Speedlite EL-5: มากกว่า 6 สิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับแฟลชรุ่นใหม่สำหรับมืออาชีพของ Canon
ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2022 Canon ได้ประกาศเปิดตัว Speedlite EL-5 อุปกรณ์แฟลชเสริมรุ่นใหม่สำหรับมืออาชีพนี้มีสมรรถนะและประสิทธิภาพการทำงานที่คล้ายกับ Speedlite EL-1 รุ่นเรือธง และมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ใช้งานบ่อยที่สุดซึ่งคัดสรรมาจากรุ่นเรือธงดังกล่าว เพื่อมอบประสิทธิภาพระดับไฮเอนด์ในรูปทรงที่เล็กลง เบาลง และราคาย่อมเยามากขึ้น
1. ประสิทธิภาพระดับรุ่นเรือธงในบอดี้ที่เล็กลง เบาลง และราคาย่อมเยามากขึ้น
1. มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับรุ่นเรือธงในบอดี้ที่เล็กลง เบาลง และราคาย่อมเยามากขึ้น
กล้องซีรีย์ EOS R ตั้งแต่รุ่น EOS R3 เป็นต้นมา มาพร้อมกับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ซึ่งมีช่องต่อแบบดิจิทัลที่สามารถสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถสื่อสารและควบคุมระหว่างกล้องกับอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งไว้ได้ดียิ่งขึ้น Speedlite EL-5 เป็น Speedlite รุ่นแรกของ Canon ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัตินี้
เช่นเดียวกับ Speedlite EL-1 รุ่นเรือธง Speedlite EL-5 มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไฟสูง รวมถึงมีพลังส่องสว่างสูง ชาร์จได้อย่างรวดเร็ว และมีความสามารถสูงในการยิงแฟลชต่อเนื่อง คุณสมบัติเหล่านี้รวมอยู่ในบอดี้ที่มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาลงซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยลบคุณสมบัติเดิมๆ อย่างเช่น การส่งสัญญาณแบบออพติคอลสำหรับแฟลชไร้สาย และเก็บไว้เฉพาะคุณสมบัติที่มีการใช้งานกันอย่างกว้างขวางและคุณสมบัติที่จะเป็นที่นิยมในอนาคต เช่น การส่งสัญญาณวิทยุ ส่งผลให้ Speedlite EL-5 มีประสิทธิภาพเหนือ Speedlite 600EX II-RT ซึ่งเป็นรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดในซีรีย์ Speedlite EX แต่มีระดับราคาที่ต่ำกว่า
*1 ที่ ISO 100 ด้วยมุมการส่องสว่างครอบคลุม 200 มม.
*2 อ้างอิงตามมาตรฐานการวัดค่าของ Canon เมื่อใช้แบตเตอรี่ LP-EL ใหม่ที่ชาร์จจนเต็ม
*3 มุมการส่องสว่างครอบคลุม 35 มม. จำนวนการยิงแฟลชต่อเนื่องโดยใช้กำลังแสงสูงสุดไม่เกินความเข้มของแสงแฟลชระดับ 2 เมื่อใช้แบตเตอรี่ LP-EL ใหม่ที่ชาร์จจนเต็ม อ้างอิงตามมาตรฐานการทดสอบของ Canon ด้วยการใช้แฟลชแบบแมนนวล
*4 เมื่อใช้แบตเตอรี่ LP-EL ใหม่ที่ชาร์จจนเต็ม อ้างอิงตามมาตรฐานการทดสอบของ Canon
2. รวดเร็วและควบคุมแสงแฟลชได้อย่างดีเยี่ยม
ที่กำลังแสงสูงสุด Speedlite EL-5 มีค่าไกด์นัมเบอร์อยู่ที่ 60 เช่นเดียวกับ Speedlite EL-1 และ Speedlite 600EX II-RT อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการยิงแฟลชแบบไมโครและการยิงแฟลชต่อเนื่องมีความแตกต่างกันเล็กน้อย
วงจรชาร์จความเร็วสูงเหมือนกับ Speedlite EL-1
เนื่องจาก Speedlite EL-5 ใช้วงจรชาร์จความเร็วสูงที่เทียบเท่า Speedlite EL-1 จึงมีระยะเวลาที่แฟลชกลับมาพร้อมใช้งานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ระยะเวลาที่แฟลชกลับมาพร้อมใช้งานอยู่ที่ประมาณ 1.2 วินาทีที่กำลังแสงสูงสุด และ 0.1 วินาทีในระหว่างการยิงแฟลชแบบไมโครที่ 1/1024 ที่กำลังแสงสูงสุดผู้ใช้สามารถยิงแฟลชต่อเนื่องได้สูงสุด 30 ครั้งโดยมีช่วงเวลาระหว่างนั้นประมาณ 2 วินาที
เมื่ออุณหภูมิภายในเพิ่มสูงขึ้น ระยะเวลาที่แฟลชกลับมาพร้อมใช้งานจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8 วินาที (ที่ความเข้มของแสงแฟลชระดับ 1) และ 20 วินาที (ความเข้มของแสงแฟลชระดับ 2) อย่างไรก็ตาม Speedlite EL-5 สามารถยิงแฟลชต่อเนื่องที่กำลังแสงสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 95 ครั้งจนถึงความเข้มแสงแฟลชระดับ 2
|
EL-1 |
600EX II-RT |
|
ค่าไกด์นัมเบอร์สูงสุด |
|
|
|
การยิงแฟลชแบบไมโคร |
|
|
|
ระยะเวลาที่แฟลชกลับมาพร้อมใช้งาน (1/1) |
|
|
|
การยิงแฟลชต่อเนื่อง |
|
|
|
ในขณะที่ Speedlite EL-1 มีระบบทำความเย็นแบบแอคทีฟที่ช่วยให้สามารถยิงแฟลชต่อเนื่องได้ แต่ Speedlite EL-5 ไม่มีกลไกการทำความเย็น แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ Speedlite EL-5 มีประสิทธิภาพการยิงแฟลชต่อเนื่องที่เหนือกว่า Speedlite 600EX II-RT ทำให้ขั้นตอนการทำงานราบรื่นขึ้นและรวดเร็วขึ้นเมื่อถ่ายภาพพอร์ตเทรต ตัวแบบที่กำลังเคลื่อนที่ หรือฉากอื่นๆ ที่จำเป็นต้องยิงแฟลชต่อเนื่อง
ยิงแฟลชแบบไมโครได้ต่ำสุดที่ 1/1024: แสงเนียนละเอียดแม้ในสภาพแสงน้อย
ในโหมดแฟลชแบบแมนนวล Speedlite EL-5 สามารถใช้ค่าต่ำได้ถึง 1/1024 ที่กำลังแสงสูงสุด ซึ่งต่ำกว่าค่าต่ำที่สุดของ Speedlite 600EX II-RT ที่ 1/128 ถึง 3 สต็อป จึงพร้อมที่จะให้แสงที่เนียนละเอียดเพื่อขับเน้นบรรยากาศของฉากที่มีแสงน้อยได้ไม่ว่าจะใช้เป็นไฟหลักหรือแสงเสริมก็ตาม
ที่กำลังแสงสูงสุด 1/1024 ระยะเวลาการยิงแฟลชจะอยู่ที่ประมาณ 1/46,290 วินาที ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ในการถ่ายภาพที่เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูง 1/46,290 วินาทีในฉากที่มืดได้โดยไม่ต้องมีแหล่งแสงอื่น!
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาการยิงแฟลชที่นี่:
เร็วยิ่งกว่าความเร็วชัตเตอร์: การใช้ระยะเวลาการยิงแฟลชเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว
3. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไฟสูง และยิงแฟลชได้ไม่ต่ำกว่า 350 ครั้ง
3. ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไฟสูงแบบชาร์จได้ 1 ก้อน
ฐานเสียบแฟลชส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ AA ซึ่งมีกำลังไฟที่จำกัด จึงจำเป็นต้องเตรียมแบตเตอรี่สำรองให้พร้อมอยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพเป็นระยะเวลานาน ในขณะที่ Speedlite EL-5 เหมือนกับ Speedlite EL-1 ที่สามารถใช้ชุดแบตเตอรี่ LP-EL (1920mAh/7.2V) ขนาดเล็กที่มีกำลังไฟสูงได้ ที่จริงแล้วสามารถใช้งานได้นานกว่า Speedlites รุ่นก่อนหน้าทั้งหมด โดยสามารถยิงแฟลชได้ประมาณ 350 ครั้งที่กำลังแสงสูงสุดจากการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งมากกว่า Speedlite 600EX II-RT ที่ใช้แบตเตอรี่ AA เพิ่มอีก 8 ก้อนผ่านชุดแบตเตอรี่ CP-E4N ขนาดกะทัดรัด!
|
|
(กำลังแสงสูงสุด 1/1) |
Speedlite EL-5 | แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน | 350 ครั้ง |
Speedlite EL-1 | แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน | 335 ครั้ง |
Speedlite 600EX II-RT + CP-E4N | แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน + แบตเตอรี่ AA 8 ก้อน |
680 ครั้ง |
Speedlite 600EX II-RT | แบตเตอรี่ AA 4 ก้อน | 100 ครั้ง |
Speedlite 600EX II-RT + CP-E4N | แบตเตอรี่ AA 4 ก้อน + แบตเตอรี่ AA 8 ก้อน |
300 ครั้ง |
แผงหน้าจอจะแสดงระดับแบตเตอรี่ที่เหลือเพื่อให้ทราบเมื่อถึงเวลาชาร์จและไม่ให้กระทบต่อขั้นตอนการทำงานของคุณ ไม่มีที่ชาร์จรวมไว้ให้ แต่หากคุณใช้กล้องที่ใช้แบตเตอรี่ซีรีย์ LP-E6 ซึ่งเป็นกล้อง EOS ขั้นสูงสำหรับการใช้งานอย่างหนักหน่วงที่สุด ก็ไม่น่าเป็นปัญหาเพราะคุณสามารถใช้ที่ชาร์จเดียวกันในการชาร์จแบตเตอรี่ Speedlite EL-5 ของคุณได้
4. ออกแบบมาเพื่อฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ของ Canon
4. รองรับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ของ Canon
Speedlite EL-5 ออกแบบมาเพื่อรองรับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ของระบบ EOS R ซึ่งมีช่องต่อแบบดิจิทัลรุ่นใหม่ที่ทำให้การสื่อสารระหว่างกล้องกับอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งไว้มีความรวดเร็วและเสถียรมากขึ้น จึงควบคุมได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น Speedlite EL-5 จะตรวจจับสถานะการเชื่อมต่อกับกล้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่ Speedlite ปิดสวิตช์อัตโนมัติโดยไม่ได้ตั้งใจ และยังเปิดใช้งานได้อย่างรวดเร็วเมื่อเปิดกล้องอีกครั้งหลังการปิดอัตโนมัติ
กล้องที่ใช้งานได้กับ Speedlite EL-5
|
|
|
|
ใช้ร่วมกันได้ | ใช้ร่วมกันได้หลังการอัพเดตเฟิร์มแวร์ |
*ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2022
5. โหมดแฟลชต่างๆ เพื่อเพิ่มความสร้างสรรค์
5. ประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงด้วยโหมดต่างๆ ที่ช่วยในการถ่ายทอดภาพถ่ายโดยใช้แฟลช
นอกจากโหมดแฟลชอัตโนมัติและแฟลชแบบแมนนวล E-TTL II/ E-TTL แล้ว Speedlite EL-5 ยังมาพร้อมกับโหมดอื่นๆ เพื่อรองรับเป้าหมายและสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงโหมดแฟลชหลายตัวและซิงค์ความเร็วสูง หรือแม้แต่โหมดกำหนดเองเพื่อจัดเก็บและเรียกใช้การตั้งค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของคุณ
ซิงค์ความเร็วสูง
ช่วยให้คุณสามารถใช้แฟลชได้แม้ว่าจะตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์สูงกว่าความเร็ว X-sync* ของกล้อง แฟลชจะยิงแสงแฟลชด้วยความเร็วสูงหลายครั้งภายในเวลาการเปิดรับแสงสั้นๆ เพื่อให้สว่างทั่วทั้งภาพแม้ว่าม่านชัตเตอร์จะไม่ได้เปิดเต็มที่ก็ตาม
*ความเร็ว X-sync: ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดที่ทำให้กล้องสามารถถ่ายแสงบนเซนเซอร์ภาพทั้งหมดได้ หากความเร็วชัตเตอร์สูงกว่านี้ ชัตเตอร์ของกล้องจะไม่ได้เปิด/เปิดรับแสงเต็มที่
แฟลชซิงค์ความเร็วสูงจะมีประโยชน์เป็นพิเศษเมื่อใช้เป็นไฟเสริมสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสภาวะย้อนแสง ด้วยความเร็วชัตเตอร์สูง คุณสามารถใช้การตั้งค่ารูรับแสงที่กว้างขึ้นเพื่อให้ภาพมีโบเก้ที่สวยงามได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
[เทคนิคการใช้ไฟ 2 ดวง] ถ่ายภาพกลางแจ้งในแสงแดดจ้าอย่างไรให้แหวกแนว
ซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2
โดยปกติแล้ว แฟลชจะยิงเมื่อม่านชัตเตอร์เปิด (“ม่านชัตเตอร์แรก”) ในโหมดซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2 แฟลชจะยิงก่อนที่ม่านชัตเตอร์จะปิด ซึ่งจะเปลี่ยนภาพเส้นแสงของการเบลอจากการเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
เทคนิคการใช้แฟลชติดกล้อง #5: สร้างเส้นแสงที่เร็วและแรงด้วยซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2
โหมดแฟลชหลายตัว
ในโหมดนี้ แฟลชจะยิงหลายครั้งระหว่างการเปิดรับแสงนาน โดยสามารถใช้โหมดนี้ในการถ่ายภาพหลายๆ ภาพของตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหวในหนึ่งเฟรมได้ ซึ่งจะสร้างเอฟเฟ็กต์ที่คล้ายภาพแอ็คชั่นต่อเนื่องหลายๆ ภาพมาประกอบกัน
โหมดแฟลชแบบกำหนดเองที่ผสานรวมกับกล้องของคุณได้อย่างราบรื่น
Speedlite EL-5 มาพร้อมกับโหมดแฟลชแบบกำหนดเองซึ่งเป็นครั้งแรกของ Canon Speedlite ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บการตั้งค่ารูปแบบต่างๆ ที่ต้องการเพื่อเรียกใช้ได้ง่ายๆ
การตั้งค่าที่สามารถจัดเก็บได้ เช่น
- โหมดแฟลช: E-TTL/ M/ หลายตัว ฯลฯ
- การตั้งค่ากำลังแสง: การตั้งค่าซิงค์ การตั้งค่าซูม ฯลฯ
- การตั้งค่าไร้สาย
- การตั้งค่าระบบส่วนตัวอื่นๆ
สามารถใช้ช่องโหมดแฟลชแบบกำหนดเองสามช่อง: C1, C2 และ C3 ช่องเหล่านี้สามารถเชื่อมโยงกับโหมดถ่ายภาพเอง C1, C2 และ C3 บนกล้องของคุณได้ ดังนั้นเมื่อคุณใช้โหมด C1 บนกล้องของคุณ Speedlite จะเรียกใช้โดยอัตโนมัติและใช้โหมดแฟลชกำหนดเอง C1 เป็นต้น ด้วยการปรับที่น้อยลง ขั้นตอนการถ่ายภาพของคุณก็จะราบรื่นและง่ายดายยิ่งขึ้น
6. ฟังก์ชั่นการใช้งานแฟลชไร้สายที่ดีเยี่ยม
6. ฟังก์ชั่นการใช้งานแฟลชไร้สายที่ดีเยี่ยม
Speedlite EL-5 มีแฟลชไร้สายผ่านการส่งสัญญาณวิทยุและสามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้งตัวส่ง (ตัวส่งสัญญาณ) และตัวรับ การส่งสัญญาณวิทยุทำให้การสื่อสารมีความเสถียรมากขึ้นแม้ว่าจะมีสิ่งกีดขวางโดยรอบ เนื่องจากตัวส่งและตัวรับสามารถสื่อสารได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในแนวสายตาเดียวกันก็ตาม คุณจึงมีอิสระมากขึ้นที่จะเลือกตำแหน่งในการวางภายในรัศมีการส่งสัญญาณ 30 เมตร*
สามารถเชื่อมต่อไร้สายกับชุดแฟลชได้สูงสุด 16 ตัวต่อครั้ง ดังนั้นด้วยแฟลชส่งสัญญาณ 1 ตัว คุณจะสามารถควบคุมแฟลชรับสัญญาณได้สูงสุด 15 ตัว นอกจากนี้ คุณยังสามารถแยกแฟลชรับสัญญาณออกเป็นกลุ่มการยิงแฟลชได้สูงสุด 5 กลุ่ม (A ถึง E) เพื่อการควบคุมในระดับสูงขึ้น
*เมื่อไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างตัวส่งและตัวรับสัญญาณ และไม่มีสัญญาณไฟฟ้าจากอุปกรณ์อื่นๆ รบกวน รัศมีการส่งสัญญาณอาจลดลงขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้ง สภาพแวดล้อมโดยรอบ และสภาพอากาศ
การใช้งานร่วมกับ Speedlites รุ่นที่มีอยู่
*ใช้งานร่วมกันได้ในระหว่างการถ่ายภาพเชื่อมต่อกันแบบใช้สายเท่านั้น
Speedlite EL-5 ใช้งานร่วมกับ Canon Speedlites รุ่นที่มีอยู่ทั้งหมดที่รองรับการส่งสัญญาณวิทยุได้ หากกล้องของคุณไม่รองรับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ ก็ยังสามารถใช้ Speedlite EL-5 เป็นตัวรับสัญญาณได้ โดยใช้ Speedlite หรือตัวส่งสัญญาณที่รองรับฐานเสียบแฟลชแบบเก่าเป็นตัวส่งสัญญาณ
ข้อควรรู้: ฟังก์ชั่นการทำงานพิเศษด้วย EOS R6 Mark II
EOS R6 Mark II มาพร้อมกับคุณสมบัติของเมนูควบคุมกลุ่มแฟลชรวดเร็วที่ช่วยให้คุณสามารถกำหนดการตั้งค่ากำลังแสงสำหรับกลุ่มแฟลชบนการซ้อนหน้าจอ Live View ได้ ซึ่งทำให้การปรับระหว่างการถ่ายภาพด้วยแฟลชไร้สายสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น เพียงแค่ใช้วงแหวนและปุ่มต่างๆ ของกล้องเพื่อทำการปรับโดยที่ภาพตัวอย่างใน Live View อยู่ในตำแหน่งที่สายตามองเห็นเสมอ
กำหนดการตั้งค่า Speedlite จากสมาร์ทโฟน
เมื่อติดตั้ง Speedlite EL-5 เข้ากับกล้อง คุณยังสามารถใช้แอปสมาร์ทโฟน Camera Connect ในการกำหนดการตั้งค่าแฟลชไร้สายจากระยะไกล ยิงแฟลช และตรวจดูภาพได้ ทำให้กระบวนการตรวจสอบและปรับตำแหน่งแฟลช มุมแฟลช และกำลังแสงแฟลชสะดวกยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการทำงานคนเดียว การถ่ายภาพตัวเอง หรือการถ่ายภาพแสงเมื่อวาง Speedlites ไว้ในสถานที่ที่หยิบได้ยาก
7. คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น
มุมสะท้อนแสงแฟลชที่กว้าง
หัวแฟลช Speedlite EL-5 สามารถหมุนขึ้นได้ 120° ลง 7° และซ้ายขวา 180° เช่นเดียวกับ Speedlite EL-1 ซึ่งสามารถหมุนขึ้นได้มากกว่า Speedlite 600EX II-RT ถึง 30° ซึ่งหมุนขึ้นได้ 90°
หลอดไฟนำแบบ LED สองดวง
ด้านล่างหัวแฟลชมีไฟ LED สองดวงที่ทำสองหน้าที่เป็นไฟช่วยปรับโฟกัสและไฟนำ ไฟช่วยปรับโฟกัสมีกำลังแสงแบบปรับได้ เมื่อใช้ Speedlite EL-5 กับกล้องที่ใช้ร่วมกันได้ ความสว่างจะเปลี่ยนไปตามแสงสว่างโดยรอบ ตัวแบบมนุษย์จึงไม่ได้รู้สึกว่าสว่างเกินไป
ใช้งานง่ายด้วยตัวควบคุมแบบจอยสติ๊ก
สามารถเข้าถึงคุณสมบัติเกือบทั้งหมดได้ด้วยตัวควบคุมแบบจอยสติ๊กซึ่งอยู่ที่กลางวงแหวนเลือก แผงหน้าจอใช้แผง LCD แบบ Reflective Memory ซึ่งทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างดีเยี่ยม จึงสามารถใช้แฟลชได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้จอยสติ๊กในการเลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังรายการที่ต้องการ หรือแม้แต่ปรับแต่งจอยสติ๊กในการสร้างปุ่มลัดของคุณเองเพื่อให้สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ
Speedlite EL-5 มีประสิทธิภาพการกันฝุ่นและหยดน้ำเทียบเท่า EOS R5 และยังออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับฐานเสียบมัลติฟังก์ชั่นได้ด้วยอะแดปเตอร์ยางในกลไกล็อคที่ป้องกันฝุ่นและความชื้นได้ดียิ่งขึ้นเมื่อล็อคไว้บนตัวกล้อง