เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างมีค่า f ต่ำ จึงไม่เพียงให้เอฟเฟ็กต์ภาพเบลอที่นุ่มนวลในส่วนแบ็คกราวด์เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย พบคำตอบได้ในบทความนี้ (เรื่องโดย Tomoko Suzuki)
คุณสมบัติของเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง
1. เลนส์ที่มีค่ารูรับแสงกว้างสุดสร้างโบเก้ที่นุ่มนวลได้ง่าย (แบ็คกราวด์เบลอ)
2. ช่วยให้ถ่ายภาพโดยใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงได้แม้ในสภาพแสงน้อย จึงเหมาะสำหรับป้องกันการสั่นไหวของกล้อง
3. ระยะชัดลึกที่ตื้นมากทำให้ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเพื่อให้ได้โฟกัสที่คมชัด
4. ให้ภาพที่สว่างและคมชัดยิ่งขึ้นหากใช้ช่องมองภาพแบบออพติคอล
เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเลนส์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ เนื่องจากมีขนาด "เส้นผ่านศูนย์กลาง" ที่ค่อนข้างใหญ่สำหรับให้แสงเข้าสู่เลนส์ เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่นี้ทำให้เลนส์มีค่ารูรับแสงกว้างสุด (ค่า f ต่ำ) และเป็นเหตุผลที่ทำให้เลนส์นี้เรียกอีกอย่างว่า เลนส์ "สว่าง" โดยทั่วไป เลนส์นี้จะมีค่า f กว้างสุดที่ f/2.8 หรือต่ำกว่า แม้แต่ในเลนส์ซูมที่มีรูรับแสงแบบปรับได้ ซึ่งค่ารูรับแสงกว้างสุดนี้จะขึ้นอยู่กับทางยาวโฟกัสที่ใช้ ยิ่งค่ารูรับแสงกว้างสุดมากขึ้นเท่าใด จะได้เอฟเฟ็กต์แบ็คกราวด์เบลอ ที่เด่นชัดได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
การที่แสงสามารถเข้าสู่เลนส์และเซนเซอร์ภาพได้มากอันเนื่องมาจากรูรับแสงกว้างหมายความว่าสามารถรักษาความเร็วชัตเตอร์ สูงไว้ได้ แม้ในสภาพแสงน้อย เช่น เมื่อถ่ายภาพในที่ร่ม ยามค่ำคืน หรือในแสงสลัว จึงช่วยป้องกันการสั่นไหวของกล้องแม้จะถ่ายภาพแบบถือกล้องด้วยมือ
อย่างไรก็ดี เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างยังมีระยะชัดลึกที่ตื้นมากเช่นกัน จึงทำให้ยากที่จะจับโฟกัสได้แม่นยำ สำหรับฉากบางประเภท การถ่ายภาพในแบบ Live View โดยใช้ภาพขยายและการโฟกัสแบบแมนนวล (MF) จึงอาจมีประสิทธิภาพมากกว่า (อ่าน: ทำอย่างไรจึงจะโฟกัสด้วยแมนนวลโฟกัส (MF) ได้แม่นยำ)
ในกล้องรุ่นต่างๆ ที่ใช้ช่องมองภาพแบบออพติคอล เช่น EOS 77D และ EOS 800D เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างจะมีข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งคือ ให้ปริมาณแสงเข้าสู่ช่องมองภาพแบบออพติคอลได้มากขึ้น ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและสว่างขึ้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับจับโฟกัสและจัดองค์ประกอบภาพในสภาพที่มีแสงน้อย
ประเภทหลักๆ ของเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง
เลนส์ IS สำหรับกล้องฟูลเฟรม
เลนส์ ที่ไม่มี IS สำหรับกล้องฟูลเฟรม
เลนส์ EF-S/EF-M
เราสามารถแบ่งเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างของ Canon ออกได้เป็นสามหมวดด้วยกัน ได้แก่
เลนส์ IS สำหรับกล้องฟูลเฟรม มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) ในตัว จึงมีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย และการถ่ายแบบถือกล้องด้วยมือ
เลนส์ที่ไม่มี IS สำหรับกล้องฟูลเฟรม มีประสิทธิภาพสูงในการถ่ายภาพฉากที่มีแสงน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์ที่ "มืดกว่า" ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสุดที่มีขนาดเล็กกว่า
เลนส์ EF-S/EF-M ผลิตเพื่อใช้งานกับกล้อง DSLR ที่มีเซนเซอร์ APS-C และกล้องมิเรอร์เลสซีรีย์ EOS M ตามลำดับ และสามารถสร้างเอฟเฟ็กต์ที่นุ่มนวล
เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างมีทั้งที่เป็นเลนส์เดี่ยวและเลนส์ซูม
สิ่งที่ทำให้เป็นเลนส์ที่มี "รูรับแสงกว้าง" คืออะไร
โดยทั่วไป เลนส์จะถือว่าเป็น "เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง" ก็ต่อเมื่อค่า f ต่ำสุด (รูรับแสงกว้างสุด) มีค่าเท่ากับ f/2.8 หรือต่ำกว่า นอกจากประโยชน์อื่นๆ แล้ว การใช้รูรับแสงกว้างสุดนี้ยังช่วยให้ได้เอฟเฟ็กต์นอกโฟกัส (โบเก้) ที่ชัดเจน และความเร็วชัตเตอร์ที่สูงในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือสลัว
เทคนิคในการใช้ประโยชน์จากเลนส์ที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่
1. ใช้ค่า f ต่ำ เพื่อสร้างวงกลมโบเก้น่ารักๆ
เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างใช้รูรับแสงทรงกลม เพื่อสร้างวงกลมโบเก้ที่ด้านหลังตัวแบบหลัก ส่วนค่า f ที่ต่ำช่วยสร้างวงกลมโบเก้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
f/1.8
EOS 6D/ EF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.8, 1/4 วินาที, EV-0.3)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
f/5.6
EOS 6D/ EF50mm f/1.8 STM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/5.6, 2.5 วินาที, EV-0.3)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
2. ใช้โหมด Aperture-priority AE เพื่อควบคุมขนาดของแบ็คกราวด์เบลอ
หากคุณต้องการใช้ประโยชน์จากโบเก้ (แบ็คกราวด์เบลอ) ในองค์ประกอบภาพ ให้ใช้โหมด Aperture-priority AE และตั้งค่ารูรับแสงตามที่ต้องการ หากคุณใช้โหมด Program AE กล้องจะตั้งค่า f อัตโนมัติ ซึ่งจะไม่ใช่ค่ารูรับแสงกว้างสุดเสมอไป
Program AE (f/3.5, 1/60 วินาที)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM / FL: 50 มม./ Program AE(f/3.5, 1/60 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
Aperture-priority AE (f/1.4, 1/250 วินาที)
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.4 USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/250 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างทำงานได้ดีที่สุดในฉากต่อไปนี้!
EOS 5D Mark III/ EF50mm f/1.2L USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE(f/2, 1/50 วินาที, EV+0.7)/ ISO 640/ WB: อัตโนมัติ
เมื่อคุณต้องการแยกตัวแบบหลักให้โดดเด่น
เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างช่วยสร้างแบ็คกราวด์เบลอที่มีขนาดใหญ่ได้ หากตัวแบบหลักอยู่ไม่ไกลจากแบ็คกราวด์ จึงเหมาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการสร้างความโดดเด่นให้กับวัตถุใดวัตถุหนึ่งในภาพที่มีองค์ประกอบเพียงสองสามอย่าง บางทีคุณอาจพบว่าตัวเองใช้เทคนิคนี้บ่อยครั้งในการถ่ายภาพอาหาร สิ่งของทั่วๆไป หรือแม้แต่ภาพพอร์ตเทรต
EOS 5D Mark III/ EF85mm f/1.2L II USM/ FL: 85 มม./ Aperture-priority AE(f/1.2, 1/100 วินาที)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
เมื่อคุณต้องการถือกล้องถ่ายภาพในตอนกลางคืน
ในยามที่สภาพแสงน้อยมาก ปกติคุณต้องเปิดรับแสงให้นานขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ภาพที่ออกมาไม่มืดเกินไป ซึ่งการทำเช่นนี้จะเพิ่มโอกาสในการเกิดปัญหากล้องสั่นมากขึ้น และโดยปกติช่างภาพจะพยายามป้องกันปัญหานี้โดยการใช้ขาตั้งกล้อง แต่เมื่อใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างซึ่งมีรูรับแสงกว้างสุดขนาดใหญ่ จะช่วยให้ปริมาณแสงเข้าสู่เลนส์และกล้องได้มากขึ้น คุณจึงถ่ายภาพแบบถือกล้องได้แม้แต่ในตอนกลางคืน โดยไม่ต้องเพิ่มความไวแสง ISO เพื่อชดเชยแสง
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!