เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 Canon ได้เปิดตัว RF35mm f/1.4L VCM เลนส์เดี่ยวคอนเซปต์ใหม่สำหรับช่างภาพแบบไฮบริด ซึ่งวางจำหน่ายต่อจากเลนส์ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z เลนส์รุ่นใหม่นี้มีคุณสมบัติทางออพติคอลเทียบเท่าหรืออาจจะดียิ่งกว่าเลนส์ยอดนิยมอย่าง EF35mm f/1.4L II USM แต่มีคุณสมบัติการใช้งานที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงช่างภาพวิดีโอโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการของช่างภาพแบบไฮบริดที่ใช้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอในการถ่ายทอดความสร้างสรรค์
เลนส์ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ความทุ่มเทของ Canon ที่มีต่อช่างภาพแบบไฮบริด
เมื่อการสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอเป็นที่นิยมมากขึ้น ช่างภาพแบบไฮบริดที่ถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และ Canon ก็ไม่รอช้าที่จะตอบสนองแนวโน้มนี้โดยการวางจำหน่ายเลนส์ซูมคอนเซปต์ใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งก็คือ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z เลนส์ไฮบริดที่ไม่ธรรมดา และ RF35mm f/1.4L VCM ก็เป็นเลนส์เดี่ยวมุมกว้างระดับมืออาชีพในซีรีย์ L ที่มีคอนเซปต์เดียวกันนี้ จึงมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการและขั้นตอนการทำงานอันซับซ้อนในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้
สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง เลนส์นี้มีรูรับแสงกว้างสุดที่กว้างถึง f/1.4 ซึ่งสามารถสร้างเอฟเฟ็กต์โฟกัสตื้น (โบเก้) ได้อย่างน่าทึ่ง และยังมี AF ความแม่นยำสูง ถ่ายภาพได้ในสภาวะแสงน้อย รวมถึงคุณสมบัติทางออพติคอลระดับมืออาชีพที่ตอบสนองความต้องการในการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับทั้งช่างถ่ายภาพนิ่ง นักสร้างสรรค์วิดีโอ และผู้สร้างภาพยนตร์
ในขณะเดียวกัน เลนส์นี้ยังมีวงแหวน Iris ไร้เสียงคลิกที่ช่วยให้ปรับค่าการเปิดรับแสงในระหว่างถ่ายทำวิดีโอได้โดยไม่สะดุด มีการติดตามโฟกัสของภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่นและเงียบเชียบ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพแบบออพติคอล ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายในการถ่ายทำวิดีโอ
RF35mm f/1.4L VCM จึงเป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อช่างภาพไฮบริดอย่างแท้จริง ด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
ให้ความรู้สึกเหมือนเลนส์สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์
ในการถ่ายวิดีโอ ความราบรื่นของโฟกัสหรือการปรับค่าการเปิดรับแสงจะส่งผลต่อฟุตเทจในขั้นสุดท้าย กระบวนการทำงานในระหว่างการถ่ายวิดีโอจึงมีความสำคัญกว่าเมื่อเทียบกับการถ่ายภาพนิ่ง
ยกตัวอย่างเช่น การแพนกล้องจากจุดที่สว่างในฉากไปยังจุดที่มืดกว่ามักจะต้องอาศัยการปรับค่าการเปิดรับแสงจากแคบให้กว้างขึ้นเพื่อให้ทั้งคลิปมีระดับความสว่างที่สม่ำเสมอ ในเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น การปรับค่าการเปิดรับแสงจะเพิ่มขึ้นทีละ 1/2 หรือ 1/3 สต็อป ซึ่งทำให้ระดับแสงแตกต่างกันอย่างชัดเจนในการปรับค่าแต่ละครั้ง
ปรับค่าการเปิดรับแสงอย่างราบรื่นด้วยวงแหวน Iris
เลนส์ RF35mm f/1.4L VCM มีวงแหวน Iris ที่สามารถปรับค่าการเปิดรับแสงได้โดยไม่มีเสียงคลิก1 ขณะบันทึกวิดีโอ เพียงแค่ผู้ใช้เลื่อนสวิตช์ล็อกวงแหวน Iris ค้างไว้ที่ตำแหน่ง “ปลดล็อก” และหมุนวงแหวน Iris ก็จะสามารถปรับค่าการเปิดรับแสงได้ราบรื่นกว่ามากด้วยการเพิ่มค่าขึ้นเพียงครั้งละ 1/32 สต็อป2
ดีไซน์แบบไร้เสียงคลิกของวงแหวน Iris นี้มีประโยชน์อีกข้อหนึ่งสำหรับการบันทึกวิดีโอ นั่นคือการทำงานที่เงียบสนิท
และวงแหวน Iris นี้ยังรองรับการควบคุมรูรับแสงในการถ่ายภาพนิ่งด้วยในกล้องซีรีย์ EOS R รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในเดือนมิถุนายน ปี 2567 เป็นต้นไป
1สำหรับกล้องในซีรีย์ EOS R ที่เปิดตัวก่อนเดือนมิถุนายน 2567 จะไม่สามารถใช้วงแหวน Iris ในการควบคุมรูรับแสงขณะถ่ายภาพนิ่งได้
2การใช้วงแหวน Iris ขณะถ่ายวิดีโออาจส่งผลต่อ AF ในการจับโฟกัสที่ตัวแบบ และค่า f สต็อปที่แสดงในกล้องอาจไม่ตรงกับค่า f สต็อปจริง
สื่ออารมณ์ได้หลากหลายด้วยระยะ 35 มม. และรูรับแสงกว้างสุด f/1.4
EOS R5/ RF35mm f/1.4L VCM/ FL: 35 มม./ Manual Exposure (f/1.4, 1/40 วินาที)/ ISO 100/ WB: 5500K
f/1.4: เมื่อรูรับแสงกว้าง ความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ก็เพิ่มมากขึ้น
รูรับแสงกว้างสุดที่กว้างถึง f/1.4 ของเลนส์ RF35mm f/1.4L VCM ทำให้สามารถสร้างเอฟเฟ็กต์โฟกัสตื้นที่สวยงาม/โบเก้ในแบ็คกราวด์ที่ทำให้ตัวแบบโดดเด่นออกมาจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นการชดเชยระยะชัดที่กว้างซึ่งเป็นคุณสมบัติของเลนส์มุมกว้างทุกรุ่น รูรับแสงทรงกลมแบบ 11 กลีบช่วยให้แสงโบเก้คงความเรียบและกลมมนแม้จะปรับลดค่ารูรับแสงลง
นอกจากนี้ รูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.4 ยังช่วยให้คุณใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่มากกว่าเลนส์ f/2.8 ได้ 2 สต็อป และเร็วกว่าเลนส์ f/4 ถึง 3 สต็อปโดยที่ยังให้ระดับความสว่างเท่ากัน จึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในสภาวะแสงน้อย
และข้อดีนี้ยังเป็นประโยชน์ในการถ่ายวิดีโอด้วย เนื่องจากจะช่วยให้คุณถ่ายทอดความเป็นศิลปะออกมาได้หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้น
เมื่อใช้กับกล้องฟูลเฟรม ทางยาวโฟกัส 35 มม. จะให้มุมรับภาพกว้างในระดับใกล้เคียงกับที่สายตาของมนุษย์สามารถมองเห็นได้และไม่ทำให้เอฟเฟ็กต์เปอร์สเปคทีฟเกินจริงดูเด่นชัดจนเกินไปนัก เลนส์นี้จึงเหมาะสำหรับการใช้งานกับตัวแบบหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์ ภาพแนวสตรีท ภาพพอร์ตเทรต ไปจนถึงการถ่ายภาพอาหารหรือแม้แต่ภาพผลิตภัณฑ์
เมื่อใช้กับกล้อง APS-C ทางยาวโฟกัสที่ใช้งานได้จะเทียบเท่าประมาณ 56 มม. ของกล้องฟูลเฟรม คุณจึงสามารถนำมาใช้เป็นเลนส์เดี่ยวมาตรฐานที่มีรูรับแสงกว้าง f/1.4 ได้
โครงสร้างเลนส์
A: ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม GMo
B: ชิ้นเลนส์ UD
C: ASC
RF35mm f/1.4L VCM ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 14 ชิ้นใน 11 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม 2 ชิ้น และเลนส์ UD 2 ชิ้นที่สามารถแก้ไขความคลาดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมทั้งสองชิ้นเป็นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมแบบ GMo (ขึ้นรูปด้วยแก้ว) ที่สามารถแก้ไขความคลาดได้อย่างแม่นยำ จึงให้ภาพคุณภาพสูงที่คมชัดและมีสีเพี้ยนน้อยที่สุดตั้งแต่กึ่งกลางไปจนถึงขอบภาพ
ผิวด้านหน้าและด้านหลังของกลุ่มเลนส์เคลือบด้วย ASC (Air Sphere Coating) แบบป้องกันการสะท้อนที่สามารถป้องกันการเกิดแสงหลอกและแสงแฟลร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยให้ภาพคมชัดเสมอแม้จะมีแหล่งกำเนิดแสงจ้าในเฟรมภาพ
EOS R5/ RF35mm f/1.4L VCM/ FL: 35 มม./ Manual Exposure (f/1.4, 1/250 วินาที)/ ISO 100/ WB: 5000K
จากกึ่งกลางภาพ
จากขอบภาพ
มอเตอร์ VCM รุ่นใหม่สำหรับ AF: AF ที่รวดเร็วแม่นยำพร้อมคุณภาพของภาพสูง
ชิ้นเลนส์ในเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างโดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่และหนัก ดังที่เห็นได้จากภาพตัดขวางว่ามีชิ้นเลนส์กระจกอยู่เต็มทั้งท่อเลนส์ RF35mm f/1.4L VCM ใช้ VCM (Voice Coil Motor) ใหม่ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนกลุ่มเลนส์เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขณะโฟกัสอัตโนมัติ
VCM คือมอเตอร์ขับเคลื่อนแรงสูงที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานจลน์ด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ชุดเลนส์โฟกัสจะยึดติดอยู่กับคอยล์ซึ่งเคลื่อนที่ไปในแนวเดียวกันกับสนามแม่เหล็กที่เกิดจากแม่เหล็กขับเคลื่อน
และเนื่องจาก RF35mm f/1.4L VCM ใช้ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบลอยตัว VCM จึงไม่ใช่กลไกขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวในเลนส์นี้ กลุ่มเลนส์แบบลอยตัวซึ่งมีน้ำหนักค่อนข้างเบากว่าจะถูกขับเคลื่อนโดย Nano USM ที่มีขนาดเล็กกว่าและช่วยประหยัดพลังงาน ในขณะที่ VCM แรงสูงจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนชิ้นเลนส์โฟกัสที่ใหญ่กว่าและหนักกว่า การขับเคลื่อนชิ้นเลนส์แบบลอยตัวและชิ้นเลนส์โฟกัสอย่างเป็นอิสระจากกันทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการขับเคลื่อนเลนส์ไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม จึงส่งผลให้ภาพมีความละเอียดสูงตั้งแต่กึ่งกลางภาพไปจนถึงมุมภาพ ไม่ว่าเลนส์จะโฟกัสที่ระยะอนันต์หรือระยะโคลสอัพ
ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบลอยตัว: ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อประสิทธิภาพ AF
หากพูดถึง AF ความเร็วสูง หลายคนจะนึกถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่มักใช้ในการถ่ายภาพกีฬา นกป่า และฉากแอ็คชั่นอื่นๆ ด้วยระบบขับเคลื่อน AF แบบใหม่นี้ เลนส์ RF35mm f/1.4L VCM จึงสามารถโฟกัสอัตโนมัติได้ด้วยความเร็วที่สูงมากเช่นกัน รูรับแสงกว้างสุดที่กว้างของเลนส์ช่วยให้ AF แม่นยำยิ่งขึ้นและเชื่อถือได้มากขึ้น เช่นเดียวกับคุณสมบัติของระบบ Dual Pixel CMOS AF ในกล้องซีรีย์ EOS R
นอกจากนี้ ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบลอยตัวยังช่วยให้สามารถแก้ไขความยาวโฟกัสเปลี่ยนแบบออพติคอลได้ในเลนส์ RF35mm f/1.4L VCM มุมรับภาพจึงมีความสม่ำเสมอขณะเปลี่ยนโฟกัสแม้จะใช้เลนส์กับกล้องรุ่นที่ไม่มีการแก้ไขความยาวโฟกัสเปลี่ยนแบบดิจิทัล คุณสมบัตินี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนักพัฒนาเลนส์ Canon ในการปรับปรุงเลนส์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นขณะถ่ายวิดีโอระดับไฮเอนด์
การแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพในตัวกล้อง: ปิด
มุมรับภาพยังคงความสม่ำเสมอแม้จะไม่มีการแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพในตัวกล้อง
การแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพในตัวกล้อง: เปิด
เฟรมภาพมีความสม่ำเสมอยิ่งขึ้นอีกเมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชั่นการแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพในตัวกล้อง
*เนื่องจาก VCM จะทำให้เกิดสนามแม่เหล็กอ่อนๆ ผู้ใช้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจหรือผ่านการฝังอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ จึงควรอยู่ให้ห่างจากเลนส์นี้และปรึกษาแพทย์หากเกิดอาการผิดปกติ
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 7 สต็อปในกล้องที่มีระบบ IS ในบอดี้
แม้เลนส์ RF35mm f/1.4L VCM จะไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวภายในเลนส์ (IS แบบออพติคอล) แต่ก็สามารถป้องกันภาพสั่นไหวได้สูงสุดถึง 7 สต็อปเมื่อใช้กับกล้องที่มี IS ในบอดี้ เช่น EOS R3
*ตามมาตรฐาน CIPA (ในทิศทางแกนยกและแกนหัน)
คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น
กรอบยึดฟิลเตอร์ด้านหลัง (มีให้)
นอกจากฟิลเตอร์ชนิดสวมหน้าเลนส์ขนาด 67 มม. ที่ด้านหน้า RF35mm f/1.4L VCM ยังสามารถรองรับฟิลเตอร์ชนิดแผ่นที่ด้านหลังด้วยกรอบยึดฟิลเตอร์ด้านหลังที่มีมาให้
ปุ่มฟังก์ชั่นของเลนส์
ปุ่มฟังก์ชั่นเลนส์แบบตั้งโปรแกรมได้ที่อยู่ทางด้านซ้ายของท่อเลนส์สามารถนำมาใช้เป็นทางลัดไปสู่ฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ แต่โดยค่าเริ่มต้นจะทำหน้าที่เป็นปุ่มสต็อปของ AF
ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ
ด้วยวงแหวน สวิตช์ และชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ได้รับการซีลป้องกันสภาพอากาศ เลนส์จึงมีการออกแบบที่สามารถป้องกันฝุ่นและหยดน้ำไม่ให้เข้ามาในเลนส์ได้ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มความทนทาน
การเคลือบฟลูออรีน
การเคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนที่ชิ้นเลนส์ด้านหน้าสุดช่วยป้องกันการเกาะติดของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกบนเลนส์ อีกทั้งยังทำให้สามารถเช็ดออกได้อย่างง่ายดายด้วยผ้าทำความสะอาด
RF35mm f/1.4L VCM: ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
โครงสร้างเลนส์: 14 ชิ้นเลนส์ใน 11 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.28 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.18 เท่า
จำนวนม่านรูรับแสง: 11 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 67 มม.
ขนาด: φ76.5 x 99.3 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 555 กรัม
อุปกรณ์เสริมที่มีให้
เลนส์ฮูด EW-73F
RF35mm f/1.4L VCM: ภาพตัวอย่าง
EOS R5/ RF35mm f/1.4L VCM/ FL: 35 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/60 วินาที, EV -0.7)/ ISO 800/ WB: 5500K
EOS R5/ RF35mm f/1.4L VCM/ FL: 35 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/8000 วินาที)/ ISO 100/ WB: 5500K
EOS R5/ RF35mm f/1.4L VCM/ FL: 35 มม./ Aperture-priority AE (f/1.4, 1/200 วินาที)/ ISO 200/ WB: 5500K
EOS R5/ RF35mm f/1.4L VCM/ FL: 35 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/250 วินาที)/ ISO 100/ WB: 5500K