เร็วยิ่งกว่าความเร็วชัตเตอร์: การใช้ระยะเวลาการยิงแฟลชเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว
ทราบหรือไม่ว่ากำลังแสงแฟลชของแฟลช Speedlite ส่งผลต่อระยะเวลาการยิงแฟลช หากคุณใช้ประโยชน์จากข้อนี้ คุณจะสามารถหยุดการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากได้แม้จะไม่ใช้ซิงค์ความเร็วสูง ในบทความนี้ เราจะมาศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลังเทคนิคนี้และวิธีการนำเทคนิคนี้ไปใช้กับการถ่ายภาพน้ำกระเซ็น
1) ทฤษฎี: 2 แนวคิดสำคัญที่ควรจดจำ
2) การใช้งาน: วิธีหยุดน้ำกระเซ็น
ก่อนที่จะเริ่ม: 2 แนวคิดสำคัญที่ควรจดจำ
แนวคิดที่ 1: ในห้องที่มืดสนิท แสงจากแฟลชคือสิ่งที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพตัวแบบได้
การถ่ายภาพเป็นเรื่องของการจับภาพแสง ตัวแบบปรากฏให้เห็นได้เนื่องจากเซนเซอร์ภาพของกล้องจับภาพแสงที่สะท้อนจากตัวแบบ และหากไม่มีแสง ภาพถ่ายก็จะดูเป็นสีดำสนิท
แฟลชจาก Speedlite/แฟลชในกล้องเป็นเพียงแสงชั่วขณะ ซึ่งต่างจากแสงอาทิตย์หรือแหล่งกำเนิดแสงที่คงที่อื่นๆ ดังนั้น เมื่อคุณถ่ายภาพในห้องมืดที่ไม่มีแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ เลย แม้คุณจะเปิดชัตเตอร์กล้องทิ้งไว้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ตัวแบบก็จะไม่ได้รับแสงเว้นแต่ในจังหวะชั่วเสี้ยววินาทีที่มีการยิงแฟลช
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ในห้องที่มืดสนิทและไม่มีแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ ระยะเวลาการยิงแฟลชจะเป็นปัจจัยกำหนดเวลาการเปิดรับแสง
แนวคิดที่ 2: กำลังแสงแฟลชส่งผลต่อระยะเวลาการยิงแฟลช
ใน Canon Speedlite โดยปกติแล้วระยะเวลาการยิงแฟลชจะเป็นตัวควบคุมความเข้มของแสงแฟลช (กำลังแสงแฟลช)
ยิ่งแสงแฟลชเข้มขึ้น (กำลังแสงแฟลชสูงขึ้น) แฟลชจะยิงเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น (สูงถึงประมาณ 1/500 วินาที ขึ้นอยู่กับรุ่นของแฟลช Speedlite) เมื่อตัวแบบได้รับแสงเป็นเวลานานขึ้น จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะเกิดภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวหากตัวแบบกำลังเคลื่อนไหวอยู่
ในขณะเดียวกัน เมื่อความเข้มของแสงแฟลชอ่อนลง (กำลังแสงแฟลชต่ำลง) แฟลชจะยิงเป็นระยะเวลาที่สั้นลง ถึงระดับหลายร้อยไมโครวินาที เมื่อตัวแบบได้รับแสงเป็นเวลาสั้นลง ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวก็จะลดลง
กำลังแสงแฟลชต่ำลง
A: ระยะเวลาการยิงแฟลช (เวลาเปิดรับแสง)
กำลังแสงแฟลชสูงขึ้น
B: ระยะเวลาการยิงแฟลช (เวลาเปิดรับแสง)
นั่นหมายความว่า เราสามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้ด้วยการลดกำลังแสงแฟลช
ระยะเวลาการยิงแฟลชอาจสั้นมาก ซึ่งทำให้เวลาการเปิดรับแสงนั้นสั้นกว่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หัวใจสำคัญของการควบคุมเทคนิคนี้คือกำลังแสงแฟลช การใช้เทคนิคนี้จะช่วยให้สามารถจับภาพช่วงเสี้ยววินาทีสำคัญที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังเช่นภาพตัวอย่างด้านล่าง
การใช้งาน: วิธีการใช้ระยะเวลาการยิงแฟลชเพื่อหยุดของเหลวที่เคลื่อนไหว
FL:72 มม./ Manual exposure (1/200 วินาที, f/14)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ
แฟลช: Speedlite 430EX II (โหมดแมนนวล, 1/64)
การจัดแสง
ตำแหน่งของตัวแบบ กล้อง และแฟลช Speedlite
A: สายสำหรับฐานเสียบนอกตัวกล้อง
B: ประมาณ 0.6 ม.
C: ประมาณ 0.4 ม.
ผมใช้การจัดแสงแฟลชนอกตัวกล้อง โดยจัดตำแหน่ง Speedlite ให้อยู่เหนือตัวแบบโดยตรงเพื่อให้แสงส่องตรง ผมตั้งกล้องบนขาตั้งและเชื่อมต่อ Speedlite กับกล้องผ่านสายสำหรับฐานเสียบนอกตัวกล้อง ผมปิดไฟทั้งหมดแล้วเปิดประตูแง้มไว้เล็กน้อยพอให้มองเห็นตัวแบบรางๆ
ข้อควรรู้:
สำหรับฉากเช่นนี้ ความสว่างของช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ของกล้องมิเรอร์เลส เช่น กล้องในระบบ EOS R สามารถช่วยให้คุณมองเห็นตัวแบบได้แม้อยู่ในที่มืด
ขั้นตอนอย่างละเอียด
ขั้นตอนที่ 1: ขึงฉากหลังบนผนัง
ขึงชิ้นผ้าหรือกระดาษสีพื้นเพื่อทำเป็นแบ็คกราวด์ วัสดุที่ใช้ไม่ควรสะท้อนแสงจากแฟลช ในที่นี้ผมเลือกสีดำเพราะสีตัดกับตัวแบบได้ดีที่สุด
ขั้นตอนที่ 2: โฟกัสล่วงหน้า
โฟกัสต้องมีความแม่นยำมาก ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ใช้การโฟกัสแบบแมนนวลเพื่อแก้ไขตำแหน่งการโฟกัส
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าแฟลช
(ขั้นตอนและเลย์เอาต์ปุ่มกดอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นแฟลช Speedlite/กล้องของคุณ) หากมีข้อสงสัย ให้ดูคู่มือผู้ใช้)
i) เปลี่ยนโหมดแฟลชเป็นโหมดแมนนวล
ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้วงแหวนและปุ่มบน Speedlite หรือบนกล้องผ่านการตั้งค่าเมนู
ที่แฟลช
กดปุ่ม MODE แล้วเลือก [M]
ที่กล้อง
มองหา “ควบคุมแฟลช” หรือ “ควบคุม Speedlite ภายนอก” ในเมนูถ่ายภาพ จากนั้นไปยัง “ตั้งค่าระบบแฟลชติดตั้งภายนอก” หรือ “ตั้งค่าระบบแฟลช”
ii) เลือกกำลังแสงแฟลช
ตั้งค่ากำลังแสงแฟลชในระดับต่ำเพื่อให้ระยะเวลาการยิงแฟลชสั้นลง คุณอาจอยากลองใช้กำลังแสงแฟลชในระดับต่างๆ เพื่อดูว่าระดับใดให้ผลลัพธ์ดีที่สุด ควบคุมการเปิดรับแสงโดยใช้ความไวแสง ISO (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในขั้นตอนที่ 4)
ที่แฟลช
กดปุ่ม “+/-” เพื่อแสดงหน้าจอระดับกำลังแสงแฟลช ใช้วงแหวนหรือปุ่ม 4 ทิศทางเพื่อเลือกกำลังแสงแฟลชที่ต้องการ
ที่กล้อง
คุณยังสามารถเปลี่ยนระดับกำลังแสงแฟลชได้โดยเลือกรายการบนหน้าจอ “ตั้งค่าระบบแฟลชติดตั้งภายนอก”
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: เริ่มถ่ายภาพโดยใช้แฟลชได้ใน 9 ขั้นตอน!
เคล็ดลับน่ารู้: ระยะเวลาการยิงแฟลชอาจเร็วถึงระดับหลายร้อยไมโครวินาที หรือเรียกได้ว่าเร็วกว่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/8000 วินาทีในกล้องระดับมืออาชีพหลายๆ รุ่น!
ขั้นตอนที่ 4: ค่าการเปิดรับแสง
ค่านี้จะขึ้นอยู่กับตัวแบบและผลลัพธ์ที่คุณตั้งใจไว้ แต่โดยทั่วไปควรตั้งค่าดังนี้
ใช้รูรับแสงแคบ
คุณต้องใช้ระยะชัดที่ลึกเพื่อให้แน่ใจว่าถ่ายภาพตัวแบบได้อย่างคมชัดและอยู่ในโฟกัส
ใช้ความไวแสง ISO เพื่อควบคุมการเปิดรับแสง
เมื่อใช้รูรับแสงแคบร่วมกับกำลังแสงแฟลชต่ำเพื่อลดระยะเวลาการยิงแฟลช อาจส่งผลให้แสงไม่เพียงพอ ควรเพิ่มความไวแสง ISO หากคุณต้องการให้ภาพถ่ายสว่างขึ้น
ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ไปที่ความเร็วซิงค์แฟลช
ในการถ่ายภาพให้ประสบผลสำเร็จ คุณต้องลดผลกระทบจากแสงโดยรอบให้ได้มากที่สุด อันที่จริงแล้ว การถ่ายภาพท่ามกลางความมืดสนิทนั้นทำได้ยากและคุณอาจต้องการแสงเพียงเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นตัวแบบได้ ความเร็วซิงค์แฟลช (หรือความเร็ว X-sync) คือความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วที่สุดเท่าที่แฟลช Speedlite สามารถยิงได้เมื่อชัตเตอร์เปิดออกเต็มที่ ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ 1/200 วินาทีถึง 1/300 วินาทีขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง และการใช้ความเร็วดังกล่าวจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะเกิดการรบกวนน้อยที่สุดจากแสงโดยรอบ
ขั้นตอนที่ 5: ลั่นชัตเตอร์ในจังหวะที่เหมาะสม
ลั่นชัตเตอร์โดยดูจากจังหวะที่เหมาะสมของตัวแบบ ซึ่งต้องอาศัยการเฝ้าสังเกตอย่างรอบคอบและอาจต้องอาศัยการฝึกฝนไม่น้อย แต่คุณจะได้ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมเป็นผลตอบแทน!
ข้อควรรู้: หากคิดที่จะถ่ายภาพต่อเนื่อง ควรระวังเรื่องเวลากลับมาพร้อมใช้งานของแฟลช
หลังจากที่ยิงแฟลชแต่ละครั้ง Speedlite จะต้องใช้เวลาชาร์จก่อนที่จะยิงแฟลชครั้งต่อไปได้ ขั้นตอนนี้เรียกว่าเวลากลับมาพร้อมใช้งานของแฟลช และอาจใช้เวลาไม่กี่วินาทีขึ้นอยู่กับรุ่นและกำลังแสงแฟลชของ Speedlite นั้นๆ หรือกล่าวได้ว่า แม้ว่าคุณถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง ก็อาจจะมีเฟรมที่เป็นสีดำเพราะแฟลชยังรอเวลากลับมาพร้อมใช้งาน เวลากลับมาพร้อมใช้งานของแฟลชที่เร็วขึ้น (เช่นใน Speedlite EL-1) จะเพิ่มโอกาสในการถ่ายภาพได้สำเร็จ แต่คุณจะมีโอกาสสูงสุดเมื่อยิงแฟลชในจังหวะที่เหมาะสมด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ฉันสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องในระหว่างการถ่ายภาพโดยใช้แฟลชได้หรือไม่
ศึกษาเทคนิคและบทเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับแฟลช Speedlite ได้ที่:
[เทคนิคการใช้แฟลช] วิธีการถ่ายภาพให้ได้สีสันน่าประทับใจในสภาพย้อนแสง
วิธีถ่ายภาพหยดฝนเพื่อสร้างสรรค์พอร์ตเทรตที่เหนือจริง
การถ่ายภาพรถให้สวยงามอย่างในนิตยสาร
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!