ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

รู้จักกับเทคโนโลยีของ Canon: Dual Pixel CMOS AF คืออะไร

2023-01-11
0
964

คุณสมบัติที่สำคัญข้อหนึ่งของระบบ EOS จาก Canon คือ AF (โฟกัสอัตโนมัติ) ที่รวดเร็วและทรงพลัง ในยุคของกล้องมิเรอร์เลสนี้ หน้าที่ในการทำให้ AF มีความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพสูงขึ้นอยู่กับระบบ Dual Pixel CMOS AF ซึ่งใช้เทคโนโลยีการตรวจจับระยะตามระนาบภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของ Canon ระบบนี้ทำงานอย่างไร อะไรคือสิ่งที่ทำให้ระบบนี้มีความพิเศษ อ่านต่อเพื่อหาคำตอบว่า Dual Pixel CMOS AF ทำให้ AF มีทั้งความแม่นยำและคุณภาพของภาพอันยอดเยี่ยมได้อย่างไรในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ

ในบทความนี้:

1. Dual Pixel CMOS AF คืออะไร

1. Dual Pixel CMOS AF คืออะไร

Dual Pixel CMOS AF คือระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่กล้องมิเรอร์เลส EOS และกล้อง DSLR EOS รุ่นใหม่ของ Canon ใช้ขณะถ่ายแบบ Live View ระบบนี้จะใช้เทคโนโลยีตรวจจับระยะตามระนาบภาพรูปแบบหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Canon ในเทคโนโลยีนี้ ทุกพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพสามารถทำหน้าที่ในการตรวจจับระยะและสร้างภาพได้ ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ดังต่อไปนี้ 

- คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพของ AF 
- AF ครอบคลุมพื้นที่กว้าง: สูงสุด 100% ของพื้นที่ภาพ (อ่านต่อได้ที่นี่
- การขยายข้อมูลแสงจากเลนส์ความไวแสงสูง (รูรับแสงขนาดใหญ่) ได้ดียิ่งขึ้น (อ่านต่อได้ที่นี่
- การโฟกัสและติดตามอย่างรวดเร็วและลื่นไหลในระหว่างการถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว

ก่อนที่จะชื่นชม Dual Pixel CMOS AF ได้อย่างเต็มที่ เราควรทำความเข้าใจว่าการตรวจจับระยะ/การตรวจจับระยะตามระนาบภาพมักจะทำงานอย่างไร หากคุณคุ้นเคยกับคุณสมบัตินี้แล้ว คุณสามารถข้ามไปข้อ 4 ได้เลย โครงสร้างของ Dual Pixel CMOS AF เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของเทคโนโลยีนี้ 

2. เบื้องหลังทางเทคนิค: การตรวจจับระยะ/การตรวจจับระยะตามระนาบภาพคืออะไร

2. การตรวจจับระยะ (Phase detection) คืออะไร

วิธีหนึ่งในการคำนวณระดับการปรับโฟกัสโดยเปรียบเทียบความแตกต่างของแสงที่มาจากตำแหน่งที่ต่างกันสองแห่ง

ก่อนที่ Dual Pixel CMOS AF จะถือกำเนิดขึ้น มี AF ตรวจจับระยะอยู่สองประเภทหลักๆ ได้แก่ 

- AF ตรวจจับระยะแบบดั้งเดิม 
- AF ตรวจจับระยะตามระนาบภาพ 

การทำงานของคุณสมบัติทั้งสองแบบมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ AF ตรวจจับระยะแบบดั้งเดิมซึ่งใช้บนกล้อง DSLR จะรับข้อมูลจากเซนเซอร์ AF แยกกัน ในขณะที่การตรวจจับระยะตามระนาบภาพจะใช้ข้อมูลจากพิกเซลตรวจจับระยะบนเซนเซอร์กล้อง 

แต่คุณสมบัติทั้งสองนี้จะต้องใช้ข้อมูลการตัดส่วน (parallax) ซึ่งเป็นข้อมูลจากแสงที่มาจากตำแหน่งที่ต่างกันสองแห่ง (โดยจะสร้างภาพตัดส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อยสองภาพ) ระบบ AF จะใช้ข้อมูลการตัดส่วนนี้ในการคำนวณและปรับส่วนประกอบที่ทำหน้าที่โฟกัสของเลนส์เพื่อจับโฟกัส 

2.1. วิธีการทำงานของการตรวจจับระยะแบบดั้งเดิม (กล้อง DSLR)

วิธีการทำงานของ AF ตรวจจับระยะแบบดั้งเดิม

(ภาพนี้ใช้เป็นภาพประกอบเท่านั้น)

A: เพนทาปริซึม/เพนทามิเรอร์
B: หน้าจอช่องมองภาพแบบออพติคอล (OVF)
C: กระจกหลัก
D: กระจกรอง
E: ระบบเซนเซอร์ AF
F: ทางเดินแสง

ในกล้อง DSLR แสงที่เข้าสู่เลนส์ (F) จะเบนออกไปในสองทิศทางคือขึ้นและลงเนื่องจากกระจกหลักและกระจกรอง (C และ D)
แสงที่ถูกนำขึ้นไปด้านบนจะเดินทางผ่านส่วนของเพนทาปริซึม (A) ซึ่งฉายแสงไปยังหน้าจอ OVF (B) ในรูปแบบภาพ OVF
แสงที่ถูกนำลงมาด้านล่างจะเข้าไปยังระบบเซนเซอร์ AF ซึ่งอยู่ที่ด้านล่างของกล้อง (E)

ระบบเซนเซอร์ AF เองจะมีเลนส์ขนาดเล็กอีก 2 ชิ้น เลนส์เหล่านี้จะแบ่งแสงที่เข้ามาอีกครั้งเพื่อสร้างภาพตัดส่วนสองภาพบนเซนเซอร์ AF

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเซนเซอร์ตรวจจับระยะในกล้อง DSLR ได้ที่:
อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างเซนเซอร์แบบเส้นและเซนเซอร์แบบกากบาท

2.2. วิธีการทำงานของการตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไป

วิธีการทำงานของการตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไป

หากการตรวจจับระยะเกิดขึ้นบนเซนเซอร์ภาพแทนที่จะเป็นเซนเซอร์ AF จะเรียกว่า การตรวจจับระยะตามระนาบภาพ โดยทั่วไปแล้ว เซนเซอร์ภาพของกล้องที่ใช้วิธีนี้จะมีพิกเซล 2 ชนิด ได้แก่
- พิกเซลสำหรับตรวจจับระยะโดยเฉพาะ
- พิกเซลสำหรับสร้างภาพ 

ข้อมูลการตัดส่วนได้มาจากพิกเซลตรวจจับระยะที่ทำงานร่วมกันเป็นคู่ พิกเซลหนึ่งจะมีโฟโต้ไดโอด (ตัวรับแสงที่แปลงแสงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า) ในตำแหน่งทางซ้าย ในขณะที่อีกพิกเซลหนึ่งจะมีโฟโต้ไดโอดอยู่ทางขวา การตรวจจับระยะสามารถทำได้โดยการวิเคราะห์ความแตกต่างของข้อมูลจากทั้ง 2 พิกเซลนี้ 

ประสิทธิภาพของ AF จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีพิกเซลตรวจจับระยะมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีเช่นนี้จะทำให้จำนวนพิกเซลสร้างภาพลดน้อยลง ซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อคุณภาพของภาพ

3. ข้อเสียของการตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไป

3. ข้อเสียของการตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไป

ต้องเลือกระหว่างคุณภาพของภาพที่สูงและประสิทธิภาพ AF 

พิกเซลตรวจจับระยะบนเซนเซอร์ภาพที่ทำหน้าที่ตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไป วิธีนี้ทำให้เกิดช่องว่างบนพื้นที่ในส่วนที่จำเป็นต้องถูกเติมเต็มด้วยการประมาณค่าพิกเซล ซึ่งก็คือการประมาณค่าจากข้อมูลที่ได้จากพิกเซลสร้างภาพที่อยู่โดยรอบ 

AF ตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไป

ช่องว่างข้อมูลที่จำเป็นต้องถูกเติมเต็มด้วยการประมาณค่าพิกเซล ( interpolation)

คุณภาพของภาพจึงขึ้นอยู่กับปริมาณการประมาณค่าพิกเซลที่เกิดขึ้น การประมาณค่าพิกเซลเป็นวิธีหนึ่งในการเติมข้อมูลที่หายไปโดยการใช้ข้อมูลที่อยู่รอบๆ ในการประมาณว่ารายละเอียดที่หายไปอาจจะเป็นอะไร แม้อาจจะทำได้อย่างแม่นยำ แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้เมื่อเทียบกับการได้รับข้อมูลมาจากแหล่งโดยตรง

กระบวนการสร้างภาพสีโดยปกติจะเกี่ยวข้องกับการประมาณค่าพิกเซลอยู่แล้ว เนื่องจากพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพนั้น "ตาบอดสี" ในตัวเอง จึงสามารถรับรู้และบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณแสงที่ผ่านเข้ามาถึงตนเองได้เท่านั้น แต่ข้อมูลสีจะถูกบันทึกโดยฟิลเตอร์สี (ฟิลเตอร์ Bayer) RGB (แดง เขียว และน้ำเงิน) ที่อยู่ด้านหน้าเซนเซอร์ ด้วยความช่วยเหลือจากฟิลเตอร์ Bayer ข้อมูลจากสีใดสีหนึ่งใน 3 สีจึงถูกบันทึกลงไปในแต่ละพิกเซล ข้อมูลจากแต่ละพิกเซลจะถูกเสริมด้วยข้อมูลจากพิกเซลที่อยู่รอบๆ ในการสร้างภาพที่มีสีสันครบถ้วน

ในการตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไป "ช่องว่าง" ของข้อมูลภาพในพื้นที่ที่มีพิกเซลตรวจจับระยะ (แทนที่จะเป็นพิกเซลสร้างภาพ) จะต้องถูกเติมเต็มด้วยการประมาณค่าพิกเซลเช่นกัน โดยใช้ข้อมูลจากพิกเซลสร้างภาพที่อยู่รอบๆ วิธีนี้จะทำให้คุณภาพของภาพมีโอกาสได้รับผลกระทบมากขึ้น


สามารถทำอะไรได้อีกบ้างและทำไมบางอย่างถึงไม่ได้ผล

ในระบบนี้ จะเกิดการสูญเสียคุณภาพของภาพหรือประสิทธิภาพ AF อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ:
- การลดจำนวนและความหนาแน่นของพิกเซลตรวจจับระยะจะลดผลกระทบที่มีต่อคุณภาพของภาพได้ แต่ก็จะสูญเสียประสิทธิภาพ AF ด้วยเช่นกัน
- การกำหนดค่าให้พิกเซลตรวจจับระยะอยู่ในเส้นต่อเนื่องกัน (ซึ่้งเป็นการเพิ่มจำนวนและความหนาแน่น) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ AF ได้ อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่า "ช่องว่าง" ในข้อมูลการสร้างภาพที่หายไปซึ่งจำเป็นต้องถูกเติมเต็มด้วยการประมาณค่าพิกเซลจะมีขนาดใหญ่ขึ้น
- การเพิ่มจำนวนจุด AF หรือขนาดพื้นที่ AF จะต้องอาศัยการลดจำนวนพิกเซลสร้างภาพเสมอ

Dual Pixel CMOS AF คือวิธีการแก้ปัญหาที่ Canon ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของ AF โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของภาพ เนื่องจากทุกพิกเซลสามารถทำได้ทั้งตรวจจับระยะและสร้างภาพ

4. โครงสร้างของระบบ Dual Pixel CMOS AF

4. โครงสร้างของระบบ Dual Pixel CMOS AF

Dual Pixel CMOS AF: โฟโต้ไดโอด 2 อันบนทุกๆ พิกเซลทำให้พิกเซลทั้งหมดสามารถตรวจจับระยะและสร้างภาพได้

สำหรับเซนเซอร์ภาพที่ออกแบบมาสำหรับ Dual Pixel CMOS AF แต่ละพิกเซลจะมีโฟโต้ไดโอด 2 อันดังแสดงในภาพประกอบ ขณะตรวจจับระยะ ข้อมูลจากโฟโต้ไดโอด A และ B จะถูกอ่านแยกกันแล้วนำมาเปรียบเทียบ ขณะสร้างภาพ ข้อมูลจากโฟโต้ไดโอดทั้งสองจะถูกนำมารวมกันและอ่านค่าเป็นสัญญาณเดียวโดยสมบูรณ์


เนื่องจากโฟโต้ไดโอด A และ B นั้นแยกออกจากกัน แต่ละโฟโต้ไดโอดจะสร้างภาพที่มีมุมมองไม่เหมือนกัน ("ภาพตัดส่วน") ระบบ AF จะวิเคราะห์ความแตกต่างเหล่านั้น (ปริมาณความเบลอ) วัดปริมาณ และนำมาใช้ในการคำนวณว่าจะเคลื่อนย้ายเลนส์อย่างไรเพื่อให้ภาพทั้งสองตรงกัน (= ตัวแบบอยู่ในโฟกัส)

ข้อควรรู้: การตรวจจับระยะเทียบกับการตรวจจับความเปรียบต่าง

การตรวจจับระยะนั้นเร็วกว่าการตรวจจับความเปรียบต่าง ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมใช้ในการตรวจจับความเปรียบต่างระดับไมโครที่ขอบภาพ การตรวจจับความเปรียบต่างจะไม่ได้ข้อมูลด้านระยะห่าง ซึ่งไม่เหมือนกับการตรวจจับระยะ แต่จะวิเคราะห์ภาพที่ฉายลงไปบนเซนเซอร์ภาพเพื่อดูความแตกต่างของความเปรียบต่าง และเคลื่อนย้ายชุดโฟกัสจนกระทั่งความเปรียบต่างคมชัดที่สุด วิธีนี้คล้ายกับการทำงานของสมองของเราขณะจับโฟกัสแบบแมนนวลโดยไม่มีตัวช่วยใดๆ ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำ แต่ช้ากว่า นอกจากนั้น วิธีนี้ยังต้องอาศัยการไล่หาจุดโฟกัสมากกว่าด้วย ซึ่งอาจเป็นปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายวิดีโอ

เมื่อเปรียบเทียบกัน การตรวจจับระยะจะสามารถบอกได้ว่าจุดโฟกัสในปัจจุบันอยู่ที่ด้านหน้า (โฟกัสด้านหน้า) หรือด้านานหลัง (โฟกัสด้านหลัง) ของตัวแบบ วิธีนี้ทำให้สามารถคำนวณได้อย่างรวดเร็วว่าต้องเคลื่อนย้ายชุดโฟกัสของเลนส์มากเพียงใด ซึ่งทำให้ได้โฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำ

5. ประโยชน์ของ Dual Pixel CMOS AF

5. Dual Pixel CMOS AF มีข้อดีอย่างไรบ้าง

5.1. ประโยชน์ทั้งสองด้าน นั่นคือ คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมและ AF ประสิทธิภาพสูง

1. ประโยชน์ของคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมและ AF ประสิทธิภาพสูง

ต่อไปนี้เป็นการเปรียบเทียบเลย์เอาต์ของการตรวจจับระยะตามระนาบภาพแบบทั่วไปและ Dual Pixel CMOS AF สังเกตว่า Dual Pixel CMOS AF จะเติมเต็ม “ช่องว่างข้อมูล” ทั้งในการตรวจจับระยะและการสร้างภาพ

 

ในระบบ Dual Pixel CMOS AF ทุกพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพสามารถทำหน้าที่ในการตรวจจับระยะและสร้างภาพได้ ซึ่งทำให้เกิดเป็น AF ที่รวดเร็ว แม่นยำ และยืดหยุ่นครอบคลุมเฟรมภาพเป็นพื้นที่กว้าง

ข้อควรรู้: ระบบก่อนหน้า Dual Pixel CMOS AF คืออะไร

ก่อนจะมีระบบ Dual Pixel CMOS AF กล้องมิเรอร์เลส (รวมถึงกล้องคอมแพคและกล้องถ่ายวิดีโอ) ใช้การตรวจจับความเปรียบต่างหรือการตรวจจับระยะแบบทั่วไป หรือผสมทั้งสองระบบ และกล้อง DSLR ก็ใช้การตรวจจับความเปรียบต่างขณะบันทึกวิดีโอเช่นกัน เนื่องจากไม่สามารถตรวจจับระยะได้เพราะกระจกถูกล็อคเอาไว้

Canon ได้พัฒนาระบบ Dual Pixel CMOS AF ขึ้นมาเนื่องจากคาดการณ์ได้ว่าความต้องการถ่ายวิดีโอจะเพิ่มมากขึ้นและกล้องมิเรอร์เลสจะกลายเป็นที่นิยม ระบบเปิดตัวไปเมื่อปี 2013 ในกล้อง EOS 70D ซึ่งทำให้ AF ตรวจจับระยะทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ

5.2. พื้นที่ครอบคลุม AF 100%

2. พื้นที่ครอบคลุม AF 100%

เมื่อพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพทั้งหมดสามารถตรวจจับระยะได้ จึงมี AF ที่ครอบคลุมพื้นที่ภาพมากกว่า อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยพิกเซลเพียงพิกเซลเดียว ตัวแบบจะถูกตรวจจับเมื่อพิกเซลจำนวนมากทำการตรวจจับระยะของข้อมูลภาพภายในพื้นที่ AF หนึ่ง ด้วยเหตุนี้ กล้องทุกรุ่นจึงมาพร้อมกับโหมดพื้นที่ AF ที่หลากหลายเพื่อรองรับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างโหมดพื้นที่ AF


ยกตัวอย่างเช่น
- AF จุดเดียว จะให้พื้นที่ AF ขนาดเล็กที่มีความแม่นยำเหนือตัวแบบที่คุณจับโฟกัสมากขึ้น ซึ่งทำให้คุณควบคุมองค์ประกอบภาพได้ดียิ่งขึ้น
- โหมด ขยายพื้นที่ AF ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามขณะถ่ายตัวแบบที่กำลังเคลื่อนที่ เนื่องจากระบบใช้ข้อมูลการตรวจจับระยะจากพื้นที่ที่อยู่รอบๆ พื้นที่ของ AF จุดเดียวด้วยเช่นกัน
- AF จุดเล็ก ให้พื้นที่ AF ที่เล็กกว่า AF จุดเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับฉากที่ต้องการการโฟกัสที่แม่นยำมาก
- AF ทั่วพื้นที่ จะแบ่งพื้นที่ภาพทั้งหมดออกเป็นโซนกรอบ AF ที่หนาแน่นสำหรับ AF ยกตัวอย่างเช่น กล้อง EOS R6 Mark II จะมี AF 1053 โซนซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 90%×100% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของเฟรมภาพ

นอกจากนี้ Dual Pixel CMOS AF ยังทำงานร่วมกันได้กับระบบตรวจจับตัวแบบและติดตามตัวแบบ EOS iTR AF เมื่อตรวจพบตัวแบบ AF จะมีความครอบคลุมได้สูงสุดถึง 100% ของพื้นที่ภาพ (อาจแตกต่างกันไปในกล้องแต่ละรุ่น)

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: 
การจัดองค์ประกอบภาพทำได้ง่ายขึ้นในกล้องมิเรอร์เลสใช่หรือไม่

5.3. ใช้ประโยชน์จากเลนส์ไวแสงได้อย่างเต็มที่

3. ใช้ประโยชน์จากเลนส์ไวแสงได้อย่างเต็มที่

มาทบทวนกันอีกครั้ง: ภาพตัดส่วนที่ใช้ในการคำนวณ AF ด้วยวิธีการแบบตรวจจับระยะมี 2 ภาพ ภาพหนึ่งมาจากโฟโต้ไดโอดทางซ้าย และอีกภาพหนึ่งมาจากโฟโต้ไดโอดทางขวา ภาพเหล่านี้แตกต่างกันเนื่องจากแสงที่ทำให้เกิดภาพเข้ามาถึงฝั่งซ้ายและขวาตามลำดับจากเส้นทางที่ต่างกัน

เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดกว้าง (“เลนส์ไวแสง”) จะมีไดอะแฟรมรูรับแสง (ช่องเปิดของเลนส์) ที่ใหญ่กว่า ดังนั้น ช่องว่างระหว่างเส้นทางไปยังโฟโต้ไดโอดทางฝั่งซ้ายและขวาจึงกว้างขึ้นไปอีก ซึ่งส่งผลให้ภาพตัดส่วนมีความแตกต่างกันมากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้คำนวณ AF ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

เซนเซอร์ตรวจจับระยะในกล้อง DSLR อาจเรียกได้ว่า ไวต่อค่า f/2.8 ไวต่อค่า f/5.6 หรืออื่นๆ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเซนเซอร์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับแสงที่มีความยาวฐานบางช่วง และทำงานเมื่อใช้กับเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดตามค่า f ที่กำหนดไว้หรือเร็วกว่าเท่านั้น ยิ่งค่า f ใน “ไวต่อค่า f/” น้อยเท่าใด เซนเซอร์ก็จะแม่นยำขึ้นเท่านั้น ดังนั้น เซนเซอร์ที่ไวต่อค่า f/5.6 จึงสามารถทำงานร่วมกับเลนส์ f/2.8 ได้ แต่จะไม่แม่นยำเท่าเซนเซอร์ที่ไวต่อค่า f/2.8 นอกจากนี้ แม้คุณจะใช้เลนส์ที่ไวกว่า f/2.8 (เช่น f/1.8) เซนเซอร์ที่ไวต่อค่า f/2.8 จะเริ่มตรวจจับระยะได้ที่ค่า f/2.8 เช่นกัน

แต่ไม่มีข้อจำกัดเช่นนี้กับระบบ Dual Pixel CMOS AF ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดซึ่งพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพรวบรวมมาได้ ข้อมูลแสงที่เพียงพอซึ่งเลนส์ไวแสงปล่อยให้ผ่านเข้ามาในกล้องจะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงมีส่วนช่วยให้ AF เร็วและแม่นยำมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
เลนส์ไวแสงทำให้มองเห็นผ่านช่องมองภาพได้ง่ายขึ้นหรือไม่

6. Dual Pixel CMOS AF II มีความแตกต่างอย่างไร

6. Dual Pixel CMOS AF II มีความแตกต่างอย่างไร

Dual Pixel CMOS AF II คือเวอร์ชันของ Dual Pixel CMOS AF ที่รองรับ EOS iTR AF X ระบบตรวจจับและติดตามตัวแบบของ Canon ที่ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก

ในขณะที่กล้องมิเรอร์เลสได้เข้ามาแทนที่กล้อง DSLR มากขึ้นในฐานะกล้องแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ที่ผู้ใช้เลือก รวมทั้งมีผู้ที่ถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเพิ่มขึ้นด้วย Dual Pixel CMOS AF จึงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่จำเป็นต่อการพัฒนาความสามารถของกล้อง

7. สรุป: คุณสมบัติที่สำคัญของ Dual Pixel CMOS AF

7. สรุป: คุณสมบัติที่สำคัญของ Dual Pixel CMOS AF

- ให้ AF ครอบคลุมพื้นที่กว้าง โฟกัสราบรื่น การติดตามที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขณะถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
- โฟกัสได้อย่างราบรื่นเนื่องจากใช้การตรวจจับระยะทั้งหมดโดยไม่เปลี่ยนไปใช้หรือเปลี่ยนจากการตรวจจับความเปรียบต่าง
- ทุกพิกเซลบนเซนเซอร์ภาพสามารถทำหน้าที่ในการตรวจจับระยะและสร้างภาพได้ คุณสมบัตินี้ทำให้ AF มีประสิทธิภาพและความครอบคลุมสูง ทั้งยังให้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องลดทอนคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง


Canon Dual Pixel CMOS AF (YouTube)

 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอื่นๆ ของ Canon ได้ที่
รู้จักกับเทคโนโลยีของ Canon: DIGIC คืออะไร
Nano USM: การโฟกัสที่รวดเร็วและราบรื่นเพียงปลายนิ้วสัมผัส

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา