ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญของกล้องระบบ EOS R - Part

EOS R6 Mark III: กล้องทรงพลังที่จะช่วยปลดปล่อยความหลงใหลของคุณ

2025-11-13
0
3.32 k

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 Canon ได้เปิดตัว EOS R6 Mark III กล้องที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติอันทรงพลังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรม 32.5 ล้านพิกเซลที่มีความละเอียดสูงขึ้น ประสิทธิภาพ AF และการถ่ายภาพนิ่งที่ดียิ่งขึ้น ความสามารถระดับสูงในการถ่ายวิดีโอที่ทำให้นึกถึงกล้อง Cinema EOS C50 เช่น การถ่ายแบบ RAW 7K 60p และการถ่ายแบบ Open Gate 7K 30p กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีย์ “6” จาก Canon รุ่นนี้จึงเป็นกล้องที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ช่างภาพและครีเอเตอร์แบบไฮบริดที่กำลังไล่ตามฝันได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายภาพตัวแบบที่มีความท้าทาย

ในบทความนี้:

 

ยกระดับภาพนิ่งและวิดีโอของคุณขึ้นไปอีกขั้น

บางคนบอกว่าอุปกรณ์ไม่สำคัญ แต่แน่นอนว่านั่นไม่เป็นความจริง อุปกรณ์ที่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นจะช่วยให้คุณปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ

ตั้งแต่ EOS R6 ที่นำระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึกและระบบ IS ในบอดี้กล้องมาใช้เป็นครั้งแรก จนถึง EOS R6 Mark II ที่โดดเด่นด้านฟีเจอร์ในการถ่ายวิดีโอและความเร็วอันน่าทึ่ง กล้องในซีรีย์ EOS R6 ก็เรียกได้ว่าเป็นกล้องระดับแถวหน้าที่นำเอาฟีเจอร์ระดับสูงจาก Canon มาไว้ในมือผู้ใช้เสมอมา และ EOS R6 Mark III ก็เช่นเดียวกัน ด้วยความเร็วและความละเอียดที่ยากจะมีใครเทียบ กล้องรุ่นนี้จะช่วยให้คุณบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างที่ใจต้องการ แม้ในสถานการณ์ที่มีความท้าทาย

 

1. ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลอันน่าทึ่ง

รายละเอียดมากขึ้นเพื่อความสมจริงยิ่งขึ้น
EOS R6 Mark III มีจำนวนพิกเซลบนเซนเซอร์ฟูลเฟรมมากกว่า จึงให้ภาพที่คมชัดจนถึงขอบ ไล่โทนสีได้อย่างกลมกลืน และแสดงรายละเอียดเล็กๆ อย่างพื้นผิวของก้อนเมฆและรายละเอียดอันประณีตบนเนื้อผ้าได้อย่างชัดเจน ผลที่ได้คือความสมจริงยิ่งขึ้นที่ดึงดูดผู้ชมของคุณเข้าไปในฉาก

ข้อควรรู้: เพียงพอสำหรับการพิมพ์คุณภาพสูงในขนาด A2
กล้อง EOS R6 Mark III สามารถถ่ายภาพด้วยความละเอียด 6960 x 4640 พิกเซล ซึ่งเพียงพอสำหรับการพิมพ์ในรูปแบบ A2 (420 x 594 มม.) ที่ 290 dpi ความละเอียดเท่านี้แทบไม่ต่างจาก 300 dpi และเพียงพอที่จะทำให้ภาพดีๆ ดูคมชัดได้โดยที่ภาพไม่แตก

EOS R6 Mark III/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 35 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/25 วินาที)/ ISO 200


ครอปภาพได้มากขึ้นโดยที่คุณภาพไม่ลดลง

EOS R6 Mark III/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 200 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/250 วินาที)/ ISO 100

ครอปจากภาพด้านบน

จำนวนพิกเซลที่มากกว่าของกล้อง EOS R6 Mark III เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าทำให้คุณสามารถครอปภาพได้มากขึ้นโดยที่ความละเอียดยังไม่ลดลง จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในจังหวะที่ไม่คาดคิดเมื่อเลนส์ที่คุณใช้มีระยะไม่พอ และการศึกษาศิลปะการครอปภาพ!


ภาพ VR 180 องศาที่สมจริงยิ่งขึ้น

เมื่อใช้กับเลนส์ RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลของกล้อง EOS R6 Mark III จะช่วยเพิ่มความสมจริงให้วิดีโอ VR 180 องศารวมถึงภาพนิ่ง เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับ “ความมีชีวิต” ขึ้นไปอีกขั้น และเลนส์ยังช่วยให้การจัดเตรียมและขั้นตอนการทำงานในการสร้างภาพ VR มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยเลนส์และกล้องเพียงตัวเดียว

 

2. ประสิทธิภาพการถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูงที่ดียิ่งขึ้น

แม้จะมีจำนวนพิกเซลมากกว่า แต่ EOS R6 Mark III ก็ยังสามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 40 fps (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) หรือ 12 fps (ชัตเตอร์กล/ม่านชัตเตอร์ชุดแรก) พร้อมการติดตาม AF/AE เต็มรูปแบบ ด้วยความสามารถในการอ่านข้อมูลที่เร็วขึ้นของเซนเซอร์และกำลังในการประมวลผลภาพของ DIGIC X

ไม่ว่าจะเป็นภาพสัตว์ป่าหรือการแข่งขันกีฬา EOS R6 Mark III ก็สามารถติดตามตัวแบบได้อย่างรวดเร็วและเหนียวแน่น โฟกัสจึงอยู่ในจุดที่คุณต้องการเสมอ

การถ่ายภาพในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ทำให้คุณมีทางเลือกในการใช้ชัตเตอร์ที่เงียบกว่าในฉากที่จำเป็นต้องทำงานแบบไร้เสียง


ถ่ายภาพต่อเนื่องได้นานขึ้น

การประมวลผลที่ดียิ่งขึ้นของ EOS R6 Mark III ช่วยเพิ่มความสามารถในการบัฟเฟอร์ จึงถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้นานขึ้นสูงสุดถึง 280 ภาพในแบบ CRAW หรือ 150 ภาพในแบบ RAW ที่ 40 fps ในโหมด H+ ซึ่งนับว่ามีประสิทธิภาพดีกว่า EOS R6 Mark II เกือบสองเท่าและเหมาะสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน


การถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้า: ผู้ช่วยของคุณขณะรอจังหวะถ่ายภาพ

EOS R6 Mark III มีฟีเจอร์การถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้าแบบใหม่เช่นเดียวกับ EOS R1/ R5 Mark II ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุดได้ต่อเนื่องสูงสุด 0.5 วินาที (สูงสุด 20 เฟรม) นับตั้งแต่วินาทีที่คุณกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง ความสามารถเช่นนี้ทำให้คุณมีโอกาสถ่ายภาพได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่คาดเดาไม่ได้

ฟีเจอร์นี้อยู่ในโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง + (H+) และมีความยืดหยุ่นมากกว่าโหมดถ่ายต่อเนื่องแบบ RAW และโหมดถ่ายภาพล่วงหน้าในกล้องรุ่นก่อนๆ มีฟังก์ชั่นโฟกัสอัตโนมัติทั้งหมด และคุณสามารถใช้งานได้ในการถ่ายภาพนิ่งทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น RAW/RAW, JPEG หรือ HEIF แต่ละเฟรมจะถูกบันทึกแยกกันเช่นเดียวกับภาพอื่นๆ ทำให้ตรวจดูภาพและปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย


ช่องใส่การ์ด CFexpress Type B + SD เพื่อขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพรวดเร็วขึ้น

กล้อง EOS R6 Mark III มีทั้งช่องใส่การ์ด CFexpress Type B และ SD จึงรองรับการเขียนข้อมูลความเร็วสูงที่จำเป็นต้องใช้ในการบันทึกภายในแบบ RAW 7K และการถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องความละเอียดสูงสุด 40 fps และคุณสมบัตินี้ยังช่วยให้สามารถบันทึกไฟล์วิดีโอหลัก/พร็อกซีหรือไฟล์วิดีโอหลัก/สำรองได้ด้วยเพื่อขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอที่มีประสิทธิภาพ

 

3. โฟกัสอัตโนมัติที่ชาญฉลาดและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ

EOS R6 Mark III มีระบบ Dual Pixel CMOS AF II ที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึก AF จึงสามารถ “จับและติดตาม” ตัวแบบได้เช่นเดียวกับกล้องรุ่นใหม่ในซีรีย์ EOS R ทั้งหมด ระบบนี้ทำให้สามารถล็อคโฟกัสและติดตามตัวแบบที่ตรวจพบได้จากการตั้งค่าพื้นที่ AF ทุกรูปแบบ รวมถึงโหมด AF จุดเดียวและ Spot AF ที่มีความแม่นยำสูงซึ่งมักใช้กับตัวแบบขนาดเล็กหรือฉากที่มีความซับซ้อน และระบบนี้ยังสามารถติดตามตัวแบบได้เหนียวแน่นกว่ารุ่นก่อนหน้าเนื่องจากมีอัลกอริธึม AF ที่ผ่านการปรับปรุงมาแล้ว

ควบคุมการทำงานของ AF ได้ดียิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับ EOS R1/ R5 Mark II กล้อง EOS R6 Mark III ได้เพิ่มโหมด AF เข้ามา 4 โหมดโดยปิดใช้งานการติดตามทั้งพื้นที่ (ไอคอนล็อค) เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบตรวจจับตัวแบบโดยไม่ได้ตั้งใจขณะอยู่ท่ามกลางสิ่งกีดขวางและผู้คนในฉาก


ลงทะเบียนตามความสำคัญบุคคล: ค้นหาและติดตามบุคคลที่ต้องการโดยอัตโนมัติ

EOS R6 Mark III เป็นกล้องรุ่นแรกในซีรีย์ “6” ที่มีโหมด “ลงทะเบียนตามความสำคัญบุคคล” ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกับที่มีในกล้องระดับสูงกว่า เช่น EOS R1/ R5 Mark II โหมดนี้จะเลือกตรวจจับและติดตามบุคคลที่บันทึกไว้ก่อนเป็นหลักโดยอัตโนมัติขณะถ่ายภาพหรือวิดีโอที่มีผู้อื่นอยู่ในเฟรมอีกหลายคน จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพคอนเสิร์ต งานอีเวนต์ หรือการถ่ายภาพหมู่ คุณสามารถบันทึกบุคคลล่วงหน้าได้สูงสุด 10 คนโดยการถ่ายภาพหรือโหลดภาพจากการ์ดหน่วยความจำของคุณ

 

4. เปลี่ยนจุดโฟกัสได้ราบรื่นเมื่อถ่ายวิดีโอ

การปรับปรุง Movie Servo AF เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่มีผู้ช่วยดึงโฟกัสสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสได้อย่างราบรื่นและดูเป็นธรรมชาติเมื่อใช้ AF


AF ที่ราบรื่นตามแบบฉบับกล้อง Cinema EOS

การเปลี่ยนจุดโฟกัสจะดูไม่แข็งทื่ออีกต่อไป เพราะอัลกอริธึมการเร่งและชะลอโฟกัสแบบเดียวกับที่ใช้ในกล้องถ่ายภาพยนตร์ EOS C400/C80 จะทำให้ควบคุมโฟกัสได้อย่างแม่นยำเหมือนผู้ช่วยดึงโฟกัส


Movie Servo AF ที่ดียิ่งขึ้น: เริ่มติดตามตัวแบบอีกครั้งหลังใช้โฟกัสแบบแมนนวล

ในโหมดวิดีโอ เมื่อเปิดใช้งาน Movie Servo AF กล้อง EOS R6 Mark III จะสามารถเริ่มติดตาม AF บนตัวแบบใหม่ได้โดยอัตโนมัติหลังผู้ใช้เปลี่ยนจุดโฟกัสมายังตัวแบบใหม่ด้วยตนเองโดยใช้การควบคุมโฟกัสแมนนวลแบบ Full-time คุณสมบัตินี้ทำให้คุณเปลี่ยนตัวแบบหลักได้โดยใช้แค่วงแหวนโฟกัสเท่านั้น* และจะได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับการตั้งค่าตัวแบบที่ตรวจจับและ Eye Detection AF**

* เลนส์ที่เข้ากันได้: เลนส์ RF ที่มี MF อิเล็กทรอนิกส์แบบ Full-time, เลนส์ RF ที่เข้ากันได้กับการโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบแมนนวล (เมื่อหยุดใช้งาน Movie servo AF เท่านั้น ไม่รวม RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye)
** อาจไม่สามารถเลือกและติดตามตัวแบบที่เลือกได้หากตัวแบบเคลื่อนไหว ไม่อยู่ในโฟกัสบนหน้าจอ หรือมีความลึกแตกต่างกัน

 

5. ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ได้รับการปรับปรุง

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวบนเซนเซอร์ (IS ในบอดี้กล้อง) ของ EOS R6 Mark III สามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้ 5 แกนทั้งภาพนิ่งและวิดีโอแม้จะใช้เลนส์ที่ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลในตัวเลนส์ (IS แบบออพติคอล)

เมื่อใช้เลนส์ RF ที่เข้ากันได้และมี IS แบบออพติคอล IS ของตัวกล้องและเลนส์จะทำงานร่วมกันจนกลายเป็น IS แบบประสานการควบคุม ขณะถ่ายภาพนิ่ง จะมีประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่ดียิ่งขึ้นสูงสุดถึง 8.5 สต็อปที่กึ่งกลางภาพและ 7.5 สต็อปที่ขอบภาพ* การเบลอที่ขอบภาพซึ่งมักเกิดกับเลนส์มุมกว้างจะได้รับการแก้ไขโดยการควบคุมแบบประสานการทำงานที่ขอบภาพเมื่อใช้เลนส์ที่เข้ากันได้

วิดีโอที่ถ่ายแบบถือกล้องด้วยมือขณะเคลื่อนไหวจะป้องกันภาพสั่นได้ดียิ่งขึ้นด้วยการผสมผสานกันระหว่างระบบ IS แบบประสานการควบคุมและ Movie Digital IS

EOS R6 Mark III/ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 105 มม./ Manual exposure (f/3.2, 1 วินาที)/ ISO 100


รับชม: Movie Digital IS ที่ได้รับการปรับปรุง

ระบบ IS ติดตามตัวแบบ: อยู่ในเฟรมตลอดระหว่างการบันทึกวิดีโอแบบเดินและพูดไปด้วย

ถ่ายวล็อกแบบเดินและพูดไปด้วยให้นิ่งโดยไม่ต้องครอปภาพที่ไม่ต้องการ เนื่องจาก EOS R6 Mark III เป็นกล้องแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้รุ่นแรกที่มีระบบ IS ติดตามตัวแบบที่ช่วยให้ตัวแบบอยู่ในเฟรมเสมอขณะป้องกันภาพสั่นไหว

* เป็นไปตามมาตรฐาน CIPA 2024 แก้ไขการสั่นในแนวแกนยก/หัน/หมุนขณะใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และ RF24-105mm F2.8 L IS USM Z (f=105 มม.)

 

6. ความยืดหยุ่นในการถ่ายวิดีโอระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน: บันทึกไฟล์ RAW ภายในแบบ Open Gate สูงสุด 7K

ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลของกล้อง EOS R6 Mark III รองรับการบันทึกวิดีโอภายในแบบ RAW 7K 60p ไปยังช่องใส่การ์ด CFexpress Type B รวมถึงการบันทึกในอัตราส่วนภาพ DCI (17:9) มาตรฐานโรงภาพยนตร์ อัตราเฟรมสูงสุด 60 fps (NTSC)/ 50 fps (PAL) ทำให้วิดีโอเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นขึ้น ในขณะที่การบันทึกวิดีโอแบบ RAW ช่วยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในขั้นตอนการตัดต่อที่ต้องมีการกู้คืนรายละเอียด, VFX และการปรับแต่งภาพในระดับสูง

รองรับการบันทึกภายในแบบ HDMI/ ProRes RAW สูงสุด 7K 30p ที่อัตราส่วนภาพ 17:9 แบบไม่ครอปผ่านช่องต่อเอาต์พุต HDMI Type-A (เต็มขนาด) ของกล้อง สามารถบันทึกไฟล์พร็อกซี 2K DCI MP4 ไปยังการ์ด SD ได้พร้อมกันเพื่อขั้นตอนการตัดต่อที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


การบันทึกไฟล์ RAW แบบ Open Gate 7K 30p: ฟุตเทจเดิมแต่มีความเป็นไปได้มากขึ้น

นอกจากนี้ EOS R6 Mark III ยังเป็นกล้องในซีรีย์ EOS R รุ่นแรกที่มีฟีเจอร์การบันทึกไฟล์ RAW/MP4 แบบ Open Gate 7K สูงสุด 30p โหมดนี้จะใช้ความสูงของเซนเซอร์ทั้งหมดระหว่างการบันทึก จึงให้ความยืดหยุ่นที่มากขึ้นในการครอปหรือจัดองค์ประกอบฟุตเทจใหม่ในขั้นตอนการตัดต่อ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างไฟล์ 9:16 ที่เหมาะกับโซเชียลมีเดียและ 16:9 ตามปกติจากฟุตเทจเดียวกัน คุณจึงไม่ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์หลายตัว แสดงกรอบของอัตราส่วนภาพพร้อมกันสูงสุด 2 กรอบเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นว่าวิดีโอที่ได้ในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นอย่างไร

ไฟล์ RAW แบบ Open Gate 7K มีขนาด 6960 x 4640 พิกเซล ในขณะที่ไฟล์ MP4 แบบ Open 7K มีขนาด 6912 x 4608 พิกเซล


ความแตกต่างระหว่างไฟล์แบบ Open Gate 7K และไฟล์ RAW 7K ทั่วไป

  7K Open Gate (3:2) 7K 60p RAW (17:9)
อัตราส่วนภาพ 3:2 17:9
อัตราเฟรมสูงสุด 30p 60p
ความละเอียด RAW: 6960 x 4640
MP4: 6912 x 4608
RAW: 6960 x 3672
รูปแบบการบันทึกที่รองรับ RAW, MP4 RAW เท่านั้น
การบันทึกไฟล์พร็อกซี/ไฟล์สำรอง เมื่อไฟล์หลักเป็นไฟล์ RAW: พร็อกซี FHD ในรูปแบบ XF-AVC S
การบันทึกไฟล์หลักแบบ MP4 ไม่สามารถบันทึกไฟล์สำรองได้
พร็อกซี 2K DCI XF-AVC S
หรือ
4K DCI Fine
XF-HEVC S/
ไฟล์สำรอง XF-AVC S


รูปแบบการบันทึกที่ EOS R6 Mark III รองรับ

EOS R6 Mark III รองรับความละเอียดในการบันทึกแตกต่างกันสูงสุด 11 แบบที่อัตราเฟรมหลากหลายระดับ จึงมอบตัวเลือกมากมายให้แต่ละโปรเจ็กต์ที่มีความต้องการแตกต่างกัน ซึ่งได้แก่:

- วิดีโอ 4K 30p แบบ Oversampled จาก 7K: เพื่อความละเอียดที่มากขึ้นและสิ่งแปลกปลอมที่น้อยลง
- วิดีโออัตราเฟรมสูงสุด 4K 120p และ Full HD/2K DCI 180p: สามารถใช้ในการสร้างวิดีโอสโลโมชั่นให้ลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วยความเร็วช้าลงสูงสุด 5 เท่าแบบ 4K และช้าลง 7.5 เท่าแบบ 2K หรือ Full HD

เคล็ดลับระดับมือโปร: บันทึกวิดีโออัตราเฟรมสูงในอัตราเฟรมต้นฉบับเพื่อให้ปรับความเร็วได้ง่ายขึ้นในขั้นตอนการตัดต่อ หรือใช้โหมดภาพเคลื่อนไหวสโลและฟาสต์โมชั่นแบบใหม่เพื่อให้คลิปสโล/ฟาสต์โมชั่นพร้อมใช้งานทันที! และโหมดนี้ยังรองรับการบันทึกแบบฟาสต์โมชันสูงสุด 60 เท่า ซึ่งเหมาะสำหรับการเร่งระยะเวลาในฉากที่ผ่านไปอย่างช้าๆ


รับชม: อัลตร้าสโลโมชั่นจาก 4K 120p

อัตราเฟรมสูงทำให้วิดีโอสโลโมชั่นของคุณดูไหลลื่นมากขึ้นดังตัวอย่างด้านบนซึ่งถ่ายที่ 4K 120p แล้วนำมาปรับแต่งภายหลังเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ให้ดูช้าลงและสื่อถึงอารมณ์

 

7. รองรับขั้นตอนการทำงานด้านสีและตัดต่อหลากหลายแบบ

รองรับทั้ง Canon Log 2 และ Log 3

EOS R6 Mark III เพิ่ม Canon Log 2 เข้ามาจาก Canon Log 3 ด้วย จึงมีตัวเลือกในการบันทึก Log มากขึ้นในการเกลี่ยสี

Canon Log 2: ให้ช่วงไดนามิกเรนจ์กว้างมากกว่า 15 สต็อปและสามารถคงรายละเอียดได้มากกว่าในส่วนที่มืด จึงสามารถปรับระดับแสงได้มากขึ้น

Canon Log 3: ทำให้เกิดจุดรบกวนในส่วนที่มืดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Canon Log 2 เนื่องจากเส้นโค้งของแกมมาจะกดส่วนเงาเพื่อคงช่วงไดนามิกเรนจ์ที่กว้างเอาไว้ วิธีนี้จะทำให้ภาพดูไม่แบนราบจนเกินไปและเกลี่ยสีได้ง่ายขึ้น

สำหรับกล้อง EOS R6 Mark III ทั้ง Canon Log 2 และ 3 จะเข้ากันได้กับ Cinema Gamut ซึ่งมีปริภูมิสีกว้างกว่าและช่วยให้แสดงสีสันได้สดใสยิ่งขึ้น


โหมดสี 3 แบบเพื่อขั้นตอนการทำงานและความต้องการที่แตกต่างกัน

EOS R6 Mark III มีโหมดสี 3 แบบที่สามารถปรับแต่งได้ในระดับที่แตกต่างกัน คุณจึงสามารถเลือกโหมดที่เหมาะกับความต้องการและขั้นตอนการทำงานของคุณได้

1. รูปแบบภาพ: รูปแบบที่ปรับแต่งไว้ล่วงหน้า/โปรไฟล์กล้องที่ปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย เปลี่ยนพารามิเตอร์พื้นฐาน เช่น ความเปรียบต่าง ความคมชัด ความอิ่มตัว และโทนสี
2. ฟิลเตอร์สี 14 แบบ: ทำให้ฟุตเทจ (และภาพนิ่ง) ของคุณมีสีสันราวกับภาพยนตร์ได้จากกล้องทันที โดยสีจะถูกฝังลงไปในไฟล์
3. โหมดรูปภาพแบบกำหนดเอง: เข้ากันได้กับ Cinema EOS รองรับการตั้งค่าสีระดับสูงและการใช้งานไฟล์ LUT/Look รวมถึงไฟล์ที่นำเข้ามาจากเว็บไซต์ไลบรารี LUT อย่างเป็นทางการของ Canon (ฉบับภาษาอังกฤษ)

ฟิลเตอร์สีจะเปลี่ยนอารมณ์ให้ภาพของคุณ หมายเหตุ: ภาพที่ใช้ด้านบนเป็นภาพประกอบเท่านั้นและไม่ได้ถ่ายด้วยกล้อง EOS R6 Mark III


อิสระในการตั้งค่ารูปแบบการบันทึกหลากหลายแบบตามต้องการ

เมื่อบันทึกในรูปแบบ MP4 กล้อง EOS R6 Mark III จะช่วยให้คุณตั้งค่าแกมมา การสุ่มสี ความลึกสี และตัวแปลงสัญญาณร่วมกันหลายแบบได้อย่างยืดหยุ่นให้เหมาะความต้องการในการตัดต่อและสภาพแวดล้อมการปรับแต่ง/ส่งมอบงานที่แตกต่างกัน การตั้งค่า 4K, 2K, Full HD และอัตราบิตจะเหมือนกับ EOS R1/R5 Mark II ขั้นตอนการทำงานจึงซับซ้อนน้อยลง ทั้งยังมีความสม่ำเสมอมากขึ้นและจัดการไฟล์ได้ง่ายขึ้นเมื่อใช้ในการผลิตที่ใช้กล้องหลายตัว

 

8. ฟีเจอร์อื่นๆ ที่โดดเด่นในการถ่ายวิดีโอ

ช่องต่อ HDMI Type-A

ช่องต่อเอาต์พุต HDMI แบบเต็มขนาด (Type-A) ช่วยให้การเชื่อมต่อ HDMI เสถียรและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

จอ Waveform

รองรับจอ Waveform Line และ RGB Parade ให้คุณตรวจสอบระดับความสว่างของทั้งฉากได้แบบเรียลไทม์ คุณสมบัตินี้เป็นคุณสมบัติเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากการแสดงสีเพี้ยนและ Zebra ที่มีอยู่แล้ว

ไฟแสดงการบันทึกและสัญญาณเน้นการบันทึก

ทำให้มองเห็นสถานะการบันทึกได้จากทั้งสองฝั่งของกล้อง

ฟีเจอร์สมดุลแสงขาวแบบใหม่

AWB Response ช่วยให้คุณตั้งค่าความเร็วในการเปลี่ยนสมดุลแสงขาวขณะใช้สมดุลแสงขาวอัตโนมัติได้ ในขณะที่ Shockless WB จะทำให้การเปลี่ยนฉากดูราบรื่นยิ่งขึ้นระหว่างปรับสมดุลแสงขาวด้วยตนเอง และยังสามารถกำหนดปุ่มสำหรับล็อค AWB ได้ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงขณะถ่ายวิดีโอ

โครงสร้างไฟล์ XF-AVC S และ XF-HEVC S

เช่นเดียวกับ EOS R1/ R5 Mark II กล้อง EOS R6 Mark III ใช้ระบบไฟล์แบบ XF-AVC S/XF-HEVC S ระบบนี้จะรองรับชื่อไฟล์ยาวๆ และมีโครงสร้างโฟลเดอร์แยกจากภาพนิ่ง ทำให้มีขั้นตอนการทำงานอีกแบบที่ MP4 ตามมาตรฐาน DCF ทั่วไปไม่สามารถทำได้

การสตรีมสด 2 โหมด

EOS R6 Mark III รองรับการสตรีมสดคุณภาพสูงสุด 4K 60p พร้อมรองรับ UVC/UAC ผ่านสาย USB-C หนึ่งเส้น สามารถสตรีมสดผ่าน USB โดยจ่ายไฟจากคอมพิวเตอร์ได้สูงสุดที่ Full HD เช่นกัน
หากต้องการสตรีมสดโดยใช้หลายมุมกล้องให้ดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นจากอุปกรณ์อินพุตหลายตัว ผู้ใช้สามารถสตรีมผ่าน HDMI ด้วยอุปกรณ์สลับสัญญาณ HDMI ได้

 

9. บอดี้กล้องทนทาน น่าเชื่อถือ พร้อมการจัดการความร้อนที่มีประสิทธิภาพ

EOS R6 Mark III ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกลางแจ้ง จึงมีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่นละอองและน้ำในระดับเดียวกับ EOS R6 Mark II วัสดุซีลและการออกแบบที่แม่นยำในจุดที่เหมาะสมช่วยป้องกันฝุ่นละออง หยดน้ำ และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ไม่ให้เข้าสู่ตัวกล้อง ขณะที่กลไกชัตเตอร์จะช่วยปกป้องเซนเซอร์ขณะเปลี่ยนเลนส์ และมีโครงสร้างบอดี้ทำจากแม็กนีเซียมอัลลอยที่คงทนเช่นเดียวกับ EOS R6 Mark II

 

เพื่อประสิทธิภาพที่น่าเชื่อถือระหว่างการบันทึกวิดีโอ RAW 7K กล้องจึงใช้โครงสร้างกระจายความร้อนที่สามารถถ่ายเทความร้อนจากภายในเซนเซอร์และระบบประมวลผลภาพออกสู่ภายนอกได้โดยอาศัยแผ่นกราไฟต์ นอกจากนี้ โครงสร้างแม็กนีเซียมอัลลอยและฝาปิดด้านหลังยังช่วยให้กระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS R6 Mark III
ดูข้อมูลเพิ่มเติม

 

EOS R6 Mark III: ภาพตัวอย่าง


EOS R6 Mark III/ RF50mm f/1.4L VCM/FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/3200 วินาที)/ ISO 100


EOS R6 Mark III/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/FL: 81 มม./ Manual exposure (f/3.5, 1/1250 วินาที)/ ISO 125


EOS R6 Mark III/ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/8, 1 วินาที)/ ISO 100

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา