[ตอนที่ 2] การถ่ายภาพแบบโดยใช้แสงสะท้อนแฟลช (Bounce Flash) – เปลี่ยนสีด้วยการตั้งค่าสมดุลแสงขาว
ใน [ตอนที่ 2] นี้ เราจะมาดูวิธีเปลี่ยนบรรยากาศของภาพถ่าย โดยการเลือกการตั้งค่าสมดุลแสงขาวแบบต่างๆ ด้วยกัน การถ่ายภาพโดยใช้แสงสะท้อนแฟลชจะใช้ได้ดีเป็นพิเศษเมื่อคุณถ่ายภาพในร่ม โดยใช้แสงแฟลชยิงสะท้อนวัตถุต่างๆ เช่น ฝาผนังหรือเพดาน แทนที่จะยิงแสงแฟลชไปที่ตัวแบบหลักโดยตรง เทคนิคการสะท้อนแสงแฟลชนี้จะช่วยกระจายแสงแฟลช สร้างบรรยากาศที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ (เรื่องโดย: Koji Ueda)
EOS 7D/ EF50mm f/1.4 USM/ Aperture-priority AE (1/100 วินาที, f/1.4)/ ISO 100/ การชดเชยแสง: +1/ WB: หลอดไฟทังสเตน/ Speedlite 580EX II (โหมดแฟลช: E-TTL)/ ชดเชยระดับแสงแฟลช: +2
ในการถ่ายภาพแบบใช้แฟลช คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าสมดุลแสงขาวเพื่อปรับสีของภาพถ่ายได้เช่นกัน ในภาพนี้ ผมต้องการสร้างบรรยากาศที่ดูเยือกเย็น จึงเลือกการตั้งค่าสมดุลแสงขาว [หลอดไฟทังสเตน] เพื่อเพิ่มโทนสีฟ้า นอกจากนี้ เพื่อลดความเข้มของเงา ผมยิงแฟลช Speedlite ให้หัวแฟลชเงยขึ้นไปยังเพดาน และถ่ายภาพให้แสงนุ่มนวลที่กระจายตัวโอบล้อมตัวแบบไว้
เคล็ดลับ
- เปลี่ยนสีภาพถ่ายด้วยการตั้งค่าสมดุลแสงขาว
- ลดความเข้มของเงาให้กับตัวแบบภาพพอร์ตเทรตด้วยแสงที่กระจายตัว
สภาพการถ่าย
ตำแหน่งของตัวแบบ กล้อง และแฟลช Speedlite
A: ประมาณ 1.5 เมตร
B: ประมาณ 1 เมตร
แสงธรรมชาติที่ส่องลอดเข้ามาผ่านม่านสีขาวบางๆ ในฉากนี้ถ่ายจากข้างหน้าต่าง ในภาพนี้ ผมตั้งค่าสมดุลแสงขาวไปที่ [หลอดไฟทังสเตน] ผมต่อแฟลช Speedlite เข้ากับฐานเสียบ และปรับมุมสะท้อนแฟลชโดยให้หัวแฟลชชี้ขึ้นไปยังเพดาน ผมจัดองค์ประกอบภาพถ่ายแบบถือด้วยมือ โดยให้กล้องหันไปที่นางแบบคนนี้โดยตรง
ขั้นตอนการชดเชยระดับแสงแฟลช
สำหรับรุ่นที่มีปุ่ม Quick Control
* ใช้กล้อง EOS 600D ในภาพตัวอย่าง
1: กดปุ่ม Quick Control
กดปุ่ม Quick Control เพื่อแสดงหน้าจอ Quick Control
2: เลือกไอคอนชดเชยระดับแสงแฟลช
ใช้ปุ่ม 4 ทิศทางหรือ Multi-Controller เลือกไอคอนชดเชยระดับแสงแฟลช ตามด้วยการกดปุ่ม [SET]
3: ตั้งค่าปริมาณการชดเชยแสง
ใช้ปุ่ม 4 ทิศทางหรือล้อควบคุมหลักเพื่อตั้งค่าการชดเชยแสง
สำหรับรุ่นที่ไม่มีปุ่ม Quick Control
* ใช้กล้อง EOS 5D Mark II ในภาพตัวอย่าง
1: เลือก [ควบคุม Speedlite ภายนอก]
กดปุ่ม [MENU] และเลือก [ควบคุม Speedlite ภายนอก] ตามด้วยการกดปุ่ม [SET]
2: เลือก [ชดเชยระดับแสงแฟลช]
เลือก [ชดเชยระดับแสงแฟลช] และกดปุ่ม [SET] หน้าจอการตั้งค่าสำหรับการชดเชยระดับแสงแฟลชจะปรากฏขึ้น
3: ตั้งค่าปริมาณการชดเชยระดับแสงแฟลช
เลือกค่าการชดเชยระดับแสงแฟลช และกดปุ่ม [SET]
การตั้งค่าโดยใช้ปุ่มชดเชยระดับแสงแฟลชบนบอดี้กล้อง
1: กดปุ่มชดเชยระดับแสงแฟลช
กดปุ่มชดเชยระดับแสงแฟลชซึ่งอยู่บนแผงหน้าจอ LCD
2: ตรวจดูแผงหน้าจอ LCD
ไอคอนชดเชยระดับแสงแฟลชจะปรากฏในแผงหน้าจอ LCD
3: ตั้งค่าชดเชยระดับแสงแฟลช
หมุนวงแหวน Quick Control เพื่อตั้งค่าชดเชยแสง โดยหมุนไปทางขวาเพื่อเพิ่มค่าปริมาณการชดเชยแสง และหมุนไปทางซ้ายเพื่อลดค่า
เคล็ดลับการถ่ายภาพโดยใช้แสงสะท้อนแฟลช
1: กำหนดมุมแสงสะท้อนแฟลชพร้อมกับตรวจดูภาพที่จะถ่าย
ระยะห่างจากตัวแบบประมาณ 1.5 เมตร ให้แฟลช Speedlite ทำมุมเงย 45 องศาไปที่เพดานซึ่งห่างกันประมาณ 1 เมตร คุณจะเห็นได้ว่า แบ็คกราวด์หลังตัวแบบสว่างขึ้นจริง
เมื่อถ่ายจากตำแหน่งเดียวกันอย่างในภาพตัวอย่างทางซ้าย มุมสะท้อนแฟลชอยู่ที่ประมาณ 65 องศา แสงจากแฟลช Speedlite ไม่เพียงพอ และแบ็คกราวด์ออกมามืด
ในการถ่ายภาพโดยใช้แสงสะท้อนแฟลช มุมสะท้อนแฟลชจะมีผลต่อภาพถ่ายที่ออกมา เช่น บริเวณส่วนเงามืดของตัวแบบและความสว่างของแบ็คกราวด์ ทดลองถ่ายสัก 2-3 ภาพ โดยใช้มุมสะท้อนแฟลชที่แตกต่างกันเพื่อหามุมที่ดีที่สุด
2: อย่าออกห่างจากเพดานและผนังมากนัก
สังเกตว่า เมื่อพื้นผิวที่เราใช้สะท้อนแฟลชอยู่ห่างจาก Speedlite หรือไม่เรียบ แสงที่สะท้อนจะใช้งานได้ไม่ดีนัก
ในการถ่ายภาพโดยใช้แสงสะท้อนแฟลช ควรให้แฟลช Speedlite อยู่ไม่ห่างจากพื้นผิวสะท้อน เช่น เพดานหรือผนัง มากเกินไป เนื่องจากธรรมชาติของแสงที่กระจายตัว ปริมาณแสงที่ตกกระทบบนจุดจุดเดียวจะลดลงเมื่อคุณขยับออกห่างขึ้น และทำให้แสงสะท้อนที่ได้ลดลง หรืออาจพูดได้ว่า ระยะห่างระหว่างแฟลชกับพื้นผิวสะท้อนที่ใกล้กว่าทำให้คุณใช้ประโยชน์จากแสงแฟลชสะท้อนได้ดีกว่า เมื่อเข้าใจหลักการนี้แล้ว คุณจะสามารถควบคุมปริมาณแสงและเงาที่เกิดจากตัวแบบได้ โดยการปรับระยะห่างระหว่างแฟลช Speedlite กับเพดานหรือผนัง
3: พื้นผิวสีขาวที่มักใช้สำหรับสะท้อนแฟลช
สะท้อนแฟลชกับผนังสีขาว โทนสีผิวของตัวแบบจะออกมาสวยงาม
สะท้อนแฟลชกับผ้าสีแดง สีจะเพี้ยนไปทางสีแดง คุณอาจใช้เทคนิคนี้ เพื่อสร้างบรรยากาศภาพที่แตกต่างได้
หลักพื้นฐานในการถ่ายภาพโดยใช้แสงสะท้อนแฟลชอย่างหนึ่ง คือ การเลือกพื้นผิวสีขาวสำหรับสะท้อนแสงแฟลช หากไม่มีผนังหรือเพดานสีขาว คุณสามารถใช้ม่านสีขาวหรือใช้ปฏิทินแล้วกลับด้านสีขาวออกก็ได้ การใช้พื้นผิวสีสันอาจทำให้ภาพที่ออกมากลายเป็นสีโทนนั้นๆ ตาม แม้จะบอกไว้อย่างนั้น แต่ก็สามารถใช้ความเพี้ยนของสีอย่างจงใจเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ผ่านภาพถ่ายของคุณได้เช่นกัน
ในการถ่ายภาพนิ่งโดยใช้แฟลช Speedlite ให้เลือกโหมดการตั้งค่าตามขนาดรูรับแสง (Aperture-priority AE) เพื่อให้ควบคุมระยะชัดลึกง่ายขึ้น ในตัวอย่างนี้ ผมเลือกค่ารูรับแสงที่เอื้อให้จับโฟกัสในพื้นที่จากแก้วไวน์ไปยังขวดไวน์ได้ จำไว้ว่า การยิงแฟลชโดยหันหัวแฟลช Speedlite ไปยังแก้วและขวดโดยตรงอาจทำให้เกิดการสะท้อนแสงจากพื้นผิวของแก้วและขวด ภาพที่ออกมาก็อาจดูไม่น่าสนใจ ในภาพนี้ ผมหันแสงแฟลชไปที่ผนังสีขาวด้านข้างแก้วไวน์ การใช้แสงที่กระจายตัวช่วยสร้างบรรยากาศที่สวยงามมีระดับ
เคล็ดลับ
- การควบคุมระยะชัดลึกโดยใช้โหมดการตั้งค่าตามขนาดรูรับแสง (Aperture-priority AE)
- เพิ่มความสวยงามให้กับภาพถ่ายของคุณโดยใช้แสงที่กระจายตัวจากการสะท้อนแสงแฟลชบนผนัง
เกิดเมื่อปี 1982 ที่จังหวัดฮิโรชิมา Ueda เริ่มงานด้วยการเป็นผู้ช่วยช่างภาพ Shinichi Hanawa ต่อมา เขาผันตัวมาเป็นช่างภาพอิสระ และปัจจุบันมีส่วนร่วมกับงานหลากหลายด้าน ตั้งแต่งานถ่ายภาพของนิตยสารไปจนถึงงานโฆษณา พร้อมกับการถ่ายภาพเมืองและทิวทิศน์ในที่ต่างๆ ทั่วโลก เขาเป็นนักเขียนและผู้บรรยายให้ความรู้ในการจัดอบรมและเวิร์กช็อปด้านการถ่ายภาพ