Dual Pixel RAW (DPRAW) เป็นวิธีการบันทึกรูปแบบใหม่ที่มีให้ใช้งานในกล้อง EOS 5D Mark IV ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถประมวลผลภาพได้หลายวิธีโดยใช้ Dual Pixel RAW Optimizer ซึ่งมาพร้อมกับ Digital Photo Professional 4.5.0 อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมถึงคุณสมบัติการแก้ไขภาพสามแบบที่คุณสามารถใช้งานได้ (เรื่องโดย Ryosuke Takahashi)

 

DPRAW เป็นการบันทึก RAW รูปแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่เหมือนใครของ Dual Pixel CMOS AF ซึ่งพิกเซลภาพหนึ่งพิกเซลในเซนเซอร์ CMOS ถูกสร้างขึ้นจากโฟโตไดโอดสองตัว โฟโตไดโอดแต่ละตัวสามารถเก็บข้อมูลภาพจากมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งต่อจากนั้นจะถูกเพิ่มเข้าไปในไฟล์ RAW เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตัดส่วนของภาพ ซึ่งสามารถนำไปใช้ระหว่างกระบวนการปรับแต่งภาพได้

DPRAW สามารถใช้ได้ทั้งในการถ่ายภาพ Live View และการถ่ายภาพผ่านช่องมองภาพ ทำให้คุณสามารถดำเนินขั้นตอนการปรับแต่งรูปภาพโดยใช้คุณสมบัติต่างๆ เช่น การปรับแต่งภาพอย่างละเอียด, Bokeh Shift และการลดแสงหลอกได้

การปรับแต่งภาพอย่างละเอียดจะช่วยชดเชยการขาดกำลังในการแยกรายละเอียดภาพอันเป็นผลมาจากการปรับแนวจุดโฟกัสที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยได้ ขณะที่ Bokeh Shift ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขการวางตำแหน่งเอฟเฟ็กต์โบเก้ในส่วนของโฟร์กราวด์หรือแบ็คกราวด์ได้อย่างเหมาะสม ส่วนการลดแสงหลอกจะให้การชดเชยแสงหลอกและแสงแฟลร์ที่เกิดจากแสงย้อนได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ผลที่ได้รับจากการแก้ไขภาพโดยใช้ DPRAW จะเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ เช่น ค่า f ที่ใช้ ระยะการถ่าย รวมถึงทางยาวโฟกัส

เราลองมาดูรายละเอียดของคุณสมบัติการแก้ไขภาพทั้งสามแบบกัน

 

การปรับแต่งภาพอย่างละเอียด

ด้วยการปรับแต่งภาพอย่างละเอียด บริเวณที่อยู่นอกระยะโฟกัสเล็กน้อยจะได้รับการแก้ไขเพื่อให้ภาพมีความละเอียดคมชัดในระดับสูง

 

EOS 5D Mark IV/ EF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/250 วินาที, EV+0.3)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ

 

 

วิธีใช้การปรับแต่งภาพอย่างละเอียด
คุณสมบัตินี้มีประโยชน์สำหรับฉากที่มีระยะชัดตื้น เช่น การถ่ายภาพมาโครและภาพบุคคล โดยก่อนอื่นให้บันทึกภาพใน DPRAW ผ่านช่องมองภาพหรือใน Live View จากนั้นคุณสามารถปรับแต่งจุดโฟกัสในระหว่างกระบวนการปรับแต่งภาพได้ แม้ว่าวิธีนี้จะมีข้อจำกัด แต่จะทำให้คุณได้ภาพที่ดีที่สุดในสถานการณ์การถ่ายภาพต่างๆ ขณะที่วิธีอื่นอาจไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขบริเวณปลีกย่อยที่อยู่นอกโฟกัส เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแรงลมหรือสาเหตุอื่นๆ ด้วยคุณสมบัตินี้ คุณจะสามารถปรับจุดที่คมชัดที่สุดไปข้างหน้าหรือข้างหลัง และยังสามารถปรับความเข้มของเอฟเฟ็กต์ได้อีกด้วย

 

Bokeh Shift

คุณสมบัตินี้ใช้เพื่อปรับรายละเอียดโบเก้เพื่อให้ผลภาพที่น่าพอใจมากขึ้น

 

EOS 5D Mark IV/ EF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/320 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

 

 

วิธีใช้ Bokeh Shift
คุณสมบัตินี้มีประโยชน์ในสถานการณ์ที่คุณใช้โบเก้ในส่วนโฟร์กราวด์และแบ็คกราวด์เพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น เมื่อถ่ายภาพบุคคลและวัตถุที่หยุดนิ่ง ในภาพนี้ ผมสามารถสร้างภาพที่สวยงามยิ่งขึ้นได้โดยการเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์ในส่วนโฟร์กราวด์ไปไว้ทางด้านขวา

 

การลดแสงหลอก

คุณสมบัตินี้ใช้เพื่อแก้ไข แสงหลอกและแสงแฟลร์ ซึ่งโดยปกติคุณอาจมองข้ามไป

 

EOS 5D Mark IV/ EF24-105mm f/4L IS USM/ FL: 45 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1 วินาที, EV-0.3)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ

 

 

วิธีใช้การลดแสงหลอก
คุณสมบัตินี้มีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์กลางคืน รวมถึงการถ่ายภาพในสภาพแสงย้อน การลดแสงหลอกให้ผลลัพธ์ที่จำกัดต่อแสงหลอกที่ปรากฏเด่นชัด อย่างไรก็ดี คุณสมบัตินี้มีประสิทธิภาพระดับหนึ่งในการลดแสงหลอกอ่อนๆ ซึ่งมักถูกมองข้ามไป คุณสมบัตินี้สามารถใช้กับฉากต่างๆ เช่น ฉากในภาพด้านบน ซึ่งจะไม่เผยให้เห็นข้อผิดพลาดใดๆ เลย

 

รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสาร เคล็ดลับและลูกเล่นในการถ่ายภาพได้โดย ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเรา!