ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญของกล้องระบบ EOS R - Part

EOS R5 หรือ EOS R6: 5 ข้อแตกต่างสำคัญที่ควรทราบ

2020-10-14
31
66.98 k
ในบทความนี้:

กล้องในระบบ EOS R รุ่นที่สองอย่าง EOS R5 และ EOS R6 มีคุณสมบัติน่าสนใจมากมายที่เหมือนกัน เช่น ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงถึง 20 fps ตลอดจนระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุง 8 สต็อป ในเมื่อมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันหลายประการเช่นนี้ คุณจะตัดสินใจได้อย่างไรว่าควรซื้อกล้องรุ่นไหนดี ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจข้อแตกต่างหลักๆ ที่อาจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณ

 

ข้อแตกต่างสำคัญ 5 ประการ

1. ความละเอียดของภาพ: 45 ล้านพิกเซลกับ 20.1 ล้านพิกเซล
2. วิดีโอ: 8K กับ 4K
3. EVF
4. วงแหวนและระบบควบคุม
5. ขนาดและน้ำหนัก

 

1. ความละเอียดของภาพ: 45 ล้านพิกเซลกับ 20.1 ล้านพิกเซล.

EOS R5 ใช้เซนเซอร์ภาพ 45 ล้านพิกเซลที่พัฒนาขึ้นใหม่ ในขณะที่ EOS R6 มีเซนเซอร์ภาพ 20.1 ล้านพิกเซล คล้ายกับเซนเซอร์ภาพที่พบในกล้อง DSLR ระดับมืออาชีพรุ่นเรือธงของ Canon อย่าง EOS-1D X Mark III ซึ่งเหมาะกับระบบ EOS R

กล้องทั้งสองรุ่นมอบคุณภาพของภาพที่ไร้ที่ติ ทว่าข้อแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในด้านจำนวนพิกเซลจะสร้างความแตกต่างตรงที่ว่า คุณจะสามารถครอปได้มากน้อยเพียงใดก่อนที่คุณภาพของภาพจะเริ่มลดลง และจะพิมพ์ภาพได้ใหญ่แค่ไหนด้วย

ข้อแตกต่างด้านขนาดของงานพิมพ์


ข้อแตกต่างด้านขนาดของงานพิมพ์

 

พิมพ์ด้วยความละเอียด 300 dpi: สูงถึงขนาด A3 สำหรับ EOS R6, สูงถึงขนาด A2 สำหรับ EOS R5

เมื่อใช้ 300 dpi ซึ่งเป็นความละเอียดที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในงานพิมพ์โฆษณา EOS R6 จะพิมพ์ภาพได้สูงถึง 463 มม. × 308 มม. ซึ่งมากพอสำหรับโปสเตอร์ขนาด A3

ส่วน EOS R5 ที่มีจำนวนพิกเซลมากกว่าถึงสองเท่า สามารถพิมพ์ภาพได้สูงถึง 693 มม. × 462 มม. ซึ่งเพียงพอสำหรับงานพิมพ์ขนาด A2 นอกจากนี้ คุณยังสามารถครอปภาพได้สูงถึง 50% และเหลือความละเอียดเพียงพอสำหรับงานพิมพ์ขนาด A3


EOS R5: ความละเอียดสูงขึ้นแม้ในโหมดครอป 1.6 เท่า

โหมดครอป 1.6 เท่าในกล้องทั้งสองรุ่นใช้ส่วนหนึ่งของเซนเซอร์ภาพเพื่อเลนส์ใดก็ตาม (เทียบเท่ามุมรับภาพของกล้อง APS-C) ถ่ายภาพได้ไกลขึ้นถึง 1.6 เท่า ข้อแตกต่างด้านพิกเซลยังส่งผลต่อขนาดของไฟล์ภาพที่ถ่ายในโหมดนี้ด้วย 
สำหรับกล้อง EOS R6 ไฟล์เหล่านี้มีความละเอียดประมาณ 7.7 ล้านพิกเซล ซึ่งเพียงพอสำหรับการพิมพ์ขนาด A4 และสื่อสิ่งพิมพ์ทางออนไลน์
สำหรับ EOS R5 ไฟล์เหล่านี้มีความละเอียดประมาณ 17.3 ล้านพิกเซล ซึ่งยังคงเพียงพอสำหรับงานพิมพ์ขนาด A3 


ข้อสังเกตอื่นๆ:

DPRAW
EOS R5 รองรับการบันทึก Dual Pixel RAW ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติการประมวลผลแบบใหม่ภายในกล้อง เช่น การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตและการปรับความชัดเจนของฉากหลัง ซึ่งขยายขอบเขตความเป็นไปได้มากมายในกระบวนการปรับแต่งภาพ

- แสงน้อย
EOS R6 มีความสามารถดีกว่าเล็กน้อยในด้านการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย โดยสามารถโฟกัสได้ถึง EV-6.5 (เทียบกับ EV-6.0 ใน EOS R5) และความไวแสง ISO ตามปกติสูงสุดที่ 102,400 (เทียบกับ 51,200 ใน EOS R5)

 

2. วิดีโอ: 8K กับ 4K

วิดีโอ 8K กับ 4K

คุณสมบัติมากมายที่ทำให้ EOS R5 และ EOS R6 เป็นกล้องถ่ายภาพนิ่งอันทรงพลังเช่นนี้ยังมีประโยชน์สำหรับการถ่ายวิดีโออีกด้วย เช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว 8 สต็อปและระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF II ซึ่งรองรับด้วยความละเอียดและอัตราเฟรมทุกรูปแบบในกล้องทั้งสองรุ่น นอกจากโปรไฟล์การบันทึก HDR ระดับมืออาชีพอย่าง Canon Log และ HDR PQ ที่มอบความยืดหยุ่นยิ่งขึ้นในกระบวนการปรับแต่งภาพแล้ว กล้องทั้งสองรุ่นยังมีฟังก์ชั่นพิเศษที่ใช้สะดวก เช่น Zebra Display โฟกัสพีค และ Manual Focus Guide

ข้อแตกต่างหลักระหว่างกล้องทั้งสองรุ่นคือ ความละเอียดสูงสุดของวิดีโอ


EOS R5: ล้ำหน้าด้วย 8K

EOS R5 เป็นกล้องแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้รุ่นแรกในโลกที่สามารถบันทึกวิดีโอแบบ 8K ได้ (นอกเหนือจากกล้องถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ) เพื่อรองรับการถ่ายวิดีโอ 8K ความละเอียดระดับ 8K ยกระดับความเหมือนจริงในวิดีโอขึ้นไปอีกขั้น โดยให้รายละเอียดสมจริงและความมีมิติในลักษณะที่แตกต่างไปจากความเปรียบต่างเหมือนจริงของภาพเคลื่อนไหว HDR และยังมีประโยชน์ในการผลิตวิดีโอดังต่อไปนี้

- มีตัวเลือกการตัดต่อในขั้นตอนหลังการผลิตมากขึ้น (เช่น ครอปเพื่อสร้างภาพเคลื่อนไหวระดับ 4K ที่มีเอฟเฟ็กต์ Sliding/Parallax)
- การบันทึก RAW แบบ 8K 30p ช่วยให้คุณดึงเอาภาพนิ่งแบบ RAW 35.4 ล้านพิกเซลมาจากแต่ละเฟรมได้ ซึ่งเทียบเท่าการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ RAW ที่ 30 fps
- ความสามารถในการสร้าง 4K แบบสุ่มด้วยความถี่สูง (4K HQ) ซึ่งให้คุณภาพที่สูงกว่า 4K ทั่วไป

อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์ในการตัดต่อ 8K นั้นสูงกว่า 4K มาก


EOS R6: 4K 60p แบบไม่ครอป

EOS R6 จะใช้ความกว้างของเซนเซอร์ภาพ 94% เพื่อถ่ายวิดีโอ 4K UHD แบบไม่ครอปด้วยความเร็วสูงสุดถึง 60p/50p โดยเป็นกล้องฟูลเฟรมตัวแรกในกลุ่มกล้องระดับเดียวกันที่สามารถทำเช่นนี้ได้ และยังสามารถถ่ายฟุตเทจระดับ 4K ที่มีคุณภาพสูงขึ้นผ่านการสุ่มด้วยความถี่สูง 5.1K

สเปคของวิดีโอ

* IPB (บีบอัด)

กล้องทั้งสองรุ่นรองรับรูปแบบการบันทึกภายในดังต่อไปนี้
- MP4 H.264/HEVC (YCbCr 4:2:0/ 8-bit/ BT.709)
- MP4 H.265/HEVC HDR PQ (YCbCr 4:2:2/ 10-bit/ BT.2020)
- MP4 H.265/HEVC Canon-Log (YCbCr 4:2:2/ 10-bit/ BT.709 หรือ BT.2020)
- เฉพาะ EOS R5: 8K DCI RAW (12-bit)


ข้อควรรู้: ช่องใส่การ์ดแบบคู่นั้นไม่เหมือนกัน!

EOS R5: การ์ด CFexpress + การ์ด SD

การบันทึกภาพเคลื่อนไหวระดับ 8K ทำให้เกิดข้อมูลปริมาณมาก จึงต้องอาศัยความเร็วสูงในการเขียนของการ์ด CFexpress เพื่อรับมือ (ดูข้อมูลความเข้ากันได้ที่นี่ (ฉบับภาษาอังกฤษ)) ดังนั้น ควรเตรียมซื้อการ์ดประเภทนี้ไว้ ช่องใส่การ์ดแบบคู่ของ EOS R5 รองรับการ์ด CFexpress (Type B) หนึ่งใบและการ์ด SD หนึ่งใบ


EOS R6: ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่

ช่องใส่การ์ดแบบคู่ของ EOS R6 ทั้งสองช่องต่างรองรับการ์ด SD ดังนั้น คุณสามารถใช้การ์ดที่มีอยู่เดิมต่อไปได้


ข้อสังเกตอื่นๆ:

- ไมโครโฟนในตัว
EOS R5 มีไมโครโฟนโมโน ในขณะที่ EOS R6 มีไมโครโฟนสเตอริโอ นั่นเป็นเพราะคาดกันว่า EOS R5 จะถูกนำไปใช้กับชุดอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนกว่าซึ่งรวมถึงไมโครโฟนสเตอริโอภายนอก 

- ตัวเลือกการบันทึกแบบ 4K
EOS R5 มีคุณสมบัติการบันทึกวิดีโอระดับ 4K DCI และ 4K 120p (อัตราเฟรมสูง)

 

3. EVF:  5.76 ล้านจุดกับ 3.69 ล้านจุด

EOS R5 มี OLED EVF 5.76 ล้านจุดและอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 120 fps จึงมอบประสบการณ์การรับชมเทียบได้กับช่องมองภาพแบบออพติคอล ในขณะที่ OLED EVF 3.69 ล้านจุดของ EOS R6 มีความชัดเจนเหมือนกันกับ EOS R แต่ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุดถึง 120 fps ซึ่งมากกว่ากล้อง EOS R ถึงสองเท่า

อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นของทั้ง EOS R5 และ EOS R6 ทำให้มองเห็นภาพได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด แม้ตัวแบบจะเคลื่อนไหวรวดเร็ว

 

4. วงแหวนและระบบควบคุม: วงแหวนเลือกโหมดกับปุ่มเลือกโหมด

วงแหวนเลือกโหมดของ EOS R6, ปุ่มเลือกโหมดของ EOS R5

EOS R5 มีปุ่มเลือกโหมดและแผงจอ LCD ด้านบน คล้ายกับ EOS R แผงจอ LCD ด้านบนจะแสดงโหมดการถ่ายภาพและข้อมูลการเปิดรับแสง อีกทั้งสะดวกต่อการตรวจสอบเมื่อติดตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง การลดจำนวนวงแหวนลงช่วยป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำได้ดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งคล้ายกับแนวคิดที่ใช้กับกล้อง EOS-1D X Mark III ที่มีสเปคระดับมืออาชีพ 

ในขณะที่ EOS R6 ใช้วงแหวนเลือกโหมดแบบดั้งเดิม ซึ่งผู้ใช้บางรายอาจเห็นว่าใช้เปลี่ยนโหมดได้เร็วและง่ายกว่า

นอกเหนือจากข้อแตกต่างที่ว่ามานี้ ผู้ที่ใช้กล้อง EOS ระดับกลางและสูงอยู่แล้วจะพบว่า ทั้งปุ่ม วงแหวน และเลย์เอาต์เมนูของกล้องทั้งสองรุ่นให้ความคุ้นเคยเป็นส่วนใหญ่ 

 

ข้อสังเกตอื่นๆ:

- การเชื่อมต่อไร้สาย

EOS R5 รองรับแบนด์ LAN ไร้สายทั้ง 5GHz และ 2.4GHz ในตัว และยังมีตัวเลือกเครือข่ายและการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพเชื่อมต่อกันแบบไร้สายผ่านอุปกรณ์ส่งไฟล์ภาพไร้สาย WFT-R10 (แยกจำหน่ายต่างหาก) ในขณะที่ EOS R6 รองรับเฉพาะแบนด์ LAN ไร้สาย 2.4GHz เท่านั้น และไม่สามารถใช้งานกับ WFT-R10 ได้

- สามารถใช้แบตเตอรี่กริป BG-R10 กับกล้องทั้งสองรุ่นได้

EOS R5 และ EOS R6 พร้อมแบตเตอรี่กริป BG-R10

หากต้องการถ่ายภาพแนวตั้งให้สะดวกขึ้นและ/หรือเพิ่มจำนวนภาพที่สามารถถ่ายได้ก่อนที่แบตเตอรี่จะหมด ควรใช้แบตเตอรี่กริป BG-R10 (แยกจำหน่ายต่างหาก) กับกล้องทั้งสองรุ่น


อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
3 อุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กล้อง EOS R5 และ EOS R6 ของคุณ

 

5. ขนาดและโครงสร้าง: ภายนอกแบบแมกนีเซียมอัลลอยกับแบบโพลีคาร์บอเนต

EOS R5 และ EOS R6 มีขนาดคล้ายกันมาก
- EOS R5: ประมาณ 138.5 × 97.5 × 88.0 มม. (กว้าง × สูง × ลึก)
- EOS R6: ประมาณ 138.4 × 97.5 × 88.4 มม. (กว้าง × สูง × ลึก)

แต่ EOS R6 มีน้ำหนักประมาณ 598 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง) ซึ่งเบากว่า EOS R5 (หนักประมาณ 650 กรัม เฉพาะตัวกล้อง) ราว 52 กรัม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะวัสดุที่ใช้สร้างตัวกล้องแต่ละรุ่น

ข้อแตกต่างด้านน้ำหนักของ EOS R5 และ EOS R6

ทั้ง EOS R5 และ EOS R6 มีดีไซน์ป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ กล้องทั้งสองรุ่นเหมือน EOS R ตรงที่สามารถตั้งค่าม่านชัตเตอร์ให้ปิดเมื่อเลนส์ถูกถอดออกไป ซึ่งช่วยปกป้องเซนเซอร์ภาพจากฝุ่นละออง

EOS R5 มีตัวกล้องที่ทำจากแมกนีเซียมอัลลอย ซึ่งแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม และมีคุณสมบัติป้องกันแม่เหล็ก กล้องรุ่นนี้จึงเชื่อถือได้สูงแม้แต่ในการใช้งานหนักระดับมืออาชีพ เทียบเท่าได้กับซีรีย์ EOS 5D

สำหรับโครงสร้างของ EOS R6 นั้นคล้ายกับ EOS 6D Mark II และ EOS RP ภายนอกผลิตจากโพลีคาร์บอเนตที่แข็งแรงน้ำหนักเบาและโครงโลหะทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแกร่ง โพลีคาร์บอเนตมีความนุ่มพอที่จะช่วยกันการกระแทกกลไกภายในหากกล้องตก และมีรูยึดขาตั้งกล้องโลหะเช่นเดียวกับ EOS R5 เพื่อเพิ่มความมั่นคงและความคงทนยิ่งขึ้น


ข้อสังเกตอื่นๆ: 

- ความคงทนของชัตเตอร์
EOS R5 มีอายุการใช้งานชัตเตอร์สูงสุด 500,000 รอบ ส่วน EOS R6 คือ 300,000 รอบ ข้อนี้อาจสำคัญหากคุณถ่ายภาพต่อเนื่องบ่อยๆ

 

สรุป: เลือกใช้กล้องรุ่นไหนดี

ท้ายที่สุดแล้ว กล้องทั้งสองรุ่นมีความสามารถหลักๆ ที่ดีเยี่ยมในการถ่ายภาพไม่ต่างกัน ซึ่งรวมไปถึง
- การถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 20 fps
- เซนเซอร์ภาพ DIGIC X รุ่นใหม่
- ระบบ Dual Pixel CMOS AF II ที่ได้รับการปรับปรุง
- ระบบการติดตามตัวแบบ EOS iTR AF X รุ่นใหม่ที่ดึงประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก และ
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวสูงสุดถึง 8 สต็อป

กล้องทั้งสองรุ่นยังอัดแน่นด้วยคุณสมบัติมากมายในการถ่ายวิดีโอ เหมาะกับขั้นตอนหลังการผลิตระดับมืออาชีพ

การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับความชื่นชอบ สไตล์การถ่ายภาพ และงบประมาณของคุณ แม้ว่า EOS R5 มอบจำนวนพิกเซลสูงกว่าและการถ่ายวิดีโอแบบ 8K รวมถึงประโยชน์อื่นๆ แต่ EOS R6 มีราคาย่อมเยากว่าเล็กน้อยและทรงประสิทธิภาพไม่แพ้กัน โดยมอบสมรรถนะระดับกล้อง DSLR มืออาชีพรุ่นเรือธงอย่าง EOS-1D X Mark III ในตัวกล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมที่มีขนาดเล็กกว่า เบากว่า และราคาย่อมเยากว่า

ไม่ว่าในที่สุดแล้วคุณจะเลือกกล้องรุ่นไหน คุณก็จะไม่ผิดหวัง

 

มาดูว่า EOS R5 พลิกโฉมวิธีการถ่ายภาพของช่างภาพทิวทัศน์ได้อย่างไรใน:
ทำไมกล้อง EOS R5 ถึงเป็นกล้องในอุดมคติสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ของผม


ติดตามรีวิวและเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EOS R5 และ EOS R6 ได้ใน https://snapshot.canon-asia.com!

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา