Focus Guide และ MF Peaking: ให้การโฟกัสแบบแมนนวลเป็นเรื่องง่าย
แม้เทคโนโลยีการโฟกัสอัตโนมัติจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงมีสถานการณ์ที่ช่างภาพจำเป็นต้องใช้การควบคุมและความแม่นยำจากการโฟกัสแบบแมนนวล ซึ่งเดิมนับเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยเวลาและสมาธิเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายภาพผ่านช่องมองภาพแบบออพติคอลในกล้อง DSLR แต่การโฟกัสแบบแมนนวลได้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมากด้วยเทคโนโลยีของกล้องมิเรอร์เลส นอกจากจะสามารถขยายหน้าจอ Live View ให้ใหญ่ขึ้นได้แล้ว ปัจจุบันยังมีฟังก์ชั่นภายในตัวกล้องที่ช่วยในการมองเห็นเพื่อใช้ในการโฟกัสแบบแมนนวลอีกสองฟังก์ชั่นด้วย นั่นคือ MF Peaking และ Focus Guide (เรื่องโดย: Kazuo Nakahara, Digital Camera Magazine)
ได้ข้อมูลการโฟกัสในทันที
ในระบบ Dual Pixel CMOS AF ของ Canon พิกเซลทั้งหมดในเซนเซอร์ภาพของกล้องสามารถทำหน้าที่ตรวจจับระยะได้ ในขณะค้นหาตัวแบบ พิกเซลเหล่านี้จะได้รับข้อมูลเป็นจำนวนมหาศาล ข้อมูลนี้ช่วยในการจับภาพตัวแบบด้วยโฟกัสอัตโนมัติ แต่สามารถนำมาใช้ในการโฟกัสแบบแมนนวลได้เช่นกัน
ในระบบกล้องมิเรอร์เลส เช่น ระบบ EOS R และ EOS M การที่ไม่มีกระจกทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพที่เซนเซอร์ภาพจับเอาไว้ได้ทันที รวมถึงข้อมูลที่แสดงอยู่บนนั้นด้วย ทั้งในขณะที่คุณใช้จอด้านหลังและเมื่อมองผ่านช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) คุณสมบัตินี้จึงทำให้คุณสามารถใช้ตัวช่วยในการมองเห็นโฟกัส เช่น MF Peaking และ Focus Guide ขณะถ่ายภาพได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในกล้อง EOS R, EOS R5 และ EOS R6 คุณจะพบฟังก์ชั่น MF Peaking และ Focus Guide ได้ในเมนู AF 2
สำหรับกล้องที่ไม่มีแท็บเมนู AF คุณจะพบฟังก์ชั่น MF Peaking ในเมนู SHOOT และสำหรับกล้อง EOS M50 จะอยู่ในเมนู SHOOT 7
MF Peaking: ดูว่าพื้นที่ใดอยู่ในโฟกัส
เมื่อตัวแบบอยู่ในโฟกัส ส่วนขอบจะมีความคมชัดขึ้น (มีความเปรียบต่างสูงขึ้น) MF Peaking ทำงานโดยวิเคราะห์ภาพใน Live View ตามเวลาจริงเพื่อตรวจหาขอบที่มีความเปรียบต่างสูง โดยจะแสดงขอบเหล่านี้ตามสีที่เลือก คุณจึงสามารถมองเห็นได้ว่าส่วนใดของภาพบ้างที่อยู่ในโฟกัส ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มาก!
EOS R/ RF28-70mm f/2L USM/ FL: 50 มม./ Flexible-priority AE (f/2, 1/80 วินาที, EV +0.3)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
ฉากที่มีแก้วหลายใบ MF Peaking จะเป็นประโยชน์ในฉากเช่นนี้ที่คุณต้องการควบคุมระนาบโฟกัสให้ได้ดียิ่งขึ้นแต่ไม่ต้องการความแม่นยำสูงสุด
การทำงานของ MF Peaking
โฟกัสอยู่ที่แก้วใบกลาง
โฟกัสอยู่ที่แก้วด้านหน้า
ส่วนที่มีความเปรียบต่างสูง (พื้นที่ในโฟกัส) จะเป็นสีแดง หากคุณหมุนวงแหวนโฟกัส คุณจะเห็นว่าพื้นที่สีแดงเปลี่ยนไป
ข้อควรรู้: คุณสามารถเปลี่ยนระดับและสีของโฟกัสพีคได้
การเปลี่ยนระดับ
สูง
ต่ำ
การตั้งค่า “ระดับ” ช่วยให้คุณปรับความไวในการตรวจจับเส้นขอบได้ ระดับ ‘ต่ำ’ จะทำให้ได้โฟกัสที่ละเอียดและแม่นยำกว่า แต่จะมองเห็นโฟกัสพีคได้ยากขึ้นด้วย
การเปลี่ยนสีโฟกัสพีค
แดง
เหลือง
น้ำเงิน
มีสีสำหรับโฟกัสพีคให้เลือกสามสี ได้แก่ แดง เหลือง และน้ำเงิน ให้คุณเลือกสีที่มองเห็นได้ชัดเจนเมื่ออยู่บนตัวแบบ
ดูตัวอย่างฉากที่ MF Peaking มีประโยชน์ได้ที่:
6 คุณสมบัติของกล้อง EOS R ที่เป็นประโยชน์ต่อการถ่ายภาพภูเขาและก้อนเมฆ
เทคนิคการถ่ายภาพมาโคร: ดอกไม้ที่สะท้อนบนหยดน้ำ
Focus Guide: เปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับระยะห่างให้เป็นตัวช่วยในการมองเห็น
ในขณะที่ Dual Pixel CMOS AF ทำการตรวจจับ AF ระบบจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับระยะห่างของตัวแบบจากเซนเซอร์ภาพ Focus Guide จะใช้ข้อมูลนี้ในการสร้างภาพเพื่อแสดงให้เห็นตำแหน่งของโฟกัสแบบแมนนวล ไม่ว่าจะอยู่ที่ด้านหน้าของตัวแบบ บนตัวแบบ หรือด้านหลังตัวแบบ
EOS R/ RF28-70mm f/2L USM/ FL: 60 มม./ Aperture-priority AE (f/2, 1/320 วินาที, EV +0.3)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ
นอกจากนี้ MF Peaking ยังทำงานได้เมื่อตั้งค่าขนาดกรอบ AF ไว้ที่ ‘เล็ก’ อีกด้วย ใช้ร่วมกับ MF Peaking เพื่อให้จับโฟกัสได้อย่างแม่นยำและง่ายดายในฉากเช่นนี้ ซึ่งคุณต้องโฟกัสบนตัวแบบขนาดเล็กและมีระยะชัดที่ตื้นมาก!
ลองใช้วิธีนี้ดูในครั้งถัดไปที่คุณต้องใช้โฟกัสแบบแมนนวลเพื่อถ่ายภาพมาโคร หรือถ่ายภาพดอกไม้ที่มีโบเก้ชัดเจน!
การทำงานของ Focus Guide
โฟกัสด้านหน้า
โฟกัสบนตัวแบบ
โฟกัสด้านหลัง
ตำแหน่งโฟกัสอยู่ด้านหน้าตัวแบบ: แสดงกรอบสีขาว ลูกศรตรงกลางชี้เข้าด้านใน ในขณะที่ลูกศรด้านนอกชี้ออก
โฟกัสอยู่บนตัวแบบอย่างถูกต้อง: แสดงกรอบสีเขียว
ตำแหน่งโฟกัสอยู่ด้านหลังตัวแบบ: แสดงกรอบสีขาว ลูกศรตรงกลางชี้ออก ลูกศรด้านนอกชี้เข้า
เคล็ดลับ: คุณสามารถเปิด Focus Guide ทิ้งไว้ได้
Focus Guide จะถูกปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น แม้คุณจะเปิดการทำงานในการตั้งค่าเมนู แต่ Focus Guide จะเริ่มทำงาน (แสดงข้อมูล) เมื่อใช้โหมดโฟกัสแบบแมนนวลเท่านั้น คุณจึงต้องทำเพียงแค่ตั้งค่า ‘เปิด’ ทิ้งไว้
หมายเหตุ: จะกินพลังงานมากเมื่อเปิดใช้งาน
ข้อควรรู้: Focus Guide ไม่สามารถทำงานได้ในฉากที่ใช้ AF ไม่ได้
เนื่องจาก Focus Guide ใช้ข้อมูลระยะห่างจากกรอบ AF จึงไม่สามารถทำงานได้ในฉากที่ใช้ AF ไม่ได้ ซึ่งฉากเหล่านี้ได้แก่
- ฉากที่ไม่มีหรือมีความเปรียบต่างต่ำมาก เช่น ท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆ
- สภาวะที่มืดมากจนเกินความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติในสภาวะแสงน้อยของกล้อง
เมื่อไม่สามารถใช้งาน Focus Guide ได้ คุณจะเห็นกรอบสีเทาดังแสดงด้านล่าง
และจะไม่มีการแสดง Focus Guide เมื่อคุณขยายหน้าจอ EVF/Live View ด้วยเช่นกัน
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
เกิดที่เมืองฮอกไกโดในปี 1982 Nakahara ผันเข้าสู่วงการถ่ายภาพหลังจากทำงานในบริษัทผลิตสารเคมี เขาถ่ายภาพที่ Vantan Design Institute เป็นหลักและเป็นผู้บรรยายในเวิร์คช็อปและสัมมนาด้านการถ่ายภาพ นอกเหนือจากการทำงานถ่ายภาพโฆษณา เขายังเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการถ่ายภาพอย่าง studio9 อีกด้วย