คุณจัดแสงให้ตัวแบบอย่างไรเมื่อถ่ายภาพพอร์ตเทรต ด้วยคุณสมบัติการปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตใหม่ที่ปฏิวัติวงการซึ่งเปิดตัวในกล้อง EOS R5 ทำให้คุณมีตัวเลือกที่ใช้งานสะดวกที่สุด ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่ที่การใช้แฟลชและรีเฟล็กเตอร์ หรือเพียงแค่การเพิ่มความสว่างทั่วทั้งภาพภายในกล้องในภายหลังอีกต่อไป สิ่งเดียวที่ต้องทำคือ การถ่ายภาพในโหมด DPRAW แล้วคุณจะสามารถปรับความเข้มและทิศทางของแสงที่ตกกระทบบนตัวแบบในภาพพอร์ตเทรตได้ แม้หลังจากที่คุณถ่ายภาพไปแล้ว อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ (เรื่องโดย: Kazuo Nakahara, Digital Camera Magazine; นางแบบ: Honoka Kuwata (Oscar Promotion))

 

คุณสมบัตินี้ทำงานอย่างไร

คุณสมบัติการปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตผสานรวมเทคโนโลยีจดจำภาพเข้ากับข้อมูลที่ได้จาก Dual Pixel ในเซนเซอร์ภาพเพื่อระบุและเลือกตัวแบบบุคคล ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าเอฟเฟ็กต์การปรับแสงจะถูกนำไปใช้อย่างเป็นธรรมชาติ ประหนึ่งว่าคุณถ่ายภาพโดยใช้รีเฟล็กเตอร์!

ไม่มีรีเฟล็กเตอร์ ก็ไม่มีปัญหา

สำหรับช่างภาพที่ทำงานโดยไม่มีผู้ช่วยนั้น ประโยชน์ของคุณสมบัตินี้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อไม่จำเป็นต้องควบคุมรีเฟล็กเตอร์ คุณก็สามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆ ได้สะดวกขึ้น และยังสามารถจัดแสงในฉากต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อการใช้รีเฟล็กเตอร์ได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น ในการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวหรือภาพเต็มตัวที่มีแบ็คกราวด์อยู่ไกลออกไป 
นี่คือฟังก์ชั่นที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้เป็นอย่างมาก

 

วิธีใช้การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรต

ขั้นตอนที่ 1: เปิดใช้งานการบันทึก DPRAW

ในโหมด DPRAW ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Dual Pixel ในเซนเซอร์ภาพ เช่น ข้อมูลค่าความลึก จะถูกเก็บไว้ในไฟล์ RAW ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเปิดใช้งานโหมดนี้ก่อนที่จะบันทึก คุณสมบัติการปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตต้องการข้อมูลนี้เพื่อให้ใช้งานได้ เมื่อเปิดใช้งานแล้ว จะใช้ได้กับการบันทึกทั้ง RAW และ CRAW

ขั้นตอนที่ 2: ใช้การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตภายในกล้องเมื่อคุณถ่ายภาพเสร็จแล้ว

หลังจากถ่ายภาพแล้ว ให้ใช้ฟังก์ชั่นประมวลผล DPRAW กับภาพภายในกล้อง คุณสมบัติการปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตไม่มีในซอฟต์แวร์ Digital Photo Professional

หน้าจอการประมวลผล DPRAW

(1) ตำแหน่งของแหล่งกำเนิดแสง: เปลี่ยนทิศทางของแสงโดยใช้วงแหวนหรือปุ่ม Multi-Controller เพื่อเคลื่อนย้ายจุดสีขาวในวงกลมนี้
(2) ตำแหน่งของใบหน้าที่เลือก: แสดงด้วยเครื่องหมายกรอบเล็ง
(3) ประเมินใบหน้า: หากมีใบหน้าบุคคลจำนวนมากในภาพ คุณสามารถใช้ปุ่มนี้เพื่อเลือกว่าจะใช้เอฟเฟ็กต์ปรับแสงกับใบหน้าใด หรือแตะที่ใบหน้าที่ต้องการ
(4) ความเข้มแสง (ต่ำ/มาตรฐาน/สูง): เปลี่ยนความเข้มของเอฟเฟ็กต์แสง
(5) ระยะครอบคลุมของแสง (จุด/ปานกลาง/กว้าง): กำหนดขนาดพื้นที่ที่ได้รับแสง

 

คุณสมบัติการปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตแตกต่างจาก “ปรับแสงบนใบหน้า” ใน ALO อย่างไร

ฟังก์ชั่นปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ (ALO) ในกล้อง EOS R5 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ “ปรับแสงบนใบหน้า” ข้อแตกต่างปรากฏในตารางด้านล่าง

	การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรต	ปรับแสงบนใบหน้า
พื้นที่ที่ใช้งานได้	ใบหน้า ร่างกาย	ใบหน้า
การใช้เอฟเฟ็กต์	กำหนดเอง	อัตโนมัติ
รูปแบบที่รองรับ	DPRAW	RAW, CRAW
กระบวนการปรับแต่งภาพ	การประมวลผลภาพ DPRAW ภายในกล้อง	การประมวลผลภาพ RAW ภายในกล้อง, Digital Photo Professional

ปรับแสงบนใบหน้า: ปรับแต่งได้ไม่มากนัก

ระดับความสว่างที่คุณได้รับเมื่อใช้ “ปรับแสงบนใบหน้า” นั้นเชื่อมโยงกับระดับเอฟเฟ็กต์ปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ ดังนั้น เอฟเฟ็กต์จึงดูแนบเนียนกว่าและใช้กับใบหน้าเท่านั้น อีกทั้งมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งน้อยกว่าด้วย 

คุณสามารถเปิด “ปรับแสงบนใบหน้า” ได้เมื่อคุณปรับแต่งภาพ RAW ภายในกล้อง เพียงเลือกไอคอนปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติบนหน้าจอ โปรดทราบว่าฟังก์ชั่นนี้จะใช้ไม่ได้หากฟังก์ชั่นปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติถูกปิดใช้งานอยู่ขณะที่คุณถ่ายภาพ

 

เอฟเฟ็กต์การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรต

ทุกภาพ:
EOS R5/ RF50mm f/1.2L USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.2, 1/125 วินาที)/ ISO 125/ WB: อัตโนมัติ

ภาพเต็มตัว

ดังที่ภาพ GIF ด้านบนแสดงให้เห็น เอฟเฟ็กต์การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตจะเปลี่ยนความสว่างที่ลำตัวส่วนบนของนางแบบ ไม่ใช่ที่กระโปรง และยัง “เพิ่มแสง” ในส่วนสภาพแวดล้อมรอบๆ ของนางแบบ ทว่าผลลัพธ์นั้นดูเป็นธรรมชาติ เมื่อตัวแบบมีขนาดเล็กในเฟรม เอฟเฟ็กต์อาจถูกนำไปใช้กับส่วนสภาพแวดล้อมรอบๆ ของตัวแบบด้วย ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฉากและชุดของตัวแบบ

ภาพครึ่งตัว

เมื่อตัวแบบกินพื้นที่ในเฟรมมากขึ้น เอฟเฟ็กต์การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตจะถูกนำไปใช้กับตัวแบบเท่านั้น พร้อมให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด ลองมาดูรายละเอียดที่ภาพ GIF ด้านบนกัน การควบคุมเงาบนกระดูกไหปลาร้าและฝ่ามือของนางแบบถือว่าทำได้น่าประทับใจมาก ภาพที่ได้นั้นดูเหมือนภาพที่คุณจะถ่ายได้หากใช้รีเฟล็กเตอร์

ภาพใบหน้า

ในตัวอย่างภาพใบหน้าเหล่านี้ ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงดูเป็นธรรมชาติอยู่ เอฟเฟ็กต์การปรับแสงถูกนำมาใช้โดยไม่สูญเสียรายละเอียดของเงาในจมูกและแก้ม เมื่อแหล่งกำเนิดแสงสำหรับการปรับแสงอยู่ทางขวา ไม่เพียงแต่จะทำให้พื้นที่ที่อยู่ในเงาสว่างขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ส่วนสีขาวในดวงตาของนางแบบสว่างขึ้นและเสริมประกายตาของเธอด้วย เมื่อภาพถูกปรับแสงจากทางซ้าย จะเห็นว่าความเปรียบต่างดูดีขึ้น ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย

การเปลี่ยนความเข้มแสง

การเพิ่มความเข้มจะเพิ่มเงาและโทนน้ำหนักกลางเป็นหลัก สังเกตว่าส่วนที่สว่างยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งช่วยให้มีความสมดุล นอกจากนี้ การเปลี่ยนเส้นเค้าโครงดูค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติเช่นกัน

การเปลี่ยนระยะครอบคลุม

มีข้อแตกต่างอยู่เล็กน้อย แต่สังเกตได้ว่าการเพิ่มระยะครอบคลุมจะเพิ่มขอบเขตของพื้นที่รอบใบหน้าที่ได้รับแสงด้วย ใบหน้าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในการตั้งค่า “มาตรฐาน” เงาบนลำคอดูสว่างขึ้น และใน “กว้าง” หน้าอกของนางแบบก็สว่างขึ้นด้วย

 

หากต้องการทราบเคล็ดลับและคำแนะนำในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตและการจัดแสงเพิ่มเติม โปรดดูบทความต่อไปนี้:
2 เทคนิคทันใจที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้ภาพพอร์ตเทรตกลางแจ้งของคุณ
การจัดแสงธรรมชาติ: ภาพพอร์ตเทรตแบบไฮคีย์พร้อมเงาที่มีลวดลาย
[เทคนิคการใช้แฟลช] ถ่ายภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนในสไตล์ป๊อปอาร์ต

 

การปรับแสงในภาพพอร์ตเทรตเป็นคุณสมบัติใช้สะดวกที่ต้องมี แต่การเรียนรู้การควบคุมแสงด้วยอุปกรณ์และเทคนิคต่างๆ ถือเป็นทักษะจำเป็นที่ช่างภาพพอร์ตเทรตมือใหม่ควรทราบ กลับไปอ่านหลักพื้นฐานในการจัดแสงได้ที่:
เทคนิคการถ่ายภาพคอสเพลย์ (2): หลักพื้นฐานของการจัดแสง
เทคนิคการถ่ายภาพคอสเพลย์ (3): ตัวอย่างการจัดแสงแบบต่างๆ
5 เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับการถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อน
5 รูปแบบการจัดแสงขั้นพื้นฐานสำหรับการถ่ายภาพบุคคล

แล้วอย่าลืมอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของ Speedlite EL-1 ซึ่งเป็นแฟลช Speedlite รุ่นแรกในซีรีย์ L ของ Canon ได้ที่
แฟลช Red-Line Speedlite EL-1 รุ่นใหม่ของ Canon: การควบคุมที่ดีกว่า พร้อมการถ่ายทอดภาพที่โดดเด่นยิ่งขึ้น

 

---

---