การถ่ายภาพหยดน้ำแบบมาโครต้องใช้ความอดทนอย่างมาก การได้ภาพหยดน้ำในแบบที่คุณต้องการไม่ใช่เรื่องง่ายก็จริง แต่กล้อง EOS มีฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์มากมายที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพหยดน้ำได้ตามต้องการ เราลองมาดูเคล็ดลับบางประการที่ใช้ถ่ายภาพสะท้อนของดอกไม้บนหยดน้ำ รวมถึงเทคนิคในการสร้างเอฟเฟ็กต์แฉกแสงรอบหยดน้ำกัน (เรื่องโดย: Miki Asai, Digital Camera Magazine)
FL: 28 มม. (เทียบเท่ากับ 45 มม.)/ Aperture-Priority AE (f/3.5, 1/25 วินาที, EV ±0)/ ISO 640/ WB: แสงแดด
ฉันถ่ายภาพนี้ขณะถือรีโมทคอนโทรลไว้ในมือข้างหนึ่งและอุปกรณ์ส่องสว่างภายนอกไว้ในมืออีกข้าง ฉันตั้งค่าความไวแสง ISO สูง ตั้งกล้องบนขาตั้ง แล้วใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำที่ 1/25 วินาที เพื่อจับภาพคลื่นในสายน้ำไหลให้คมชัด ตอนนั้นฝนตกค่อนข้างหนัก ฉันจึงใช้หมวกคลุมอาบน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้กล้องเปียก
สถานการณ์ที่ 1: การทำให้หยดน้ำดูคมชัดยิ่งขึ้น
แนวคิด: คุณไม่จำเป็นต้องใช้รูรับแสงที่กว้างมากเพื่อให้ได้โบเก้ที่ดีในระหว่างถ่ายภาพโคลสอัพ
ยิ่งคุณเข้าใกล้ตัวแบบมากเท่าใด ระยะชัดของภาพจะตื้นขึ้นและโบเก้ในส่วนแบ็คกราวด์จะชัดขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี หากคุณถ่ายภาพด้วยรูรับแสงกว้างสุด ระยะชัดของภาพจะตื้นเกินไป ถึงแม้จับโฟกัสไปที่ภาพสะท้อนของดอกไม้ เส้นเค้าโครงของหยดน้ำจะยังคงเบลออยู่แม้ว่าดอกไม้จะคมชัด
ฉันจึงลดความกว้างของรูรับแสงลงเหลือ f/9 โดยใช้โหมด Aperture-priority AE เพื่อให้มีระยะชัดที่กว้างขึ้น และปรับกล้องจนกว่าบริเวณขอบของหยดน้ำจะปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
FL: 28 มม. (เทียบเท่ากับ 45 มม.)/ Aperture-priority AE (f/9, 1/40 วินาที, EV -0.7)/ ISO 500/ WB: แสงแดด
เพื่อจับโฟกัสที่หยดน้ำทั้งสองหยด คุณจะต้องวางตำแหน่งของเลนส์ให้อยู่ห่างจากหยดน้ำทั้งสองอย่างพอเหมาะ ฉันพยายามกลั้นหายใจขณะถ่ายภาพ เนื่องจากหยดน้ำอาจหล่นลงได้ทันทีหากกลีบดอกไม้เคลื่อนที่ไปแม้เพียงหนึ่งมิลลิเมตร
หากรูรับแสงกว้างเกินไป หยดน้ำจะไม่โดดเด่น
f/3.5
f/11
ในการถ่ายภาพมาโคร คุณต้องถ่ายภาพใกล้มาก ระยะชัดจะตื้นโดยธรรมชาติ คุณจึงไม่จำเป็นต้องใช้รูรับแสงที่กว้างมากเพื่อสร้างโบเก้ที่เด่นชัดและทำให้ตัวแบบแยกออกมาจากแบ็คกราวด์ได้ดี ลองปรับรูรับแสงให้แคบลงเพื่อให้ตัวแบบหลักอยู่ในโฟกัสได้คมชัดยิ่งขึ้น
ฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ 1: ชัตเตอร์แบบแตะ
ในการถ่ายภาพมาโคร มีอยู่สองปัจจัยที่สามารถทำให้ถ่ายภาพได้ไม่คมชัด นั่นคือ
i) ระยะชัดที่ตื้นขึ้นแม้รูรับแสงจะแคบลง ซึ่งอาจทำให้จับโฟกัสได้ยาก
ii) แสงที่ลดลงเนื่องจากการถ่ายภาพระยะใกล้มาก ปัญหานี้ทำให้ความเร็วชัตเตอร์ช้าลง และเพิ่มโอกาสที่จะเกิดอาการกล้องสั่น
ชัตเตอร์แบบแตะสามารถใช้ได้ระหว่างการถ่ายภาพ Live View ซึ่งช่วยแก้ปัญหาทั้งสองข้อได้ เมื่อแตะจอสัมผัสหนึ่งครั้ง กล้องจะโฟกัสไปที่บริเวณนั้นและถ่ายภาพในเวลาเดียวกัน ฟังก์ชั่นนี้ไม่เพียงแต่ใช้งานง่ายเท่านั้น แต่ยังหลีกเลี่ยงอาการกล้องสั่นที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณกดปุ่มชัตเตอร์
ฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ 2: ขนาดของกรอบ AF - 'ขนาดเล็ก'
สำหรับกล้องมิเรอร์เลส EOS รุ่นล่าสุดและในโหมด Live View ของกล้อง EOS DSLR รุ่นใหม่ๆ คุณสามารถตั้งค่า [ขนาดของกรอบ AF] เป็น [ขนาดเล็ก] ได้ วิธีนี้ช่วยให้คุณจับโฟกัสได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น ที่ดอกไม้ที่สะท้อนบนหยดน้ำ
FL: 28 มม. (เทียบเท่ากับ 45 มม.)/ Aperture-Priority AE (f/7.1, 1/6 วินาที, EV ±0)/ ISO 400/ WB: แสงแดด
ดอกไม้ไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ดังนั้นจึงต้องใช้ความพยายามพอสมควรในการจัดองค์ประกอบภาพ เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนมุมของกลีบดอกไม้ได้ หลังจากตั้งกล้องบนขาตั้งกล้องแล้วฉันจึงปรับกล้องให้เอียง ฉันใช้เลนส์มาโครมุมกว้าง EF-M28mm f/3.5 Macro IS STM ทำให้เกิดพื้นที่ว่างในส่วนแบ็คกราวด์พอสมควร ซึ่งสามารถเติมพื้นที่นี้ให้เต็มได้ง่ายๆ โดยวางดอกไม้สองดอกไว้ด้านหลัง
ขนาดของกรอบ AF ขนาดปกติ: ดอกไม้เบลอ
หากตั้งค่า [ขนาดของกรอบ AF] เป็น [ขนาดปกติ] กรอบจะมีขนาดใหญ่เกินไป ดังนั้น กล้องจึงโฟกัสไปที่ขอบของหยดน้ำแทนภาพสะท้อนของดอกไม้ ซึ่งทำให้ภาพสะท้อนของดอกไม้ดูเบลอ
ขั้นตอนการถ่ายภาพ
1. กดปุ่ม MENU
2. ตั้งค่า [ชัตเตอร์แบบแตะ] ไปที่ [ใช้งาน]
3. ตั้งค่า [ขนาดของกรอบ AF] เป็น [ขนาดเล็ก]
4. ขยายขนาดภาพใน Live View และแตะที่หน้าจอเพื่อถ่ายภาพ
เคล็ดลับ: เมื่อถ่ายภาพ ให้ตั้งค่ากล้องในระยะโฟกัสใกล้ที่สุด แต่ควรทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากหากเลนส์สัมผัสกับดอกไม้หรือหยดน้ำ คุณจะต้องตั้งค่าใหม่ทั้งหมด
สถานการณ์ที่ 2: แฉกแสงบนหยดน้ำหลายหยด
แนวคิด: การโฟกัสเกิดขึ้นที่แนวระนาบ ไม่ใช่จุดใดจุดหนึ่ง
FL: 28 มม. (เทียบเท่ากับ 45 มม.)/ Aperture-priority AE (f/11, 1/25 วินาที, EV +0.3)/ ISO 400/ WB: แสงแดด
เมื่อคุณจับโฟกัสไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทุกอย่างที่อยู่ในระนาบเดียวกันจะอยู่ในโฟกัสด้วย ในการจับโฟกัสที่หยดน้ำหลายหยดให้คมชัด ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าหยดน้ำอยู่ห่างจากกล้องเป็นระยะทางที่เท่ากัน โดยจัดเรียงให้เป็นเส้นตรงขนานกับเลนส์ของคุณ เมื่อหยดน้ำอยู่ในโฟกัสแล้ว ให้จัดวางแหล่งกำเนิดแสงในแนวทแยงหลังหยดน้ำ
เคล็ดลับน่ารู้: เลนส์ทิลต์-ชิฟต์ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนระนาบโฟกัสเพื่อไม่ให้ขนานกับเลนส์ได้ อ่านต่อได้ที่นี่
มุมของแสงมีผลต่อสีที่ถ่ายได้ จึงควรลองหามุมที่ทำให้ดอกไม้ดูสวยงามมากที่สุด! จากนั้นตั้งค่ากล้องให้ใช้รูรับแสงแคบ เช่น f/11 เมื่อกล้องเก็บภาพลำแสงที่สะท้อนออกมาจากหยดน้ำ แฉกแสงจะปรากฏขึ้นที่เส้นขอบของตัวแบบ
เคล็ดลับ: ใช้กระดาษสีขาวเป็นรีเฟล็กเตอร์เพื่อเกลี่ยแสงบนตัวแบบให้เท่ากัน
ฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์: MF Peaking
เมื่อคุณต้องการถ่ายภาพหยดน้ำหลายหยดให้ดูคมชัด การโฟกัสแบบแมนนวลจะช่วยให้คุณควบคุมได้มากกว่า MF peaking จะแสดงขอบที่อยู่ในโฟกัสเป็นสีเฉพาะ เพื่อให้คุณรู้ว่าควรปรับโฟกัสมากน้อยเพียงใด
ขั้นตอนการถ่ายภาพ
1. ปรับโหมดการโฟกัสมาที่ MF
2. กดปุ่ม MENU
3. ในแท็บ [4] ของเมนูถ่ายภาพ ให้เลือก [การตั้งค่า MF Peaking] จากนั้นตั้งค่า [Peaking] เป็น [On]
4. หมุนวงแหวนโฟกัสจนกว่าสีสันจะปรากฏขึ้นบนขอบของหยดน้ำ
เคล็ดลับพิเศษ: หากต้องการสร้างแฉกแสง คุณต้องใช้อุปกรณ์ส่องสว่างภายนอก
ภาพนี้ถ่ายโดยใช้รีเฟล็กเตอร์เพื่อเกลี่ยแสง หากไม่มีแหล่งกำเนิดแสงที่เป็นแสงจ้า แฉกแสงจะไม่เกิดขึ้น
อ่านเคล็ดลับและไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพมาโครได้ที่:
เทคนิคการถ่ายภาพมาโคร: การสร้างพื้นที่ว่างและความลึกลวงตา
วิธีถ่ายภาพหยดน้ำให้มีแสงส่องประกาย!
ภาพมาโครชวนน้ำลายสอ: ศิลปะแห่งการถ่ายภาพอาหารแบบโคลสอัพ
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
เกิดที่โอบิฮิโระในฮอกไกโด ขณะทำงานเป็นพนักงานบริษัท เธอมักนำกล้องมาลองถ่ายภาพวัตถุชิ้นเล็กๆ ในช่วงหลังเลิกงานและในวันหยุด ปี 2013 Asai ซื้อกล้อง DSLR ที่เธอชื่นชอบมานานและเริ่มต้นถ่ายภาพ วันหนึ่ง เธอรู้สึกประทับใจกับหยดน้ำค้างบนใบไม้ในตอนเช้าเมื่อมองผ่านเลนส์มาโคร ซึ่งเป็นภาพที่ "สวยงามกว่าอัญมณีใดๆ" นั่นทำให้เธอรู้สึกทึ่งจนเกิดความต้องการที่จะถ่ายภาพโลกใบเล็กอันงดงาม ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกหนแห่งแต่พลาดสายตาได้ง่ายและยากที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นับตั้งแต่นั้นมา เธอรักษาสไตล์การถ่ายภาพเช่นนี้เรื่อยมาด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝันของตัวเอง