ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

แนะนำกล้อง EOS-1D X Mark III (1): ประสิทธิภาพแห่งการถ่ายภาพนิ่ง

2020-01-14
1
3.6 k
ในบทความนี้:

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2020 Canon ได้เปิดตัวกล้อง DSLR รุ่นเรือธงระดับมืออาชีพรุ่นใหม่: EOS-1D X Mark III ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดมากมายจาก Canon กล้องฟูลเฟรมรุ่นใหม่นี้จึงสามารถให้คุณภาพของภาพ ความเร็ว และความแม่นยำที่ยอดเยี่ยม นับเป็นการพัฒนาคุณสมบัติในการถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโออย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับกล้องรุ่นก่อนหน้า ในตอนที่ 1 ของบทความซึ่งมี 2 ตอนนี้ เราขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติในการถ่ายภาพนิ่งของกล้องรุ่นนี้ (คลิกที่นี่เพื่ออ่าน ตอนที่ 2: การถ่ายวิดีโอและเครือข่าย)

 

เร็วกว่า สูงกว่า และดีกว่า: นำหน้าคู่แข่งด้วยสุดยอดกล้อง EOS DSLR

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมาถึงอีกครั้งในปี 2020 จะมีอะไรดีไปกว่าการเริ่มต้นปีใหม่นี้ด้วยการเปิดตัวกล้อง EOS-1D X Mark III EOS-1D X Mark III เป็นกล้องระดับมืออาชีพรุ่นเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Canon ในกลุ่ม EOS-1D ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่างภาพกีฬา ช่างภาพงานข่าว และช่างภาพสัตว์ป่าระดับมืออาชีพมากมายทั่วโลกต่างเลือกใช้ กล้องรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาคุณสมบัติให้ดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับ EOS-1D X Mark II กล้องรุ่นก่อนหน้าที่ได้รับรางวัลมาแล้ว ด้วยโครงสร้างและประสิทธิภาพที่คุณมั่นใจได้ นี่จึงเป็นกล้อง DSLR ที่ดีที่สุดของ Canon ในปัจจุบัน

กล้อง EOS-1D X Mark III กับเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ EF400mm

 

เร็วกว่า: ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องที่สูงจนน่าทึ่ง

สูงสุด 16 fps (OVF), 20 fps (Live View)

คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของกล้อง EOS-1D X Mark III คือ ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องซึ่งสูงถึง 16 fps เมื่อถ่ายด้วยช่องมองภาพแบบออพติคอล (OVF) นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับกล้อง DSLR เนื่องจากมีการเคลื่อนที่ของกลไกมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างการลั่นชัตเตอร์ เช่น การเคลื่อนกระจกขึ้น/ลง แต่กล้อง EOS-1D X Mark III สามารถทำได้เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้มากมาย เช่น

- กลไกการขับเคลื่อนกระจกแบบใหม่
- ความเร็วสูงขึ้นในการอ่านข้อมูลของเซนเซอร์
- ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Dual DIGIC 6+ ถึง 3 เท่า และ
- การนำการ์ด CFexpress มาใช้เป็นสื่อหน่วยความจำ ซึ่งให้ความเร็วในการเขียนที่สูงขึ้นเพื่่อรองรับความจุที่เพิ่มมากขึ้นของหน่วยความจำบัฟเฟอร์ของกล้อง

 

EOS-1D X Mark III
EOS-1D X Mark III
OVF: สูงสุด 16 fps (เมื่อใช้ฟังก์ชันติดตาม AF/AE)
LV: สูงสุด 20 fps (เมื่อใช้ฟังก์ชันติดตาม AF/AE)

EOS-1D X Mark II
EOS-1D X Mark II
OVF: สูงสุด 14 fps (เมื่อใช้ฟังก์ชันติดตาม AF/AE)
LV: สูงสุด 16 fps

ความเร็วของจำนวนเฟรมต่อวินาทีไม่ใช่ข้อได้เปรียบเพียงเพียงข้อเดียวที่ EOS-1D X Mark III มีเหนือกล้องรุ่นก่อนหน้า แต่ยังสามารถติดตาม AF/AE ได้ทั่วทุกเฟรมระหว่างการถ่ายต่อเนื่องทั้งใน OVF และ Live View ในขณะที่กล้องรุ่นก่อนจะใช้ได้เฉพาะกับ OVF เท่านั้น ในตอนนี้ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าตัวแบบจะอยู่ในโฟกัสและทุกเฟรมจะมีความสว่างที่เท่ากันไม่ว่าจะเลือกถ่ายภาพอย่างไร นี่จึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของกล้องให้ถ่ายภาพได้ในฉากที่หลากหลายขึ้น


นักกีฬาออกตัวจากทะเล

EOS-1D X Mark III/ EF11-24mm f/4L USM/ FL: 11 มม./ Manual exposure (f/9, 1/200 วินาที)/ ISO 500/ WB: 6600K/ ยิงแฟลช

นอกจากนี้ EOS-1D X Mark III ยังใช้อัลกอริทึมแบบใหม่ในระบบติดตาม AF บนตัวแบบ (AI Servo AF IV สำหรับการถ่ายด้วย OVF และ Servo AF สำหรับการถ่ายแบบ Live View) ซึ่งให้ความสามารถในการติดตามที่แม่นยำและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวแบบที่กำลังเคลื่อนที่ห่างออกไปจากกล้อง และ AI Servo AF IV ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามแม้ต้องถ่ายภาพท่ามกลางหมอกร้อนด้วย

หากต้องการอ่านเกี่ยวกับโหมด AF เพิ่มเติม โปรดดูที่: พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #9: โหมด AF


ลำดับภาพในการถ่ายภาพต่อเนื่องของหลุมทรายในสนามกอล์ฟ

ลำดับภาพในการถ่ายภาพต่อเนื่องของนักกอล์ฟผู้ซึ่งกำลังตีลูกในหลุมทรายในสนามกอล์ฟ ถ่ายด้วย Live View จากทั้งหมด 20 ภาพซึ่งถ่ายในเวลา 1 วินาที มี 3 ภาพที่มีลูกกอล์ฟอยู่ในเฟรม นี่จึงหมายความว่าช่างภาพสามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดได้จากสามภาพ และฟังก์ชัน AF ตรวจจับใบหน้าระหว่างใช้ Servo AF ยังช่วยให้คุณมั่นใจว่าดวงตาของนักกอล์ฟจะอยู่ในโฟกัสด้วย


ภาพนักกอล์ฟกำลังตีลูกจากหลุมทราย

EOS-1D X Mark III/ EF500mm f/4L IS II USM/ FL: 500 มม./ Manual exposure (f/4, 1/1250 วินาที)/ ISO 500/ WB: แสงแดด
ถ่ายด้วย Live View

สำหรับการถ่ายแบบ Live View ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างชัตเตอร์กล ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์แรก หรือชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยชัตเตอร์ทุกแบบสามารถถ่ายต่อเนื่องได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 20 fps การใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์จะช่วยขจัดเสียงที่เกิดจากชัตเตอร์กล จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงแบบเงียบในสถานการณ์้่ต่างๆ เช่น การแข่งขันกีฬา คอนเสิร์ต และการแสดงบนเวทีที่แม้แต่เสียงเพียงนิดเดียวก็อาจเป็นจุดสนใจได้

เคล็ดลับน่ารู้: ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องลดลงมากเกินไปด้วยเมื่อมีการใช้งานฟังก์ชัน Anti-flicker


ปัจจัยของความเร็วข้อที่ 1: ระบบขับเคลื่อนกระจกแบบใหม่

ระบบขับเคลื่อนกระจกของกล้อง EOS-1D X Mark III
A: ก้านล็อคเชื่อมต่อกระจกรอง
B: กระจกรอง
C: กระจกหลัก
D: ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์โดยตรงแบบใหม่

EOS-1D X Mark II ใช้กลไกการขับเคลื่อนกระจกที่ไม่เหมือนใครซึ่งมีมอเตอร์และเฟืองลูกเบี้ยวสำหรับควบคุมความเร็วในการขับเคลื่อนกระจกด้วยความแม่นยำและป้องกันการกระตุกของกระจกโดยเฉพาะ กล้อง EOS-1D X Mark III ได้พัฒนาคุณสมบัตินี้ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการนำระบบควบคุมมอเตอร์แบบเดียวกันนี้มาใช้กับกระจกรอง การควบคุมที่ดีขึ้นนี้ทำให้เวลาที่หน้าจอของช่องมองภาพเป็นสีดำสั้นลง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้มองเห็นภาพในช่องมองภาพระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้ AF มีความแม่นยำและมั่นคงด้วย


ปัจจัยของความเร็วข้อที่ 2: การ์ด CFexpress

ช่องใส่การ์ด CFexpress แบบคู่ของกล้อง EOS-1D X Mark III

EOS-1D X Mark III มีช่องใส่การ์ดแบบคู่ที่รองรับ CFexpress Type B การ์ด CFexpress เป็นการ์ดรุ่นถัดมาจาก CFast 2.0 และ XQD 2.0 และการ์ด Type B มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 2 GB ต่อวินาที ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ คุณจึงมั่นใจได้ว่าในการถ่ายต่อเนื่องหนึ่งครั้ง จะได้จำนวนภาพสูงสุดดังต่อไปนี้

- RAW: มากกว่า 1,000 ภาพโดยประมาณ (EOS-1D X Mark II: ประมาณ 170 ภาพ)
- RAW + JPEG: มากกว่า 1,000 ภาพโดยประมาณ (EOS-1D X Mark II: ประมาณ 81 ภาพ)

ความจุบัฟเฟอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหมายถึงโอกาสถ่ายภาพพลาดที่ลดลงไปอีก ซึ่งเดิมก็ไม่ได้มีมากอยู่แล้ว!

 

ดีกว่า: เพราะระบบ AF ที่ยอดเยี่ยมสองระบบย่อมดีกว่าหนึ่ง

จุด AF สูงสุด 191 จุด (OVF); AF 3,869 ตำแหน่ง (Dual Pixel CMOS AF ใน Live View)

การถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงจำเป็นต้องมี AF ที่รวดเร็วและแม่นยำทัดไม่แพ้กัน และด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ระบบ AF ในกล้อง EOS-1D X Mark III จึงยิ่งกว่าพร้อมสำหรับความท้าทายนี้


AF ช่องมองภาพ: เซนเซอร์ AF ความละเอียดสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อความไวและความแม่นยำที่เพิ่มมากขึ้น

เซนเซอร์ AF ความละเอียดสูง
เซนเซอร์ AF ความละเอียดสูงของ Canon

จุด AF สูงสุด 191 จุด
จุด AF ใน OVF ของกล้อง EOS-1D X Mark III

เซนเซอร์ AF ความละเอียดสูงที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตเซนเซอร์ภาพแบบใหม่ ซึ่งมีพิกเซลสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดเล็กกว่าและหนาแน่นกว่าเมื่อเทียบกับเซนเซอร์แบบเส้นแบบเดิม จึงสามารถรับสัญญาณ AF ความละเอียดสูงได้ คุณสมบัตินี้ทำให้สามารถโฟกัสที่ตัวแบบได้อย่างแม่นยำด้วยความเปรียบต่างต่ำและรายละเอียดที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถในการตรวจจับตามเส้นในแนวทแยงด้วย

ด้วยจำนวนจุด AF ใน OVF (191 จุด) ที่สูงกว่า 61 จุดในกล้องรุ่นก่อนมาก เซนเซอร์วัดแสง RGB+IR 400,000 จุดและระบบประมวลผลภาพ DIGIC 8 สำหรับการประมวลผล AF และ AE โดยเฉพาะ ทำให้กล้อง EOS-1D X Mark III มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการตรวจจับตัวแบบระหว่างการถ่ายด้วย OVF ทั้งยังสามารถตรวจจับใบหน้าและศีรษะได้ด้วย ซึ่งข้อหลังนั้นเป็นคุณสมบัติที่เพิ่งมีเป็นครั้งแรกในกล้อง Canon 

EOS-1D X Mark III: ข้อมูลจำเพาะของ AF ใน OVF
- จุด AF สูงถึง 191 จุด (แบบ Cross-type: สูงสุด 155 จุด)
- ใช้งานได้กับ f/8: จุด AF สูงสุด 191 จุด (แบบ Cross-type: สูงสุด 65 จุด)
- AI Servo AF IV
- ช่วงความสว่าง: EV -4 ถึง 21

 

AF ใน Live View: Dual Pixel CMOS AF พร้อม AF สูงสุด 3,869 ตำแหน่ง, Eye Detection AF

ในระบบ Dual Pixel CMOS AF ของ Canon แต่ละพิกเซลในเซนเซอร์ภาพจะมีโฟโตไดโอดสองตัว และทุกพิกเซลสามารถตรวจจับระยะตามระนาบภาพได้นอกเหนือจากการตรวจจับภาพ

พื้นที่ของ Dual Pixel CMOS AF ในกล้อง EOS-1D X Mark III

ระหว่างการถ่ายด้วย Live View ของกล้อง EOS-1D X Mark III พื้นที่ AF จะครอบคลุมประมาณ 90%×100% (แนวนอน × แนวตั้ง) ของพื้นที่เซนเซอร์ภาพ คุณจึงมั่นใจได้ว่ากล้องจะสามารถโฟกัสและติดตามตัวแบบได้ด้วยความแม่นยำสูงสุด แม้แต่กับตัวแบบที่เคลื่อนไหวอย่างคาดเดาไม่ได้ซึ่งเคลื่อนที่ไปยังขอบของเฟรมภาพ นับเป็นคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องใน Live View ด้วยความเร็วสูงสุด 20 fps ได้เป็นอย่างดี


Eye Detection AF ในโหมด Servo AF

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Eye Detection AF ด้วย ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบที่โดดเด่นสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต

 

การแบ่งส่วน AF (การเลือกพื้นที่ AF อัตโนมัติ)
AF 525 ส่วน
*มีความละเอียดกว่า AF รุ่นเดิมมาก เช่น กล้อง EOS R (143 ส่วน)

ตำแหน่งกรอบ AF ที่สามารถเลือกได้

*เมื่อใช้กับเลนส์ที่เข้ากันได้


EOS-1D X Mark III: ข้อมูลจำเพาะของ AF ใน Live View
- การเลือกพื้นที่ AF อัตโนมัติ: สูงสุด 525 ส่วน
- เลือกพื้นที่ AF ด้วยตนเอง: เลือกได้สูงสุดถึง 3,869 ตำแหน่ง
- ใช้ได้กับการโฟกัสที่ f/11
- การตรวจจับใบหน้าและศีรษะ และ Eye Detection AF
- Servo AF
- ช่วงความสว่าง: EV -6 ถึง 18


โฟกัสได้ง่ายดายแม้ในสภาวะแสงน้อย

ระบบ AF อันทรงพลังทั้งสองระบบในกล้อง EOS-1D X Mark III นั้นไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมั่นใจว่าทุกเฟรมในการถ่ายภาพต่อเนื่องจะอยู่ในโฟกัสอย่างคมชัดเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยทำให้โฟกัสได้ง่ายขึ้นในสภาวะแสงน้อยอีกด้วย ระหว่างการถ่ายด้วย OVF ขีดจำกัดในการโฟกัสในสภาวะแสงน้อยคือ EV -4 และในการถ่ายด้วย Live View ค่านี้จะลดลงไปอยู่ที่ EV -6

เรามักจะให้ความสำคัญกับขีดจำกัดของระดับแสงต่ำสุด แต่คุณควรทราบด้วยว่า AF ในช่องมองภาพสามารถโฟกัสได้ในสถานการณ์ที่มีความสว่างสูงถึง EV +21 ซึ่งเทียบเท่ากับความสว่างของไฟหน้ารถหรือรถไฟจากด้านหน้า


โฟกัสได้แม้ใช้เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้กับท่อต่อเลนส์

รูรับแสงกว้างสุดจะแคบลงเมื่อคุณใช้เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้กับท่อต่อเลนส์ ซึ่งเดิมทำให้การโฟกัสอัตโนมัติเป็นเรื่องยากมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อถ่ายภาพโดยใช้ OVF ของกล้อง EOS-1D X Mark III จุด AF ทั้งหมด 191 จุดรวมทั้งจุดโฟกัสแบบ Cross-type สูงสุดถึง 65 จุดจะสามารถโฟกัสได้แม้ที่รูรับแสงกว้างสุด f/8 และหากเป็นการถ่ายด้วย Live View พื้นที่ AF ทั้งหมดจะสามารถโฟกัสได้ที่รูรับแสงกว้างสุด f/11 

กล้อง EOS-1D X Mark III กับเลนส์ EF600mm และท่อต่อเลนส์

ในการใช้งานจริงจึงหมายความว่าคุณสามารถใช้ท่อต่อเลนส์ EF 2xIII กับเลนส์ EF800mm f/5.6L IS USM ได้ในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ทางยาวโฟกัส 1600 มม. และยังสามารถสนุกไปกับการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงสุดถึง 20 fps ได้ด้วยฟังก์ชันการติดตาม AF และ AE สบายใจได้เลยว่าคุณจะพร้อมสำหรับการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่ไม่เคยทำได้มาก่อน


การควบคุม AF ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ปุ่มควบคุม AF และเซนเซอร์ออพติคอล

ปุ่ม AF-ON ในกล้อง EOS-1D X Mark III ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย Smart Controller ซึ่งเป็นเซนเซอร์ออพติคอลที่ทำหน้าที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวของนิ้ว คุณจึงสามารถลากเพื่อเลือกจุด AF ได้ แต่นี่ไม่ใช่การแทนที่ปุ่ม Multi-Controller แบบเดิมซึ่งยังคงมีอยู่ ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับปุ่มควบคุมในกล้อง EOS-1D X Mark II จึงวางใจได้

แต่หากคุณคุ้นเคยแล้ว Smart Controller จะช่วยให้คุณเลือกจุด AF ได้รวดเร็วกว่าและตอบสนองได้ไวกว่า ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการจับภาพในช่วงวินาทีที่สำคัญ ข้อดีพิเศษ: นอกจากนี้ยังอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเมื่อถ่ายภาพในแนวตั้งด้วย

 

สูงกว่า: คุณภาพของภาพ กำลังการประมวลผล

ก้าวสู่อีกระดับของการถ่ายภาพ

ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซลของกล้อง EOS-1D X Mark III อาจดูไม่แตกต่างจากกล้องรุ่นก่อนเท่าใดนัก แต่เบื้องหลังตัวเลขนี้คือการปรับปรุงคุณภาพของภาพครั้งใหญ่ซึ่งเกิดจากการนำเอาเทคโนโลยีและคุณสมบัติใหม่ๆ มากมายมาใช้ ความละเอียดนี้เลือกสรรมาเพื่อให้สมดุลกับการปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ดังที่เราได้อธิบายไปแล้ว

ข้อควรรู้: ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซลนั้นเพียงพอสำหรับการพิมพ์ภาพขนาด A3

เซนเซอร์ภาพ CMOS ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซลรุ่นใหม่
เซนเซอร์ภาพ CMOS ใหม่ของกล้อง EOS-1D X Mark III
นอกเหนือจากการพัฒนาในด้านอื่นๆ แล้ว วงจรอ่านสัญญาณที่เร็วขึ้นทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วขึ้นและถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ 4K โดยไม่ต้องครอปได้ด้วย

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ใหม่
ชิปของระบบประมวลผลภาพ DIGIC X
ระบบประมวลผลภาพเดี่ยวนี้มีกำลังในการประมวลผลภาพที่สูงขึ้นกว่าระบบประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ ในกล้องรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้จะใช้พลังงานน้อยกว่าก็ตาม

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DIGIC ได้ที่: 5 สิ่งที่ระบบประมวลผลภาพ DIGIC สามารถทำได้


ฟิลเตอร์ Low-Pass ความละเอียดสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ฟิลเตอร์ Low-Pass ที่มีการแยก 16 จุด

ตัวแบบที่มีรายละเอียดขนาดเล็กและลวดลายซ้ำๆ จะมีความถี่ของแสงสูงมากซึ่งทำให้เซนเซอร์ภาพถ่ายทอดความละเอียดออกมาอย่างผิดเพี้ยน จนเกิดเป็นเอฟเฟ็กต์มอเร่และสีที่เพี้ยนไป เพื่่อแก้ปัญหานี้ กล้องส่วนใหญ่จะใช้ฟิลเตอร์ Low-Pass ซึ่งจะทำการแยกแสงที่ผ่านเข้ามาออกเป็นสี่จุดโดยเบลอแสงความถี่สูงเล็กน้อย ทำให้ได้สีที่สมจริงมากขึ้น

แม้กล้องรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันจะไม่มีฟิลเตอร์ Low-Pass อีกต่อไปเพื่อให้ภาพมีความคมชัดขึ้น เอฟเฟ็กต์มอเร่และสีที่เพี้ยนก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถกำจัดออกไปจากวิดีโอได้อย่างง่ายดายดังที่สามารถทำได้กับภาพนิ่ง เนื่องจากกล้อง EOS-1D X Mark III ถูกสร้างมาเพื่อใช้ในการถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพด้วย จึงมีฟิลเตอร์ Low-Pass ความละเอียดสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งสามารถทำการแยกภาพออกเป็น 16 จุดได้ (แทนการแยกเป็น 4 จุดแบบเดิม) คุณสมบัตินี้ทำให้ลำแสงของภาพถูกแยกออกไปในแนวทแยงนอกเหนือจากแนวนอนและแนวตั้ง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดเอฟเฟ็กต์มอเร่และสีเพี้ยนได้อย่างได้ผล รวมทั้งช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพโดยรวมอีกด้วย

ฟิลเตอร์ Low-Pass แบบเดิมที่มีการแยก 4 จุด
ฟิลเตอร์ Low-Pass แบบเดิมที่มีการแยก 4 จุด

ฟิลเตอร์ Low-Pass ความละเอียดสูงที่มีการแยก 16 จุด
ฟิลเตอร์ Low-Pass ความละเอียดสูงที่มีการแยก 16 จุด


ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ใหม่

ระบบประมวลผลภาพ DIGIC X ใหม่มีอัลกอริทึมประมวลผลเพื่อลดจุดรบกวนแบบใหม่ซึ่งช่วยให้ภาพที่ถ่ายด้วยความไวแสง ISO สูงมีคุณภาพสูง ทำให้สามารถใช้ความไวแสง ISO ตามปกติที่ 100 ถึง 102,400 ซึ่งขยายได้ถึง ISO 819,200 (H3) อัลกอริทึมประมวลผลเพื่อความคมชัดแบบใหม่นี้ช่วยเพิ่มความคมชัดและความชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น และ DIGIC X ยังทำให้สามารถใช้ Digital Lens Optimizer (DLO) ในกล้อง* เพื่อแก้ไขความคลาดของเลนส์ในขณะที่คุณถ่ายภาพได้ด้วย แม้จะบันทึกภาพในรูปแบบ JPEG

*รองรับเลนส์ EF เท่านั้น ไม่รองรับเลนส์ TS-E

ภาพพอร์ตเทรตของเด็กผู้หญิงบนเก้าอี้

EOS-1D X Mark III/ EF85mm f/1.4L IS USM/ FL: 85 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/80 วินาที)/ ISO 100/ WB: 5500K


บันทึกไฟล์ HDR PQ HEIF แบบ 10 บิต

กล้อง EOS-1D X Mark III มาพร้อมกับความสามารถในการบันทึกไฟล์ในรูปแบบ HEIF (รูปแบบไฟล์ภาพประสิทธิภาพสูง) 10 บิตตามการแก้ไขแกมมา HDR PQ (Perceptual Quantization) ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามลักษณะการมองเห็นด้วยสายตามนุษย์ 

ไฟล์ RAW ที่บันทึกด้วยกล้อง EOS มีข้อมูลเกี่ยวกับสีและโทนสีเป็นปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการปรับแต่งเพื่อให้สามารถแสดงศักยภาพได้สูงสุด แต่ไฟล์ JPEG แบบเดิมนั้นจะบันทึกเพียง 8 บิตของข้อมูลทั้งหมด จึงทำให้ได้รายละเอียดของโทนสีในช่วงที่แคบกว่า

เมื่อเปรียบเทียบกัน ไฟล์ HEIF สามารถเก็บข้อมูลโทนสีและสีได้สูงสุดถึง 10 บิตในขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า JPEG จึงทำให้สามารถแสดงผลภาพด้วยโทนและสีสันในช่วงที่กว้างและสดใสกว่าได้ โดยถ่ายทอดออกมาในลักษณะที่สมจริงกว่าเช่นเดียวกับที่คุณมองเห็นตามความเป็นจริงโดยไม่ต้องปรับแต่งภาพ ในตอนนี้คุณสามารถสร้างภาพถ่ายในแบบ HDR ได้จากภาพๆ เดียว โดยไม่ต้องนำภาพที่มีการรับแสงต่างกันหลายภาพมาซ้อนกัน 

อาคารสถานีโตเกียวในรูปแบบไฟล์ HDR PQ JPEG ส่งออกมาจากไฟล์ HEIF

EOS-1D X Mark III/ EF16-35mm f/2.8L III USM/ FL: 31 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 3.2 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ

คุณจะเห็นความลึก มิติ และความสมจริงในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนได้อย่างชัดเจน เมื่อคุณดูภาพ HDR PQ บนหน้าจอที่สามารถแสดงภาพแบบ HDR ได้ ลองสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวคุณเอง เพียงใช้สาย HDMI เชื่อมต่อกล้อง EOS-1D X Mark III ของคุณเข้ากับหน้าจอที่เข้ากันได้ นี่คือความล้ำสมัยที่เป็นสาเหตุว่าทำไมความสามารถในการบันทึกไฟล์แบบ HEIF จึงเป็นคุณสมบัติที่น่าจับตามอง


ภาพระยะใกล้ของนักว่ายน้ำที่กำลังตีกรรเชียง (ไฟล์ HDR PQ JPEG ที่แปลงมาจากไฟล์ HEIF)

EOS-1D X Mark III/ EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM/ FL: 234 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/6400 วินาที)/ ISO 1600/ WB: อัตโนมัติ

นี่คือภาพ HDR PQ HEIF ที่ถูกแปลงให้เป็นไฟล์ JPEG เมื่อใช้ซอฟต์แวร์ Digital Photo Professional ของ Canon ในการแปลงไฟล์ HEIF เป็น JPEG คุณจะได้ภาพที่มีความสมจริงเหมือนกับภาพที่คุณเห็นจากหน้าจอ HDR ซึ่งโทนและสีสันต่างๆ ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนตามที่ตาของมนุษย์มองเห็น

 

EOS-1D X Mark III เป็นกล้องที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ดีไม่ต่างจากภาพนิ่ง ในตอนที่ 2 เราจะมาศึกษาคุณสมบัติข้อนี้กัน รวมทั้งความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายด้วย

 

อ่านต่อเกี่ยวกับกล้อง EOS-1D X Mark III ได้ที่
ถ่ายภาพให้ได้อย่างมืออาชีพ: EOS-1D X Mark III - กล้อง DSLR ฟูลเฟรมรุ่นเรือธง (ฉบับภาษาอังกฤษ)

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา