การถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อนคือ รูปแบบหนึ่งในการถ่ายภาพด้วยแฟลช ซึ่งคุณต้องหันหัวแฟลช Speedlite ไปที่ผนังหรือเพดาน แล้วสะท้อนแสงจากพื้นผิวเหล่านั้นเพื่อกระจายแสงและทำให้แสงจาก Speedlite นุ่มนวลขึ้น เราสามารถใช้เทคนิคนี้กับแฟลชที่ติดตั้งเข้ากับฐานเสียบแฟลช เช่น แฟลช Canon Speedlite และมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพในที่ร่ม เรามาอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการพื้นฐาน เทคนิคบางอย่างที่คุณสามารถนำไปใช้ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต และอุปกรณ์เสริมต่างๆ กัน (เรื่องโดย: Teppei Kohno)
หลักพื้นฐานในการถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อน
A: หงายขึ้น 90°
B: กดลง 7°
C: หันไปทางซ้าย 90°
D: หันไปทางขวา 90°
หัวใจสำคัญในการถ่ายภาพโดยใช้แฟลชสะท้อนให้ดูสวยงามคือ มุมสะท้อนแฟลช มุมที่คุณสามารถปรับหัวแฟลชได้นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นของแฟลช Speedlite ที่ใช้ สำหรับ Speedlite 600EX II-RT ดังภาพด้านบน คุณสามารถปรับหัวแฟลชให้หงายขึ้น กดลง หันไปทางซ้ายหรือขวาได้ เมื่อเปลี่ยนมุมของหัวแฟลช จะทำให้แสงส่องไปยังตัวแบบในลักษณะที่แตกต่างกัน
Speedlite 470EX-AI (เวอร์ชันอังกฤษ) มีฟังก์ชั่น AI (Auto Intelligent Bounce) ซึ่งจะวัดและตั้งค่ามุมสะท้อนแฟลชที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
สำหรับแฟลช Speedlite รุ่นอื่น ๆ หากยิ่งฝึกฝน จะยิ่งชำนาญ ลองหมุนหัวแฟลช Speedlite เพื่อเปลี่ยนมุมการสะท้อนแฟลชของคุณ การเปลี่ยนมุมในการวางตำแหน่งแฟลช Speedlite จะทำให้ภาพที่ได้ดูต่างออกไปอย่างมาก
หากหันหัวแฟลชไปที่เพดานหรือผนัง จะช่วยให้แสงมีความนุ่มนวลขึ้น ซึ่งจะได้ผลดีเป็นพิเศษเมื่อถ่ายภาพในที่ร่มที่มีเพดานหรือผนัง วิธีนี้จะช่วยลดแสงจ้าจากผิวหนัง เส้นผม และเสื้อผ้าของตัวแบบเมื่อคุณถ่ายภาพบุคคล
เคล็ดลับที่ 1: เปลี่ยนลักษณะของเงาด้วยการสะท้อนแสงในทิศทางต่างๆ
สะท้อนแฟลชจากเพดาน
สะท้อนแฟลชจากผนัง
(เหมือนกันทั้งสองภาพ) EOS-1D X Mark II/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 55 มม./ Manual exposure (f/3.5, 1/100 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ/ (ใช้ในภาพตัวอย่าง: Speedlite 430EX III-RT)
ลองสังเกตดูความแตกต่างของลักษณะเงาที่ปรากฏ ในภาพตัวอย่างการสะท้อนแฟลชจากเพดาน เนื่องจากเงาที่เกิดขึ้นอยู่ด้านล่างของตัวแบบ ตัวแบบจึงขาดแสงเงาและทำให้ภาพที่ได้ดูธรรมดา ในทางกลับกัน การสะท้อนแฟลชจากผนังจะทำให้เกิดเงาที่ด้านหนึ่งของตัวแบบ ทำให้ตัวแบบดูเป็นสามมิติมากกว่า
ก่อนอื่น เมื่อถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อน ควรจดจำวิธีการสองวิธี ได้แก่ “การสะท้อนแฟลชจากเพดาน” ซึ่งจะถ่ายภาพโดยหงายหัวแฟลชไปที่เพดาน และ “การสะท้อนแฟลชจากผนัง” ซึ่งจะหันหัวแฟลชออกทางด้านข้างไปที่ผนัง ความแตกต่างสำคัญระหว่างสองวิธีนี้คือ ลักษณะของเงาที่ปรากฏ
ดังที่เห็นจากตัวอย่างภาพด้านบน การสะท้อนแฟลชจากเพดาน แสงจะส่องมาจากด้านบน เงาที่เกิดขึ้นจึงอยู่ด้านล่างของตัวแบบและทำให้ภาพที่ได้ดูธรรมดา ในขณะเดียวกัน เมื่อคุณสะท้อนแฟลชจากผนัง จะเกิดแสงที่ส่องมาจากด้านหนึ่งและเกิดเงาอีกด้านหนึ่ง จึงทำให้ตัวแบบดูเป็นสามมิติมากกว่า
เคล็ดลับที่ 2: คำนึงถึงสีของเพดานหรือผนังที่ใช้สะท้อนแสงแฟลชด้วย
เมื่อพื้นผิวที่ใช้สะท้อนแสงแฟลชเป็นสีขาว
เมื่อพื้นผิวที่ใช้สะท้อนแสงแฟลชเป็นสีน้ำตาล
(เหมือนกันทั้งสองภาพ) EOS 760D/ EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS STM/ FL: 55 มม. (เทียบเท่า 88 มม.)/ Manual Exposure (f/5.6, 1/125 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ/ (ใช้ในภาพตัวอย่าง: Speedlite 600EX II-RT)
เมื่อถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อน อย่าลืมดูให้แน่ใจว่าเพดานหรือผนังที่คุณหันแฟลชไปหานั้นเป็นสีขาว หากพื้นผิวที่ใช้สะท้อนแสงแฟลชมีสีสัน สีของตัวแบบจะผิดเพี้ยนไป ในตัวอย่างด้านบน เมื่อแสงสะท้อนจากประตูสีน้ำตาล ทั้งภาพจะดูเป็นสีน้ำตาลและไม่สามารถแสดงสีที่แท้จริงของตัวแบบได้อย่างถูกต้อง
เคล็ดลับที่ 3: ระยะห่างที่เหมาะสมจากผนังและเพดานคือ 1-2 ม.
1.6 ม. จากเพดาน
4 ม. จากเพดาน
(เหมือนกันทั้งสองภาพ) EOS 760D/ EF-S18-55mm f/3.5-5.6 IS STM/ FL: 55 มม. (เทียบเท่า 88 มม.)/ Manual Exposure (f/5.6, 1/125 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ/ (ใช้ในภาพตัวอย่าง: Speedlite 600EX II-RT)
หากหัวแฟลชอยู่ห่างจากผนังหรือเพดานที่ทำหน้าที่เป็นพื้นผิวในการสะท้อนแสงแฟลชมากเกินไป แสงจะไม่สามารถสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและอาจได้ภาพที่มืดเกินไป ระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างเพดานหรือผนังกับแฟลช Speedlite ควรอยู่ที่ราว 1-2 เมตร เพราะหากมากกว่านี้ จะทำให้แสงไปถึงพื้นผิวที่ใช้ในการสะท้อนแสงได้ยากขึ้น ส่งผลให้สะท้อนแสงได้น้อยลง
ในตัวอย่างด้านบน ระยะห่างจากเพดานอยู่ที่ประมาณ 4 ม. ไม่ต่างจากการส่องแฟลชขึ้นฟ้าเมื่ออยู่กลางแจ้ง สังเกตได้ว่าภาพที่ได้นั้นดูไม่ค่อยสว่าง
เคล็ดลับที่ 4: สร้างแสงที่ดูนุ่มนวลยิ่งขึ้นด้วยอะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลช
อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลช
สำหรับการใช้อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลช ให้ต่อเข้ากับหัวแฟลช Speedlite (ดังที่แสดงในกรอบสีแดง) ซึ่งสามารถกระจายแสงที่ออกมาและทำให้ดูนุ่มนวลยิ่งขึ้น Speedlite 600EX II-RT และ Speedlite 430EX III-RT ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับอะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลชของตัวเอง ซึ่งสามารถซื้อแยกต่างหาก แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Speedlite 270EX II ได้
ใช้อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลช
ไม่ใช้อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลช
(เหมือนกันทั้งสองภาพ) EOS 70D/ EF24-70mm f/4L IS USM/ FL: 55 มม. (เทียบเท่า 88 มม.)/ Aperture-priority AE (f/4.5, 1/25 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ/ (ใช้ในภาพตัวอย่าง: Speedlite 430EX III-RT)
อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลชเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการกระจายแสง ซึ่งมักใช้ในการถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อน เมื่อติดตั้งเข้ากับหัวแฟลชในระหว่างที่ถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อน อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลชจะช่วยให้แสงดูนุ่มนวลยิ่งขึ้นอีก เพื่อทำให้แสงส่องบนตัวแบบอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้เงาบนตัวแบบนุ่มนวลหรือขจัดเงาออกไปอีกด้วย
สังเกตเห็นได้ว่าในภาพตัวอย่างที่ใช้อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลช เงาและโทนสีผิวดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น อะแดปเตอร์สะท้อนแสงแฟลชมีประโยชน์อย่างมากสำหรับฉากที่หัวแฟลชอยู่ใกล้กับพื้นผิวที่ใช้สะท้อนแฟลชและสามารถสร้างเงาเข้มได้ง่ายๆ
เคล็ดลับที่ 5: ใช้แผ่นสะท้อนแสงเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาและทำให้ดวงตาของตัวแบบเป็นประกาย
แผ่นสะท้อนแสง
แผ่นสะท้อนแสงถูกเก็บไว้ภายในหัวแฟลชเมื่อไม่ได้ใช้งาน และจะถูกดึงออกมาจากด้านหน้าเมื่อคุณต้องการใช้ (ดังที่แสดงในกรอบสีแดง) เมื่อคุณถ่ายภาพผู้คน แผ่นนี้จะช่วยสะท้อนแสงไปยังดวงตาของตัวแบบ Speedlite 600EX II-RT และ Speedlite 430EX III-RT จะมาพร้อมแผ่นสะท้อนแสงหนึ่งแผ่น แต่ไม่มีใน Speedlite 270EX II
ใช้แผ่นสะท้อนแสง
ไม่ใช้แผ่นสะท้อนแสง
(เหมือนกันทั้งสองภาพ) EOS 70D/ EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS STM/ FL: 42 มม. (เทียบเท่า 67 มม.)/ Aperture-priority AE (f/4.5, 1/8 วินาที)/ ISO 1600/ WB: อัตโนมัติ/ (ใช้ในภาพตัวอย่าง: Speedlite 430EX III-RT)
เนื่องจากในการถ่ายภาพด้วยแฟลชสะท้อนสำหรับภาพพอร์ตเทรตมักชี้หัวแฟลชไปยังเพดานหรือผนัง จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะสร้างประกายในดวงตาของตัวแบบ ในกรณีนี้ คุณควรใช้แผ่นสะท้อนแสง เนื่องจากแผ่นนี้สามารถสะท้อนแสงไปยังดวงตาของตัวแบบ จึงช่วยให้ถ่ายทอดสีหน้าท่าทางได้มีชีวิตชีวามากกว่าปกติ นี่จึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์หากคุณต้องการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนให้ชัดเจน เช่น ภาพถ่ายระดับอกขึ้นไป ซึ่งจะได้ผลดีเป็นพิเศษเมื่อเงยหัวแฟลชขึ้น 90 องศา โปรดทราบว่า คุณอาจไม่ได้เอฟเฟ็กต์เดียวกันหากหันหัวแฟลชไปทางซ้ายหรือขวา
ต้องการเป็นเจ้าของ Speedlite หรืออัพเกรดแฟลชให้เป็นรุ่นปัจจุบันแล้วใช่ไหม อ่านข้อมูลเปรียบเทียบ Speedlite รุ่นต่างๆ ของ Canon ได้ในบทความต่อไปนี้
เลือกแฟลช Canon Speedlite อย่างไร
สำหรับบทช่วยสอนเพิ่มเติมโดยละเอียดเกี่ยวกับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตด้วยแฟลชสะท้อน โปรดไปที่:
[ตอนที่ 1] มาเริ่มการถ่ายภาพแบบยิงแฟลชสะท้อน (Bounce Flash) กัน
[ตอนที่ 2] การถ่ายภาพแบบโดยใช้แสงสะท้อนแฟลช (Bounce Flash) – เปลี่ยนสีด้วยการตั้งค่าสมดุลแสงขาว
สำหรับเคล็ดลับ บทช่วยสอน และรีวิวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Speedlite และการถ่ายภาพด้วยแฟลชเสริม โปรดดูที่:
จุดโฟกัส: Speedlite (ฉบับภาษาอังกฤษ)
จุดโฟกัส: ขั้นตอนพื้นฐานของการถ่ายภาพด้วยแฟลชเสริม
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!
เกี่ยวกับผู้เขียน
เกิดที่โตเกียวในปี 1976 เขาจบการศึกษาด้านสังคมสงเคราะห์จากคณะสังคมวิทยา มหาวิทยาลัย Meiji Gakuin และฝึกถ่ายภาพกับช่างภาพ Masato Terauchi เขามีส่วนร่วมในการถ่ายภาพให้นิตยสาร PHaT PHOTO ฉบับแรก และผันตัวมาเป็นช่างภาพอิสระหลังจากนั้นในปี 2003 Kohno ถ่ายภาพโฆษณาทุกประเภท นอกจากนั้นเขายังเป็นนักเขียนที่มีผลงานเขียนมากมายในนิตยสารเกี่ยวกับกล้องและนิตยสารอื่นๆ ด้วย