ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด คุณสมบัติที่สำคัญของเลนส์ RF- Part17

เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM: 6 สิ่งที่คุณต้องทราบ

2019-10-31
5
35.22 k
ในบทความนี้:

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา Canon ประกาศเปิดตัวเลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM เพื่อเสริมทัพ 3 เลนส์ซูม f/2.8 ทรงพลังตระกูล RF เลนส์รุ่นนี้รวมคุณสมบัติใหม่ๆ ไว้มากมาย พร้อมการออกแบบที่มอบคุณภาพของภาพสูงในตัวเลนส์ที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา ตลอดจนช่วงการซูมเทเลโฟโต้ที่ทำให้ระบบ EOS R สมบูรณ์ เลนส์รุ่นนี้ทำอะไรได้บ้างและทำได้อย่างไร หาคำตอบได้จากบทความนี้ ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลน่าสนใจที่ผู้พัฒนาเลนส์นำมาเปิดเผย

เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM พร้อมโลโก้

1. กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก: คำเหล่านี้มักไม่ค่อยนำมาใช้ในการอธิบายถึงเลนส์เทเลโฟโต้ไวแสงระดับมืออาชีพ ทว่า... 
2. Nano USM ในเลนส์รุ่นนี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย
3. ครั้งแรกของ Canon กับ: ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวที่ขับเคลื่อนโดย Nano USM คู่
4. ชิ้นเลนส์น้อยลง แต่ประสิทธิภาพด้านออพติคอลสูงขึ้น
5. โหมด IS ที่สามคืออะไร
6. เลนส์ฮูดสีขาวที่ให้มาด้วยคือที่สุดของสัญลักษณ์ความมีระดับ


ภาพพอร์ตเทรตช่วงหัวไหล่ขึ้นไปของผู้หญิง

EOS R/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/160 วินาที)/ ISO 100/ WB: 4800K

 

1. เลนส์ซูมเทเลโฟโต้ไวแสงระดับมืออาชีพ ซึ่งมีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด

นักพัฒนาเลนส์ของ Canon รับหน้าที่พัฒนาเลนส์ซูมเทเลโฟโต้สำหรับเมาท์ RF โดยมีเป้าหมายสองประการ:

i) เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพในระดับสูง ซึ่งใช้ประโยชน์ของเมาท์ RF อย่างเต็มที่

ii) เพื่อสร้างเลนส์ที่มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาลง ตลอดจนคงความสะดวกในการพกพาและความคล่องตัวของระบบกล้องมิเรอร์เลส

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงหวังว่าจะตอบสนองความต้องการของช่างภาพที่ให้ความสำคัญกับเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ไวแสงที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ แต่ต้องการความคล่องตัวที่ดียิ่งขึ้นด้วย

Toshihiro Okuda (หัวหน้าทีมพัฒนา/ฝ่ายออกแบบกลไก): ถึงแม้ว่าจะได้รับคำชมอย่างมากในด้านคุณภาพของภาพ แต่เลนส์ EF70-200mm f/2.8L IS III USM ต้องใช้กระเป๋ากล้องขนาดใหญ่เวลาถ่ายภาพในต่างประเทศและพื้นที่ห่างไกล ซึ่งทำให้ยากต่อการพกพา

Kaishi Kawai (ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์): เมื่อคำนึงถึงปัจจัยนี้ เราจึงตั้งเป้าที่จะสร้างความยาวโดยรวมให้สั้นลงเพื่อให้ใส่ในกระเป๋ากล้องใบเล็กได้ง่าย 

ความพยายามของพวกเขาประสบผลสำเร็จ: เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM มีน้ำหนักค่อนข้างเบาที่ 1,070 กรัม และสั้นกว่าเลนส์ EF70-200mm f/2.8L IS III USM ถึง 53 มม. เมื่อหดเข้าจนสุด ซึ่งช่วยให้จัดเก็บในกระเป๋ากล้องและพกพาได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบินก็ตาม ทำให้มีความสะดวกในการพกพาสมกับเป็นเลนส์ในระบบ EOS R

ขนาดของเวอร์ชัน EF และ RF


ดีไซน์ยืดขยายได้ พร้อมคุณสมบัติกันฝุ่นละอองและน้ำ
เลนส์นี้จะยืดออกเมื่อคุณซูมเข้า และจะหดกลับเมื่อคุณซูมออก

ผู้ใช้บางคนอาจกังวลว่า ดีไซน์ที่ยืดขยายได้นี้ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่ฝุ่นละอองและความชื้นจะแทรกซึมเข้าไปในเลนส์ เนื่องจากอากาศจะถูกดูดเข้าด้านในเมื่อซูมเข้า อย่างไรก็ตาม เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM ได้รับการออกแบบให้มีช่องทางระบายอากาศที่ควบคุมการไหลของอากาศและป้องกันไม่ให้อากาศจากสถานที่ที่ไม่คาดคิดถูกดูดเข้าไปภายใน ช่องทางนี้มีวัสดุป้องกันฝุ่น รวมถึงวัสดุที่ช่วยให้อากาศ (ไม่ใช่ความชื้น) ไหลผ่าน ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าเลนส์จะยังคงกันฝุ่นละอองและน้ำได้

 

2. Nano USM: หัวใจสำคัญของตัวเลนส์ที่เล็กกว่าและเบากว่าเดิม

นับเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการผลิตเลนส์ที่ทำงานได้ในระดับเทียบเท่ากับ EF70-200mm f/2.8L IS III USM เป็นอย่างน้อย แต่มีตัวเลนส์ที่มีขนาดเล็กกว่าและเบากว่า ความก้าวหน้าเช่นนี้เกิดขึ้นในรูปแบบของระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวที่ขับเคลื่อนโดย Nano USM (มอเตอร์อัลตร้าโซนิค) สองตัว

Okuda: ส่วนหนึ่งของกลไกการซูมจากเลนส์ EF70-200mm f/2.8L IS III USM ซึ่งประกอบด้วยลูกเบี้ยวกลไก (ตัวควบคุมกลุ่มเลนส์กลไก) ถูกแทนที่ด้วยลูกเบี้ยวอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Nano USM ทำให้ไม่ต้องใช้ส่วนประกอบของลูกเบี้ยวกลไกอีกต่อไป จึงเอื้อต่อดีไซน์ที่มีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น

ภาพโคลสอัพของการฟันดาบ

EOS R/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 108 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/200 วินาที)/ ISO 200/ WB: แฟลช

Nano USM เป็นมอเตอร์ขนาดจิ๋วเกือบเท่าเล็บมือ แต่มีแรงบิดสูงมาก ซึ่งนอกจากจะสามารถจับโฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูงในระหว่างการถ่ายภาพนิ่งแล้ว ยังสามารถจับโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างราบรื่นและเงียบสนิทที่เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโออีกด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nano USM ได้ที่:
Nano USM: การโฟกัสที่รวดเร็วและราบรื่นเพียงปลายนิ้วสัมผัส 


หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่นักพัฒนาเผชิญก็คือ การปรับ Nano USM เพื่อการซูมเทเลโฟโต้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการปรับ Nano USM: RF24-105mm f/4L IS USM ซึ่งเป็นเลนส์ L รุ่นแรกที่ใช้ Nano USM นั้น ใช้ชุด Nano USM ที่มีขนาดเล็กกว่า Nano USM รุ่นก่อนๆ มาก

Kazuharu Osawa (ฝ่ายออกแบบกลไก): กลุ่มเลนส์ของเลนส์เทเลโฟโต้มีการเคลื่อนไหวมาก (มีช่วงการเลื่อนกว้าง) ซึ่งทำให้การออกแบบ Nano USM ทำได้ยากยิ่งขึ้น สำหรับเลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM นั้น เราประสบความสำเร็จในการพัฒนา Nano USM ที่สามารถรับมือกับช่วงการเลื่อนกว้าง แต่ยังคงขนาดเล็กและประสิทธิภาพของระบบโฟกัสอัตโนมัติเอาไว้

 

3. ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวรุ่นใหม่ ช่วยให้ถ่ายภาพได้ใกล้ขึ้นด้วยคุณภาพของภาพในระดับสูงยิ่งขึ้น

ระบบโฟกัสแบบชิ้นเลนส์ลอยตัวที่ขับเคลื่อนด้วย Nano USM คู่ (ซึ่งมีอยู่ในเลนส์ของ Canon เป็นครั้งแรก) ทำให้สามารถขับเคลื่อนกลุ่มเลนส์สองกลุ่มซึ่งไม่เพียงแต่รักษาประสิทธิภาพของเลนส์ไว้ในตัวเลนส์ที่มีเล็กกว่าและเบากว่าเดิมเท่านั้น แต่ยังสามารถถ่ายภาพตัวแบบจากระยะที่ใกล้ยิ่งขึ้น ด้วยกำลังขยายภาพสูงสุดที่ใหญ่ขึ้นและคุณภาพของภาพโคลสอัพที่ดียิ่งขึ้น

Kenji Shinohara (ฝ่ายออกแบบออพติคอล): การใช้ชุด Nano USM สองตัวทำให้เรามีอิสระมากขึ้นในการจัดวางกลุ่มเลนส์ ซึ่งเชื่อมโยงกับคุณภาพของภาพระดับสูง ชุด Nano USM สองตัวช่วยให้ควบคุมเลนส์โฟกัสและเลนส์แบบลอยตัวได้อย่างอิสระ นับเป็นครั้งแรกที่ Canon มีระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัว ซึ่งขับเคลื่อนเลนส์แบบลอยตัวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

การใช้ Nano USM สองตัวขับเคลื่อนกลุ่มเลนส์แต่ละกลุ่ม ช่วยให้ได้ความเงียบ ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และความเร็วในระดับสูงภายในตัวเลนส์ที่มีขนาดเล็กกว่าและเบากว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยให้ถ่ายภาพตัวแบบจากระยะใกล้ยิ่งขึ้น ด้วยกำลังขยายภาพสูงสุดที่ใหญ่ขึ้นและคุณภาพของภาพโคลสอัพที่ดียิ่งขึ้น

 

แผนภาพแสดงการจัดวางเลนส์แบบลอยตัวและเลนส์โฟกัส
แผนภาพแสดงการจัดวาง Nano USM

เลนส์แบบลอยตัว
เลนส์โฟกัส
Nano USM

 

ภาพโคลสอัพของเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ

EOS R/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 200 มม./ Manual exposure (f/2.8, 1/10 วินาที)/ ISO 100/ WB: 5200K

ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวลดระยะโฟกัสใกล้สุดให้ใกล้เพียง 0.7 เมตร และขยายได้สูงสุด 0.23 เท่า ซึ่งจะช่วยให้ได้เอฟเฟ็กต์คล้ายภาพมาโคร เพียงแค่ถ่ายภาพที่ระยะเทเลโฟโต้จากระยะโฟกัสใกล้สุด

 

4. ใช้ชิ้นเลนส์พิเศษ 6 ชิ้น แต่มีจำนวนชิ้นเลนส์โดยรวมน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเลนส์ในเวอร์ชัน EF

RF70-200mm f/2.8L IS USM ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 17 ชิ้นใน 13 กลุ่ม ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เลนส์รุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่า EF70-200mm f/2.8L IS III USM ที่มีชิ้นเลนส์ 23 ชิ้นใน 19 กลุ่ม อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพด้านออพติคอลได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจริง

Shinohara: เราได้ดัดแปลงเครื่องมือออกแบบออพติคอลในการพัฒนาของ Canon เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุดให้กับระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัว

เลนส์นี้ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ Super UD หนึ่งชิ้น ชิ้นเลนส์ UD สามชิ้น ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม UD หนึ่งชิ้น และชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลมแบบขึ้นรูปด้วยแก้วหนึ่งชิ้น เลนส์แก้ความคลาดทรงกลมแบบขึ้นรูปด้วยแก้วซึ่งอยู่ใกล้กับระนาบภาพมากที่สุด ได้รับการเคลือบแบบพิเศษที่เรียกว่า Subwavelength Structure Coating (SWC) เพื่อลดแสงแฟลร์และแสงหลอก ระยะแบ็คโฟกัสที่สั้นของเมาท์ RF ทำให้สามารถวางชิ้นเลนส์ขนาดใหญ่ให้อยู่ใกล้เซ็นเซอร์ภาพยิ่งขึ้น จึงช่วยให้ SWC ลดแสงจ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


โครงสร้างเลนส์

แผนภาพโครงสร้างเลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM

A: ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม (ฉบับภาษาอังกฤษ)
B: ชิ้นเลนส์ UD (ฉบับภาษาอังกฤษ)
C: ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม UD
D: SWC (ฉบับภาษาอังกฤษ)
การเคลือบฟลูออรีน (ฉบับภาษาอังกฤษ) กันรอยเปื้อนบนพื้นผิวด้านหน้าและหลังของเลนส์

 

5. มี IS แบบ 3 โหมด เช่นเดียวกับเลนส์ EF ซูเปอร์เทเลโฟโต้

ประสิทธิภาพของระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) ของเลนส์รุ่นนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะสำหรับการใช้ในฉากกีฬา เลนส์ที่มีอยู่ในระดับเดียวกันนั้นมาพร้อมกับโหมด IS สองโหมด แต่ RF70-200mm f/2.8L IS USM มีถึงสามโหมด

Satoshi Maruyama (ฝ่ายออกแบบระบบไฟฟ้า): โหมด 1 ใช้สำหรับตัวแบบที่อยู่นิ่ง และสามารถรับมือกับการสั่นไหวได้ทุกชนิด โหมด 2 ใช้สำหรับถ่ายภาพตัวแบบที่เคลื่อนไหวแบบแพนกล้อง โหมด 3 ใช้สำหรับถ่ายภาพตัวแบบที่เคลื่อนไหวในลักษณะที่ไม่สามารถคาดเดาได้ โหมดเหล่านี้จะคำนวณปริมาณการสั่นไหวของกล้องอย่างต่อเนื่องและจะทำงานระหว่างการรับแสงเท่านั้น แต่จะไม่ทำงานในขณะที่ช่างภาพกำลังตรวจสอบองค์ประกอบภาพ ช่างภาพมืออาชีพบางคนกล่าวว่า ภาพในช่องมองภาพดูไม่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากเกิดการดีดกลับเมื่อขยับกล้องในขณะที่ IS ยังคงทำงานอยู่ แนะนำให้ใช้โหมด 3 สำหรับผู้ใช้ที่มีปัญหานี้

 

IS ปิด

IS เปิด

EOS R/ RF70-200mm f/2.8L IS USM/ FL: 70 มม./ Manual exposure (f/8, 0.4 วินาที)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ

เลนส์รุ่นนี้รองรับการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่ากับความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5 สต็อป และใช้ได้กับ Dual Sensing IS ในระหว่างถ่ายภาพเคลื่อนไหว เลนส์ยังรองรับ Combination IS ซึ่งผสานรวมระบบ IS ออพติคอลในตัวเลนส์เข้ากับระบบ IS ดิจิตอล 5 แกนในตัวกล้อง เพื่อให้ได้วิดีโอที่ราบรื่นและไม่สั่นไหว

ดูเพิ่มเติมได้ที่:
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์ #3: เราจะกำหนดสต็อปของระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้อย่างไร 

 

6. มาพร้อมกับเลนส์ฮูดสีขาว ซึ่งเป็นสุดยอดของสัญลักษณ์แสดงความเป็นเลนส์ Canon

 

RF70-200mm f/2.8L IS USM สืบทอดโทนสีขาวโดดเด่นจากเลนส์เทเลโฟโต้ EF สีขาว (ฉบับภาษาอังกฤษ) ของ Canon ที่ใครๆ ชื่นชอบ เนื่องจากเหตุผลหนึ่งข้อ นั่นคือ สีขาวมาจากการเคลือบกันความร้อน (ฉบับภาษาอังกฤษ) ซึ่งปกป้องท่อเลนส์ไม่ให้เกิดความร้อนสูงเกินไปแม้แต่ท่ามกลางแดดจัด นอกจากนี้ เลนส์รุ่นนี้ยังมีเลนส์ฮูดสีขาว ที่แต่เดิมมีให้มาพร้อมกับเลนส์มืออาชีพระดับท็อปเอนด์เท่านั้น เช่น เลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้

แต่สีขาวไม่ใช่สิ่งเดียวที่เลนส์รุ่นนี้สืบทอดมา แน่นอนว่ามีการรวมเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ Canon มีอยู่เข้ากับนวัตกรรมใหม่ๆ เช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดหวังได้จากเลนส์ที่ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในเลนส์หลักของระบบ EOS เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของ “3 เลนส์ซูมทรงพลัง” ใหม่ของ Canon อีกด้วย

 

เลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM

ข้อมูลจำเพาะ
โครงสร้างเลนส์: 17 ชิ้นเลนส์ใน 13 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.7 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.23 เท่า
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 77 มม.
ขนาด: φ89.9×146.0 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 1,070 กรัม (ไม่รวมเมาท์สำหรับขาตั้งกล้อง)

 

เลนส์ฮูด ET-83F (W III)

เลนส์ฮูดสีขาวที่ให้มาด้วยนี้แต่เดิมมีให้มาพร้อมกับเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้รุ่นท็อปของ Canon เท่านั้น

เลนส์ฮูดได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถปรับฟิลเตอร์ PL ได้ง่ายในขณะที่ติดตั้ง

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดและอ่านบทสัมภาษณ์นักพัฒนาฉบับเต็ม (PDF - ฉบับภาษาอังกฤษ)

---

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเลนส์ RF และเลนส์ RF รุ่นอื่นๆ ได้ที่:
จุดโฟกัส: เลนส์ RF

หากกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อกล้อง EOS R หรือ EOS RP ดี โปรดดูที่:
EOS R หรือ EOS RP เลือกใช้กล้องรุ่นไหนดี

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

บทความที่เกี่ยวข้อง

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา