ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM กับท่อต่อเลนส์ RF สองรุ่น: ยุคใหม่แห่งการถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้

2020-07-27
2
2.23 k
ในบทความนี้:

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2020 Canon ได้เปิดตัวเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ซึ่งเป็นเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้รุ่นแรกในระบบ EOS R รวมทั้งท่อต่อเลนส์ใหม่สองรุ่นคือ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x อย่างเป็นทางการ เลนส์นี้เป็นเลนส์รุ่นแรกสำหรับกล้อง EOS ระดับเดียวกันที่ครอบคลุมระยะโฟกัส 100 มม. ถึง 500 มม. และยังให้คุณภาพของภาพ โฟกัสอัตโนมัติ และประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่โดดเด่นตามแบบฉบับซีรีย์ L สำหรับมืออาชีพ เมื่อใช้คู่กับกล้อง EOS R5 หรือ EOS R6 ซึ่งได้รับการปรับปรุง AF ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก เลนส์และท่อต่อเลนส์เหล่านี้จึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ระดับมืออาชีพด้วยระบบกล้องที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและพกพาสะดวก

1. ขนาด น้ำหนัก และความครอบคลุม
2. ประสิทธิภาพ AF
3. ระบบ IS
4. การออกแบบออพติคอล
5. ความทนทานและความสามารถในการใช้งาน

 

1. น้ำหนักเบากว่า จึงเข้าใกล้ได้มากกว่า 

จวบจนปัจจุบัน Canon ได้เปิดตัวเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้สำหรับระบบ EOS R มาแล้วสองรุ่น คือ RF70-200mm f/2.8L IS USM และ RF24-240mm f/4-6.3 IS USM อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการถ่ายภาพที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพในบางประเภท เช่น ภาพกีฬากลางแจ้งหรือสัตว์ป่า อาจกำลังเฝ้ารอเลนส์ที่ทำให้พวกเขาเข้าใกล้ตัวแบบได้มากกว่านี้ และการรอคอยนั้นสิ้นสุดลงแล้วด้วยเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ซึ่งใครๆ คาดหวังนับตั้งแต่ประกาศว่าจะมีการพัฒนาเลนส์

ภาพโคลสอัพของนกอินทรีหัวขาว ถ่ายด้วยเลนส์ RF100-500mm

EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 500 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/4000 วินาที)/ ISO 800/ WB: แสงแดด

แม้เลนส์รุ่นใหม่นี้จะเป็นเลนส์ซูมซูเปอร์เทเลโฟโต้ในซีรีย์ L เช่นเดียวกับ EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM อันเป็นที่ชื่นชอบกันมาก แต่กลับมีระยะที่ยาวกว่า 100 มม. และยังมีน้ำหนักเบากว่า 205 ก.


การเปรียบเทียบขนาดและน้ำหนักของเลนส์ EF100-400mm บนกล้อง EOS 5D Mark IV กับเลนส์ RF100-500mm บนกล้อง EOS R5

RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM φ93.8×207.6 มม. ประมาณ 1370 ก.
EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM φ94×193 มม. ประมาณ 1570 ก.

*ไม่รวมคอลลาร์สำหรับยึดขาตั้งกล้อง

 

ความสะดวกในการพกพาที่มาพร้อมประสิทธิภาพ: เป็นไปได้ด้วยระบบ EOS R

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลนส์มีน้ำหนักเบาลงได้คือรูรับแสงกว้างสุด f/7.1 ที่ระยะเทเลโฟโต้ ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ในกล้องซีรีย์ EOS R จะมีแสงในช่องมองภาพที่ทำให้เห็นฉากได้สว่างขึ้นแม้รูรับแสงกว้างสุดจะค่อนข้างแคบและ “มืด” และมีการจำลองระดับแสงที่บอกให้คุณทราบเมื่อการตั้งค่าระดับแสงมืดเกินไป เพื่อให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ นอกจากนี้ ความไวต่อแสงที่สูงขึ้นของกล้องยังหมายความว่าประสิทธิภาพของ AF นั้นจะทำงานได้อย่างไม่จำกัดแม้ที่ f/7.1 

ปัจจัยเหล่านี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้รูรับแสงกว้างสุดที่กว้างแม้ที่ระยะ 500 มม. ซึ่งจะทำให้เลนส์มีขนาดใหญ่และหนักมาก คุณจึงอาจกล่าวได้ว่า ความสมดุลที่ได้ระหว่างน้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา คุณภาพของภาพที่สูง และประสิทธิภาพนั้นเกิดขึ้นได้เพราะเลนส์ได้รับการปรับแต่งมาให้ทำงานร่วมกับระบบ EOS R

ครอบคลุมระยะ 24 มม. จนถึง 1600 มม. ด้วยเลนส์ RF24-105mm, RF100-500mm และท่อต่อเลนส์ RF

 

ใช้คู่กับท่อต่อเลนส์เพื่อความสามารถรอบด้านยิ่งขึ้น

คุณสามารถเพิ่มระยะในการเข้าใกล้ของเลนส์ได้โดยการติดตั้งท่อต่อเลนส์ RF ใหม่รุ่นใดรุ่นหนึ่ง สมมติว่าตำแหน่งการซูมของเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ต้องอยู่ที่ 300 มม. เป็นอย่างน้อยเพื่อติดตั้งท่อต่อเลนส์ ระยะโฟกัสเมื่อติดตั้งท่อต่อเลนส์จะกลายเป็น:
- เมื่อติดตั้ง Extender RF 1.4x (1.4 เท่า): 420-700 มม.
- เมื่อติดตั้ง Extender RF 2x (2.0 เท่า): 600-1000 มม.

ซึ่งทำให้คุณสามารถถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ได้อย่างจริงจัง ทั้งยังรองรับ AF อีกด้วย


ข้อควรรู้: อุปกรณ์สามชิ้นเพื่อครอบคลุมระยะ 24 มม. ถึง 700 มม.

หากคุณต้องเดินทางบ่อยๆ เพื่อถ่ายภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน นก หรือทิวทัศน์ธรรมชาติ คุณคงอยากถือสัมภาระติดตัวไปให้น้อยที่สุด พกเลนส์ซูมมาตรฐาน RF24-105mm f/4L IS USM เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM และ Extender RF 1.4x ติดตัวไปด้วยเพื่อให้ถ่ายภาพได้ครอบคลุมมุมรับภาพตั้งแต่ 24 มม. จนถึง 700 มม. ได้อย่างราบรื่น 

เคล็ดลับ: ในกล้อง EOS R5 ความละเอียด 45 ล้านพิกเซล การถ่ายภาพด้วยโหมดครอป 1.6 เท่าจะทำให้คุณได้ความละเอียด 17.3 ล้านพิกเซล ใช้โหมดนี้เพื่อขยายทางยาวโฟกัสของคุณได้สูงสุดถึง 1600 มม.

 

2. ท่อต่อเลนส์ RF 2x ช่วยให้โฟกัสอัตโนมัติได้แม้ขณะถ่ายภาพที่ระยะ 1000 มม. ด้วยค่า f/14!

เช่นเดียวกับ RF70-200mm f/2.8L IS USM เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ใช้ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัว ขับเคลื่อนโดย Nano USM สองชุด Nano USM เป็นมอเตอร์อัลตร้าโซนิคแบบชิปขนาดจิ๋วที่มีแรงบิดอันทรงพลัง เนื่องจากสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและละเอียด จึงจับโฟกัสได้อย่างว่องไวในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง และยังสามารถติดตามตัวแบบได้อย่างราบรื่นและไม่สะดุดในการถ่ายวิดีโอด้วย ชุด Nano USM แบบคู่ทำให้สามารถควบคุมชิ้นเลนส์ลอยตัวและชิ้นเลนส์โฟกัสได้เป็นอิสระจากกัน ซึ่งช่วยปรับปรุงการออกแบบกลไกของเลนส์ให้ดียิ่งขึ้นและทำให้มีน้ำหนักเบาขึ้นพร้อมทั้งให้คุณภาพของภาพที่สูงด้วย

เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM สามารถใช้ได้กับกล้องในระบบ EOS R ทุกรุ่น รวมถึงกล้อง EOS R รุ่นแรกและ EOS R5 และ EOS R6 รุ่นใหม่โดยไม่จำกัดประสิทธิภาพของระบบ AF ในกล้อง ไม่ว่าจะติดตั้งท่อต่อเลนส์ RF รุ่นใด พื้นที่ AF จะแคบลงเพียงเล็กน้อย แต่นอกจากนั้น ฟังก์ชั่นต่างๆ ของ AF ก็แทบจะคงเดิมทั้งหมด


พื้นที่ AF เมื่อใช้เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM กับท่อต่อเลนส์ RF

EOS R / EOS Ra / EOS RP

(1) เมื่อใช้ RF 1.4x ที่ f/10: 80%×80%
(2) เมื่อใช้ RF 2x ที่ f/14: 40% (แนวนอน)×60% (แนวตั้ง)

EOS R5 / EOS R6

(1) เมื่อใช้ RF 1.4x ที่ f/10: 80%×80%
(2) เมื่อใช้ RF 2x ที่ f/14: 80%×80%


ในกล้องระบบอื่นๆ รูรับแสงกว้างสุดที่แคบมักจะทำให้จำนวนจุด AF ที่ใช้ได้ลดลงไปมาก แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับระบบ EOS R เนื่องจากมีเมาท์ RF เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ ซึ่งให้แสงผ่านเข้ามาจนถึงมุมของเซนเซอร์ภาพได้อย่างเพียงพอ และระบบ Dual Pixel CMOS AF ที่สามารถดึงข้อมูลการตรวจจับระยะได้จากพิกเซลภาพทั้งหมด เมื่อรวมกัน คุณจึงได้ระบบ AF ที่มีความรวดเร็วทันใจ

 

3. ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 6 สต็อปเมื่อใช้ร่วมกับระบบ IS ในบอดี้


ระบบ IS แบบออพติคอลสามโหมดเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์การถ่ายภาพที่แตกต่างกัน

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (IS แบบออพติคอล) ในตัวเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM นั้นสามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5 สต็อป และมีโหมด IS สามโหมดได้แก่
- โหมด IS ที่ 1: แก้ไขการสั่นของกล้องขณะถ่ายตัวแบบที่อยู่นิ่งกับที่
- โหมด IS ที่ 2: สำหรับการแพนกล้อง ไม่แก้ไขการเบลอที่เกิดในทิศทางเดียวกับการแพนกล้อง
- โหมด IS ที่ 3: จะคำนวณการสั่นของกล้องเมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งและขยับชุด IS เมื่อกดปุ่มชัตเตอร์ลงจนสุดเท่านั้น

โหมด IS ที่ 3 จะทำให้ภาพในช่องมองภาพไม่สั่นเมื่อถ่ายภาพตัวแบบที่มีการเคลื่อนไหวไม่สม่ำเสมอ เช่น ในการแข่งขันกีฬาที่ใช้ลูกบอล เช่น ฟุตบอล โหมดนี้ทำให้เลนส์มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพกีฬาในระดับมืออาชีพ


การประสานกับระบบ IS ในบอดี้กล้องเพื่อประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่เพิ่มมากขึ้น

เมื่อติดตั้งเลนส์กับกล้อง EOS R5 หรือ EOS R6 ซึ่งมีระบบ IS ในบอดี้กล้องที่ขยับเซนเซอร์ตามแนวแกนทั้ง 5 จะเกิดการทำงานของระบบ IS แบบประสานการควบคุม ซึ่งประสานการทำงานของ IS แบบออพติคอลและ IS ในบอดี้กล้อง ซึ่งสามารถแก้ไขการสั่นของกล้องได้เทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุดถึง 6 สต็อป* ที่ระยะ 500 มม. ขณะถ่ายวิดีโอ คุณสามารถใช้ Movie Digital IS ร่วมกับระบบ IS แบบประสานการทำงานได้ เพื่อให้ได้ฟุตเทจที่นิ่งมากขึ้นแม้ถ่ายด้วยมือในขณะที่กำลังเดิน

*อิงตามการทดสอบด้วยมาตรฐาน CIPA เมื่อติดตั้งลงบนกล้อง EOS R5 ที่ทางยาวโฟกัส 500 มม. เมื่อใช้กล้อง EOS R5 กับเฟิร์มแวร์ของกล้องซึ่งจะเปิดตัวในปลายเดือนสิงหาคม

EOS R5: ปิด IS

ทางยาวโฟกัส: 100 มม.
ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที

EOS R5: เปิด IS

ทางยาวโฟกัส: 100 มม.
ความเร็วชัตเตอร์: 2 วินาที

 

4. การออกแบบออพติคอลของเลนส์ใช้ประโยชน์เต็มที่จากเทคโนโลยีการจำลองใหม่ล่าสุด

เลนส์เทเลโฟโต้และซูเปอร์เทเลโฟโต้นั้นทำให้เกิดสีเพี้ยนได้ง่าย เพื่อลดปัญหาในข้อนี้ เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM จึงใช้ชิ้นเลนส์ UD (ฉบับภาษาอังกฤษ) 6 ชิ้นและชิ้นเลนส์ Super UD 1 ชิ้น นอกจากนี้ยังใช้การเคลือบแบบ Air Sphere Coating (ASC) ซึ่งช่วยลดการเกิด แสงหลอกและแสงแฟลร์ การออกแบบนี้ เมื่อรวมกับเส้นผ่านศูนย์กลางเมาท์ขนาดใหญ่และระยะห่างจากท้ายเลนส์ถึงเซนเซอร์ที่สั้นของเมาท์ RF จึงสามารถให้ภาพคุณภาพสูงได้ตลอดช่วงการซูมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ L

 

โครงสร้างเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM IS STM

A: ชิ้นเลนส์ Super UD
B: ชิ้นเลนส์ UD
C: ASC

เคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนบนพื้นผิวเลนส์ด้านหน้า


การนำเทคโนโลยีการจำลองออพติคอลใหม่ล่าสุดมาใช้ในการออกแบบเลนส์ยังช่วยให้นักออกแบบเลนส์ของ Canon ป้องกันการเกิดสีเบลอในพื้นที่ที่มีโบเก้ในส่วนที่อยู่นอกโฟกัสของภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ทำให้ได้โบเก้ที่สวยงามและนุ่มนวลแม้ใช้ค่า f/7.1 ที่ 500 มม. ของระยะเทเลโฟโต้

ภาพดอกไม้แบบมาโครเทเลโฟโต้ที่มีโบเก้

EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM / FL: 500 มม./ Aperture-priority AE (f/6.7, 1/180 วินาที, EV +0.5)/ ISO 100/ WB: แสงแดด

 

5. ความทนทานและความสามารถในการใช้งานสูง


การเคลือบกันความร้อน ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ

เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ใช้การเคลือบกันความร้อนสีขาวซึ่งได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเลนส์ซูมเทเลโฟโต้และเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ในซีรีย์ L ของ Canon การเคลือบนี้จะช่วยลดอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นภายในเลนส์ซึ่งเกิดขึ้นในขณะถ่ายภาพท่ามกลางอากาศร้อน ดังนั้น คุณจึงมั่นใจได้ว่าคุณภาพของภาพจะไม่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับเลนส์ L ของ Canon เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ยังมีโครงสร้างที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานของเลนส์ในสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพที่หลากหลาย


วงแหวนควบคุมที่ใช้เป็นวงแหวนปรับเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกในการใช้งานวงแหวนการซูม

วงแหวนควบคุมอันโดดเด่นของเลนส์ RF นั้นอยู่ที่ด้านหลังของเลนส์ใกล้กับเมาท์ เนื่องจากปรับแต่งเองได้อย่างสะดวก จึงสามารถกำหนดวงแหวนให้เป็นตัวควบคุมรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ ค่าความไวแสง ISO หรือการชดเชยแสงได้ ทำให้คุณปรับการตั้งค่าการเปิดรับแสงต่างๆ ได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

A: วงแหวนซูม
B: วงแหวนปรับ (เพื่อปรับความรู้สึกในการใช้งานวงแหวนซูมตั้งแต่ “ลื่น” ไปจนถึง “แน่น”)
C: วงแหวนโฟกัส (อิเล็กทรอนิกส์)
D: วงแหวนควบคุม (สามารถกำหนดให้ควบคุมรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ ความไวแสง ISO และการชดเชยแสงได้)

 

ท่อเลนส์ขยายได้

ส่วนปลายด้านหน้าของเลนส์จะขยายและหดกลับได้ขณะซูม การหมุนวงแหวนปรับไปที่ “แน่น” จะช่วยป้องกันการซูมไหลเมื่อถือเลนส์ชี้ลงด้านล่าง

ดีไซน์ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ

รอยต่อและแผงสวิตช์ต่างๆ ของเลนส์ได้รับการซีลเพื่อป้องกันไม่ให้หยดน้ำและฝุ่นละอองเข้ามาภายในเลนส์ การเคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนบนชิ้นเลนส์ด้านหน้าช่วยให้สามารถเช็ดคราบสิ่งสกปรก น้ำมัน และความชื้นออกได้อย่างง่ายดาย

 

RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM

ข้อมูลจำเพาะ
โครงสร้างเลนส์: 20 ชิ้นเลนส์ใน 14 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.9 ม. (ระยะมุมกว้าง)
กำลังขยายสูงสุด: 0.33 เท่า (ระยะเทเลโฟโต้)
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (ทรงกลม)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 77 มม.
ขนาด: φ93.8 x 207.6 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 1,370 ก. (ไม่รวมเมาท์สำหรับขาตั้งกล้อง)


เลนส์ฮูด ET-83F (WIII) (มีให้)

เลนส์ฮูด RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM IS STM และเลนส์ฮูด ET-83F (WIII)

 

ท่อต่อเลนส์ RF

Extender RF 1.4x

โครงสร้างเลนส์: 7 ชิ้นเลนส์ใน 4 กลุ่ม
ขนาด: φ71.2 x 20.3 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 225 ก.

Extender RF 2x

โครงสร้างเลนส์: 9 ชิ้นเลนส์ใน 5 กลุ่ม
ขนาด: φ71.2 x 39.3 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 340 ก.


ท่อต่อเลนส์ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x มีการทาสีขาวกันความร้อน ทั้งยังมีความเพรียวบางดูเรียบง่ายเข้ากันได้ดีกับเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM รวมถึงมีดีไซน์ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับเลนส์ RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM ด้วย 

 

ภาพตัวอย่าง

ภาพโคลสอัพของวงสวิงกอล์ฟ

EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM / FL: 451 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/1250 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ


ภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ของต้นซากุระ

EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM / FL: 223 มม./ Aperture-priority AE (f/6.7, 1/400 วินาที)/ ISO 200/ WB: แสงแดด


ภาพโคลสอัพของนก

EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM + Extender RF 1.4x/ FL: 700 มม./ Manual exposure (f/10, 1/800 วินาที)/ ISO 2500/ WB: อัตโนมัติ

 

บทความด้านล่างมีภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ EF100-400 f/4.5-5.6L IS II USM เคล็ดลับนั้นใช้ได้เหมือนกัน แต่เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ในระบบ EOS R นั้นสามารถให้ความเป็นไปได้ที่มากยิ่งขึ้น!
ทิวทัศน์ฤดูหนาวแสนมหัศจรรย์: เมื่อเกล็ดหิมะระยิบระยับราวอัญมณีกลายเป็นเสาแสงอาทิตย์
เคล็ดลับการจัดองค์ประกอบภาพที่ทำให้หมอกสวยงามเตะตา
คู่มือตามขั้นตอนสำหรับการถ่ายภาพคลื่นที่สาดกระเซ็นด้วยการตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์สูง
ผมถ่ายภาพอย่างไรให้เฉียบ (3): เคล็ดลับสำหรับภาพสวยๆ ของเส้นควันจากเครื่องบิน

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

บทความที่เกี่ยวข้อง

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา