พื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์ #3: การสร้างโบเก้
“โบเก้” ซึ่งหมายถึงภาพเบลอที่ดูมีเสน่ห์งดงามในบริเวณที่อยู่นอกระยะโฟกัสของภาพ คือเทคนิคการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านภาพถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์ โบเก้ทำให้ภาพมีความลึก และเป็นวิธีที่ขาดไม่ได้ในการดึงความสนใจของผู้ชมไปที่ตัวแบบที่อยู่ในโฟกัส ในบทความนี้ เราจะมาดู 4 ปัจจัยสำคัญในการสร้างโบเก้ และศึกษาวิธีควบคุมเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งใจ (เรื่องโดย Tomoko Suzuki)
4 ปัจจัยสำคัญที่สร้างโบเก้ให้ดูเด่นชัด
เงื่อนไขที่สร้างโบเก้ให้ดูเด่นชัด
1. ใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสยาว
2. เลือกรูรับแสงกว้าง
3. ขยับเข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้น
4. วางตัวแบบให้ห่างจากแบ็คกราวด์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเด่นชัดของเอฟเฟ็กต์โบเก้ (นั่นคือ ระดับการเบลอในบริเวณที่ต้องการ) มีสี่ปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ รูรับแสง ทางยาวโฟกัส ระยะการถ่ายภาพ และระยะห่างระหว่างตัวแบบกับแบ็คกราวด์ การใช้ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับตัวแบบและฉากจะช่วยให้คุณสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ในแบบที่ต้องการได้
รูรับแสง: ยิ่งรูรับแสงกว้างขึ้น (ค่า f ต่ำลง) เอฟเฟ็กต์โบเก้จะยิ่งเห็นชัดมากขึ้น (“ขนาดใหญ่ขึ้น”) และสัมพันธ์กันเช่นนี้ในทางกลับกัน
ทางยาวโฟกัส: ยิ่งทางยาวโฟกัสยาวขึ้น เอฟเฟ็กต์โบเก้จะยิ่งเห็นชัดมากขึ้น และสัมพันธ์กันเช่นนี้ในทางกลับกัน
ระยะการถ่ายภาพ: ยิ่งตัวแบบอยู่ใกล้ เอฟเฟ็กต์โบเก้จะยิ่งเห็นชัดมากขึ้น และสัมพันธ์กันเช่นนี้ในทางกลับกัน
ระยะห่างระหว่างตัวแบบและแบ็คกราวด์: ยิ่งแบ็คกราวด์อยู่ไกล เอฟเฟ็กต์โบเก้จะยิ่งเห็นชัดมากขึ้น และสัมพันธ์กันเช่นนี้ในทางกลับกัน
อีกนัยหนึ่งคือ เพื่อให้ได้โบเก้ที่เด่นชัดที่สุด คุณจำเป็นต้องใช้เลนส์เทเลโฟโต้ โดยตั้งค่ารูรับแสงกว้างสุด ขยับเข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้นจนกระทั่งคุณอยู่ที่ระยะการถ่ายต่ำสุด และเลือกสถานที่/ตำแหน่งถ่ายภาพที่แบ็คกราวด์เห็นนั้นอยู่ไกลจากตัวแบบมากที่สุด อย่างไรก็ดี เพียงสร้างโบเก้ที่เด่นชัดที่สุดอาจไม่ได้ผลสำหรับภาพทุกภาพ สิ่งสำคัญคือต้องปรับเอฟเฟ็กต์โบเก้จนกระทั่งเหมาะกับวัตถุประสงค์และความมุ่งหมายของภาพ และความสามารถในการปรับนี้เป็นทักษะที่จำเป็นมากในการถ่ายภาพ
เราลองมาดูรายละเอียดของแต่ละปัจจัยที่ส่งผลต่อความเด่นชัดของโบเก้กัน
รูรับแสง
ตัวอย่างด้านล่างถ่ายจากตำแหน่งเดียวกัน แต่ใช้ค่ารูรับแสงต่างกัน เมื่อใช้รูรับแสงกว้าง (f/1.4) แบ็คกราวด์จะอยู่นอกโฟกัสอย่างชัดเจน (เอฟเฟ็กต์โบเก้เห็นชัดเจนมาก) ขณะที่เมื่อใช้รูรับแสงแคบ (f/16) ภาพทั้งภาพจะอยู่ในโฟกัส รวมทั้งแบ็คกราวด์ด้วย นั่นเป็นเพราะเมื่อใช้รูรับแสงกว้าง ระยะชัดลึกจะตื้นและส่งผลให้แบ็คกราวด์อยู่นอกโฟกัสนั่นเอง
รูรับแสงกว้าง (f/1.4)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/200 วินาที, EV+0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
รูรับแสงแคบ (f/16)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/16, 1/40 วินาที, EV+0.3)/ ISO 2500/ WB: Manual
ทางยาวโฟกัส
ภาพทั้งสองภาพต่อไปนี้ถ่ายที่ค่า f/2.8 แต่ใช้ทางยาวโฟกัสต่างกัน ภาพถูกจัดวางเพื่อให้เสาที่สลักชื่อไว้ดูมีขนาดเท่ากันในภาพทั้งสองภาพ เมื่อใช้ทางยาวโฟกัส 70 มม. เราจะเห็นเอฟเฟ็กต์โบเก้ในส่วนแบ็คกราวด์ได้ชัดพอควร แต่เมื่อใช้ทางยาวโฟกัส 24 มม. เอฟเฟ็กต์โบเก้จะเห็นชัดน้อยลงมาก นั่นหมายความว่าหากใช้เลนส์ซูม คุณจะได้เอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เด่นชัดมากขึ้นเมื่อใช้ทางยาวโฟกัสยาวขึ้น
ทางยาวโฟกัสยาวขึ้น (70 มม.)
EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/1600 วินาที, EV-0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
ทางยาวโฟกัสสั้นลง (24 มม.)
EOS 5D Mark III/ EF24-70mm f/2.8L II USM / FL: 24 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/50 วินาที, EV-0.3)/ ISO 100/ WB: Manual
ระยะการถ่ายภาพ
ตัวอย่างด้านล่างถ่ายโดยใช้ค่ารูรับแสงที่เท่ากัน (f/1.4) แต่ถ่ายจากระยะห่างที่ต่างกัน คุณจะเห็นว่าระยะห่างระหว่างกล้องกับตัวแบบส่งผลต่อความเด่นชัดของเอฟเฟ็กต์โบเก้ได้อย่างไร เมื่อกล้องอยู่ใกล้ตัวแบบมากขึ้น (ตัวอย่างที่ระยะ 50 ซม.) แบ็คกราวด์จะอยู่นอกโฟกัสมากขึ้น และจะเห็นเอฟเฟ็กต์โบเก้ได้ชัดเจนขึ้น และเมื่อกล้องอยู่ไกลจากตัวแบบมากขึ้น (ตัวอย่างที่ระยะ 70 ซม.) แบ็คกราวด์จะอยู่ในโฟกัสมากขึ้น และจะเห็นเอฟเฟ็กต์โบเก้ได้ชัดน้อยลง โปรดอย่าลืมว่าระยะที่คุณสามารถเข้าใกล้ตัวแบบได้นั้นขึ้นอยู่กับระยะการถ่ายต่ำสุดของเลนส์ที่คุณใช้ (หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 'ระยะโฟกัสใกล้สุด')
ใกล้ขึ้น (50 ซม.)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/50 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: Manual
ไกลขึ้น (70 ซม.)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/50 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: Manual
ระยะห่างระหว่างตัวแบบกับแบ็คกราวด์
ภาพตัวอย่างทั้งสองภาพต่อไปนี้ถ่ายที่ค่า f/1.4 แต่มีระยะห่างระหว่างตัวแบบกับแบ็คกราวด์ต่างกัน เมื่อแบ็คกราวด์อยู่ห่างจากตัวแบบมากขึ้น (60 ซม.) เอฟเฟ็กต์โบเก้จะเห็นได้ชัดขึ้น และเมื่อแบ็คกราวด์อยู่ใกล้ตัวแบบมากขึ้น (30 ซม.) เอฟเฟ็กต์โบเก้จะเห็นได้ชัดน้อยลง นี่แสดงว่าหากคุณต้องการเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เด่นชัด คุณต้องดูให้แน่ใจว่าตัวแบบอยู่ไกลจากแบ็คกราวด์มากขึ้น
ไกลขึ้น (60 ซม.)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/2500 วินาที, EV±0)/ ISO 100/ WB: Manual
ใกล้ขึ้น (30 ซม.)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/3200 วินาที, EV±0)/ ISO 100/ WB: Manual
สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักถึงเมื่อสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้
1. เลือกค่ารูรับแสงที่รักษาบริบทในภาพได้เพียงพอ
f/1.4
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/60 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
f/5.6
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 1/50 วินาที, EV+0.7)/ ISO 1250/ WB: อัตโนมัติ
ยิ่งรูรับแสงกว้างขึ้น ภาพเบลอจะยิ่งชัดเจนขึ้นและพื้นที่นอกโฟกัสจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะดึงความสนใจไปที่ตัวแบบหลักได้มากขึ้น แต่หากคุณสร้างภาพที่เบลอมากเกินความจำเป็น อาจกลายเป็นการตัดข้อมูลที่จำเป็นซึ่งมีส่วนสร้างบริบทในภาพถ่าย เช่น สถานที่และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ออกไป ดังนั้น จึงควรพิจารณาว่าคุณต้องการถ่ายทอดตัวแบบหลักที่เป็นเป้าหมายอย่างไร แล้วจึงเลือกค่ารูรับแสงที่เหมาะสม
2. หากต้องการใช้ประโยชน์จากพลังในการสื่ออารมณ์ ให้ใช้รูรับแสงที่กว้างขึ้น
f/11
EOS 6D/ EF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1/50 วินาที, EV+1)/ ISO 1600/ WB: แสงแดด
f/1.8
EOS 6D/ EF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.8, 1/100 วินาที, EV+1)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
การใช้รูรับแสงแคบจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในเฟรมภาพอยู่ในโฟกัส และเมื่อมองเห็นองค์ประกอบในภาพได้ชัดเจน จึงยากที่จะนำเสนอแนวคิดและกระตุ้นอารมณ์ภาพ ดังนั้น หากคุณต้องการให้ภาพถ่ายชวนให้รำลึกถึงอดีตมากกว่าภาพยนตร์สารคดี ควรใช้รูรับแสงกว้างขึ้นและสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เด่นชัดมากขึ้น วิธีนี้จะช่วยดึงความสนใจของผู้ชมไปยังจุดที่ต้องการ และให้แนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการสื่อ
ซึ่งเอฟเฟ็กต์โบเก้สามารถช่วยให้คุณได้ภาพเช่นนี้!
EOS 700D/ EF-S55-250mm f/4-5.6 IS STM/ FL: 127 มม. (เทียบเท่า 203 มม.)/ Aperture-priority AE (f/5, 1/500 วินาที)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
ทางยาวโฟกัสที่ยาวและค่ารูรับแสงกว้างสุดสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่ดีที่สุด
ภาพนี้ถ่ายโดยใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาว (203 มม. เทียบเท่าฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.) โดยใช้ค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ f/5 ฉันใช้ปัจจัยสองข้อสำหรับโบเก้ที่เด่นชัดในการสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เบลอรายละเอียดในทะเล เพื่อดึงความสนใจไปที่นกนางนวล
หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบเก้ โปรดอ่านบทความต่อไปนี้:
เทคนิคการถ่ายภาพพอร์ตเทรตโดยใช้โบเก้
พัฒนาทักษะการถ่ายภาพท่องเที่ยวของคุณด้วย EOS M10 ตอนที่ #1: การใช้โบเก้เพื่อทำให้ตัวแบบดูโดดเด่น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์ #8: ส่วนใดที่ควรโฟกัสเพื่อให้ได้ภาพถ่ายวงกลมโบเก้ที่สวยงาม
การถ่ายภาพดอกไม้: วิธีสร้างวงกลมโบเก้ที่สว่างจ้าให้สวยแจ่มด้วยเลนส์มาโคร
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!