แฟลช Red-Line Speedlite EL-1 รุ่นใหม่ของ Canon: การควบคุมที่ดีกว่า พร้อมการถ่ายทอดภาพที่โดดเด่นยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2020 Canon ได้เปิดตัว Speedlite EL-1 แฟลชรุ่นเรือธงรุ่นใหม่ แฟลช Speedlite ใหม่ซึ่งเป็นแฟลชรุ่นเส้นแดง (ซีรีย์ L) รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ Canon มีหลอดซีนอนแบบใหม่และวงจรการทำงานของแฟลชที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สามารถควบคุมแสงแฟลชได้ดีมากยิ่งขึ้น และรองรับทั้งกล้องมิเรอร์เลส EOS และ DSLR ของ Canon
ควบคุมแสงได้ตามจินตนาการของคุณ
-
EOS R5/ RF85mm f/1.2L IS USM/ FL: 85 มม./ Manual exposure (f/1.2, 1/200 วินาที)/ ISO 250/ WB: 3300K/ Speedlite EL-1
กล้องดิจิตอลได้มีการพัฒนาไปอย่างมากในระยะหลังนี้ ด้วยประสิทธิภาพความไวแสง ISO สูงที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ง่ายขึ้น แฟลชเสริมในปัจจุบันจึงต้องทำให้ได้มากกว่าเพียงแค่ทำให้ภาพสว่างขึ้นเท่านั้น แฟลชไม่ได้เป็นเพียงแหล่งกำเนิดแสง แต่ได้กลายมาเป็นตัวควบคุมแสงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ช่วยให้ช่างภาพถ่ายทอดจินตนาการออกมาได้อย่างสร้างสรรค์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: แฟลชเสริมมีประโยชน์อะไรบ้าง
แฟลช Speedlite EL-1 รุ่นใหม่ของ Canon ได้ยกระดับประสิทธิภาพการควบคุมแสงด้วยแฟลช Speedlite ขึ้นไปอีกขั้น แฟลชรุ่นแรกในซีรีย์ L ของ Canon นี้ มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงที่เหมาะสำหรับช่างภาพระดับมืออาชีพ ด้วยความสามารถในการยิงแฟลชแบบไมโคร เวลากลับมาพร้อมใช้งานความเร็วสูง และคุณสมบัติอื่นๆ ที่ช่วยในการควบคุมรวมถึงความเป็นไปได้ในการจัดแสงที่เพิ่มมากขึ้น แฟลชรุ่นนี้จึงเป็นอุปกรณ์รุ่นล่าสุดที่ขาดไปไม่ได้ของช่างภาพที่ต้องการควบคุมแสงและเงาให้ได้ดังใจด้วยความแม่นยำที่มากขึ้น
มาดูกันว่าคุณสมบัติใหม่มีอะไรบ้าง
1. ความสามารถในการเก็บรายละเอียด: ยิงแฟลชแบบไมโครได้ต่ำสุดที่ 1/8192
2. เวลากลับมาพร้อมใช้งานที่มีความเร็วสูง
3. ใช้แฟลชต่อเนื่องได้อย่างน้อย 160 ครั้งด้วยกำลังแสงสูงสุด
4. แบตเตอรี่ลิเธียมหนึ่งก้อน ถ่ายภาพได้มากขึ้น 3 เท่า
5. คุณสมบัติอื่นๆ
1. ความสามารถในการเก็บรายละเอียด: ยิงแฟลชแบบไมโครได้ต่ำสุดที่ 1/8192
ในกรณีนี้ ความสามารถในการยิงแฟลชแบบไมโครในระดับต่ำมีความสำคัญ
กล้องรุ่นใหม่ๆ เช่น DSLR รุ่นเรือธง EOS-1D X Mark III และกล้องมิเรอร์เลส EOS R6 มีความไวแสง ISO ปกติที่สูงถึง 102,400 เมื่อความไวแสง ISO สูงเช่นนี้ แสงแฟลชที่คุณใช้ตามปกติอาจทำให้เกิดแสงจ้าเกินไป ซึ่งขึ้นอยู่กับฉากนั้นๆ ความสามารถในการยิงแฟลชแบบไมโครของ Speedlite EL-1 ช่วยให้แสงมีความนุ่มนวลมากกว่า บรรยากาศในฉากจึงใกล้เคียงกับภาพที่คุณต้องการมากกว่า
ช่วงไดนามิกเรนจ์ 14 สต็อป
แฟลช Speedlite EL-1 นำหลอดซีนอนมาใช้ในโครงสร้างใหม่ซึ่งทำให้การยิงแฟลชมีความเสถียรแม้ใช้กำลังแสงแฟลชต่ำ การปรับปรุงประสิทธิภาพวงจรการทำงานของการยิงแฟลช รวมถึงความแม่นยำของตัวตรวจจับปริมาณแสงแฟลชและมิเตอร์วัดแสงแฟลชทำให้สามารถยิงแฟลชแบบไมโครได้ที่ 1/8192
ทุกครั้งที่คุณลดกำลังแสงแฟลชลงครึ่งหนึ่ง คุณจะได้ f-stop เพิ่มขึ้น 1 สต็อปในช่วงไดนามิกเรนจ์ หรือพูดอีกแบบหนึ่งก็คือ จากกำลังแสงสูงสุดลงมาจนถึง 1/8192 แฟลช Speedlite EL-1 มีไดนามิกเรนจ์ 14 f-stop
เคล็ดลับ: หากคุณต้องการแสงแฟลชที่มีกำลังมากขึ้น แฟลช Speedlite EL-1 สามารถรองรับตัวรับสัญญาณแฟลชได้สูงสุด 15 ตัวผ่านการส่งสัญญาณแบบไร้สาย จึงสามารถยิงแฟลชได้สูงสุด 16 ตัวพร้อมกัน
ควบคุมแสงในภาพพอร์ตเทรตของคุณได้อย่างสร้างสรรค์
มาดูตัวอย่างสถานการณ์ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตแนวสตรีทตอนกลางคืนกัน หากคุณเพียงแค่ต้องการถ่ายภาพบรรยากาศของสถานที่ในแบบที่เป็น การเพิ่มความไวแสง ISO ก็เพียงพอแล้ว แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากคุณต้องการให้ตัวแบบสว่างขึ้นหรือปรับโทนสีผิวสักเล็กน้อย?
ภายใต้สภาวะเช่นนี้ ความไวแสง ISO 6400 จะทำให้คุณถ่ายภาพบรรยากาศในฉากได้ในแบบที่เป็น แต่ตัวแบบในภาพพอร์ตเทรตดูมืดเล็กน้อยใช่หรือไม่
แสงจากแฟลชเสริมจะไปไม่ถึงอาคารที่อยู่ในแบ็คกราวด์ วิธีการถ่ายภาพโดยทั่วไปคือใช้ค่าความไวแสง ISO สูงเพื่อให้แบ็คกราวด์ได้รับแสงและใช้แฟลชเสริมกับตัวแบบ แต่กำลังแสงแฟลชที่ 1/128 นั้นมากเกินไปสำหรับภาพนี้ ซึ่งเป็นการทำลายบรรยากาศในภาพ
ทุกภาพ: EOS R5/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 70 มม./ Manual exposure/ ISO 6400/ WB: 4200K
ด้วยความสามารถในการยิงแฟลชแบบไมโครของ Speedlite EL-1 คุณจึงสามารถตั้งกำลังแสงแฟลชได้ต่ำสุดถึง 1/8192 ซึ่งให้แสงแก่ตัวแบบในภาพพอร์ตเทรตอย่างเพียงพอเพื่อขับผิวของเธอให้สวยงามขึ้น กำลังของแสงแฟลชนั้นต่ำมากจนไม่ส่งผลต่อความสมดุลในการตั้งค่าการถ่ายภาพของคุณ ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติซึ่งถ่ายทอดบรรยากาศออกมาได้อย่างสมจริง และคุณยังสามารถใช้แฟลชนี้ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตกลางวันได้ด้วย!
คงรายละเอียดให้ภาพมาโครของคุณ
จนถึงปัจจุบัน แฟลช Speedlite แบบเดิมนั้นไม่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพมาโคร เนื่องจากแสงแฟลชจะสว่างจ้าเกินไปหากดูที่ระยะห่างจากหัวแฟลชถึงตัวแบบ แฟลชแบบไมโครที่ 1/8192 ของ Speedlite EL-1 สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการยิงแสงที่เพียงพอสำหรับการแสดงรายละเอียดและสีสันของดอกไม้ แมลง หรือตัวแบบมาโครอื่นๆ แม้จะถ่ายในระยะใกล้
ใช้แฟลชแบบไมโครที่ 1/8192
ไม่ใช้แฟลช
EOS R5/ EF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม./ Manual exposure (f/3.2, 1/125 วินาที)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
2. เวลากลับมาพร้อมใช้งานที่มีความเร็วสูง
พร้อมเสมอสำหรับการถ่ายภาพวินาทีที่สำคัญ
ก่อนแฟลชจะถูกยิงออกไป พลังงานจะถูกดึงออกมาจากแบตเตอรี่และนำไปเก็บไว้ที่ตัวเก็บประจุ “เวลากลับมาพร้อมใช้งานของแฟลช” (หรือ “เวลาชาร์จ”) หมายถึงเวลาที่ใช้ในการชาร์จพลังงานก่อนจะมีพลังงานพอสำหรับการยิงแฟลช
แฟลช Speedlite EL-1 มีแหล่งพลังงานเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและใช้การออกแบบวงจรชาร์จแบบใหม่ ซึ่งทำให้มีเวลาในการชาร์จที่เร็วขึ้นและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งใช้เวลาเพียง 0.9 วินาทีในการชาร์จจนเต็มกำลัง (1/1) และ 0.1 วินาทีในการชาร์จให้ได้กำลังของแสงแฟลชที่ 1/8192
และสิ่งที่ดียิ่งไปกว่านั้นก็คือ ระดับของแบตเตอรี่ที่ต่ำไม่ส่งผลต่อเวลากลับมาพร้อมใช้งาน* ดังนั้น คุณจึงมีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่จะถ่ายภาพในช่วงเวลาที่มีแสงสวยงามพอดี
*ขึ้นอยู่กับสภาพการตรวจวัดของ Canon
โอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานแต่งงานนั้น เต็มไปด้วยวินาทีสำคัญที่คุณไม่อยากพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่เพราะแฟลชของคุณไม่สามารถชาร์จได้ทัน ด้วยเวลากลับมาพร้อมใช้งานที่มีความเร็วสูงของแฟลช Speedlite EL-1 คุณจึงมีโอกาสถ่ายภาพในช่วงเวลาเหล่านั้นได้มากขึ้น
3. ใช้แฟลชต่อเนื่องได้อย่างน้อย 160 ครั้งด้วยกำลังแสงสูงสุด
ถ่ายภาพในช่วงเวลาอันแสนวิเศษให้สวยดังใจด้วยแสงที่สมบูรณ์แบบ
หลอดซีนอนแบบใหม่ที่มีในแฟลช Speedlite EL-1 ผลิตจากแก้วที่มีความคงทนสูงซึ่งสามารถต้านทานความร้อนสูงที่เกิดจากการยิงแฟลชได้ดียิ่งขึ้น และยังรองรับด้วยระบบทำความเย็นที่ทำงานโดยใช้พัดลมที่มีในตัวในการหมุนเวียนอากาศเย็นภายในหัวแฟลช เมื่อส่วนประกอบทั้งสองอย่างทำงานร่วมกัน จะทำให้ไม่มีข้อจำกัดในด้านจำนวนการยิงแฟลชต่อเนื่องที่เกิดจากความร้อนที่สูงเกินไป คุณจึงสามารถถ่ายภาพได้โดยใช้แสงแฟลชเต็มกำลังแบบต่อเนื่องได้อย่างน้อยราว 160 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าที่แฟลช Speedlite 600EX II-RT ทำได้ถึง 2.5 เท่า
นี่ไม่ใช่เรื่องของการถ่ายภาพเป็นจำนวนมากและหวังว่าจะได้ภาพที่ดีสักภาพ แต่ในฉากที่แตกต่างกันไป การถ่ายภาพต่อเนื่องจะสามารถช่วยให้คุณจับภาพช่วงเวลาอันแสนวิเศษให้สวยดังใจได้ง่ายดายยิ่งขึ้น จำนวนการใช้แฟลชต่อเนื่องที่มากขึ้นจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการถ่ายภาพที่มีแสงสวยงามของคุณด้วย
คลิกที่นี่เพื่อดูวิธีการใช้ความสร้างสรรค์ในการยิงแฟลชต่อเนื่อง
4. แบตเตอรี่ลิเธียมหนึ่งก้อน ถ่ายภาพได้มากขึ้น 3 เท่า
ให้พลังในการถ่ายภาพที่ยาวนานขึ้นเพื่อให้คุณตามทันทุกสถานการณ์
แฟลช Speedlite EL-1 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูงเพียงหนึ่งก้อน นั่นคือ LP-EL (1920mAh, 7.2 โวลต์) ที่สามารถยิงแฟลชได้ประมาณ 335 ครั้งเมื่อชาร์จเต็ม ซึ่งมากกว่าแฟลช Speedlite 600EX II-RT ที่ใช้ถ่าน AA 4 ก้อนถึง 3 เท่า
แม้ดูเหมือนกับแบตเตอรี่ LP-E6 ที่ใช้ในกล้อง EOS ระดับสูงหลายรุ่น แต่ความจริงแล้วแบตเตอรี่รุ่นนี้ไม่สามารถใช้กับกล้องได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถชาร์จด้วยแท่นชาร์จเดียวกับกล้องได้
หากคุณเคยพลาดโอกาสในการถ่ายภาพเพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการใส่ถ่าน 4 ก้อนให้ถูกด้าน ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อคุณใช้แฟลช Speedlite EL-1 ซึ่งใช้แบตเตอรี่เพียงก้อนเดียว
การนำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาใช้ทำให้สามารถแสดงระดับแบตเตอรี่บนแผงหน้าจอด้านหลังของแฟลช Speedlite ได้ คุณจึงทราบล่วงหน้าว่าเมื่อใดจะถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่
5. คุณสมบัติอื่นๆ
E-TTL Taste และฟังก์ชั่นความจำ FE ใหม่
ในการวัดแสงแบบ E-TTL (Evaluative Through-The-Lens) กล้องจะวัดแสงตามธรรมชาติและปรับกำลังแสงแฟลชให้เหมาะสมกับฉาก ฟังก์ชั่น E-TTL Taste ใหม่นี้ช่วยให้คุณกำหนดค่าต่างๆ เองได้มากขึ้น ผู้ใช้จึงสามารถเลือกค่าความสมดุล (เน้นบรรยากาศ/มาตรฐาน/สูง) ที่ต้องการได้ตามความสว่างของแสงที่มี (มืด/ปานกลาง/สว่าง) ฟังก์ชั่นความจำ FE จะจำค่าของกำลังแสงแฟลชที่คุณใช้ใน E-TTL และให้คุณใช้ค่านั้นต่อไปและทำการปรับค่าโดยละเอียดหลังจากเปลี่ยนกลับมาใช้โหมดแมนนวลได้
หลอดไฟ Modeling แบบ LED สองดวง
นอกจากจะมีแฟลช Modeling ซึ่งมีใช้ในแฟลช Speedlite รุ่นอื่นๆ เช่นกัน แฟลช Speedlite EL-1 ยังมีหลอดไฟ Modeling แบบ LED แบบสี 2 ดวง (สีส้มและขาว) ที่สามารถปล่อยแสงได้เป็นระยะเวลานาน และคุณสามารถปรับความสว่างและอุณหภูมิสีของแสงจากหลอดไฟเหล่านี้ได้สูงสุด 5 ระดับ
อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลชและฟิลเตอร์สี
แฟลช Speedlite EL-1 มาพร้อมกับ:
- อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลชที่ช่วยลดเงาซึ่งเกิดจากแฟลชสะท้อนเพื่อให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และ
- ฟิลเตอร์สี 2 ชิ้นที่ช่วยให้คุณมีอุณหภูมิสีของแสงที่สม่ำเสมอเมื่อถ่ายภาพในสภาวะที่มีแสงโทนอุ่น
มุมสะท้อนแสงแฟลชที่ปรับขึ้นได้มากกว่า
หัวแฟลช Speedlite EL-1 สามารถหมุนขึ้นได้ 120° ลง 7° และซ้ายขวา 180° จึงทำให้มีมุมสะท้อนแสงแฟลชที่ปรับขึ้นได้กว้างกว่า Speedlite 600EX II-RT ซึ่งหมุนขึ้นได้ 90°
ใช้งานได้ง่ายดายด้วยจอยสติ๊ก
จอยสติ๊กซึ่งอยู่ตรงกลางวงแหวนช่วยให้คุณเลือกและเปลี่ยนการตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย เพียงโยกจอยสติ๊กเพื่อเลื่อนเคอร์เซอร์ที่อยู่บนแผงหน้าจอ LCD ระบบแสงสะท้อนแบบ Memory-in-Pixel
ออกแบบมาเพื่อให้ทนต่อสภาวะที่สมบุกสมบัน
แฟลช Speedlite EL-1 มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำเทียบเท่ากับกล้องในซีรีย์ EOS-1D X ที่ใช้แฟลช Speedlite 600EX II-RT คุณจึงวางใจได้ว่าจะมีการตอบสนองที่รวดเร็วแม้ในสภาพอากาศที่มีฝนตก ไม่ว่าในฉากหรือสถานการณ์แบบใด
การส่งสัญญาณแบบไร้สายด้วยคลื่นวิทยุ
สามารถถ่ายภาพโดยใช้แฟลชหลายตัวแบบไร้สายได้โดยใช้กับแฟลชอื่นได้สูงสุด 15 ตัว หากตัวรับและส่งสัญญาณเป็นแฟลช Speedlite EL-1 ทั้งหมด คุณจะสามารถควบคุมแฟลชทั้งหมดให้ยิงแฟลชแบบไมโครแบบไร้สายได้ที่ค่าต่ำสุดถึง 1/8192 และสามารถส่งสัญญาณแบบไร้สายด้วยคลื่นแสงได้เช่นกัน
รองรับซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2 ขณะยิงแฟลชแบบไร้สาย
คุณสามารถใช้ซิงค์ม่านชัตเตอร์ที่ 2 ได้แม้ในขณะยิงแฟลช Speedlite EL-1 จากกล้องโดยส่งสัญญาณแบบไร้สาย* และสามารถทำเช่นนี้ได้เช่นกันหากใช้แฟลช Speedlite EL-1 เป็นตัวส่งสัญญาณและ Speedlite 600EX II-RT/600EX-RT/ 430EX III-RT เป็นตัวรับสัญญาณ
*กล้องจำเป็นต้องมีการอัพเดตเฟิร์มแวร์สำหรับ Speedlite EL-1
อ่านเคล็ดลับและเทคนิคเกี่ยวกับการถ่ายภาพโดยใช้แฟลชเพิ่มเติมที่:
จุดโฟกัส: พื้นฐานสำหรับการถ่ายภาพด้วยแฟลชเสริม
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!