Zantz Han (@zantz) ช่างภาพแฟชั่นและความงามได้นำกล้อง EOS R5 ไปถ่ายภาพความงามในสตูดิโอและรู้สึกหลงรักหลังได้ใช้งาน เขาจะมาเล่าให้ฟังว่าประทับใจอะไรมากที่สุด (ภาพโดย Zantz Han และเรื่องจากประสบการณ์ที่ได้เล่าให้ทีมงาน SNAPSHOT ฟัง)

 

เมื่อต้องนำศิลปะมาใช้ในการค้า รายละเอียด ความสร้างสรรค์ และความสามารถที่รอบด้านคือสิ่งสำคัญ 

โลกแห่งการถ่ายภาพความงาม แฟชั่น รวมถึงการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์นั้นหมุนไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้องทำงานภายในระยะเวลาที่กำหนดและใช้ความสร้างสรรค์จนถึงขีดจำกัด มีความเป็นไปได้มากมายในแต่ละโครงการ และบ่อยครั้งที่สิ่งเล็กๆ เช่น ผิวสัมผัส อารมณ์ และรายละเอียดอันประณีตมีบทบาทสำคัญ

เซนเซอร์ภาพของกล้อง เมกะพิกเซล และระบบออพติคของเลนส์จะทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งเล็กๆ เหล่านี้มีความคมชัดและรายละเอียดที่สวยงาม แม้เมื่อพิมพ์ลงไปบนแบนเนอร์ ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลองใช้กล้อง EOS R5 รุ่นใหม่พร้อมกับเลนส์ RF28-70mm f/2L USM และ RF85mm f/1.2L USM ด้วยความละเอียด 45 ล้านพิกเซล กล้องรุ่นนี้จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถดึงเอาศักยภาพของเมาท์ RF ออกมาได้มากกว่ากล้อง EOS R ความละเอียด 30.3 ล้านพิกเซลที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบัน

 

AF ที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ ตรวจจับใบหน้าและดวงตาได้อย่างราบรื่นแม้ในสภาพแสงที่โฟกัสได้ยาก

EOS R5/ RF85mm f/1.2L USM/ FL: 85 มม. ที่ f/2, 1/250 วินาที, ISO 400

การถ่ายภาพครั้งนี้เกิดขึ้นในสตูดิโอที่มืดสนิทโดยมีไฟ LED สองดวง ซึ่งผมใช้ในการดึงความสนใจไปยังบริเวณดวงตาของนางแบบ ส่วนอื่นๆ นอกนั้นอยู่ภายในเงาทั้งหมด

หากเป็นกล้องรุ่นอื่น หรือแม้แต่ EOS R การโฟกัสในฉากเช่นนี้จะทำได้ยาก เนื่องจากจุดที่สว่าง เช่น แสงบนเสื้อสีขาวของนางแบบ จะทำให้ AF ของกล้องสับสนได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้กล้อง EOS R5 ฟังก์ชั่น AF ตรวจจับใบหน้าและ Eye Detection AF สามารถจับโฟกัสได้เกือบทันทีและไม่เลื่อนหลุดจนจบการถ่ายภาพ แม้ในขณะที่นางแบบขยับตัวหรือมองไม่เห็นใบหน้าของเธอบางส่วน โฟกัสอันน่าเชื่อถือนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นใจว่าการถ่ายภาพทั้งหมดจะดำเนินไปอย่างราบรื่น

EOS R5/ RF28-70mm f/2L USM/ FL:47 มม. ที่ f/2.8, 1/250 วินาที, ISO 800

 

ระบบ IS ในบอดี้กล้อง: ปลดปล่อยศักยภาพแห่งความสร้างสรรค์

EOS R5/ RF28-70mm f/2L USM/ FL:36 มม. ที่ f/2, 1/125 วินาที, ISO 400

ในการถ่ายภาพความงาม ผมจะต้องเคลื่อนไหวอยู่เสมอเพื่อค้นหามุมที่จะทำให้ถ่ายภาพได้สวยงามที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้การถ่ายภาพด้วยมือ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว (ระบบ IS ในบอดี้กล้อง) ของกล้อง EOS R5 ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพด้วยมือให้กับเลนส์ที่ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลในเลนส์ (IS แบบออพติคอล) เช่น เลนส์ทั้งสองรุ่นที่ผมใช้ในการถ่ายภาพครั้งนี้รวมถึงเลนส์ RF50mm f/1.2L USM ของผมเองด้วย

เมื่อใช้กล้อง EOS R5 ทั้งเลนส์ RF28-70mm f/2L USM และ RF85mm f/1.2L USM จะมีความสามารถในการป้องกันภาพสั่นไหวเพิ่มขึ้นสูงสุดเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์ถึงแปดสต็อป ในขณะที่เลนส์ RF50mm f/1.2L USM เพิ่มขึ้นเป็นเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์เจ็ดสต็อป ซึ่งสูงกว่าเลนส์ที่มีระบบ IS และกล้อง EOS R สามารถทำได้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: เราจะกำหนดสต็อปของระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างไร

 

ช่องมองภาพคมชัดความละเอียดสูง

ผมชอบถ่ายภาพผ่านช่องมองภาพเนื่องจากทำให้ผมสามารถจดจ่ออยู่กับฉากได้ ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) เป็นประโยชน์มากเมื่อใช้ไฟสโตรบและแฟลช เนื่องจากแสงในช่องมองภาพจะช่วยให้คุณมองเห็นได้ในสภาวะแสงน้อย แม้ในสตูดิโอที่มืดสนิท

ด้วยจำนวนจุด 5.76 ล้านจุด EVF ของกล้อง EOS R5 จึงมีความละเอียดสูงกว่า 3.69 ล้านจุดในกล้อง EOS R จึงให้ความคมชัดได้มากยิ่งกว่า ซึ่งช่วยให้ผมตรวจสอบรายละเอียดจนมั่นใจก่อนที่จะถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี

 

ถ่ายภาพในสภาพแสงที่ท้าทายได้อย่างมั่นใจ

EOS R5/ RF85mm f/1.2L USM/ FL: 85 มม. ที่ f/4, 1/160 วินาที, ISO 400

ผมหลงใหลในการจัดแสง ก่อนจะมาเป็นช่างภาพ ผมเคยศึกษาวิธีการจัดแสงและแสดงแอนิเมชั่นแบบสามมิติมาก่อน และแม้ในตอนนี้ ผมก็ยังคงชื่นชอบการออกแบบและสร้างสรรค์สภาพแสงในการถ่ายภาพ ด้วยประสิทธิภาพการโฟกัสและการติดตามในสภาวะแสงน้อยอันยอดเยี่ยมของ AF ระบบ IS ในบอดี้กล้อง และการมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่าเนื่องจากมี EVF ผมจึงมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะออกแบบการจัดแสงให้มีความท้าทายกว่าเดิม เช่นในภาพด้านบนที่ผมถ่ายในการประกวดทรงผม

นอกจากนี้ กล้อง EOS R5 ยังมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่คุณต้องปรับทิศทางและ/หรือความเข้มของแสงในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตหลังการถ่ายภาพด้วย โปรดดูที่: 
การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรต: ตัวช่วยจัดแสงภายในกล้องของคุณ

 

ให้รายละเอียดชัดเจนอย่างน่าทึ่งจนถึงเส้นขนตา

EOS R5/ RF28-70mm f/2L USM/ FL:58 มม. ที่ f/2, 1/125 วินาที, ISO 400

เมื่อปรับแต่งภาพที่ผมถ่ายด้วยกล้อง EOS R5 สิ่งที่โดดเด่นออกมาคือประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาจุดรบกวนและความคมชัดของรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม

ด้านล่างเป็นภาพครอป 100% ขนาด 400 x 400 พิกเซลจากภาพที่ผมถ่ายด้วยเลนส์แต่ละรุ่นที่ใช้

 

RF28-70mm f/2L USM ที่ f/2

RF85mm f/1.2L USM ที่ f/2

ในภาพทั้งสอง จะสามารถเห็นรายละเอียดของขนตาแต่ละเส้นได้อย่างชัดเจน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเลนส์ RF85mm f/1.2L USM และ RF28-70mm f/2L USM นั้นให้ความคมชัดและชัดเจนที่โดดเด่น ซึ่งผมรู้สึกว่าความละเอียด 45 ล้านพิกเซลของกล้อง EOS R5 สามารถดึงเอาประสิทธิภาพของเลนส์ออกมาได้อย่างแท้จริง

 

ให้มากกว่าคุณภาพของภาพ

ความสามารถในการแสดงรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมนั้นไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างในการถ่ายภาพความงามและภาพพอร์ตเทรตแบบโคลสอัพเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความยืดหยุ่นที่เพิ่มมากขึ้นในการตอบสนองต่อความต้องการของโลกแห่งการตลาดและการโฆษณาด้วย

ลูกค้ามักจะต้องการครอปภาพเดียวกันในขนาดต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในแพลตฟอร์มและสื่อทางการตลาดที่แตกต่างกัน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ไปจนถึงสื่อดิจิตอลสำหรับร้านค้าออนไลน์ โซเชียลมีเดีย กราฟิกสำหรับเว็บไซต์ และอื่นๆ นับว่าเป็นข้อดีหากคุณสามารถครอปภาพได้มากจนกระทั่งได้ภาพโคลสอัพของชื่อแบรนด์ที่สลักลงบนขาแว่นที่นางแบบกำลังใส่อยู่ และยังมั่นใจได้ว่าจะมีความละเอียดที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องถ่ายภาพใหม่ด้วยเลนส์มาโคร

2560 x 1440: ภาพหน้าปกสำหรับช่องใน YouTube
1980 x 1080: แบนเนอร์หรือภาพหน้าปกสำหรับ Facebook/หัวเว็บไซต์
1200 x 630: โพสต์บน Facebook
1080 x 1980: สตอรี่ใน Instagram/Facebook
1080 x 1080: โพสต์บน Instagram (สี่เหลี่ยมจัตุรัส)
400 x 400: รูปโปร์ไฟล์สำหรับโซเชียลมีเดีย
(หน่วย: พิกเซล)

ขนาดทั่วไปที่ใช้ในการพิมพ์และใช้บนโซเชียลมีเดีย แสดงโดยเปรียบเทียบกับความละเอียดของภาพสูงสุดที่กล้อง EOS R5 และ EOS R สามารถถ่ายได้ ความละเอียดของภาพที่มากกว่าและความสามารถในการแสดงรายละเอียดอันยอดเยี่ยมช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์เมื่อนำภาพไปใช้ทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิตอล

วิดีโอ 8K: ความยืดหยุ่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้ใช้สื่อแตกต่างกัน

เทคโนโลยีที่รุดหน้าและความนิยมของโซเชียลมีเดียที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้แบรนด์มีความต้องการมากขึ้นในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่เป็นวิดีโอเพิ่มจากภาพนิ่ง ช่างภาพแฟชั่นจึงต้องสามารถถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ เช่นเดียวกับภาพนิ่งความละเอียด 45 ล้านพิกเซล ความสามารถในการบันทึกวิดีโอ 8K ของกล้อง EOS R ให้ความเป็นไปได้ที่มากขึ้นในการถ่ายวิดีโอ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการผลิตเนื้อหาที่ต้องผสมผสานสื่อทั้งสองรูปแบบ

 

ความประทับใจโดยรวม: “เหมือนมีผู้ช่วยอยู่ในมือ”

ภาพในบทความนี้ไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างครบถ้วนว่ากล้อง EOS R5 นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด เนื่องจากยังมีข้อดีอีกมากที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกในการถือด้วยมือ ความง่ายในการใช้งาน และยังช่วยให้ผมถ่ายภาพตามที่จินตนาการไว้ได้อย่างราบรื่น จนผมรู้สึกเหมือนมีผู้ช่วยอยู่ในมือของตัวเอง

ดังที่ผมคาดไว้ กล้อง EOS R5 ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมเมื่อจับคู่กับทั้งเลนส์ RF85mm f/1.2L USM และ RF28-70mm f/2L USM โดยสามารถดึงเอาประสิทธิภาพในการแยกรายละเอียดของเลนส์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม หากนี่คือสิ่งที่กล้อง EOS R5 สามารถทำได้ ผมก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วที่จะได้เห็นว่าระบบกล้อง EOS R ในอนาคตที่มีจำนวนเมกะพิกเซลมากขึ้นจะสามารถทำอะไรได้บ้าง

แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต สำหรับตอนนี้ EOS R5 เป็นกล้องที่ผมใฝ่ฝันถึงทุกวัน รวมถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ไม่จบสิ้นที่กล้องสามารถทำได้ด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS R5 ได้ที่:
EOS R5 หรือ EOS R6: 5 ข้อแตกต่างสำคัญที่ควรทราบ
ทำไมกล้อง EOS R5 ถึงเป็นกล้องในอุดมคติสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ของผม

หากสงสัยว่ากล้อง EOS R6 เป็นอย่างไร โปรดดูที่:
[รีวิวการใช้งาน] EOS R6 ในการถ่ายภาพคอนเสิร์ตการเต้นรำ

 

---

---