ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด In Focus: EOS RP- Part8

EOS R หรือ EOS RP เลือกใช้กล้องรุ่นไหนดี

2019-06-05
66
85.01 k
ในบทความนี้:

การเปิดตัวกล้อง EOS RP ทำให้ในปัจจุบันมีกล้องสองรุ่นในกลุ่มกล้องระบบ EOS R กล้องทั้งสองรุ่นมีเมาท์ RF ที่ปฏิวัติวงการถ่ายภาพ ด้วยคุณภาพของภาพที่สูงกว่า รวมทั้งเทคโนโลยีนำสมัยจาก Canon เช่น ระบบ Dual Pixel CMOS AF ซึ่งมีสมรรถนะในการถ่ายภาพอันทรงพลัง บทความนี้จะอธิบายความเหมือนและแตกต่างที่สำคัญระหว่างกล้องทั้งสองรุ่น

ภาพแบนเนอร์กล้อง EOS R และ EOS RP

 

1. ประสิทธิภาพในการสร้างภาพถ่าย

ความละเอียดของภาพจากกล้อง EOS R
ความละเอียดของภาพจากกล้อง EOS RP


สิ่งที่แตกต่าง

ความละเอียดของภาพ: กล้อง EOS R มีจำนวนพิกเซลมากกว่า EOS RP 4.1 ล้านพิกเซล

ความแตกต่างนี้ส่งผลต่ออะไรบ้าง

- รายละเอียด: กล้องทั้งสองรุ่นมีเซนเซอร์ฟูลเฟรมขนาด 35 มม. เหมือนกัน แต่การมีจำนวนพิกเซลที่มากกว่าหมายถึงความสามารถในการเก็บรายละเอียดที่ดีกว่า

- ความชัดเจนของจุดรบกวน: ทั้งกล้อง EOS R และ EOS RP ต่างก็ใช้ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 8 และระบบลดจุดรบกวนแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพิกเซลทั้งหมดของกล้องทั้งสองรุ่นจะต้องอยู่ภายในเซนเซอร์ที่มีขนาดเท่ากัน พิกเซลหนึ่งในกล้อง EOS R จึงมีขนาดเล็กกว่าพิกเซลหนึ่งในกล้อง EOS RP พิกเซลที่มีขนาดเล็กกว่าจะสามารถแสดงจุดรบกวนได้ละเอียดกว่า จึงทำให้ภาพดูหยาบน้อยกว่า

ไม่ส่งผลต่ออะไรบ้าง

 หากคุณต้องการพิมพ์ภาพขนาด A3 หรือเล็กกว่า จำนวนพิกเซล 26.2 ล้านพิกเซลในกล้อง EOS RP ก็นับว่าเกินพอแล้วสำหรับการพิมพ์ภาพขนาด A3 ด้วยความละเอียด 300 จุดต่อนิ้ว (dpi)

ภาพขนาด A3 เปรียบเทียบกับความละเอียดของภาพจากกล้อง EOS R
ภาพขนาด A3 เปรียบเทียบกับความละเอียดของภาพจากกล้อง EOS RP

หากเปรียบเทียบพื้นที่ความละเอียดของภาพทั้งหมด จะเห็นว่าจำนวนพิกเซลที่ต่างกัน 4.1 ล้านพิกเซลนั้นไม่ไช่เรื่องใหญ่นัก ส่วนที่เป็นสีเหลืองคือพื้นที่ของพิกเซลที่ต้องใช้ในการพิมพ์ภาพขนาด A3 ที่ความละเอียด 300 dpi

ข้อควรทราบอื่นๆ: กล้อง EOS R มีโหมด Dual Pixel RAW ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งรายละเอียดของภาพในระดับไมโคร ลดระดับ Bokeh Shift และการเกิดแสงหลอกได้ด้วย Dual Pixel RAW Optimizer เมื่อคุณปรับแต่งภาพด้วยซอฟต์แวร์ Digital Photo Professional

 

2. ประสิทธิภาพการถ่ายภาพ

สิ่งที่เหมือนกัน

ประสิทธิภาพของ AF และพื้นที่ครอบคลุม: ทั้งกล้อง EOS R และ EOS RP มีระบบ Dual Pixel CMOS AF ที่ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ กล้องทั้งสองรุ่นให้พื้นที่ AF ที่มีความครอบคลุมในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยขนาด 88% x 100% (แนวนอน x แนวตั้ง) ของเฟรมภาพ* และ AF ความเร็วสูงถึง 0.05 วินาที** ซึ่งเร็วกว่าพริบตาหนึ่งถึงสิบเท่า

Eye Detection AF: กล้องทั้งสองรุ่นมี Eye Detection AF ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมากในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต สามารถอัพเดตเฟิร์มแวร์เพื่อเพิ่มฟังก์ชั่น Eye Detection AF ในขณะใช้งาน Servo AF และ Movie Servo AF ให้กับกล้อง EOS R ได้แบบเดียวกับ EOS RP

*80% x 80% เมื่อใช้เลนส์ EF และ EF-S บางรุ่นกับเมาท์อะแดปเตอร์
** อ้างอิงจากผลการทดสอบความเร็ว AF ตามแนวทางของ CIPA ผลที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามสภาวะการถ่ายภาพและเลนส์ที่ใช้ ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ตรวจวัดภายใน

สิ่งที่แตกต่าง

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง: ในโหมด One Shot AF กล้อง EOS R สามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 8 เฟรมต่อวินาที (fps) ในขณะที่ EOS RP สามารถถ่ายได้สูงสุด 5 fps

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องของกล้อง EOS R และ EOS RP

ตำแหน่ง AF: กล้อง EOS R มี AF ที่เลือกได้ด้วยตนเองถึง 5,655 ตำแหน่ง (อ่านเพิ่มเติมได้ที่: สเปคของกล้อง EOS R แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร) ในขณะที่กล้อง EOS RP มี 4,779 ตำแหน่ง

วิธีโฟกัสอัตโนมัติ: กล้อง EOS R มีวิธีโฟกัสอัตโนมัติสองแบบที่ไม่มีในกล้อง EOS RP คือ Large Zone AF (แนวนอน) และ Large Zone AF (แนวตั้ง) ซึ่งวิธีโฟกัสอัตโนมัติเหล่านี้ช่วยให้ติดตามตัวแบบที่เคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความแตกต่างนี้ส่งผลต่ออะไรบ้าง

ความแตกต่างของจำนวนตำแหน่ง AF ไม่ทำให้เกิดความแตกต่างมากนักในทางปฏิบัติ แต่ถ้าต้องถ่ายภาพกีฬา นก หรือตัวแบบอื่นๆ ที่มีการเคลื่อนที่อยู่บ่อยๆ คุณอาจจะพบว่าความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่สูงกว่าและวิธีโฟกัสอัตโนมัติแบบ Large Zone AF ในกล้อง EOS R เป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์


ความแตกต่างอื่นๆ ในด้านประสิทธิภาพการถ่ายภาพ

EOS R
ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด: 1/8,000 วินาที
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง (Servo AF): สูงสุด 5 fps
จำนวนวิธีโฟกัสอัตโนมัติ: 7
AF ที่ขีดจำกัดแสงต่ำสุด: EV -6

EOS RP
ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด: 1/4,000 วินาที
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง (Servo AF): สูงสุด 4 fps
จำนวนวิธีโฟกัสอัตโนมัติ: 6
AF ที่ขีดจำกัดแสงต่ำสุด: EV -5


ดูเพิ่มเติมได้ที่
คุณสมบัติ 8 ข้อในการโฟกัสของกล้อง EOS R ที่ใครๆ ก็อยากสัมผัส
7 คุณสมบัติเด่นของกล้อง EOS RP

 

3. หน้าจอ LCD และ EVF

สิ่งที่เหมือนกัน

OLED: สำหรับกล้องทั้งสองรุ่น EVF และหน้าจอ LCD ด้านหลังใช้แผง OLED ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสีสันที่สดใสและการตอบสนองที่ฉับไว

เลนส์ใกล้ตา: กล้องทั้งสองรุ่นใช้เลนส์ใกล้ตาที่ออกแบบมาเพื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีออพติคอลของ Canon จึงทำให้การมองเห็นเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกับช่องมองภาพแบบออพติคอล

สิ่งที่แตกต่าง

EVF: EVF ในกล้อง EOS R มีขนาด 0.5 นิ้ว และมีความละเอียดประมาณ 3.65 ล้านจุด ซึ่งมีความละเอียดของภาพสูงกว่า EVF ในกล้อง EOS RP (0.39 นิ้ว ประมาณ 2.36 ล้านจุด)

หน้าจอ LCD ด้านหลัง: หน้าจอ LCD ด้านหลังของกล้อง EOS R (3.15 นิ้ว ประมาณ 2.1 ล้านจุด) มีความละเอียดมากกว่า EOS RP (3.0 นิ้ว ประมาณ 1.04 ล้านจุด) ราวสองเท่า

EVF และเลนส์ใกล้ตาในกล้อง EOS R
EVF และเลนส์ใกล้ตาในกล้อง EOS RP

ความแตกต่างนี้ส่งผลต่ออะไรบ้าง

หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าและความละเอียดที่สูงกว่านั้นมีประโยชน์เมื่อคุณต้องการปรับโฟกัสให้ได้อย่างแม่นยำ

 

4. ขนาดและน้ำหนัก

ขนาดและน้ำหนักของตัวกล้อง EOS R
ขนาดและน้ำหนักของตัวกล้อง EOS RP

*รวมแบตเตอรี่และการ์ด SD 1 ชิ้น


สิ่งที่แตกต่าง

จะเห็นได้จากภาพว่ากล้อง EOS RP มีขนาดเล็กและเบากว่า EOS R

ความแตกต่างนี้ส่งผลต่ออะไรบ้าง

ขนาดที่เล็กกว่าและน้ำหนักที่เบากว่าของกล้องจะเป็นข้อได้เปรียบเมื่อคุณต้องเคลื่อนที่ไปมาหรือถ่ายภาพโดยถือกล้องด้วยมือเป็นระยะเวลานาน

 

5. คุณสมบัติในการถ่ายวิดีโอ

กล้อง EOS R และ EOS RP กับโลโก้ 4K

EOS R
4K UHD: 30p/25p @ 480 Mbps
Dual Pixel CMOS AF
การบันทึกแบบอัตราต่อเฟรมสูง (HD) 120p/100p
Canon Log
ภาพเคลื่อนไหว HDR
ภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse
เอาต์พุตแบบ HDMI 10-บิต 4:2:2

EOS RP
4K UHD: 25p/24p @ 120 Mbps
ภาพเคลื่อนไหว HDR
ภาพเคลื่อนไหวแบบ Time Lapse
วิดีโอสั้น
เอาต์พุตแบบ HDMI 8-บิต 4:2:2


สิ่งที่เหมือนกัน

ทั้ง EOS R และ EOS RP รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ 4K UHD

สิ่งที่แตกต่าง

ฟังก์ชั่นการทำงาน: กล้อง EOS R มีคุณสมบัติบางอย่างที่ EOS RP ไม่มี เช่น
- รองรับ Dual Pixel CMOS AF ระหว่างถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ 4K ซึ่งช่วยในการโฟกัสตัวแบบที่กำลังเคลื่อนที่
- Focus Guide ช่วยให้โฟกัสแบบแมนนวลได้ง่ายขึ้นระหว่างการถ่ายภาพเคลื่อนไหว
- Canon Log การตั้งค่าการบันทึกซึ่งใช้ในระบบ Cinema EOS ซึ่งช่วยให้กระบวนการปรับแต่งภาพง่ายดายขึ้น
- ถ่ายภาพเคลื่อนไหวอัตราต่อเฟรมสูงที่ 120p/100p (คุณภาพระดับ HD)

ความแตกต่างนี้ส่งผลต่ออะไรบ้าง

กล้อง EOS RP มีคุณสมบัติการถ่ายวิดีโอในระดับมาตรฐานซึ่งเพียงพอสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ในขณะที่สเปคด้านการถ่ายวิดีโอของ EOS R นั้นรองรับการใช้งานในการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการจะทำอะไรกับวิดีโอของคุณบ้าง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่
วิธีที่ Canon EOS RP ช่วยให้การสร้างภาพยนตร์เป็นเรื่องสบายหายห่วง
4 สิ่งที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับวิดีโอ 4K ในกล้อง EOS R

 

6. ความทนทาน

แผ่นป้องกันเซนเซอร์ในกล้อง EOS R
ไม่มีแผ่นป้องกันเซนเซอร์ในกล้อง EOS RP


สิ่งที่เหมือนกัน

ทั้งกล้อง EOS R และ EOS RP มีแผ่นโครงโลหะภายในทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่มีความแข็งแรงทนทาน ทั้งสองรุ่นมีคุณสมบัติป้องกันฝุ่นละอองและความชื้น (แม้ความสามารถและประเภทของซีลป้องกันสภาพอากาศจะแตกต่างกัน) 

สิ่งที่แตกต่าง

กรอบโครงสร้างภายนอก: กล้อง EOS R ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้มีความแข็งแรงทนทานเช่นเดียวกับกล้องในซีรีย์ EOS-1 ส่วนกล้อง EOS RP ผลิตจากเรซิ่นโพลีคาร์บอเนตที่มีเส้นใยนำไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงที่เพียงพอกับการใช้งาน

ความคงทนของชัตเตอร์: สูงสุดถึง 200,000 รอบสำหรับกล้อง EOS R และ 100,000 รอบสำหรับ EOS RP

อื่นๆ: เมื่อปิดการทำงานของกล้อง EOS R ชัตเตอร์จะคลุมเซนเซอร์ไว้โดยอัตโนมัติ เป็นการป้องกันฝุ่นเมื่อคุณเปลี่ยนเลนส์

ความแตกต่างนี้ส่งผลต่ออะไรบ้าง

พิจารณาดูว่าคุณเปลี่ยนเลนส์บ่อยแค่ไหน และคุณต้องถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองมากหรือมีสภาพอากาศที่สมบุกสมบันเป็นประจำหรือไม่

 

7. อายุแบตเตอรี่

ชุดแบตเตอรี่ LP-E6N
ชุดแบตเตอรี่ LP-E17


สิ่งที่แตกต่าง

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กล้อง EOS RP มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาคือ ชุดแบตเตอรี่ LP-E17 ซึ่งมีความจุ 1040mAh จึงสามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 250 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกัน EOS R ใช้ชุดแบตเตอรี่ LP-E6N ขนาดใหญ่กว่า ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ชนิดเดียวกับกล้องในซีรีย์ EOS 5D และ 7D จึงสามารถถ่ายภาพได้ 370 ภาพด้วยความจุ 1865mAh

ความแตกต่างนี้ส่งผลต่ออะไรบ้าง

เมื่อคุณถ่ายภาพมากกว่า 200 ภาพต่อวันเท่านั้น โปรดทราบด้วยว่าคุณอาจถ่ายภาพได้มากกว่าจำนวนที่ระบุไว้ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

 

ข้อควรทราบอื่นๆ: กล้อง EOS R มีแบตเตอรี่กริป BG-E22 เป็นแบตเตอรี่กริปเสริม (ดังแสดงไว้ด้านบน) ซึ่งรองรับแบตเตอรี่ 2 สองก้อน ทำให้สามารถถ่ายภาพเพิ่มขึ้นได้รวมแล้ว 740 ภาพโดยประมาณ และยังช่วยให้ถือกล้องได้อย่างสะดวกสบายด้วยในขณะถ่ายภาพในแนวตั้ง จึงมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพ เช่น ภาพพอร์ตเทรต

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง EOS R และ EOS RP ได้ที่
มอบความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพด้วยกล้อง EOS R
ดึงศักยภาพของคุณออกมาด้วย EOS RP
จุดโฟกัส: EOS R

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

บทความที่เกี่ยวข้อง

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา