EOS R5: คุณสมบัติอันน่าทึ่ง 7 ข้อที่คุณต้องรู้
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2020 Canon ได้เปิดตัวกล้อง EOS R5 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอยนับตั้งแต่ประกาศว่าจะมีการพัฒนา ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจคุณสมบัติหลักๆ ของกล้อง ซึ่งมีสเปคในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอสูงสุดในประวัติศาสตร์ EOS
ซีรีย์ EOS 5D โฉมใหม่
เมื่อ EOS 5D วางจำหน่ายในปี 2005 กล้องนี้เป็นรุ่นแรกสำหรับผู้ใช้งานระดับสูงที่มีเซนเซอร์แบบฟูลเฟรม 35 มม. ในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีให้ใช้ในกล้องระดับมืออาชีพเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น นี่เป็นกล้องที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งไม่เพียงแต่ให้คุณภาพของภาพที่น่าทึ่งในแบบฉบับของเซนเซอร์ฟูลเฟรมเท่านั้น แต่ยังมีแนวคิดของรูปแบบภาพ ซึ่งได้กลายมาเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของกล้องในปัจจุบันด้วย นับแต่นั้นมา ซีรีย์ EOS 5D ก็กลายมาเป็นหนึ่งในกล้องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่ม DSLR โดยมีเลข “5” เป็นตัวแทนความน่าเชื่อถือ
15 ปีต่อมา Canon ก็ได้เพิ่มกล้องหมายเลข ‘5’ อีกรุ่นหนึ่งเข้าไปในกลุ่มกล้องอันเป็นเอกลักษณ์นี้ กล้องมิเรอร์เลส EOS R5 รุ่นใหม่นี้ผสมผสานเอาแนวคิดของ EOS ในด้าน “ความเร็ว ความสะดวก และคุณภาพของภาพที่สูง” เข้าไว้ด้วยกันด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางเมาท์ขนาดใหญ่ ระยะห่างจากท้ายเลนส์ถึงเซ็นเซอร์ที่สั้น และการส่งข้อมูลที่รวดเร็วของเมาท์ RF เพื่อให้ได้สเปคที่จะมาปฏิวัติทั้งวงการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
EOS R5: คุณสมบัติที่โดดเด่น 7 ข้อ
1. คุณภาพของภาพสูง: เซนเซอร์ภาพ CMOS ความละเอียด 45 ล้านพิกเซลรุ่นใหม่ + DIGIC X
2. ความเร็ว: ถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูงได้สูงสุดถึง 20 fps
3. วิดีโอ: สามารถถ่ายวิดีโอ 8K แบบ RAW, 4K แบบสุ่มด้วยความถี่สูง
4. ระบบ IS ในบอดี้กล้อง: ป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าสูงสุด 8 สต็อป
5. AF: Dual Pixel CMOS AF II ที่มี Animal Detection AF
6. ความเข้ากันได้กับระบบคลาวด์: รองรับ image.canon เต็มรูปแบบ
7. ความน่าเชื่อถือ: การควบคุมการทำงานและความคงทนที่ยอดเยี่ยม
#1: คุณภาพของภาพสูง—เซนเซอร์ภาพ CMOS ความละเอียด 45 เมกะพิกเซลรุ่นใหม่ + DIGIC X
Canon ได้พัฒนาเซนเซอร์ภาพ CMOS แบบฟูลเฟรมรุ่นใหม่ความละเอียด 45 เมกะพิกเซล ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับระบบ EOS R ความเร็วและประสิทธิภาพในการแยกรายละเอียดของภาพที่สูงของเซนเซอร์รุ่นใหม่นี้ทำให้เกิดเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยมเมื่อใช้ร่วมกับระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ซึ่งมีความเร็วอันทรงพลังและความแม่นยำสูง คุณสมบัติทั้งสองข้่อนี้ได้รับการส่งเสริมด้วยคุณภาพของภาพอันโดดเด่นซึ่งเกิดจากคุณสมบัติของระบบเมาท์ RF เมื่อรวมกัน คุณสมบัติที่สำคัญทั้งสามข้อนี้จึงทำให้กล้อง EOS R5 มีความสามารถในการถ่ายภาพที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ EOS
EOS R5/ RF85mm f/1.2L USM/ FL: 85 มม./ Manual exposure (f/1.2, 1/100 วินาที)/ ISO 100/ WB: กำหนดเอง
ในภาพครอปของภาพด้านบนนี้ คุณแทบจะสามารถนับขนคิ้วแต่ละเส้นของนางแบบได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจำนวนพิกเซลที่สูงของกล้อง แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงภาพที่แท้จริงของกล้องคือความสมจริงของภาพ ซึ่งดูราวกับว่าคุณกำลังมองนางแบบด้วยตาของคุณเองต่อหน้าเธอ
เซนเซอร์ภาพที่ได้ัรับการพัฒนาขึ้นใหม่
เซนเซอร์ภาพรุ่นใหม่ ซึ่งออกแบบและผลิตโดย Canon นี้ สามารถอ่านสัญญาณได้ด้วยความเร็วสูงซึ่งส่งผลให้มีความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพของ AF ที่ดียิ่งขึ้นของกล้อง EOS R5 และยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบ 8K ได้อีกด้วย
ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X
กำลังการประมวลผลอันทรงพลังของ DIGIC X เพิ่มความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องและความสามารถในการลดจุดรบกวน จึงทำให้มีความไวแสง ISO ปกติสูงถึง ISO 51,200 แม้จะมีจำนวนพิกเซลราว 45 เมกะพิกเซล
คุณสมบัติการถ่ายภาพใหม่ที่สำคัญอื่นๆ:
- คุณสมบัติ ‘ปรับแสงในภาพพอร์ตเทรต’ ใน DPRAW: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับทิศทางและความเข้มของแสงได้หลังถ่ายภาพ
- ฟังก์ชั่น ‘การชดเชยแสงให้ใบหน้า’ ใหม่ในการปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ (ALO) ระหว่างการปรับแต่งภาพ RAW
- รองรับรูปแบบการบันทึก HDR PQ HEIF 10 บิต (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ HDR PQ HEIF: ก้าวข้ามขีดจำกัดของภาพ JPEG)
#2: ความเร็ว—ถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูงได้สูงสุดถึง 20 fps
กล้องที่มีความละเอียดและจำนวนพิกเซลสูงมักจะมีความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องต่ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเร็วในการอ่านสัญญาณจากเซนเซอร์ภาพ แต่กล้อง EOS R5 สามารถเอาชนะปัญหานี้ได้ในเซนเซอร์ภาพที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งสามารถอ่านสัญญาณด้วยความเร็วสูงได้ จึงเป็นการเสริมประสิทธิภาพของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X อันรวดเร็วและทรงพลัง ประสิทธิภาพของทั้งสองอย่างนี้ทำให้สามารถถ่ายภาพที่มีขนาดใหญ่ราว 45 ล้านพิกเซลด้วยความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องสูงถึง 20 เฟรมต่อวินาที (fps) พร้อมการติดตาม AF/AE
EOS R5/ RF15-35mm f/2.8L IS USM/ FL: 35 มม./ Manual Exposure (f/7.1, 1/4000 วินาที)/ ISO 250/ WB: อัตโนมัติ
กล้อง EOS R5 มีโหมดการถ่ายต่อเนื่องสามแบบ
- การถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูง + (H+)
- การถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูง (H)
- การถ่ายต่อเนื่องความเร็วต่ำ (L)
และยังมีโหมดชัตเตอร์ให้เลือกสามแบบด้วย:
- ชัตเตอร์กล
- ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรก
- ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
เนื่องจากความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น กำลังแบตเตอรี่ที่เหลือ ไอคอนของโหมดขับเคลื่อนในหน้าจอ EVF/Live View จะเปลี่ยนสีเพื่อบอกให้ทราบถึงความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงที่สามารถใช้ได้
สีของไอคอนในโหมดขับเคลื่อน
โหมด A: สีเขียว
โหมด B: สีขาว
โหมด C: สีขาวกะพริบ
*ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องจริงของชัตเตอร์กล/ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของแบตเตอรี่/การชาร์จที่เหลือ อุณหภูมิ Wi-Fi ในตัว (‘เปิด’ หรือ ‘ปิด’) การลดแสงที่สั่นไหว ความเร็วชัตเตอร์ ค่ารูรับแสง ประเภทของเลนส์ และอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือผู้ใช้
#3: วิดีโอ—สามารถถ่ายวิดีโอ 8K แบบ RAW, 4K แบบสุ่มด้วยความถี่สูง
กล้อง EOS R5 สามารถถ่ายวิดีโอ RAW แบบ 8K 30p/25p (NTSC/PAL) ด้วยความละเอียด DCI (8192 × 4320 พิกเซล) ได้ในตัวด้วยการ์ด CFexpress ซึ่งสามารถเขียนได้ด้วยความเร็วสูง สามารถใช้ Dual Pixel CMOS AF ติดตามตัวแบบได้ไม่ว่าจะใช้ความละเอียดหรืออัตราเฟรมเท่าใด และสามารถดึงภาพนิ่งความละเอียด 35.4 เมกะพิกเซลได้จากวิดีโอ 8K แต่ละเฟรม ซึ่งทำให้โหมดวิดีโอมีฟังก์ชั่นเทียบเท่าการถ่ายต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงพิเศษถึง 30 เฟรมต่อวินาที
ภาพนิ่งที่ดึงออกมาจากข้อมูลวิดีโอ RAW แบบ 8K นั้น สามารถนำมาปรับแต่งได้ใน Digital Photo Professional เช่นเดียวกับภาพ RAW ทั่วไป จึงนับว่า มีประสิทธิภาพเทียบเท่าการถ่ายต่อเนื่องแบบ RAW ที่ความเร็ว 30 fps!
วิดีโอ 8K: ความละเอียดหลักและรูปแบบการบันทึก
- MP4 H.264/HEVC (YCbCr 4:2:0/ 8 บิต/ BT.709)
- MP4 H.264/HEVC HDR PQ (YCbCr 4:2:2/ 10 บิต/ BT.2020)
- MP4 H.264/HEVC Canon-Log (YCbCr 4:2:2/ 10 บิต/ BT.709 หรือ BT.2020)
- RAW (12 บิต)- DCI เท่านั้น
8K DCI แบบไม่ครอป: NTSC 29.97/24.00/23.98 fps, PAL 25.00/24.00 fps (ALL-I/IPB)
8K UHD แบบไม่ครอป: NTSC 29.97/23.98 fps, PAL 25.00 fps (ALL-I/IPB)
นอกเหนือจากวิดีโอ RAW แบบ 8K และวิดีโอ 8K/4K แบบธรรมดาในรูปแบบ DCI ซึ่งนิยมใช้กันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ กล้อง EOS R5 ยังสามารถบันทึกวิดีโอ 8K และ 4K ในรูปแบบ UHD ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมการแพร่ภาพได้ด้วย กล้องรุ่นนี้จึงเป็นกล้องที่มีความสามารถหลากหลายซึ่งสร้างสรรค์ฟุตเทจได้ทุกแนว นอกจากนี้ยังให้คุณบันทึกได้ใน Canon Log และ HDR PQ ซึ่งช่วยรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการผลิตวิดีโอ HDR ในระยะหลัง
รายละเอียดที่อยู่ในวิดีโอ 8K ช่วยให้คุณถ่ายภาพเคลื่อนไหว 4K แบบไม่ครอปที่สุ่มด้วยความถี่สูงได้ ซึ่งภาพแบบ 4K จะถูกสร้างขึ้นมาจากข้อมูล RGB 8K ทำให้ได้ฟุตเทจคุณภาพสูงขึ้นที่มีความละเอียดประณีตมากกว่าและมีเอฟเฟ็กต์มอเร่ สีเพี้ยน และจุดรบกวนในภาพน้อยลง ในกระบวนการปรับแต่งภาพ วิดีโอ 8K ยังช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการผลิตวิดีโอ 4K หรือ Full HD เช่น ครอปเฟรมของคุณโดยไม่สูญเสียความละเอียด ซึ่งทำให้สร้างการแพนหรือซูมแบบดิจิตอลได้ง่ายขึ้น
พื้นที่การบันทึกของเซนเซอร์ภาพ
1: 4K DCI (4096 x 2160) ไม่ครอป
2: 4K UHD (3840 x 2160) ไม่ครอป
3: 4K DCI (4096 x 2160) ครอป
4: 4K UHD (3840 x 2160) ครอป
วิดีโอ 4K: ความละเอียดหลักและรูปแบบการบันทึก
- MP4 H.264/MPEG-4 AVC (YCbCr 4:2:0/ 8 บิต/ BT.709)
- MP4 H.264/HEVC HDR PQ (YCbCr 4:2:2/ 10 บิต/ BT.2020)
- MP4 H.264/HEVC Canon-Log (YCbCr 4:2:2/ 10 บิต/ BT.709 หรือ BT.2020)
4K DCI แบบไม่ครอป/ครอป: NTSC 59.94/29.97/24.00/23.98 fps, PAL 50.00/25.00/24.00 fps (ALL-I/IPB)
4K UHD แบบไม่ครอป/ครอป: NTSC 59.94/29.97/23.98 fps, PAL 50.00/25.00 fps (ALL-I/IPB)
คุณสมบัติการถ่ายวิดีโอที่สำคัญอื่นๆ
- การบันทึกแบบอัตราเฟรมสูง: 4K (DCI/UHD) 120p/100p (NTSC/PAL)
- ภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse: 8K, 4K, Full HD
- การแสดงเส้นลายทาง
#4: ระบบ IS ในบอดี้—ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 8 สต็อป
EOS R5 และ EOS R6 เป็นกล้อง EOS รุ่นแรกๆ ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในบอดี้กล้อง (IS ในบอดี้กล้อง) ระบบจะตรวจจับระดับความเบลอจากการสั่นของกล้องโดยใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์ภาพ เซนเซอร์ไจโร และเซนเซอร์ตรวจจับความเร่งที่อยู่ในกล้อง จากนั้นจึงขยับเซนเซอร์ภาพตามการตรวจจับเพื่อชดเชยการสั่นของกล้องตามแกนทั้ง 5 ซึ่งได้แก่ แกนแนวนอน แนวตั้ง แกนหมุน แกนหัน และแกนยก ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนนี้ มีประสิทธิภาพแม้ในขณะใช้เลนส์ RF หรือ EF ที่ไม่มีระบบ IS แบบออพติคอลในตัว
A: DIGIC X
B: ชุด IS
C: ไมโครโปรเซสเซอร์เลนส์
D: เซนเซอร์ไจโร (เลนส์)
E: เซนเซอร์ภาพ
F: เซนเซอร์ไจโร (กล้อง)
G: เซนเซอร์ตรวจจับความเร่ง
เมื่อติดตั้งเลนส์ที่มี IS แบบออพติคอล กำลังในการประมวลผลของ DIGIC X จะทำให้กล้อง EOS R5 ทำการควบคุมระบบ IS แบบประสานงาน ซึ่งใช้การทำงานร่วมกันของกลไก IS ในบอดี้กล้องและ IS แบบออพติคอล เพื่อให้ได้ผลในการป้องกันภาพสั่นไหวที่ดียิ่งขึ้น ทำให้คุณได้ภาพที่คมชัดแม้จะถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงถึง 8 สต็อป*
* เมื่อใช้กับเลนส์ที่เข้ากันได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะการถ่ายภาพ อาจต้องอัพเดตเฟิร์มแวร์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: เราจะกำหนดสต็อปของระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างไร
500 มม. ที่ 0.5 วินาที ปิด IS
500 มม. ที่ 0.5 วินาที เปิด IS
เมาท์ RF เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่จะป้องกันการเกิดแสงน้อยเมื่อเซนเซอร์ภาพเกิดการขยับในขณะป้องกันภาพสั่นไหว จึงช่วยคงคุณภาพของภาพได้
ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นอย่้างมากของระบบ IS ใหม่นี้ทำให้ง่ายต่อการถ่ายภาพด้วยมือให้คมชัดในฉากหลากหลายประเภท เช่น ภาพถ่ายความเร็วชัตเตอร์ต่ำในที่ที่มีแสงน้อย หรือมุมที่ถ่ายภาพได้ลำบากซึ่งยากต่อการถือกล้องให้มั่นคง
#5: AF—Dual Pixel CMOS AF II ที่มี AF ตรวจจับสัตว์
ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดดของ AF ไม่เพียงแต่ใบหน้า + การติดตาม AF ในขณะนี้จะครอบคลุมพื้นที่ภาพ 100% เท่านั้น แต่อัลกอริธึมระบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกยังเพิ่มฟังก์ชั่น Animal Detection AF ให้กับความสามารถในการตรวจจับดวงตามนุษย์ที่มีอยู่เดิมด้วย นั่นหมายความว่า กล้อง EOS R5 สามารถตรวจจับและติดตามดวงตา ใบหน้า และร่างกายของสุนัข แมว หรือแม้แต่นกได้อย่างแม่นยำ
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 500 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/4000 วินาที)/ ISO 800/ WB: แสงแดด
ในโหมดการเลือกพื้นที่ AF อัตโนมัติแบบต่างๆ เช่น โหมดขยายพื้นที่ AF และ Large Zone AF พื้นที่ที่ AF ครอบคลุมได้เพิ่มขึ้นเป็น 90% × 100% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของพื้นที่ภาพ และมีกรอบ AF แบบเลือกได้อัตโนมัติสูงถึง 1,053 โซนเมื่อเทียบกับเพียง 143 โซนในกล้อง EOS R และผู้ใช้ยังสามารถเลือก AF ได้จากตำแหน่งสูงสุดถึง 5,940 ตำแหน่ง พื้นที่ครอบคลุม AF ที่มากและหนาแน่นขึ้นหมายถึงอิสระที่มากขึ้นในการวางตัวแบบไว้ในจุดใดก็ได้ที่คุณต้องการในองค์ประกอบภาพ
คุณสมบัติ AF ที่สำคัญอื่นๆ
- การตั้งค่า Case สำหรับ Servo AF ที่เลือกได้ในการติดตามตัวแบบเช่นเดียวกับกล้อง EOS-1D X Mark III
- AF สำหรับสภาพแสงน้อยในช่วง EV -6 ถึง EV +20 ที่่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโฟกัสบนตัวแบบที่สว่าง
- ฟังก์ชั่น Focus Bracketing
- เข้ากันได้กับการโฟกัสที่ f/22
ใช้ AF ได้แม้ที่ f/22
การรองรับ AF ที่ f/22 หมายความว่า เมื่อใช้เลนส์ RF800mm f/11 IS STM ที่ติดตั้งตัวขยายช่องมองภาพ RF 2x ซึ่งจะเพิ่มทางยาวโฟกัสเป็น 1600 มม. ที่รูรับแสงกว้างสุด f/22 คุณจะยังสามารถโฟกัสอัตโนมัติได้โดยครอบคลุมพื้นที่ 40% × 60% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของเฟรมภาพ
เมื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยด้วยช่องมองภาพแบบออพติคอล (OVF) ภาพในช่องมองภาพมักจะมืดเกินไปที่ f/22 แต่สำหรับกล้อง EOS R5 แสงใน EVF จะเพิ่มความสว่างในหน้าจอซึ่งช่วยให้คุณจัดองค์ประกอบภาพได้ และด้วยการจำลองระดับแสงใน EVF ขณะนี้คุณจะสามารถมองเห็นภาพที่ได้จากการตั้งค่าการเปิดรับแสงที่คุณใช้และปรับความเร็วชัตเตอร์หรือความไวแสง ISO ได้เท่าที่จำเป็น
#6: ความเข้ากันได้กับระบบคลาวด์—รองรับ image.canon เต็มรูปแบบ
นอกจากจะรองรับ Wi-Fi 2.4GHz ในตัวแล้ว กล้อง EOS R5 ยังรองรับแบนด์ 5Ghz ซึ่งเร็วกว่าและน่าเชื่อถือมากกว่า (IEEE 802.11a/ac) รวมถึงการเชื่อมต่อบลูทูธด้วย ซึ่งนี่ไม่เพียงแต่ทำให้สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟน ถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วขึ้น และถ่ายภาพระยะไกลผ่านแอป Camera Connect เช่นเดียวกับกล้อง EOS ในปัจจุบันได้เท่านั้น แต่ยังใช้งานได้กับ image.canon ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในระบบคลาวด์ใหม่จากแนวคิด “กล้องที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต” ซึ่ง Canon ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 2020
ด้วย image.canon ทั้งหมดที่คุณต้องทำมีเพียงแค่ลงทะเบียนฮอตสปอต Wi-Fi ในกล้อง EOS R5 และคุณจะสามารถตั้งค่าให้ EOS R5 อัปโหลดภาพในคุณภาพต้นฉบับและภาพ RAW และข้อมูลวิดีโอเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้อัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่คุณทำการเชื่อมต่อ เมื่ออัปโหลดเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงไฟล์จากอุปกรณ์ใดก็ได้ คุณสามารถทำได้แม้แต่แบ่งปันไฟล์เหล่านั้นลงในโซเชียลมีเดียโดยตรงผ่านแอปสมาร์ทโฟน image.canon โดยไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์ก่อน
ไฟล์คุณภาพต้นฉบับทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้เป็นเวลา 30 วัน นอกจากนี้ คุณยังสามารถจัดเก็บไฟล์ได้สูงสุด 10GB ในพื้นที่จัดเก็บระยะยาวได้ฟรี
#7: ความน่าเชื่อถือ—การควบคุมการทำงานและความคงทนที่ยอดเยี่ยม
OLED EVF ความละเอียดสูง 5.76 ล้านจุดที่มีอัตราการรีเฟรชหน้าจอที่ 119.88 fps
ด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นและอัตราการรีเฟรชหน้าจอที่เร็วกว่ากล้อง EOS R EVF ของกล้อง EOS R5 จึงให้การแสดงผลที่ดูเป็นธรรมชาติยิ่งกว่าที่เคยจนแทบจะเหมือนกับการมองผ่าน OVF
Multi-controller
Multi-controller แบบจอยสติ๊กเช่นเดียวกับกล้อง EOS DSLR ระดับสูงช่วยให้การควบคุมที่เร็วและดียิ่งขึ้นระหว่างการเลือกกรอบ AF
การ์ด CFexpress + การ์ด SD
ช่องเสียบการ์ดคู่รองรับการ์ด CFexpress หนึ่งชิ้นซึ่งสามารถถ่ายโอนได้ด้วยความเร็วสูงและการ์ด SD หนึ่งชิ้น
แบตเตอรี่กำลังสูงรุ่นใหม่
แบตเตอรี่ LP-E6NH รุ่นใหม่ มีขนาดเท่ากันกับแบตเตอรี่ LP-E6N ในปัจจุบัน แต่มีกำลังสูงกว่าที่ 2130 mAh เมื่อเทียบกับ 1865 mAh ในแบตเตอรี่ LP-E6N นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จด้วย USB ในกล้องด้วย USB Power Adapter PD-E1 (มีจำหน่ายแยกต่างหาก)
เลือกปิด/เปิดม่านชัตเตอร์ได้เมื่อปิดการทำงานของกล้อง
คุณสามารถเลือกปิดม่านชัตเตอร์ได้เมื่อปิดการทำงานของกล้องเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้ามาในกล้องขณะเปลี่ยนเลนส์ ชัตเตอร์กลผ่านการทดสอบความทนทาน 500,000 รอบ จึงมีความทนทานของชัตเตอร์ที่ยอดเยี่ยม
ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่มีความทนทานพร้อมด้วยโครงสร้างป้องกันน้ำและฝุ่นละออง
ตัวกล้อง EOS R5 ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรง ระบายความร้อนได้ มีน้ำหนักเบา และการซีลที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองและหยดน้ำแทรกซึมเข้ามาในกล้องได้
ดูข้อมูลจำเพาะที่สำคัญได้ที่:
EOS R5 (ตัวกล้อง) – ข้อมูลจำเพาะ (ฉบับภาษาอังกฤษ)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS R5 ได้ที่:
EOS R5: มองโลกของคุณในแบบใหม่ (ฉบับภาษาอังกฤษ)
EOS R5
ภาพตัวอย่าง
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 300 มม./ Manual exposure (f/7.1, 1/1600 วินาที)/ ISO 500/ WB: แสงแดด
EOS R5/ RF24-105mm f/4L IS STM/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/8, 2 วินาที)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
EOS R5/ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM/ FL: 128 มม./ Manual exposure (f/8, 1/3200 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ/ HDR PQ HEIF แปลงเป็น JPEG
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!