ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด In Focus: รีวิว EOS R6- Part3

ข้อเท็จจริงที่สำคัญ 7 ข้อเกี่ยวกับกล้อง EOS R6

2020-07-20
36
17.85 k
ในบทความนี้:

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2020 Canon ได้เปิดตัว EOS R6 กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการเปิดตัวที่สร้างความประหลาดใจเมื่อเทียบกับ EOS R5 ซึ่งทุกคนรอคอยเป็นเวลาหลายเดือน ด้วยสเปคหลายอย่างที่เหมือนกับ EOS-1D X Mark III กล้อง DSLR รุ่นเรือธงของ Canon รวมทั้งประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยและความไวแสง ISO ที่สูงกว่า EOS R5 กล้อง EOS R6 จึงมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมอย่างครบถ้วน เราจะมาทำความรู้จักคุณสมบัติหลักของกล้องให้มากขึ้นในบทความนี้

 

โฉมใหม่ของซีรีย์ EOS ‘6’

เชิญพบกับฝาแฝดเทียมของกล้อง EOS R5

ในซีรีย์ EOS DSLR ซีรีย์ 6D ก็เหมือนกับน้องเล็กของซีรีย์ 5D แม้กล้อง 6D จะมีจำนวนพิกเซลและความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ต่ำกว่า แต่ก็สามารถให้คุณภาพของภาพแบบฟูลเฟรมที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่ชื่นชอบด้วยบอดี้ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และพกพาได้สะดวก EOS R6 มีเลข ‘6’ อยู่ในชื่อ จึงดูเหมือนอาจจะมีความสัมพันธ์เช่นเดียวกับกล้อง EOS R5 แต่แทนที่จะเป็นน้องเล็ก กลับเหมือนเป็นฝาแฝดเทียมมากกว่า

ในด้านรูปลักษณ์ กล้อง EOS R6 มีวงแหวนปรับโหมดอยู่ที่ด้านบนของแผงหน้าจอกล้อง EOS R5 แต่ปุ่ม วงแหวน และการควบคุมอื่นๆ นั้นเป็นแบบเดียวกัน รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงสุด 20 fps ด้วย ความละเอียดของภาพนั้นต่ำกว่าที่ 20.1 ล้านพิกเซล แต่ในทางกลับกัน ก็ให้ประสิทธิภาพความไวแสง ISO สูงที่ดีกว่า และมีความสามารถในการบันทึกวิดีโอแบบ 4K UHD ที่เพียงพอสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการผลิตวิดีโอ 4K

อ่านต่อเพื่อทำความรู้จักกล้อง EOS R6 ให้มากขึ้น

ภาพระยะใกล้ของกล้อง EOS R6 จากด้านหน้า

 

7 คุณสมบัติเด่นของกล้อง EOS R6

1. ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพเท่ากล้อง EOS-1D X Mark III ในบอดี้มิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัด
2. ถ่ายภาพความเร็วสูงโดยแทบไม่มีเสียงได้สูงสุด 20 fps
3. ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ประสิทธิภาพสูงขึ้นที่สามารถตรวจจับและติดตามดวงตาของนกได้
4. ถ่ายวิดีโอ 4K แบบไม่ครอปพร้อมรองรับ HDR PQ
5. ระบบ IS ในบอดี้เพื่อการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 8 สต็อป
6. ความเข้ากันได้กับระบบคลาวด์: รองรับ image.canon เต็มรูปแบบ
7. มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และมีความทนทานที่เพียงพอ

 

1. ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพเท่ากล้อง EOS-1D X Mark III ในบอดี้มิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัด

เซนเซอร์ภาพที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อ EOS-1D X Mark III กล้อง DSLR รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดของ Canon มีความละเอียดสูงพิเศษ จุดรบกวนต่ำ และสามารถถ่ายภาพตัวแบบได้สดใสสมจริง กล้อง EOS R6 ก็ใช้เซนเซอร์เดียวกันนี้ แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับระบบกล้องมิเรอร์เลส EOS R 

ด้วยอัตราสัญญาณเสียงต่อคลื่นรบกวนและไดนามิกเรนจ์อันยอดเยี่ยมรวมทั้งการอ่านสัญญาณด้วยความเร็วสูง เซนเซอร์ภาพจึงทำงานได้อย่างราบรื่นร่วมกับระบบประมวลผลภาพ DIGIC X รุ่นใหม่อันทรงพลังเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความเร็วอันโดดเด่น ซึ่งรวมถึงความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ 20 fps ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ที่ได้รับการพัฒนา และความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 4K HDR

 

เซนเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมความละเอียด 20.1MP ที่รวดเร็วและมีความไวสูง

กล้อง EOS R6 ใช้เซนเซอร์ภาพของ EOS-1D X Mark III ในเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงมาแล้ว ซึ่งนี่เป็นกล้อง DSLR รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดของ Canon ที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของบริษัทที่จะมอบสเปคสูงสุดให้กับกล้อง

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X

มีกำลังในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงและการลดจุดรบกวนของกล้อง จึงทำให้สามารถใช้ความไวแสง ISO ปกติสูงสุดที่ ISO 102,400 รวมถึง AF ในสภาวะแสงน้อยที่ EV -6.5 ได้


ความไวแสง ISO ปกติสูงสุดที่ 102,400

ด้วยความสามารถในการพิมพ์ภาพขนาด A3 ความละเอียดของภาพราว 20.1 ล้านพิกเซลจึงมีขนาดของพิกเซลที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้แสงผ่านเข้ามาได้มากขึ้น จึงทำให้มีความไวแสง ISO ที่ดีขึ้น คุณสมบัตินี้ เมื่อรวมกับประสิทธิภาพการลดจุดรบกวนอันทรงพลังของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X แล้ว ทำให้ EOS R6 มีความไวแสง ISO ที่สูงจนน่าทึ่ง ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้ภาพที่คมชัดแม้ใช้ความไวแสง ISO 102,400 ในการถ่ายภาพนิ่งและ ISO 25,600 ในการถ่ายภาพเคลื่อนไหว


รายละเอียดที่สวยงามและประณีต

นอกจากจะให้โบเก้ที่สวยงามซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเซนเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรมแล้ว เซนเซอร์ภาพรุ่นใหม่นี้ยังสามารถแสดงรายละเอียดได้อย่างคมชัดอีกด้วย กล้อง EOS R6 สามารถบันทึกไฟล์ HDR PQ HEIF 10 บิต ได้นอกเหนือจาก RAW, C-RAW และ JPEG นี่จึงเป็นการเพิ่มขอบเขตความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพ HDR ที่มีทั้งไฮไลต์ที่เด่นชัดและรายละเอียดในส่วนที่เป็นเงาได้ในภาพเดียวโดยไม่ต้องซ้อนภาพหลายชั้นหรือทำการปรับแต่งภาพ RAW

 

2. ถ่ายภาพความเร็วสูงโดยแทบไม่มีเสียงได้สูงสุด 20 fps

กล้อง EOS R6 มีวิธีการขับเคลื่อนชัตเตอร์สามแบบ ได้แก่
- ชัตเตอร์กล: เป็นวิธีการดั้งเดิมซึ่งทั้งม่านชัตเตอร์ชุดแรกและชุดที่สองเป็นม่านชัตเตอร์จริง
- ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรก: ม่านชุดแรกเป็นชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่ม่านชุดที่สองเป็นใบม่านชัตเตอร์จริง
- ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์: ทั้งม่านชุดแรกและชุดที่สองถูกเปิด/ปิดด้วยชัตเตอร์อิเล็กทอนิกส์ ซึ่งหมายความว่า พิกเซลในเซนเซอร์ภาพจะถูกเปิด/ปิดแทนที่จะเป็นการปิดใบม่านชัตเตอร์กล

ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องสูงสุดของกล้อง EOS R6


ทำงานได้โดยแทบไม่มีเสียง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ไม่ต้องการเป็นจุดสนใจ

เนื่องจากไม่มีการเคลื่อนไหวของชัตเตอร์จริงเข้ามาเกี่ยวข้องในชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ จึงสามารถลั่นชัตเตอร์ได้โดยไม่มีเสียง (ยังคงมีเสียงอยู่บ้างจาก AF ของเลนส์และกลไกของรูรับแสง) แม้ในขณะถ่ายต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 20 fps พร้อมการติดตาม AF/AE ทำให้เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่คุณต้องการความรวดเร็วโดยไม่ต้องเป็นจุดสนใจ เช่น ในคอนเสิร์ตหรือฉากที่มีสัตว์ป่าซึ่งตื่นตกใจได้ง่าย 

สำหรับการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดการบิดเบี้ยวจาก Rolling Shutter ควรถ่ายด้วยชัตเตอร์กล ซึ่งสามารถรองรับการถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 12 fps พร้อมการติดตาม AF/AE เลือกใช้ชัตเตอร์ให้เหมาะสมกับฉากของคุณที่สุด!


ภาพระยะใกล้ของกล้อง EOS R6 จากด้านหน้า

EOS R6/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 500 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/1600 วินาที)/ ISO 1600/ WB: แสงแดด


กล้อง EOS R6 มีโหมดขับเคลื่อนในการถ่ายภาพต่อเนื่องสามแบบได้แก่
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง + (H+)
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง (H)
- การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วต่ำ (L)

ปัจจัยหลายอย่าง เช่น กำลังแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ มีผลต่อความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจริง ไอคอนของโหมดขับเคลื่อนในหน้าจอ EVF/Live View จะเปลี่ยนสีเพื่อแสดงความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่สามารถถ่ายได้จริง

โหมดขับเคลื่อนและความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องของกล้อง EOS R6

สีของไอคอนในโหมดขับเคลื่อน
โหมด A: สีเขียว
โหมด B: สีขาว
โหมด C: สีขาวกะพริบ

*ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงของชัตเตอร์กล/ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแบตเตอรี่/การชาร์จที่เหลือ อุณหภูมิ Wi-Fi ในตัว (‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’) การลดแสงที่สั่นไหว ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง ประเภทของเลนส์ และอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้

 

3. ระบบ AF ประสิทธิภาพสูงขึ้นที่สามารถตรวจจับและติดตามดวงตาของนกได้

ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ในกล้อง EOS R6 ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยความสามารถในการประมวลผลของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X และอัลกอริธึมใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก ระบบได้รับการปรับปรุงความสามารถในการตรวจจับศีรษะมนุษย์ ซึ่งทำให้ติดตามศีรษะของตัวแบบได้ “เหนียวแน่น” ขึ้นในฉากที่มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและรุนแรง รวมทั้ง Animal Detection AF ซึ่งสามารถตรวจจับและติดตามดวงตา ใบหน้า และร่างกายของสุนัข แมว หรือแม้แต่นกได้ 

AF สำหรับตรวจจับดวงตามนุษย์ก็ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน เพราะในขณะนี้ Eye Detection AF สามารถตรวจจับดวงตาได้แล้วแม้ใบหน้าของตัวแบบจะกินพื้นที่เป็นบริเวณน้อยกว่าในภาพ

สุนัขสีดำในเวลากลางคืน

EOS R6/ RF50mm f/1.2L USM/ FL: 50 มม./ Manual exposure (f/1.2, 1/320 วินาที)/ ISO 3200/ WB: อัตโนมัติ

รูม่านตาสีดำของสุนัขสีดำ นี่เป็นภาพที่มีความท้าทายอย่างมากสำหรับ AF ในการหาเป้าหมายในฉากเช่นนี้! AF แบบเดิมมักจะโฟกัสไปที่จมูกของสุนัขเนื่องจากอยู่ใกล้กับกล้องมากที่สุด แต่ Animal Detection AF ของกล้อง EOS R6 สามารถตรวจจับดวงตาของสุนัขได้อย่างง่ายดายแม้ในความมืด


โฟกัสอัตโนมัติในสภาวะที่มืดถึง EV -6.5

ด้วยขีดจำกัดของ AF ในสภาวะแสงน้อยต่ำสุดที่ EV -6.5 กล้อง EOS R6 จึงรับมือกับฉากที่มืดได้ดีกว่า EOS R5 สำหรับส่วนที่เป็นไฮไลต์ กล้องทั้งสองรุ่นมีความสามารถเหมือนกันในการโฟกัสได้สูงสุดที่ EV +20 จึงมี AF ที่แม่นยำขึ้นสำหรับตัวแบบที่มีความสว่าง เช่น บนพื้นที่ใกล้ไฟหน้ารถ


พื้นที่ AF ที่ใหญ่และหนาแน่นขึ้น

เมื่อใช้กับเลนส์ RF/EF ที่เข้ากันได้ ในโหมดเลือกพื้นที่ AF อัตโนมัติ เช่น ใบหน้า + การติดตาม AF พื้นที่ AF จะครอบคลุม 100% ของเฟรมภาพเฟรมภาพ โดยมี AF ให้เลือกได้สูงสุด 1,053 โซน ในโหมดการเลือก AF ด้วยตนเอง เช่น โหมด Expanded AF Area และ Zone AF จะมี AF ครอบคลุมพื้นที่ 90% × 100% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของพื้นที่ภาพและมีตำแหน่ง AF ที่สามารถเลือกเองได้สูงสุด 6,072 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่ากล้อง EOS R5 คุณสมบัตินี้ทำให้มี AF ที่แม่นยำกว่า จึงมีอิสระมากขึ้นในการจัดองค์ประกอบภาพได้อย่างสร้างสรรค์


คุณสมบัติเด่นอื่นๆ ของ AF
- Case การติดตามตัวแบบใน Servo AF ที่สามารถปรับแต่งเองได้เทียบเท่ากับกล้อง EOS-1D X Mark III
- ฟังก์ชั่น Focus Bracketing
- เข้ากันได้กับการโฟกัสที่ f/22

เลนส์ RF800mm f/11 IS STM + ตัวขยายช่องมองภาพ RF2x + กล้อง EOS R6

เมื่อใช้เลนส์ RF800mm f/11 IS STM ที่ติดตั้งตัวขยายช่องมองภาพ RF 2x รูรับแสงกว้างสุดจะกลายเป็น f/22 ที่ทางยาวโฟกัส 1600 มม.

อย่างไรก็ตาม การที่สามารถใช้ AF ได้ที่ f/22 หมายความว่าโฟกัสอัตโนมัติจะยังคงทำงานได้โดยครอบคลุมพื้นที่ 40% × 60% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของเฟรมภาพ ค่า f/22 มักจะทำให้ภาพในช่องมองภาพแบบออพติคอลมืดเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายในสภาวะแสงน้อย อย่างไรก็ตาม EVF ในกล้อง EOS R6 ไม่เพียงแต่มีแสงในช่องมองภาพที่สามารถเพิ่มความสว่างของหน้าจอเพื่อให้คุณมองเห็นการจัดเฟรมและองค์ประกอบภาพได้เท่านั้น แต่ยังสามารถจำลองค่าการเปิดรับแสงเพื่อให้คุณเห็นผลที่ได้ในภาพและทำการปรับเปลี่ยนที่จำเป็นได้อีกด้วย 

 

4. ถ่ายวิดีโอ 4K แบบไม่ครอปพร้อมรองรับ HDR PQ

กล้อง EOS R6 รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K UHD และ Full HD แบบไม่ครอป 4K UHD เป็นมาตรฐานของวิดีโอ 4K ในการแพร่ภาพโทรทัศน์ จึงเข้ากันได้กับชุดโทรทัศน์ 4K ภายในบ้านส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่อกล้องของคุณเข้ากับชุดโทรทัศน์ได้อย่างง่ายดายด้วยสาย HDMI เพื่อรับชมคลิปวิดีโอ 4K ที่คุณถ่ายไว้!

วิดีโอ 4K UHD จะถูกบันทึกโดยใช้ 94% ของความกว้างเซนเซอร์ภาพ จึงทำให้สามารถทำการสุ่มด้วยความถี่สูง 5.1K ได้ ซึ่งทำให้ได้ฟุตเทจ 4K คุณภาพสูงขึ้นและมีเอฟเฟ็กต์มอเร่ สีเพี้ยน และจุดรบกวนในภาพน้อยลง


กระบวนการสุ่มด้วยความถี่สูง 5.1K

การสร้างใหม่ (ภาพเคลื่อนไหว 4K สุ่มด้วยความถี่สูงจาก 5.1K)

เคล็ดลับน่ารู้: คุณสามารถถ่ายในรูปแบบ Super 35 มม. ได้ด้วย
โหมด 4K UHD แบบครอปจะครอปภาพให้อยู่ในมุมรับภาพที่เทียบเท่ากับรูปแบบ Super 35 มม. ที่ใช้ในกล้องถ่ายทำภาพยนตร์


ขนาดการบันทึกของโหมดการถ่ายภาพต่างๆ 

ความละเอียดในการถ่ายภาพเคลื่อนไหวของกล้อง EOS R6

1: 4K UHD (3840 x 2160) H:94%, V:79%
2: 4K UHD แบบครอป (3840 x 2160) H:62%, V:53%
3: FHD แบบครอป (1920 x 1080) H:62%, V:53%
4: FHD (1920 x 1080)


รูปแบบการบันทึกวิดีโอ 4K/FHD
- MP4 H.264/MPEG-4 AVC (YCbCr 4:2:0/ 8-บิต/ BT.709)
- MP4 H.264/HEVC HDR PQ (YCbCr 4:2:2/ 10-บิต/ BT.2020)
- MP4 H.264/HEVC Canon-Log (YCbCr 4:2:2/ 10-บิต/ BT.709 หรือ BT.2020)
4K UHD แบบไม่ครอป/ครอป: NTSC 59.94/29.97/23.98 fps, PAL 50.00/25.00 fps (IPB)
FHD แบบไม่ครอป/ครอป: NTSC 59.94/29.97/23.98 fps, PAL 50.00/25.00 fps (IPB/IPB เบา*)
* IPB (เบา) สามารถเลือกได้เมื่อตั้งค่าอัตราเฟรมที่ NTSC 23.98 fps, PAL 25.00 fps


รองรับภาพเคลื่อนไหว HDR PQ

เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการถ่ายวิดีโอแบบ HDR ที่เพิ่มขึ้น กล้อง EOS R6 จึงรองรับการบันทึกในโหมด HDR PQ ซึ่งให้ไดนามิกเรนจ์กว้างใกล้เคียงกับการรับรู้ของมนุษย์ คุณจึงสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ดูสมจริงเป็นพิเศษได้เมื่อรับชมผ่านโทรทัศน์ 4K HDR แม้ไม่มีการปรับแก้สี 

หรือคุณจะเลือกบันทึกด้วย Canon Log 10 บิตก็ได้เช่นกัน การบันทึกแบบนี้จะให้ไดนามิกเรนจ์ 12 สต็อปซึ่งช่วยในการปรับแก้สีระหว่างกระบวนการปรับแต่งภาพด้วย 


Dual Pixel CMOS AF II สำหรับวิดีโอ

ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจใช้การบันทึกด้วยสัญญาณหรือรูปแบบใด* คุณก็สามารถใช้การติดตามของ Movie Servo AF โดย Dual Pixel CMOS AF II ได้ จึงมั่นใจได้ว่าตัวแบบของคุณจะอยู่ในโฟกัสเสมอ นอกจากนี้คุณยังสามารถดึงภาพนิ่งออกมาจากฟุตเทจ 4K UHD ได้ด้วย ซึ่งทำให้คุณใช้ฟังก์ชั่นวิดีโอของกล้อง EOS R6 แทนฟังก์ชั่นการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 60 fps/ 50 fps ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพขนาด 3840 × 2160 พิกเซลได้

*ยกเว้นการถ่ายภาพแบบ Time Lapse


คุณสมบัติด้านการถ่ายวิดีโออื่นๆ ที่โดดเด่น
- การบันทึกแบบอัตราเฟรมสูง:  FHD 120p/100p (NTSC/PAL) (IPB)
- ภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse: 4K UHD/FHD 30p/25p (NTSC/PAL) (ALL-I)
- การแสดงเส้นลายทาง

 

5. ระบบ IS ในบอดี้เพื่อการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 8 สต็อป

กล้อง EOS R6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในบอดี้กล้อง (ระบบ IS ในบอดี้) เช่นเดียวกับ EOS R5 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาพ เซนเซอร์ไจโรในตัวกล้อง และเซนเซอร์ตรวจจับความเร่ง จากนั้นจึงขยับเซนเซอร์ภาพตามการตรวจจับ เพื่อแก้ไขการสั่นของกล้องจากห้าทิศทาง ซึ่งได้แก่ แนวนอน แนวตั้ง แกนหมุน แกนหัน และแกนยก ระบบนี้จะทำงานเมื่อติดตั้งเลนส์ RF หรือ EF ทุกรุ่นแม้จะเป็นรุ่นที่ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (ระบบ IS แบบออพติคอล) ภายในเลนส์ 

ระบบ IS แบบประสานการควบคุม

A: DIGIC X
B: ชุด IS
C: ไมโครโปรเซสเซอร์เลนส์
D: เซนเซอร์ไจโร (เลนส์)
E: เซนเซอร์ภาพ
F: เซนเซอร์ไจโร (กล้อง)
G: เซนเซอร์ตรวจจับความเร่ง

เมื่อติดตั้งเลนส์ที่มี IS แบบออพติคอล ความสามารถในการประมวลผลอันทรงพลังของ DIGIC X จะใช้ IS แบบประสานการควบคุมซึ่งสามารถประสานการทำงานของ IS แบบออพติคอลและ IS ในบอดี้กล้องได้อย่างราบรื่นเพื่อการป้องกันภาพสั่นไหวที่ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะใช้ทางยาวโฟกัสเท่าใด* คุณสมบัตินี้ทำให้ง่ายต่อการถ่ายภาพให้คมชัดแม้จะถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงถึง 8 สต็อป** คุณจึงมีอิสระในการสร้างสรรค์ที่มากขึ้นเมื่อถ่ายภาพด้วยมือในเวลากลางคืนโดยใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ หรือถ่ายภาพจากมุมและตำแหน่งที่ยากต่อการถือกล้องให้มั่นคง

*อาจต้องอัพเดตเฟิร์มแวร์
**เมื่อใช้กับเลนส์ที่เข้ากันได้  ขึ้นอยู่กับสภาวะการถ่ายภาพ 

ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที ปิด IS

ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที เปิด IS


ที่ความเร็วชัตเตอร์ 2 วินาที การถ่ายภาพด้วยมือโดยที่กล้องไม่สั่นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้


ระบบ IS แบบประสานการควบคุมจะประสานกลไกของ IS แบบออพติคอลและ IS ในบอดี้เข้าด้วยกันเพื่อลดการสั่นของกล้อง จึงได้ภาพที่มีความคมชัดขึ้นมาก


อ่านเพิ่มเติมได้ที่: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์ #3: เราจะกำหนดสต็อปของระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างไร

 

6. ความเข้ากันได้กับระบบคลาวด์: รองรับ image.canon เต็มรูปแบบ

กล้อง EOS R6 มี Wi-Fi 2.4GHz และการเชื่อมต่อบลูทูธในตัว คุณสมบัตินี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการจับคู่กับอุปกรณ์อัจฉริยะผ่านแอป Camera Connect ซึ่งทำให้คุณเข้าถึงคุณสมบัติ เช่น การถ่ายภาพด้วย Live View จากระยะไกล การระบุข้อมูลทางภูมิศาสตร์ และการถ่ายโอนภาพในอุปกรณ์อัจฉริยะได้เท่านั้น แต่ัยังรองรับแพลตฟอร์ม image.canon ใหม่ของ Canon ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 อย่างเต็มรูปแบบด้วย 

Image.canon เป็นแพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ตามแนวคิด “กล้องที่มีการเชื่อมต่อ” เพียงแค่ลงทะเบียนฮอตสปอต Wi-Fi ในกล้อง EOS R6 คุณก็จะสามารถอัปโหลดไฟล์ภาพและวิดีโอคุณภาพสมบูรณ์ รวมทั้งไฟล์แบบ RAW ไปยังระบบคลาวด์ได้อัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่คุณอยู่ภายในระยะ คุณจึงสามารถเข้าถึงไฟล์ได้ตลอดเวลาจากอุปกรณ์ทุกชนิดที่เข้ากันได้ และแบ่งปันลงบนโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย ไฟล์คุณภาพเท่าต้นฉบับจะถูกจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์เป็นเวลา 30 วัน แต่คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ได้สูงสุด 10GB ในพื้นที่จัดเก็บระยะยาวได้ฟรี 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ image.canon ได้ที่:
3 วิธีที่ image.canon จะพลิกโฉมประสบการณ์การถ่ายภาพของคุณ

 

7. มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และมีความทนทานที่เพียงพอ

จุดขายที่สำคัญของกล้อง DSLR ซีรีย์ EOS 6D คือน้ำหนักที่เบา ซึ่ง EOS R6 ก็รับเอาคุณสมบัตินี้มาด้วย แม้จะมีขนาดเท่ากับกล้อง EOS R5 แต่มีน้ำหนักเบากว่า 52 ก. (เบากว่าประมาณ 8%) โครงสร้างภายในของกล้อง EOS R6 ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยเป็นหลัก และมีโครงสร้างภายนอกทำจากโพลีคาร์บอเนต คุณจึงมั่นใจได้ว่าตัวกล้องมีความแข็งแรงทนทานเพียงพอแม้จะมีน้ำหนักเบา

  EOS R5 EOS R6
ขนาด (กว้าง×สูง×ลึก โดยประมาณ) 138.5×97.5×88.0 มม. 138.5×97.5×88.4 มม.
น้ำหนัก (เฉพาะบอดี้ โดยประมาณ) 650 ก. 598 ก.

 

บอดี้กล้องที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ

กล้อง EOS R6 มีความสมดุลระหว่างความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบาด้วยโครงสร้างภายในที่ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยเป็นหลักและโครงสร้างภายนอกทำจากโพลีคาร์บอเนต และยังมีการออกแบบที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำได้

OLED EVF ความละเอียด 3.69 ล้านจุด

EVF ในกล้อง EOS R6 นั้นคล้ายกับ EOS R แต่มีอัตราการตอบสนองของหน้าจอที่เร็วกว่า จึงให้การมองเห็นที่เป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับการมองผ่าน OVF

 

Multi-controller

Multi-controller คล้ายกันกับกล้อง EOS DSLR ระดับสูงซึ่งให้การควบคุมที่เร็วและดียิ่งขึ้นในการเลือกกรอบ AF

ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่

ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่ช่วยให้คุณสามารถสำรองข้อมูลที่จำเป็นในการบันทึกภาพในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตได้
หมายเหตุ: การ์ดหน่วยความจำของคุณต้องมีคุณสมบัติ UHS-I/UHS ความเร็วระดับ 3 เป็นอย่างต่ำในการบันทึกวิดีโอ 4K และวิดีโอ UHS-II ความเร็วระดับ 60 ในการบันทึก Canon Log และวิดีโอ HDR PQ

 

แบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีกำลังไฟมากขึ้น

มีขนาดเท่ากันกับแบตเตอรี่ LP-E6N เดิม (1865 mAh) แต่มีกำลังไฟมากกว่า (2130 mAh) แบตเตอรี่ LP-E6NH รองรับการชาร์จผ่าน USB ในกล้อง

เปิด/ปิดม่านชัตเตอร์เมื่อปิดการทำงานของกล้อง

ป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเกาะบนเซนเซอร์ภาพโดยการตั้งค่าให้ปิดม่านชัตเตอร์เมื่อปิดการทำงานของกล้อง ชุดชัตเตอร์ได้ผ่านการทดสอบความทนทาน 30,000 ครั้ง จึงมีความคงทนของชัตเตอร์ที่ยอดเยี่ยม


ดูข้อมูลจำเพาะที่สำคัญได้ที่:
EOS R6 (ตัวกล้อง) – ข้อมูลจำเพาะ (ฉบับภาษาอังกฤษ)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS R6 ได้ที่:
EOS R6: ออกแบบมาสำหรับผู้มีความคิดสร้างสรรค์ (ฉบับภาษาอังกฤษ)

 


EOS R6

 

ภาพตัวอย่าง

EOS R6/ RF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 53 มม./ Manual exposure (f/22, 2 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ


EOS R6/ RF85mm f/2 Macro IS STM/ FL: 85 มม./ Aperture-priority AE (f/2, 1/500 วินาที, EV -1)/ ISO 100/ WB: เมฆครึ้ม


EOS R6/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 70 มม./ Manual exposure (f/8, 1/3200 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา