ข้อเท็จจริงที่สำคัญ 7 ข้อเกี่ยวกับกล้อง EOS R6
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2020 Canon ได้เปิดตัว EOS R6 กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการเปิดตัวที่สร้างความประหลาดใจเมื่อเทียบกับ EOS R5 ซึ่งทุกคนรอคอยเป็นเวลาหลายเดือน ด้วยสเปคหลายอย่างที่เหมือนกับ EOS-1D X Mark III กล้อง DSLR รุ่นเรือธงของ Canon รวมทั้งประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยและความไวแสง ISO ที่สูงกว่า EOS R5 กล้อง EOS R6 จึงมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมอย่างครบถ้วน เราจะมาทำความรู้จักคุณสมบัติหลักของกล้องให้มากขึ้นในบทความนี้
โฉมใหม่ของซีรีย์ EOS ‘6’
เชิญพบกับฝาแฝดเทียมของกล้อง EOS R5
ในซีรีย์ EOS DSLR ซีรีย์ 6D ก็เหมือนกับน้องเล็กของซีรีย์ 5D แม้กล้อง 6D จะมีจำนวนพิกเซลและความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ต่ำกว่า แต่ก็สามารถให้คุณภาพของภาพแบบฟูลเฟรมที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่ชื่นชอบด้วยบอดี้ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และพกพาได้สะดวก EOS R6 มีเลข ‘6’ อยู่ในชื่อ จึงดูเหมือนอาจจะมีความสัมพันธ์เช่นเดียวกับกล้อง EOS R5 แต่แทนที่จะเป็นน้องเล็ก กลับเหมือนเป็นฝาแฝดเทียมมากกว่า
ในด้านรูปลักษณ์ กล้อง EOS R6 มีวงแหวนปรับโหมดอยู่ที่ด้านบนของแผงหน้าจอกล้อง EOS R5 แต่ปุ่ม วงแหวน และการควบคุมอื่นๆ นั้นเป็นแบบเดียวกัน รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงสุด 20 fps ด้วย ความละเอียดของภาพนั้นต่ำกว่าที่ 20.1 ล้านพิกเซล แต่ในทางกลับกัน ก็ให้ประสิทธิภาพความไวแสง ISO สูงที่ดีกว่า และมีความสามารถในการบันทึกวิดีโอแบบ 4K UHD ที่เพียงพอสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการผลิตวิดีโอ 4K
อ่านต่อเพื่อทำความรู้จักกล้อง EOS R6 ให้มากขึ้น
7 คุณสมบัติเด่นของกล้อง EOS R6
1. ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพเท่ากล้อง EOS-1D X Mark III ในบอดี้มิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัด
2. ถ่ายภาพความเร็วสูงโดยแทบไม่มีเสียงได้สูงสุด 20 fps
3. ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ประสิทธิภาพสูงขึ้นที่สามารถตรวจจับและติดตามดวงตาของนกได้
4. ถ่ายวิดีโอ 4K แบบไม่ครอปพร้อมรองรับ HDR PQ
5. ระบบ IS ในบอดี้เพื่อการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 8 สต็อป
6. ความเข้ากันได้กับระบบคลาวด์: รองรับ image.canon เต็มรูปแบบ
7. มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และมีความทนทานที่เพียงพอ
1. ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพเท่ากล้อง EOS-1D X Mark III ในบอดี้มิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัด
เซนเซอร์ภาพที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อ EOS-1D X Mark III กล้อง DSLR รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดของ Canon มีความละเอียดสูงพิเศษ จุดรบกวนต่ำ และสามารถถ่ายภาพตัวแบบได้สดใสสมจริง กล้อง EOS R6 ก็ใช้เซนเซอร์เดียวกันนี้ แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับระบบกล้องมิเรอร์เลส EOS R
ด้วยอัตราสัญญาณเสียงต่อคลื่นรบกวนและไดนามิกเรนจ์อันยอดเยี่ยมรวมทั้งการอ่านสัญญาณด้วยความเร็วสูง เซนเซอร์ภาพจึงทำงานได้อย่างราบรื่นร่วมกับระบบประมวลผลภาพ DIGIC X รุ่นใหม่อันทรงพลังเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความเร็วอันโดดเด่น ซึ่งรวมถึงความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ 20 fps ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ที่ได้รับการพัฒนา และความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 4K HDR
เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมความละเอียด 20.1MP ที่รวดเร็วและมีความไวสูง
กล้อง EOS R6 ใช้เซนเซอร์ภาพของ EOS-1D X Mark III ในเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงมาแล้ว ซึ่งนี่เป็นกล้อง DSLR รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดของ Canon ที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของบริษัทที่จะมอบสเปคสูงสุดให้กับกล้อง
ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X
มีกำลังในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงและการลดจุดรบกวนของกล้อง จึงทำให้สามารถใช้ความไวแสง ISO ปกติสูงสุดที่ ISO 102,400 รวมถึง AF ในสภาวะแสงน้อยที่ EV -6.5 ได้
ความไวแสง ISO ปกติสูงสุดที่ 102,400
ด้วยความสามารถในการพิมพ์ภาพขนาด A3 ความละเอียดของภาพราว 20.1 ล้านพิกเซลจึงมีขนาดของพิกเซลที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้แสงผ่านเข้ามาได้มากขึ้น จึงทำให้มีความไวแสง ISO ที่ดีขึ้น คุณสมบัตินี้ เมื่อรวมกับประสิทธิภาพการลดจุดรบกวนอันทรงพลังของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X แล้ว ทำให้ EOS R6 มีความไวแสง ISO ที่สูงจนน่าทึ่ง ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้ภาพที่คมชัดแม้ใช้ความไวแสง ISO 102,400 ในการถ่ายภาพนิ่งและ ISO 25,600 ในการถ่ายภาพเคลื่อนไหว
รายละเอียดที่สวยงามและประณีต
นอกจากจะให้โบเก้ที่สวยงามซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรมแล้ว เซนเซอร์ภาพรุ่นใหม่นี้ยังสามารถแสดงรายละเอียดได้อย่างคมชัดอีกด้วย กล้อง EOS R6 สามารถบันทึกไฟล์ HDR PQ HEIF 10 บิต ได้นอกเหนือจาก RAW, C-RAW และ JPEG นี่จึงเป็นการเพิ่มขอบเขตความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพ HDR ที่มีทั้งไฮไลต์ที่เด่นชัดและรายละเอียดในส่วนที่เป็นเงาได้ในภาพเดียวโดยไม่ต้องซ้อนภาพหลายชั้นหรือทำการปรับแต่งภาพ RAW
2. ถ่ายภาพความเร็วสูงโดยแทบไม่มีเสียงได้สูงสุด 20 fps
กล้อง EOS R6 มีวิธีการขับเคลื่อนชัตเตอร์สามแบบ ได้แก่
- ชัตเตอร์กล: เป็นวิธีการดั้งเดิมซึ่งทั้งม่านชัตเตอร์ชุดแรกและชุดที่สองเป็นม่านชัตเตอร์จริง
- ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรก: ม่านชุดแรกเป็นชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่ม่านชุดที่สองเป็นใบม่านชัตเตอร์จริง
- ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์: ทั้งม่านชุดแรกและชุดที่สองถูกเปิด/ปิดด้วยชัตเตอร์อิเล็กทอนิกส์ ซึ่งหมายความว่า พิกเซลในเซนเซอร์ภาพจะถูกเปิด/ปิดแทนที่จะเป็นการปิดใบม่านชัตเตอร์กล
ทำงานได้โดยแทบไม่มีเสียง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ไม่ต้องการเป็นจุดสนใจ
เนื่องจากไม่มีการเคลื่อนไหวของชัตเตอร์จริงเข้ามาเกี่ยวข้องในชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ จึงสามารถลั่นชัตเตอร์ได้โดยไม่มีเสียง (ยังคงมีเสียงอยู่บ้างจาก AF ของเลนส์และกลไกของรูรับแสง) แม้ในขณะถ่ายต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 20 fps พร้อมการติดตาม AF/AE ทำให้เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คุณต้องการความรวดเร็วโดยไม่ต้องเป็นจุดสนใจ เช่น ในคอนเสิร์ตหรือฉากที่มีสัตว์ป่าซึ่งตื่นตกใจได้ง่าย
สำหรับการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดการบิดเบี้ยวจาก Rolling Shutter ควรถ่ายด้วยชัตเตอร์กล ซึ่งสามารถรองรับการถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 12 fps พร้อมการติดตาม AF/AE เลือกใช้ชัตเตอร์ให้เหมาะสมกับฉากของคุณที่สุด!
EOS R6/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 500 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/1600 วินาที)/ ISO 1600/ WB: แสงแดด
กล้อง EOS R6 มีโหมดขับเคลื่อนในการถ่ายภาพต่อเนื่องสามแบบได้แก่
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง + (H+)
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง (H)
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วต่ำ (L)
ปัจจัยหลายอย่าง เช่น กำลังแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ มีผลต่อความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจริง ไอคอนของโหมดขับเคลื่อนในหน้าจอ EVF/Live View จะเปลี่ยนสีเพื่อแสดงความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่สามารถถ่ายได้จริง
สีของไอคอนในโหมดขับเคลื่อน
โหมด A: สีเขียว
โหมด B: สีขาว
โหมด C: สีขาวกะพริบ
*ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงของชัตเตอร์กล/ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแบตเตอรี่/การชาร์จที่เหลือ อุณหภูมิ Wi-Fi ในตัว (‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’) การลดแสงที่สั่นไหว ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง ประเภทของเลนส์ และอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้
3. ระบบ AF ประสิทธิภาพสูงขึ้นที่สามารถตรวจจับและติดตามดวงตาของนกได้
ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ในกล้อง EOS R6 ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยความสามารถในการประมวลผลของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X และอัลกอริธึมใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก ระบบได้รับการปรับปรุงความสามารถในการตรวจจับศีรษะมนุษย์ ซึ่งทำให้ติดตามศีรษะของตัวแบบได้ “เหนียวแน่น” ขึ้นในฉากที่มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและรุนแรง รวมทั้ง Animal Detection AF ซึ่งสามารถตรวจจับและติดตามดวงตา ใบหน้า และร่างกายของสุนัข แมว หรือแม้แต่นกได้
AF สำหรับตรวจจับดวงตามนุษย์ก็ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน เพราะในขณะนี้ Eye Detection AF สามารถตรวจจับดวงตาได้แล้วแม้ใบหน้าของตัวแบบจะกินพื้นที่เป็นบริเวณน้อยกว่าในภาพ
EOS R6/ RF50mm f/1.2L USM/ FL: 50 มม./ Manual exposure (f/1.2, 1/320 วินาที)/ ISO 3200/ WB: อัตโนมัติ
รูม่านตาสีดำของสุนัขสีดำ นี่เป็นภาพที่มีความท้าทายอย่างมากสำหรับ AF ในการหาเป้าหมายในฉากเช่นนี้! AF แบบเดิมมักจะโฟกัสไปที่จมูกของสุนัขเนื่องจากอยู่ใกล้กับกล้องมากที่สุด แต่ Animal Detection AF ของกล้อง EOS R6 สามารถตรวจจับดวงตาของสุนัขได้อย่างง่ายดายแม้ในความมืด
โฟกัสอัตโนมัติในสภาวะที่มืดถึง EV -6.5
ด้วยขีดจำกัดของ AF ในสภาวะแสงน้อยต่ำสุดที่ EV -6.5 กล้อง EOS R6 จึงรับมือกับฉากที่มืดได้ดีกว่า EOS R5 สำหรับส่วนที่เป็นไฮไลต์ กล้องทั้งสองรุ่นมีความสามารถเหมือนกันในการโฟกัสได้สูงสุดที่ EV +20 จึงมี AF ที่แม่นยำขึ้นสำหรับตัวแบบที่มีความสว่าง เช่น บนพื้นที่ใกล้ไฟหน้ารถ
พื้นที่ AF ที่ใหญ่และหนาแน่นขึ้น
เมื่อใช้กับเลนส์ RF/EF ที่เข้ากันได้ ในโหมดเลือกพื้นที่ AF อัตโนมัติ เช่น ใบหน้า + การติดตาม AF พื้นที่ AF จะครอบคลุม 100% ของเฟรมภาพเฟรมภาพ โดยมี AF ให้เลือกได้สูงสุด 1,053 โซน ในโหมดการเลือก AF ด้วยตนเอง เช่น โหมด Expanded AF Area และ Zone AF จะมี AF ครอบคลุมพื้นที่ 90% × 100% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของพื้นที่ภาพและมีตำแหน่ง AF ที่สามารถเลือกเองได้สูงสุด 6,072 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่ากล้อง EOS R5 คุณสมบัตินี้ทำให้มี AF ที่แม่นยำกว่า จึงมีอิสระมากขึ้นในการจัดองค์ประกอบภาพได้อย่างสร้างสรรค์
คุณสมบัติเด่นอื่นๆ ของ AF
- Case การติดตามตัวแบบใน Servo AF ที่สามารถปรับแต่งเองได้เทียบเท่ากับกล้อง EOS-1D X Mark III
- ฟังก์ชั่น Focus Bracketing
- เข้ากันได้กับการโฟกัสที่ f/22
เมื่อใช้เลนส์ RF800mm f/11 IS STM ที่ติดตั้งตัวขยายช่องมองภาพ RF 2x รูรับแสงกว้างสุดจะกลายเป็น f/22 ที่ทางยาวโฟกัส 1600 มม.
อย่างไรก็ตาม การที่สามารถใช้ AF ได้ที่ f/22 หมายความว่าโฟกัสอัตโนมัติจะยังคงทำงานได้โดยครอบคลุมพื้นที่ 40% × 60% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของเฟรมภาพ ค่า f/22 มักจะทำให้ภาพในช่องมองภาพแบบออพติคอลมืดเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายในสภาวะแสงน้อย อย่างไรก็ตาม EVF ในกล้อง EOS R6 ไม่เพียงแต่มีแสงในช่องมองภาพที่สามารถเพิ่มความสว่างของหน้าจอเพื่อให้คุณมองเห็นการจัดเฟรมและองค์ประกอบภาพได้เท่านั้น แต่ยังสามารถจำลองค่าการเปิดรับแสงเพื่อให้คุณเห็นผลที่ได้ในภาพและทำการปรับเปลี่ยนที่จำเป็นได้อีกด้วย
4. ถ่ายวิดีโอ 4K แบบไม่ครอปพร้อมรองรับ HDR PQ
กล้อง EOS R6 รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K UHD และ Full HD แบบไม่ครอป 4K UHD เป็นมาตรฐานของวิดีโอ 4K ในการแพร่ภาพโทรทัศน์ จึงเข้ากันได้กับชุดโทรทัศน์ 4K ภายในบ้านส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่อกล้องของคุณเข้ากับชุดโทรทัศน์ได้อย่างง่ายดายด้วยสาย HDMI เพื่อรับชมคลิปวิดีโอ 4K ที่คุณถ่ายไว้!
วิดีโอ 4K UHD จะถูกบันทึกโดยใช้ 94% ของความกว้างเซนเซอร์ภาพ จึงทำให้สามารถทำการสุ่มด้วยความถี่สูง 5.1K ได้ ซึ่งทำให้ได้ฟุตเทจ 4K คุณภาพสูงขึ้นและมีเอฟเฟ็กต์มอเร่ สีเพี้ยน และจุดรบกวนในภาพน้อยลง
กระบวนการสุ่มด้วยความถี่สูง 5.1K
เคล็ดลับน่ารู้: คุณสามารถถ่ายในรูปแบบ Super 35 มม. ได้ด้วย
โหมด 4K UHD แบบครอปจะครอปภาพให้อยู่ในมุมรับภาพที่เทียบเท่ากับรูปแบบ Super 35 มม. ที่ใช้ในกล้องถ่ายทำภาพยนตร์
ขนาดการบันทึกของโหมดการถ่ายภาพต่างๆ
1: 4K UHD (3840 x 2160) H:94%, V:79%
2: 4K UHD แบบครอป (3840 x 2160) H:62%, V:53%
3: FHD แบบครอป (1920 x 1080) H:62%, V:53%
4: FHD (1920 x 1080)
รูปแบบการบันทึกวิดีโอ 4K/FHD
- MP4 H.264/MPEG-4 AVC (YCbCr 4:2:0/ 8-บิต/ BT.709)
- MP4 H.264/HEVC HDR PQ (YCbCr 4:2:2/ 10-บิต/ BT.2020)
- MP4 H.264/HEVC Canon-Log (YCbCr 4:2:2/ 10-บิต/ BT.709 หรือ BT.2020)
4K UHD แบบไม่ครอป/ครอป: NTSC 59.94/29.97/23.98 fps, PAL 50.00/25.00 fps (IPB)
FHD แบบไม่ครอป/ครอป: NTSC 59.94/29.97/23.98 fps, PAL 50.00/25.00 fps (IPB/IPB เบา*)
* IPB (เบา) สามารถเลือกได้เมื่อตั้งค่าอัตราเฟรมที่ NTSC 23.98 fps, PAL 25.00 fps
รองรับภาพเคลื่อนไหว HDR PQ
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการถ่ายวิดีโอแบบ HDR ที่เพิ่มขึ้น กล้อง EOS R6 จึงรองรับการบันทึกในโหมด HDR PQ ซึ่งให้ไดนามิกเรนจ์กว้างใกล้เคียงกับการรับรู้ของมนุษย์ คุณจึงสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ดูสมจริงเป็นพิเศษได้เมื่อรับชมผ่านโทรทัศน์ 4K HDR แม้ไม่มีการปรับแก้สี
หรือคุณจะเลือกบันทึกด้วย Canon Log 10 บิตก็ได้เช่นกัน การบันทึกแบบนี้จะให้ไดนามิกเรนจ์ 12 สต็อปซึ่งช่วยในการปรับแก้สีระหว่างกระบวนการปรับแต่งภาพด้วย
Dual Pixel CMOS AF II สำหรับวิดีโอ
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจใช้การบันทึกด้วยสัญญาณหรือรูปแบบใด* คุณก็สามารถใช้การติดตามของ Movie Servo AF โดย Dual Pixel CMOS AF II ได้ จึงมั่นใจได้ว่าตัวแบบของคุณจะอยู่ในโฟกัสเสมอ นอกจากนี้คุณยังสามารถดึงภาพนิ่งออกมาจากฟุตเทจ 4K UHD ได้ด้วย ซึ่งทำให้คุณใช้ฟังก์ชั่นวิดีโอของกล้อง EOS R6 แทนฟังก์ชั่นการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 60 fps/ 50 fps ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพขนาด 3840 × 2160 พิกเซลได้
*ยกเว้นการถ่ายภาพแบบ Time Lapse
คุณสมบัติด้านการถ่ายวิดีโออื่นๆ ที่โดดเด่น
- การบันทึกแบบอัตราเฟรมสูง: FHD 120p/100p (NTSC/PAL) (IPB)
- ภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse: 4K UHD/FHD 30p/25p (NTSC/PAL) (ALL-I)
- การแสดงเส้นลายทาง
5. ระบบ IS ในบอดี้เพื่อการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 8 สต็อป
กล้อง EOS R6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในบอดี้กล้อง (ระบบ IS ในบอดี้) เช่นเดียวกับ EOS R5 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาพ เซนเซอร์ไจโรในตัวกล้อง และเซนเซอร์ตรวจจับความเร่ง จากนั้นจึงขยับเซนเซอร์ภาพตามการตรวจจับ เพื่อแก้ไขการสั่นของกล้องจากห้าทิศทาง ซึ่งได้แก่ แนวนอน แนวตั้ง แกนหมุน แกนหัน และแกนยก ระบบนี้จะทำงานเมื่อติดตั้งเลนส์ RF หรือ EF ทุกรุ่นแม้จะเป็นรุ่นที่ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (ระบบ IS แบบออพติคอล) ภายในเลนส์
A: DIGIC X
B: ชุด IS
C: ไมโครโปรเซสเซอร์เลนส์
D: เซนเซอร์ไจโร (เลนส์)
E: เซนเซอร์ภาพ
F: เซนเซอร์ไจโร (กล้อง)
G: เซนเซอร์ตรวจจับความเร่ง
เมื่อติดตั้งเลนส์ที่มี IS แบบออพติคอล ความสามารถในการประมวลผลอันทรงพลังของ DIGIC X จะใช้ IS แบบประสานการควบคุมซึ่งสามารถประสานการทำงานของ IS แบบออพติคอลและ IS ในบอดี้กล้องได้อย่างราบรื่นเพื่อการป้องกันภาพสั่นไหวที่ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะใช้ทางยาวโฟกัสเท่าใด* คุณสมบัตินี้ทำให้ง่ายต่อการถ่ายภาพให้คมชัดแม้จะถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงถึง 8 สต็อป** คุณจึงมีอิสระในการสร้างสรรค์ที่มากขึ้นเมื่อถ่ายภาพด้วยมือในเวลากลางคืนโดยใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ หรือถ่ายภาพจากมุมและตำแหน่งที่ยากต่อการถือกล้องให้มั่นคง
*อาจต้องอัพเดตเฟิร์มแวร์
**เมื่อใช้กับเลนส์ที่เข้ากันได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะการถ่ายภาพ
ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที ปิด IS
ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที เปิด IS
ที่ความเร็วชัตเตอร์ 2 วินาที การถ่ายภาพด้วยมือโดยที่กล้องไม่สั่นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ระบบ IS แบบประสานการควบคุมจะประสานกลไกของ IS แบบออพติคอลและ IS ในบอดี้เข้าด้วยกันเพื่อลดการสั่นของกล้อง จึงได้ภาพที่มีความคมชัดขึ้นมาก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์ #3: เราจะกำหนดสต็อปของระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างไร
6. ความเข้ากันได้กับระบบคลาวด์: รองรับ image.canon เต็มรูปแบบ
กล้อง EOS R6 มี Wi-Fi 2.4GHz และการเชื่อมต่อบลูทูธในตัว คุณสมบัตินี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการจับคู่กับอุปกรณ์อัจฉริยะผ่านแอป Camera Connect ซึ่งทำให้คุณเข้าถึงคุณสมบัติ เช่น การถ่ายภาพด้วย Live View จากระยะไกล การระบุข้อมูลทางภูมิศาสตร์ และการถ่ายโอนภาพในอุปกรณ์อัจฉริยะได้เท่านั้น แต่ัยังรองรับแพลตฟอร์ม image.canon ใหม่ของ Canon ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 อย่างเต็มรูปแบบด้วย
Image.canon เป็นแพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ตามแนวคิด “กล้องที่มีการเชื่อมต่อ” เพียงแค่ลงทะเบียนฮอตสปอต Wi-Fi ในกล้อง EOS R6 คุณก็จะสามารถอัปโหลดไฟล์ภาพและวิดีโอคุณภาพสมบูรณ์ รวมทั้งไฟล์แบบ RAW ไปยังระบบคลาวด์ได้อัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่คุณอยู่ภายในระยะ คุณจึงสามารถเข้าถึงไฟล์ได้ตลอดเวลาจากอุปกรณ์ทุกชนิดที่เข้ากันได้ และแบ่งปันลงบนโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย ไฟล์คุณภาพเท่าต้นฉบับจะถูกจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์เป็นเวลา 30 วัน แต่คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ได้สูงสุด 10GB ในพื้นที่จัดเก็บระยะยาวได้ฟรี
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ image.canon ได้ที่:
3 วิธีที่ image.canon จะพลิกโฉมประสบการณ์การถ่ายภาพของคุณ
7. มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และมีความทนทานที่เพียงพอ
จุดขายที่สำคัญของกล้อง DSLR ซีรีย์ EOS 6D คือน้ำหนักที่เบา ซึ่ง EOS R6 ก็รับเอาคุณสมบัตินี้มาด้วย แม้จะมีขนาดเท่ากับกล้อง EOS R5 แต่มีน้ำหนักเบากว่า 52 ก. (เบากว่าประมาณ 8%) โครงสร้างภายในของกล้อง EOS R6 ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยเป็นหลัก และมีโครงสร้างภายนอกทำจากโพลีคาร์บอเนต คุณจึงมั่นใจได้ว่าตัวกล้องมีความแข็งแรงทนทานเพียงพอแม้จะมีน้ำหนักเบา
EOS R5 | EOS R6 | |
ขนาด (กว้าง×สูง×ลึก โดยประมาณ) | 138.5×97.5×88.0 มม. | 138.5×97.5×88.4 มม. |
น้ำหนัก (เฉพาะบอดี้ โดยประมาณ) | 650 ก. | 598 ก. |
บอดี้กล้องที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ
กล้อง EOS R6 มีความสมดุลระหว่างความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบาด้วยโครงสร้างภายในที่ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยเป็นหลักและโครงสร้างภายนอกทำจากโพลีคาร์บอเนต และยังมีการออกแบบที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำได้
OLED EVF ความละเอียด 3.69 ล้านจุด
EVF ในกล้อง EOS R6 นั้นคล้ายกับ EOS R แต่มีอัตราการตอบสนองของหน้าจอที่เร็วกว่า จึงให้การมองเห็นที่เป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับการมองผ่าน OVF
Multi-controller
Multi-controller คล้ายกันกับกล้อง EOS DSLR ระดับสูงซึ่งให้การควบคุมที่เร็วและดียิ่งขึ้นในการเลือกกรอบ AF
ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่
ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่ช่วยให้คุณสามารถสำรองข้อมูลที่จำเป็นในการบันทึกภาพในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตได้
หมายเหตุ: การ์ดหน่วยความจำของคุณต้องมีคุณสมบัติ UHS-I/UHS ความเร็วระดับ 3 เป็นอย่างต่ำในการบันทึกวิดีโอ 4K และวิดีโอ UHS-II ความเร็วระดับ 60 ในการบันทึก Canon Log และวิดีโอ HDR PQ
แบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีกำลังไฟมากขึ้น
มีขนาดเท่ากันกับแบตเตอรี่ LP-E6N เดิม (1865 mAh) แต่มีกำลังไฟมากกว่า (2130 mAh) แบตเตอรี่ LP-E6NH รองรับการชาร์จผ่าน USB ในกล้อง
เปิด/ปิดม่านชัตเตอร์เมื่อปิดการทำงานของกล้อง
ป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเกาะบนเซนเซอร์ภาพโดยการตั้งค่าให้ปิดม่านชัตเตอร์เมื่อปิดการทำงานของกล้อง ชุดชัตเตอร์ได้ผ่านการทดสอบความทนทาน 30,000 ครั้ง จึงมีความคงทนของชัตเตอร์ที่ยอดเยี่ยม
ดูข้อมูลจำเพาะที่สำคัญได้ที่:
EOS R6 (ตัวกล้อง) – ข้อมูลจำเพาะ (ฉบับภาษาอังกฤษ)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS R6 ได้ที่:
EOS R6: ออกแบบมาสำหรับผู้มีความคิดสร้างสรรค์ (ฉบับภาษาอังกฤษ)
EOS R6
ภาพตัวอย่าง
EOS R6/ RF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 53 มม./ Manual exposure (f/22, 2 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
EOS R6/ RF85mm f/2 Macro IS STM/ FL: 85 มม./ Aperture-priority AE (f/2, 1/500 วินาที, EV -1)/ ISO 100/ WB: เมฆครึ้ม
EOS R6/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 70 มม./ Manual exposure (f/8, 1/3200 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!