแบตเตอรี่/การชาร์จที่เหลือ อุณหภูมิ Wi-Fi ในตัว ('เปิด' หรือ 'ปิด') การลดแสงที่สั่นไหว ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง ประเภทของเลนส์ และอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้
*3 ระหว่างการถ่ายภาพด้วยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์อาจเกิดความบิดเบี้ยวจาก Rolling Shutter โดยขึ้นอยู่กับตัวแบบ สภาวะการถ่ายภาพ และสภาวะต่างๆ เช่น ปัญหาการใช้งานร่วมกันไม่ได้ในการถ่ายภาพด้วยแฟลช
โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW: เก็บบันทึกช่วงเวลาสำคัญก่อนการลั่นชัตเตอร์
EOS R6 Mark II เป็นกล้อง EOS ฟูลเฟรมรุ่นแรกที่มีโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW ซึ่งมีการถ่ายภาพต่อเนื่องโดยใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์สูงสุด 30 fps* และบันทึกไว้ในไฟล์เดียว หากเปิดใช้งานโหมดก่อนถ่ายภาพ กล้องจะบันทึกภาพล่วงหน้าสูงสุดประมาณ 0.5 วินาทีก่อนการลั่นชัตเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการบันทึกช่วงเวลาที่ไม่คาดคิดซึ่งเกิดขึ้นก่อนช่างภาพจะถ่ายภาพได้ทัน
*AE จะกำหนดไว้คงที่ในภาพแรก แนะนำให้ใช้การ์ด SD ที่มี Speed Class 10 ขึ้นไป อาจไม่สามารถบันทึกแบบปกติได้หากระดับแบตเตอรี่ต่ำหรือการ์ด SD มีความเร็วในการเขียนต่ำ
หมายเหตุ: ช่วงเวลาที่ต้องเว้นระหว่างลำดับการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW ติดต่อกัน: ประมาณ 27 วินาทีสำหรับการ์ด SD ปกติ (UHS-I) และประมาณ 12 วินาทีสำหรับการ์ดความเร็วสูง (UHS-II)
ความสามารถในการตรวจจับตัวแบบใหม่: ม้า รถไฟ เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์
ความสามารถในการตรวจจับตัวแบบใหม่: ม้า รถไฟ เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์
EOS R6 Mark II ได้เพิ่มม้า รถไฟ เครื่องบิน (รวมถึงเฮลิคอปเตอร์) ไว้ในประเภทตัวแบบที่ตรวจจับได้
ผู้ใช้จึงสามารถกำหนดค่า Eye Detection AF เพื่อเน้นที่ตาซ้ายหรือตาขวาได้เมื่อถ่ายภาพผู้คนและสัตว์ จึงมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ในการโฟกัสอัตโนมัติจะใกล้เคียงกับเป้าหมายการถ่ายภาพมากขึ้น
EOS R6 Mark II/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 500 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/1600 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
โหมดตรวจจับตัวแบบและส่วนที่ตรวจจับได้
|
|
|
มนุษย์ | ดวงตา (ซ้าย/ขวาเป็นลำดับแรก)/ ใบหน้า/ ศีรษะ/ ลำตัว | |
สัตว์ | สุนัข แมว นก ม้า | ดวงตา (ซ้าย/ขวาเป็นลำดับแรก)/ ใบหน้า/ ลำตัว |
ยานพาหนะ | กีฬาแข่งรถ (รถยนต์ มอเตอร์ไซค์) |
ตัวรถ/ หมวกกันน็อค |
รถไฟ | ทั้งคัน/ ขบวนแรก | |
เครื่องบิน, เฮลิคอปเตอร์ |
ทั้งลำ/ ห้องนักบิน | |
อัตโนมัติ | ข้างต้นทั้งหมด | ข้างต้นทั้งหมด |
สำหรับฉากที่อาจมีตัวแบบหลายประเภท การใช้โหมดตรวจจับตัวแบบ "อัตโนมัติ" ช่วยให้กล้องสามารถตรวจจับตัวแบบทั้งหมดได้ทุกประเภทและเลือกตัวแบบหลักได้อย่างชาญฉลาด
ติดตามด้วยการตรวจจับสัตว์
(ม้า)
ติดตามด้วยการตรวจจับยานพาหนะ
(เครื่องบิน)
กลไกการตรวจจับตัวแบบขั้นพื้นฐานเทียบเท่า EOS R3 อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ตรวจจับตัวแบบด้วยการเรียนรู้เชิงลึกและติดตามด้วย EOS iTR AF X
ประสิทธิภาพการติดตามและการโฟกัสอัตโนมัติที่ดียิ่งขึ้น
ปล่อยให้การโฟกัสเป็นหน้าที่ของกล้อง: ความสามารถในการติดตามที่เชื่อถือได้มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก:
EOS R6 Mark II สืบทอดแนวคิดการติดตามรูปแบบใหม่ที่นำมาใช้ใน EOS R3 ซึ่งสามารถใช้การติดตามด้วยการเรียนรู้เชิงลึกในโหมดพื้นที่ AF ได้ทั้ง 8 โหมด EOS iTR AF X ที่ปรับปรุงใหม่สามารถตรวจจับตัวแบบด้วยการแบ่งแยกคุณลักษณะ จึงสามารถตรวจจับและติดตามตัวแบบในฉากที่เคยเป็นเรื่องยากได้ เช่น ฉากที่มีการเปลี่ยนแปลงของแสงสว่างหรือมองไม่เห็นบางส่วนของตัวแบบ
ด้วยการติดตามและโฟกัสที่ต่อเนื่องและเชื่อถือได้มากขึ้นแม้ในสถานการณ์อย่างเช่น การถ่ายภาพกีฬาและสัตว์ป่า ผู้ใช้จึงสามารถจดจ่อกับเรื่องอื่นๆ ได้ เช่น จังหวะเวลาและการจัดองค์ประกอบภาพ และปล่อยให้การโฟกัสเป็นหน้าที่ของกล้อง
หากต้องการควบคุมการโฟกัสมากขึ้น มีโหมดพื้นที่ AF ให้เลือก 8 โหมด นอกจากโหมด AF ทั่วพื้นที่ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว โหมดอื่นๆ อีก 7 โหมด ได้แก่
- AF 1 จุด
ผู้ใช้เลือกตำแหน่งจุด AF ได้สูงสุดถึง 4,897 ตำแหน่ง
- AF จุดเล็ก
ให้พื้นที่ AF ที่เล็กกว่า AF 1 จุด เพื่อการโฟกัสแบบ Pinpoint
- โหมดขยายพื้นที่ AF สองโหมด:
ขยายพื้นที่ AF (บน ล่าง ซ้าย ขวา) และขยายพื้นที่ AF (รอบๆ) ใช้ AF 1 จุด และจุด AF 4 (หรือ 8) จุดที่อยู่โดยรอบ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจับโฟกัสบนตัวแบบที่เคลื่อนไหว
- โหมด Zone AF แบบยืดหยุ่น 3 โหมด
เปิดตัวครั้งแรกในกล้อง EOS R3 แต่ในกล้อง EOS R6 Mark II นั้น ผู้ใช้สามารถกำหนดพื้นที่ AF ตามขนาดที่ต้องการได้ตั้งแต่ 9 จุด (3×3) ไปจนถึง 999 จุด (37×27) และจัดเก็บไว้ในช่องสูงสุด 3 ช่องได้
เซนเซอร์ภาพ 24.2 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่: ความละเอียดสูงที่มีคุณภาพเกินตัว
เซนเซอร์ภาพ CMOS ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมความคมชัดเหนือความละเอียดของจำนวนพิกเซล
EOS R6 Mark II มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ฟูลเฟรม ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากเลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์ได้อย่างเต็มที่ และเซ็นเซอร์ภาพฟูลเฟรมยังทำให้ถ่ายภาพที่มีระยะชัดตื้นได้ง่ายยิ่งขึ้นและแยกแบ็คกราวด์ได้อย่างยอดเยี่ยม
EOS R6 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 135 มม./ Manual exposure (f/5.6, 1/125 วินาที)/ ISO 100/ WB: 5300K
นอกจากความละเอียดที่เพิ่มขึ้นเหนือ EOS R6 ซึ่งมีความละเอียดประมาณ 20.1 ล้านพิกเซลแล้ว เซ็นเซอร์ภาพรุ่นใหม่ของ EOS R6 Mark II ยังมาพร้อมกับความสามารถในการประมวลผลเพื่อความคมชัดแบบใหม่ ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้มีความคมชัดและการแสดงรายละเอียดที่ดียิ่งขึ้น การทดสอบของ Canon แสดงให้เห็นว่า EOS R6 Mark II มีความละเอียดของภาพเทียบเท่า 30.4 ล้านพิกเซลของ EOS 5D Mark IV*
ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลนับว่าเพียงพอสำหรับการพิมพ์สื่อโฆษณาขนาด A3 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่
*อ้างอิงตามการประเมินแผนภูมิความละเอียดของ CIPA ตามมาตรฐาน ISO 12233 และสภาวะของรูปแบบภาพตามค่าเริ่มต้น
Digital Lens Optimizer และ DPRAW: มั่นใจได้ถึงคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดจากกล้องโดยตรง
เช่นเดียวกับกล้องรุ่นอื่นๆ ในซีรีย์ EOS R กล้อง EOS R6 Mark II มาพร้อมกับคุณสมบัติ Digital Lens Optimizer ในตัวและการแก้ไขความคลาดของเลนส์ซึ่งใช้ข้อมูลการออกแบบเลนส์เพื่อทำแก้ไขทางดิจิทัลเกี่ยวกับปัญหาความบิดเบี้ยว ความคลาดสี การกระจายออกของแสง ปัญหาขอบมืด และปัญหาความคลาดเคลื่อนอื่นๆ ที่มาพร้อมกับเลนส์รุ่นต่างๆ เพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
การรองรับการถ่ายภาพ DPRAW ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเกี่ยวกับมุมถ่ายภาพและความละเอียดภาพได้เมื่อปรับแต่งภาพด้วยซอฟต์แวร์ Digital Photo Professional (DPP) ที่ใช้งานได้ฟรีของ Canon การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตและการปรับความชัดเจนของฉากหลังสามารถใช้งานได้ด้วยการประมวลผลภาพ RAW ภายในกล้อง
เช่นเดียวกับ EOS R3 กล้อง EOS R6 Mark II ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อทำให้ AWB (สมดุลแสงขาวอัตโนมัติ) มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
โหมด "ตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว" HDR ใหม่
โหมด "ตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว" HDR ใหม่ ความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นในการสร้างสรรค์
เช่นเดียวกับกล้อง EOS R "รุ่นที่สอง" กล้อง EOS R6 Mark II รองรับการถ่ายภาพนิ่ง HDR PQ HEIF แบบ 10 บิต นอกเหนือจากรูปแบบ RAW และ JPEG ตามปกติ และยังมีโหมด "ตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว" HDR ใหม่ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายภาพที่มีช่วงไดนามิกเรนจ์กว้างขึ้นได้ (JPEG/HDR PQ) ด้วยการเปิดรับแสงเพียงครั้งเดียวแทนที่จะต้องรวมภาพที่ถ่ายคร่อมสามภาพเข้าด้วยกันแบบเดิม ซึ่งช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากการที่ตัวแบบย้ายตำแหน่งระหว่างการถ่ายภาพคร่อม จึงเป็นวิธีที่สะดวกในการสร้างภาพ HDR ของภาพกีฬา สัตว์ ยานพาหนะ และตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหวอื่นๆ แม้ในระหว่างการแพนกล้องก็ตาม
EOS R6 Mark II/ RF400mm f/2.8L IS USM/ FL: 400 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/125 วินาที)/ ISO 12800/ WB: ทังสเตน/ โหมด HDR: ตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหว
ฟังก์ชั่นสร้างสรรค์ที่ใช้งานสะดวกอื่นๆ
- โหมดภาพพาโนรามา
- Focus bracketing + Depth Composition ในกล้อง
- การถ่ายภาพซ้อน
- ตัวตั้งเวลาถ่ายภาพแบบหน่วง
- โหมดฉากพิเศษ (ไม่มีอยู่บนกล้องรุ่น EOS R6)
- ฟิลเตอร์สร้างสรรค์ (ไม่มีอยู่บนกล้องรุ่น EOS R6)
ตัวแปลงเลนส์ดิจิทัล: เข้าใกล้ตัวแบบได้มากขึ้นด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
ตัวแปลงเลนส์ดิจิทัล: เข้าใกล้ตัวแบบได้มากขึ้นด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่เปิดตัวใน EOS R6 Mark II คือตัวแปลงเลนส์ดิจิทัล ซึ่งจะประมวลผลภาพทางดิจิทัลเพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์เทียบเท่าการซูม 2 เท่าหรือ 4 เท่า (ทางยาวโฟกัส 2 เท่าหรือ 4 เท่า) โดยขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้ ฟังก์ชั่นนี้ทำหน้าที่เหมือนท่อต่อเลนส์ในตัว จึงช่วยให้คุณเข้าใกล้ตัวแบบได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์
ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดนี้ไม่ได้ถูกครอป แต่ถูกประมวลผลและเพิ่มขนาดให้เป็นขนาดการบันทึก ดังนั้นการถ่ายภาพ JPEG ที่มีคุณภาพระดับภาพขนาดใหญ่ (6000×4000) ในโหมด 2 เท่า จะทำให้ได้ภาพ JPEG ที่คงความละเอียดของจำนวนพิกเซลที่มีคุณภาพระดับภาพขนาดใหญ่ (6000×4000)* เป็นต้น
สามารถใช้ตัวแปลงเลนส์ดิจิทัลร่วมกับฟังก์ชั่นครอปตัด 1.6 เท่า หรือใช้กับเลนส์ RF-S/EF-S เพื่อให้มีทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้นได้ มุมรับภาพที่ได้จะเทียบเท่ากับทางยาวโฟกัสประมาณ 3.2 เท่าหรือ 6.4 เท่า โดยมีขนาดไฟล์ JPEG ที่มีคุณภาพระดับภาพขนาดใหญ่อยู่ที่ 3744 × 2496
เคล็ดลับ: กำหนดปุ่มลัดให้ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงเลนส์ดิจิทัล
เมื่อกำหนดฟังก์ชั่นตัวแปลงเลนส์ดิจิทัลไว้ที่ M.Fn หรือปุ่มเช็คระยะชัดลึก คุณจะสามารถเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ได้ทันทีเพียงแค่สัมผัสปุ่ม
*คุณภาพของภาพจะลดลงเนื่องจากมีการขยายและบันทึกภาพ การถ่าย JPEG เท่านั้น กรอบ AF จะถูกกำหนดไว้ที่จุดกึ่งกลาง
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 8 สต็อปเมื่อใช้ IS แบบประสานการควบคุม
IS ในตัวกล้อง: ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 8 สต็อปเมื่อใช้ IS แบบประสานการควบคุม
EOS R6 Mark II มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว (IS ในตัวกล้อง) แบบตรวจจับการสั่นของเซนเซอร์ภาพซึ่งจะแก้ไขการสั่นไหวของกล้องตามการเคลื่อนที่ของกล้องใน 5 แกน เพื่อป้องกันภาพสั่นไหวแม้ว่าจะใช้เลนส์ EF/RF ที่เข้ากันได้ซึ่งไม่มี IS แบบออพติคอลในตัวก็ตาม ด้วยเลนส์ RF ที่เข้ากันได้ซึ่งมี IS แบบออพติคอล ทำให้ EOS R6 Mark II สามารถรองรับ IS แบบประสานการควบคุมซึ่งกล้องและ IS ของเลนส์จะประสานการทำงานเพื่อป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงถึง 8 สต็อปบนเลนส์รุ่นต่างๆ เช่น RF24-105mm f/4L IS USM
วิดีโอ: การบันทึกวิดีโอภายนอก RAW แบบ 6K; Canon Log 3, อัตราเฟรมสูงแบบ Full HD 180p
วิดีโอ: คุณสมบัติระดับมืออาชีพซึ่งรวมถึงการบันทึกวิดีโอภายนอก RAW แบบ 6K
จากการใช้ความกว้างของเซนเซอร์ภาพ 24.2 ล้านพิกเซลอย่างเต็มที่ทำให้กล้อง EOS R6 Mark II สามารถบันทึกวิดีโอ RAW แบบ 6K ด้วยตัวบันทึกวิดีโอภายนอกผ่านการเชื่อมต่อ HDMI ได้ ซึ่งเพียงพอที่จะมั่นใจได้ถึงคุณภาพระดับสูงแม้ว่าจะมีปรับแต่งและการดัดแปลงภาพอย่างมากก็ตาม ในกล้อง สามารถบันทึกวิดีโอ 4K แบบไม่ครอปโดยที่มีคุณภาพสูงซึ่งสุ่มด้วยความถี่สูงจาก 6K ได้
นอกจากการบันทึก YCbCr 4:2:0 แบบ 8 บิตทั่วไปแล้ว EOS R6 Mark II ยังรองรับ YCbCr 4:2:2 แบบ 10 บิต Canon Log 3 และ HDR PQ จึงมีตัวเลือกการบันทึกที่หลากหลายเพื่อรองรับการผลิตวิดีโอ HDR การปรับแก้สี และขั้นตอนหลังการผลิตขั้นสูงอื่นๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: 4:2:2 และ 4:2:0 หมายถึงอะไร
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: ความลึกบิต (Bit depth) คืออะไร และส่งผลต่อวิดีโอ
การบันทึกภายนอกแบบ RAW เป็น ProRes RAW ผ่านเอาต์พุตแบบ HDMI สามารถทำได้ด้วย ATOMOS Ninja V+
วิดีโอที่มีอัตราเฟรมสูงระดับ Full HD 180p
ถ่ายวิดีโอสโลโมชั่นความเร็ว 1/6 ด้วยการบันทึกระดับ Full HD 180p และการเล่น 30p
ในโหมด Full HD สามารถถ่ายวิดีโอสโลโมชั่นได้อย่างราบรื่นด้วยการถ่ายที่ใช้อัตราเฟรมสูง EOS R6 Mark II มีอัตราเฟรมที่เร็วขึ้นสูงสุดประมาณ 180 fps/150 fps ซึ่งหมายถึงวิดีโอที่ช้าลงถึง 6 เท่าเมื่อเล่นที่ 30p/25p
คุณสมบัติใหม่: การบันทึกล่วงหน้าสำหรับวิดีโอ
คุณสมบัติการบันทึกล่วงหน้าสำหรับวิดีโอแบบใหม่สามารถบันทึกวิดีโอล่วงหน้าได้สูงสุด 5 วินาทีก่อนกดปุ่มบันทึก จึงไม่จำเป็นต้องปล่อยให้กล้องบันทึกตลอดเวลา เหมาะกับสถานการณ์อย่างเช่น การถ่ายสารคดีสัตว์ป่าที่ยากจะคาดเดาได้ว่าจะเกิดการเคลื่อนไหวที่ควรค่าแก่การถ่ายวิดีโอเมื่อใด และยังปรับปรุงขั้นตอนการปรับแต่งภาพเนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องตัดต่อฟุตเทจยาวๆ ที่ไม่จำเป็นออกอีกต่อไป
คุณสมบัติใหม่: การแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพ
EOS R6 Mark II รองรับการแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพแบบใหม่ซึ่งใช้ข้อมูลการออกแบบทางออพติคอลในการแก้ไขการเปลี่ยนมุมรับภาพที่ไม่ต้องการซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อมีการดึงโฟกัส เมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ที่เข้ากันได้ คุณสมบัตินี้จะช่วยให้ควบคุมการเปลี่ยนจุดโฟกัสได้ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้นักสร้างวิดีโอสามารถถ่ายฟุตเทจได้ตรงตามเป้าหมายในการสร้างสรรค์ของตนเอง
ความเข้ากันได้กับ UVC/UAC: สตรีมวิดีโอแบบไลฟ์ด้วยวิดีโอและเสียงคุณภาพสูง เพียงแค่เสียบกล้อง
เนื่องจาก EOS R6 Mark II รองรับ UVC (USB Video Class) และ UAC (USB Audio Class) ผู้ใช้จึงสามารถส่งวิดีโอระดับ Full HD 30p และเสียงไปยังคอมพิวเตอร์ Windows หรือ MacOS ของตนเองได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เชื่อมต่อสาย USB* ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมควบคุม เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกในการใช้ประโยชน์จากกล้องฟูลเฟรมในการสตรีมวิดีโอแบบไลฟ์และการประชุมจากระยะไกล!
* แบบแผน/ความเร็วในการสื่อสาร UVC/UAC: USB ความเร็วสูง (USB 2.0) เท่านั้น; PTP ที่ควบคุมด้วยรีโมทรองรับ Super Speed USB (USB 3.2 เจน 2) หรือเวอร์ชันก่อนหน้า
ระยะเวลาในการบันทึกต่อเนื่องยาวนานยิ่งขึ้น
การกำจัดขีดจำกัดในการบันทึกที่ 30 นาทีช่วยให้ EOS R6 Mark II สามารถบันทึกได้สูงสุด 6 ชั่วโมง (1.5 ชั่วโมงระหว่างการบันทึก 120p/100p; 1 ชั่วโมงระหว่างการบันทึก 180p/150p) เว้นแต่ในสถานการณ์ที่การบันทึกหยุดลงเนื่องจากความร้อนสูงเกินไป การปรับปรุงการควบคุมความร้อนช่วยให้สามารถบันทึกได้อย่างไร้ขีดจำกัดได้สูงสุด 4K UHD 30p/25p แบบไม่ครอป
คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น
บอดี้กล้องที่ป้องกันน้ำและฝุ่น
โครงสร้างภายในส่วนใหญ่ของ EOS R6 Mark II ทำมาจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแกร่งและเบา และโครงสร้างภายนอกผลิตจากเรซิ่นโพลีคาร์บอเนตที่แข็งแรงและเบา ดีไซน์ป้องกันฝุ่นและหยดน้ำช่วยให้มั่นใจได้แม้ในสถานการณ์การถ่ายภาพกลางแจ้ง
ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่
ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่ช่วยให้บันทึกพร้อมกันเพื่อสำรองข้อมูลได้
ฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่น
EOS R6 Mark II มีฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นเหมือนกับที่พบได้บน EOS R3/R5 C/R7/R10 ทำให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ เช่น Speedlite EL-5 ได้
Wi-Fi 5GHz / Bluetooth
กล้องมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งาน Wi-Fi 5GHz/2.4GHz ในตัวและเข้ากันได้กับ IEEE802.11b/g/n/a/ac ทำให้เชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้มากขึ้น การถ่ายภาพจากระยะไกลผ่านแอป Camera Connect สะดวกกว่าที่เคย
การชาร์จด้วย USB และการจ่ายไฟ
แม้ว่า EOS R6 Mark II จะมาพร้อมกับชุดแบตเตอรี่ LP-E6NH แต่ยังเข้ากันได้กับชุดแบตเตอรี่ LP-E6N และ LP-E6 สามารถจ่ายไฟผ่านสาย USB ที่เข้ากันได้ โดยสามารถชาร์จด้วย USB ในกล้องได้ด้วย LP-E6NH และ LP-E6N
แบตเตอรี่กริป BG-R10 (จำหน่ายแยกต่างหาก)
เช่นเดียวกับ EOS R5/R6 กล้อง EOS R6 Mark II สามารถใช้กับแบตเตอรี่กริป BG-R10 ได้ (จำหน่ายแยกต่างหาก) แบตเตอรี่กริปช่วยให้ใช้งานง่ายในระหว่างการถ่ายภาพแนวตั้ง และใช้แบตเตอรี่สองก้อน จึงช่วยเพิ่มจำนวนภาพที่สามารถถ่ายได้ก่อนที่แบตเตอรี่จะหมด
ภาพตัวอย่าง
EOS R6 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 200 มม./ Manual exposure (f/4, 1/500 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
EOS R6 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 200 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/200 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
EOS R6 Mark II/ RF15-35mm f/2.8L IS USM/ FL: 15 มม. / Manual exposure (f/11, 1 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ