RF10-20mm f/4L IS STM: เลนส์ซูมแบบไม่ใช่ฟิชอายที่กว้างที่สุดในโลก
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 Canon ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์อีกครั้งด้วยการเปิดตัวเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM เลนส์รุ่นใหม่นี้เป็นเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์แบบ Rectilinear (ไม่ใช่ฟิชอาย) สำหรับกล้องฟูลเฟรมรุ่นแรกของโลกที่มีระยะมุมกว้าง 10 มม. ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (ระบบ IS แบบออพติคอล) ในตัว เลนส์นี้จึงมีขนาดกะทัดรัดเทียบเท่าเลนส์ f/4L รุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเลนส์ RF ของ Canon และยังมีโครงสร้างรวมถึงคุณภาพของภาพระดับมืออาชีพอันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ L อ่านต่อเพื่อหาคำตอบว่าเลนส์รุ่นนี้สร้างปรากฏการณ์ในการถ่ายทอดความสร้างสรรค์ได้อย่างไร
ให้คุณมองโลกได้กว้างขึ้น: เปอร์สเปคทีฟแบบใหม่อันน่าทึ่ง
ความปรารถนาที่จะถ่ายภาพให้กว้างขึ้นคือความฝันของช่างภาพมุมกว้างทุกคน และความต้องการนี้จะแรงกล้าขึ้นไปอีกเมื่อได้พบกับทิวทัศน์กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาที่คุณอยากจะถ่ายภาพให้ได้ในเฟรมเดียว หรือเมื่อคุณทราบว่าหากมุมรับภาพกว้างขึ้นอีกเพียงมิลลิเมตรเดียวเท่านั้นก็จะได้ภาพที่ให้ความประทับใจอย่างที่คุณต้องการ ความฝันเหล่านี้ได้กลายเป็นจริงแล้วด้วย RF10-20mm f/4L IS STM รุ่นใหม่ของ Canon ซึ่งเป็นเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์แบบไม่ใช่ฟิชอายที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เมาท์ RF ที่ตอบโจทย์เลนส์ระดับตำนานอย่าง EF11-24mm f/4L USM
RF10-20mm f/4L IS STM เป็นเลนส์ในกลุ่มเวอร์ชัน RF สำหรับ EF11-24mm f/4L USM ซึ่งเป็นเลนส์ที่ผลิตขึ้นในยุค EOS DSLR และมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพของภาพระดับสูงและเปอร์สเปคทีฟมุมกว้าง 11 มม. อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นกว่ามาตรฐานของเลนส์ซูมมุมกว้าง 16 มม. ถึง 18 มม. โดยทั่วไป ในช่วงที่เวอร์ชัน RF รุ่นถัดไปยังไม่ถือกำเนิดขึ้น เลนส์นี้ยังคงเป็นเลนส์ชิ้นสำคัญสำหรับช่างภาพจำนวนมากจนถึงยุคแห่งกล้อง EOS R แบบมิเรอร์เลส
และเลนส์ที่เป็นดั่งทายาทของเลนส์รุ่นนี้ก็คือ RF10-20mm f/4L IS STM เลนส์รุ่นใหม่นี้กว้างขึ้น 1 มม. ด้วยระยะมุมกว้าง 10 มม. และมีสมรรถนะในแบบเลนส์ L ที่สามารถเทียบเคียงได้กับเลนส์ EF หรืออาจจะดียิ่งกว่า และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (ระบบ IS) ใหม่เพิ่มเข้ามาในตัวเลนส์ที่เบาขึ้น จึงสามารถชดเชยปัญหาเรื่องขนาดที่ใหญ่โตซึ่งเป็นจุดด้อยเพียงข้อเดียวของเลนส์ EF11-24mm f/4L USM ได้ คุณสมบัติทั้งหมดนี้ช่วยมอบความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพมุมกว้างอัลตร้าไวด์ในระดับที่ไม่มีใครเทียบให้กับทั้งช่างภาพและนักสร้างสรรค์วิดีโอ
EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/5,6, 1/60 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
เสริมทัพเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์ RF ที่มีอยู่เดิม
กลุ่มเลนส์ RF ในปัจจุบันมีเลนส์ซูมมุมกว้างอัลตร้าไวด์ 3 รุ่น ได้แก่
- RF14-35mm f/4L IS USM
- RF15-35mm f/2.8L IS USM
- RF15-30mm f/4.5-6.3 IS STM
ด้วยความครอบคลุมที่กว้างขึ้นของระยะ 10-20 มม. เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จึงให้มุมรับภาพในแนวทแยงถึง 130.4 องศา ซึ่งมีขอบเขตที่กว้างกว่าเลนส์มุมกว้าง RF ในปัจจุบัน กล่าวคือระยะมุมกว้าง 10 มม. จะทำให้เกิดเปอร์สเปคทีฟอันน่าประทับใจในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมสำหรับฉากหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์ การตกแต่งภายใน การถ่ายภาพดวงดาว ภาพพอร์ตเทรต หรือแม้แต่การถ่ายภาพมาโครแบบมุมกว้าง
ดังที่เห็นได้จากภาพทางด้านซ้าย เมื่อถ่ายภาพจากตำแหน่งเดียวกัน ระยะมุมกว้าง 10 มม. ของเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จะครอบคลุมพื้นที่ได้ราวสองเท่าของทางยาวโฟกัส 14 มม. และครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.4 เท่าของทางยาวโฟกัส 12 มม. นอกจากนั้น ความครอบคลุมที่กว้างขึ้นยังช่วยให้เกิดเปอร์สเปคทีฟที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้นด้วย
เบาและพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 570 กรัม
หนักเพียง 570 กรัม: ความสำเร็จทางด้านวิศวกรรมที่ช่วยยกระดับความคล่องตัว
ทางยาวโฟกัสของเลนส์มุมกว้างที่ลดลง 1 มม. ทำให้ระยะครอบคลุมของเลนส์เปลี่ยนไปอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้ไม่ได้ทำให้ความท้าทายในการออกแบบออพติคอลลดน้อยลงไปด้วย และปัญหายังซับซ้อนมากขึ้นอีกเมื่อเลนส์ต้องมีมาตรฐานด้านคุณภาพของภาพตามที่กำหนดไว้ แต่ชิ้นเลนส์ออพติคอลที่จำเป็นต้องใช้ในการแก้ไขความคลาดของเลนส์เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดปราศจากความบิดเบี้ยวตั้งแต่กึ่งกลางไปจนถึงขอบภาพนั้น ทำให้เลนส์มีขนาดและน้ำหนักมากขึ้น
ด้วยน้ำหนักราว 570 กรัม เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จึงนับเป็นความสำเร็จทางด้านวิศวกรรม เนื่องจากไม่เพียงแต่สามารถลดทางยาวโฟกัสของเลนส์ EF11-24mm f/4L USM ลงได้ 1 มม. เท่านั้น แต่ยังสามารถลดน้ำหนักของเลนส์ดังกล่าวซึ่งเคยหนักถึง 1,108 กรัมลงได้ 50% ความคล่องตัวในอีกระดับนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถ่ายภาพและขยายขอบเขตความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ให้มากขึ้น
เมื่อติดตั้งเลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM ลงบนกล้อง EOS R5 น้ำหนักรวม 1,308 กรัมที่ได้นั้นจะหนักกว่าเลนส์ EF เพียงอย่างเดียวแค่เล็กน้อย และเมื่อเทียบกับเลนส์ EF ที่ใช้ร่วมกับกล้อง EOS 5D Mark IV ก็จะเบากว่าถึง 750 กรัม เลนส์รุ่นนี้มีขนาดใกล้เคียงกับเลนส์ซูม f/4L อันทรงพลังในตระกูล RF ของ Canon
อะไรทำให้สามารถลดน้ำหนักลงได้มากเท่านี้
ความยืดหยุ่นในการออกแบบที่เกิดจากเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ของเมาท์ RF และระยะแบ็คโฟกัสสั้นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถลดน้ำหนักของเลนส์ได้ วิศวกรของ Canon ได้ทำการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ ที่ใช้ในเลนส์ตั้งแต่ออพติคส์ไปจนถึงโครงสร้างทางกลไก Stepping Motor (STM) แบบลีดสกรูที่มีช่วงการเลื่อนสั้นถูกนำมาใช้ในการขับเคลื่อนชิ้นเลนส์โฟกัสที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาขณะโฟกัสอัตโนมัติ จึงทำให้ AF สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วภายในตัวเลนส์ที่มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น
คุณภาพของภาพอันยอดเยี่ยมจนถึงขอบ
คุณภาพของภาพที่คมชัดจนถึงขอบภาพ
ระยะมุมกว้าง 10 มม. ของ RF10-20mm f/4L IS STM ทำให้เลนส์นี้เป็นเลนส์แบบไม่ใช่ฟิชอายที่กว้างที่สุดของ Canon RF10-20mm f/4L IS STM นั้นต่างจากเลนส์ฟิชอายที่มักจะทำให้เกิดความบิดเบี้ยวเป็นแนวโค้งหากต้องการถ่ายภาพฉากหนึ่งด้วยมุม 180 องศา แต่เลนส์รุ่นนี้เป็นเลนส์แบบเส้นตรงที่แก้ไขความบิดเบี้ยวได้ จึงสามารถถ่ายภาพออกมาในลักษณะที่เราคุ้นเคยมากกว่า ซึ่งการแก้ไขในระดับสูงนี้จำเป็นต้องใช้ชิ้นเลนส์พิเศษมากมาย
EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ โหมด Bulb (f/5,6, 59.9 วินาที)/ ISO 100/ WB: แสงหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ขาว
การแก้ไขความบิดเบี้ยวประสิทธิภาพสูง
มุมมองแบบขยายขนาดที่มุมบนซ้ายของภาพก่อนหน้า แม้ที่ระยะ 10 มม. มุมของภาพก็มีความคมชัดและชัดเจน และมีการบิดเบี้ยวน้อยมากดังที่เห็นจากรั้วลวดตาข่าย นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเลนส์มีความสามารถในการแก้ไขความบิดเบี้ยวที่ยอดเยี่ยม
โครงสร้างของเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์พิเศษที่ช่วยแก้ไขความคลาดต่างๆ ดังนี้:
- เลนส์แก้ความคลาดทรงกลม 3 ชิ้น รวมถึงชิ้นเลนส์ด้านหน้าขึ้นรูปด้วยแก้วที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่และความโค้งสูง
- เลนส์ Super UD 1 ชิ้น
- เลนส์ UD 3 ชิ้น (รวมชิ้นเลนส์แก้ความคลาด UD 1 ชิ้น)
โครงสร้างเลนส์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อคุณภาพของภาพระดับสูงสุดซึ่งเป็นไปได้ด้วยระยะแบ็คโฟกัสสั้นของเมาท์ RF เลนส์จะทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นการแก้ไขความบิดเบี้ยวทางดิจิทัลของกล้องเพื่อให้ได้คุณภาพของภาพเทียบเท่า EF11-24mm f/4L USM ในตัวเลนส์ที่มีขนาดเล็กกว่าและเบากว่า
การเคลือบแบบ SWC (Subwavelength Structure Coating) (ฉบับภาษาอังกฤษ) และ ASC (Air Sphere Coating) (ฉบับภาษาอังกฤษ) บนพื้นผิวทั้งสองด้านทำให้ควบคุมแสงหลอกและแสงแฟลร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แผนภาพโครงสร้างเลนส์
A: ชิ้นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม
B: ชิ้นเลนส์ Super UD/UD
C: ชิ้นเลนส์ UD แก้ความคลาดทรงกลม
D: SWC
E: ASC
ความสำคัญของชิ้นเลนส์ที่อยู่หน้าสุด
ที่ 10 มม. เลนส์จะได้รับแสงจากพื้นที่ที่กว้างมาก ซึ่งแสงเหล่านี้จำเป็นต้องผ่านเข้ามาสู่ชิ้นเลนส์ด้านหลังโดยมีระดับการหักเหที่เหมาะสม ชิ้นเลนส์ที่อยู่หน้าสุดจึงมีบทบาทสำคัญมาก ชิ้นเลนส์ด้านหน้าใน RF10-20mm f/4L IS STM มีขนาดใหญ่ มีความโค้งสูง ขึ้นรูปด้วยแก้ว และเป็นเลนส์แก้ความคลาดทรงกลม ชิ้นเลนส์นี้เป็นผลจากการจำลองการออกแบบหลายครั้งโดยคำนึงถึงความเหมาะสมในการผลิตเป็นจำนวนมาก และยังใช้รูปทรงที่เหมาะสมเพื่อความแม่นยำและสมรรถนะในระดับสูง
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 6 สต็อปพร้อมการแก้ไขการเบลอที่ขอบภาพ
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่แก้ไขการเบลอที่ขอบภาพได้
หลายคนเชื่อกันว่าระบบป้องกันภาพสั่นไหวนั้นไม่จำเป็นสำหรับเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสั้น และถึงแม้จะต้องใช้งานจริงๆ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง (ระบบ IS ในตัวกล้อง) ก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบป้องกันภาพสั่นไหวภายในเลนส์ (ระบบ IS แบบออพติคอล) อย่างไรก็ตาม เลนส์ที่กว้างกว่านั้นจะเกิดความบิดเบี้ยวที่ขอบภาพได้ง่ายกว่าเนื่องจากเปอร์สเปคทีฟ จึงเกิดเป็นภาพเบลอในส่วนขอบ (การเบลอที่ขอบภาพ) ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ IS ในตัวกล้องเพียงอย่างเดียว
นอกจากจะมีการใช้ระบบ IS แบบออพติคอลแล้ว เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM ยังมีอัลกอริธึมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบ IS ในตัวกล้องภายในตัวกล้องเองเพื่อแก้ไขการเบลอที่ขอบภาพ* คุณสมบัตินี้ทำให้ได้ภาพมุมกว้างอัลตร้าไวด์ที่มีคุณภาพของภาพสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
* ปัจจุบันมีใช้งานในกล้อง EOS R5 เท่านั้น (เมื่อใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 1.9.0 หรือสูงกว่า) ขณะเปิดตัว
|
|
|
|
*ตามมาตรฐาน CIPA (ในทิศทางแกนยกและแกนหัน) ที่ทางยาวโฟกัส 20 มม.
ระบบ IS แบบออพติคอลจะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์ 5 สต็อปในตัวเอง เมื่อใช้ระบบ IS แบบประสานการควบคุมในกล้องที่มีระบบ IS ในตัวกล้อง ประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่ได้จากทั้งสองระบบรวมกันจะสูงถึงเทียบเท่า 6 สต็อป
หลักการทั่วไประบุว่าจำเป็นต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์อย่างน้อย 1/(ทางยาวโฟกัส) จึงจะถ่ายภาพได้โดยที่กล้องไม่สั่นหากไม่ใช้ขาตั้งกล้อง นั่นหมายความว่าหากใช้เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM จะสามารถถ่ายภาพแบบไม่ใช้ขาตั้งให้มีความคมชัดได้แม้จะใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำที่เกิน 1 วินาที คุณจึงมีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในตอนกลางคืน ใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวอย่างสร้างสรรค์ หรือผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน
EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/5.6, 0.5 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
ภาพเหล่านี้ถ่ายโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องในสภาวะที่มีแสงน้อย จะเห็นได้จากภาพระยะใกล้ที่มุมบนขวาว่าระบบ IS ช่วยให้ภาพมีความคมชัดแม้แต่ในบริเวณขอบ แม้จะไม่มีภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวเนื่องจากการสั่นของกล้องปรากฏให้เห็นในภาพตัวอย่างที่ไม่ใช้ระบบ IS แต่รายละเอียดก็ยังดูไม่ชัดเจนเนื่องจากเกิดการเบลอที่ขอบภาพ
เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยเช่นกัน
ตัวเลือกอันทรงประสิทธิภาพสำหรับการถ่ายวิดีโอ
เนื่องจากเป็นเลนส์ที่ผลิตในยุคที่การสร้างวิดีโอกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ RF10-20mm f/4L IS STM จึงได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวิดีโอ
การติดตามโฟกัสที่ลื่นไหล
เลนส์นี้เป็นเลนส์ L รุ่นแรกที่มีโฟกัสอัตโนมัติขับเคลื่อนโดย STM แบบลีดสกรู ซึ่งสามารถขับเคลื่อนชุดโฟกัสได้อย่างราบรื่นเพื่อให้ได้ฟุตเทจที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสอย่างเป็นธรรมชาติแม้ในขณะที่ AF จะติดตามโฟกัสอยู่
รูรับแสงคงที่ f/4
เนื่องจากมีรูรับแสงกว้างสุดคงที่ที่ f/4 ตลอดช่วงโฟกัส ค่าการเปิดรับแสงจึงมีความสม่ำเสมอในทุกลำดับภาพแม้ในขณะทำการซูม
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว
ระบบ IS แบบออพติคอลในตัวช่วยให้ถ่ายฟุตเทจได้อย่างมั่นคงโดยไม่ใช้ขาตั้ง และสามารถประสานการทำงานกับระบบ Movie Digital IS ของกล้องได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ฟุตเทจที่ไม่สั่นไหวแม้จะถ่ายทำในขณะที่กำลังเดิน นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับระบบ IS ในตัวกล้องได้ด้วยเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ คุณก็สามารถใช้เลนส์กับกล้องฟูลเฟรมเพื่อให้ได้เปอร์สเปคทีฟที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน
ใช้เลนส์ RF10-20mm f/4L IS STM ในการถ่ายภาพทางอากาศ: ความคล่องตัวในอีกระดับของเลนส์ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกับโดรน
คุณสมบัติอื่นๆ ที่โดดเด่น
ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ
ด้วยวงแหวน สวิตช์ และชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ได้รับการซีลป้องกันสภาพอากาศ เลนส์จึงมีการออกแบบที่สามารถป้องกันฝุ่นและหยดน้ำไม่ให้เข้ามาในเลนส์ได้ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มความทนทาน
การเคลือบฟลูออรีน
การเคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนที่ชิ้นเลนส์ด้านหน้าสุดช่วยป้องกันการเกาะติดของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกบนเลนส์ อีกทั้งยังทำให้สามารถเช็ดออกได้อย่างง่ายดายด้วยผ้าทำความสะอาด
ตัวล็อคฟิลเตอร์ด้านหลัง
RF10-20mm f/4L IS STM มีเลนส์ฮูดที่มีท่อเลนส์ด้วย จึงไม่สามารถใช้ฟิลเตอร์ชนิดสวมหน้าเลนส์ตามปกติได้ แต่จะใส่ฟิลเตอร์ด้านหลังแทน
ปุ่มฟังก์ชั่นของเลนส์
นอกจากการควบคุมที่พบในเลนส์ RF โดยทั่วไปแล้ว RF10-20mm f/4L IS STM ยังมีปุ่มฟังก์ชั่นเลนส์ที่สามารถใช้เป็นทางลัดในการกำหนดฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น AF และการควบคุมระดับแสงได้
RF10-20mm f/4L IS STM: ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
โครงสร้างเลนส์: 16 ชิ้นเลนส์ใน 12 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.25 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.12 เท่า (ที่ 20 มม.)
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
ฟิลเตอร์ : แบบใส่ด้านหลัง
ขนาด: φ83.7 x 112 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 570 ก.
มีเลนส์ฮูดในตัว
ภาพตัวอย่าง
EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 12 มม./ Manual exposure (f/8, 1/640 วินาที)/ ISO 400/ WB: อัตโนมัติ
EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/4, 1/13 วินาที)/ ISO 1600/ WB: อัตโนมัติ
EOS R3/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/4, 20 วินาที)/ ISO 10000/ WB: 4600K
EOS R5/ RF10-20mm f/4L IS STM/ FL: 10 มม./ Manual exposure (f/4, 1/10 วินาที)/ ISO 3200/ WB: อัตโนมัติ