RF100-300mm f/2.8L IS USM: เทเลโฟโต้สารพัดประโยชน์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เลนส์ซูมเทเลโฟโต้ตัวท็อปรุ่นใหม่จาก Canon ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2023 นี้ ถือเป็นการพลิกโฉมเลนส์รุ่นคลาสสิกที่ใครๆ ชื่นชอบ ซึ่งรังสรรค์มาเพื่อเสริมระบบกล้อง EOS R และยกระดับการถ่ายภาพสู่ยุคใหม่ อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
ทำความรู้จักกับ RF100-300mm f/2.8L IS USM
ยุคใหม่กับเลนส์ใหม่: เลนส์ 300mm f/2.8L โฉมใหม่
นับเป็นเวลาหลายทศวรรษตั้งแต่ยุคกล้องฟิล์ม ที่กลุ่มเลนส์ 300mm f/2.8L จาก Canon เป็นเลนส์รุ่นคลาสสิกยอดนิยมและได้รับความไว้วางใจอย่างล้นหลาม ซึ่งมักจะพบในชุดเลนส์ของช่างภาพกีฬาและช่างภาพสัตว์ป่ามากมาย นอกจากคุณสมบัติการถ่ายภาพโคลสอัพแบบเทเลโฟโต้ที่ 300 มม. แล้ว รูรับแสงกว้างสุดขนาดใหญ่ถึง f/2.8 ยังมีประโยชน์หลายประการ ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ช่างภาพใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้โฟกัสอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำด้วยการเปิดรับแสงให้เข้าถึงเซนเซอร์โฟกัสอัตโนมัติ (AF) ของกล้อง SLR และ DSLR มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยุคใหม่แห่งการถ่ายภาพที่มาพร้อมกับระบบกล้องมิเรอร์เลส EOS R นี้ ทำให้เกิดข้อกำหนดใหม่ๆ สำหรับเลนส์ขึ้น เพราะในปัจจุบันเลนส์ต่างๆ ต้อง:
- เสริมความคล่องตัวของกล้องมิเรอร์เลสที่มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด
- รองรับความเร็วที่สูงขึ้นในการถ่ายต่อเนื่อง
- รองรับ AF ที่รวดเร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนระบบตรวจจับระยะตามระนาบภาพ Dual Pixel CMOS AF ที่หนาแน่นขึ้น - มีระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่ดียิ่งขึ้น
- รองรับความต้องการที่หลากหลายในการถ่ายวิดีโอ
ทีมพัฒนาเลนส์ของ Canon ได้ระดมความคิดกันว่าเลนส์ 300mm f/2.8L ในเวอร์ชันระบบกล้อง EOS R ควรมีรูปลักษณ์แบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้คือเลนส์ RF100-300mm f/2.8L IS USM
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวการพัฒนานี้ได้ใน:
7 เรื่องราวที่ไม่เคยเล่าเกี่ยวกับ RF100-300mm f/2.8L IS USM (ฉบับภาษาอังกฤษ)
จากเลนส์เดี่ยวสู่เลนส์ซูม: อเนกประสงค์ยิ่งกว่าที่เคย เพื่อโอกาสใหม่ๆ ในการถ่ายภาพ
RF100-300mm f/2.8L IS USM เป็นมากกว่าแค่เลนส์เดี่ยว 300mm f/2.8L แบบคลาสสิกในเวอร์ชันเมาท์ RF เพราะเป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมดในรูปของเลนส์ซูมที่มีรูรับแสงคงที่ ซึ่งมีช่วงโฟกัสกว้างถึง 100 มม. ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมความเร็วชัตเตอร์ถึง f/2.8 และการสร้างโบเก้ตลอดช่วงโฟกัส พร้อมทั้งมอบคุณภาพด้านออพติคอลที่เหนือชั้นไม่แพ้เลนส์เดี่ยวระดับมืออาชีพ
ความสามารถใหม่ๆ ในการซูมช่วยเสริมคุณประโยชน์รอบด้านของเลนส์ โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพแม้อยู่ในสถานที่ที่มีพื้นที่และความคล่องตัวจำกัด ตอนนี้ผู้ใช้จึงสามารถใช้เลนส์ตัวเดียวทำสิ่งที่เคยต้องใช้เลนส์อย่างน้อยสองตัว อีกทั้งยังไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะกับช่างภาพกีฬาและช่างภาพสัตว์ป่าที่เดิมเป็นผู้ใช้หลักของเลนส์ 300mm f/2.8 เท่านั้น แต่ RF100-300mm f/2.8L IS USM ยังเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายสำหรับผู้ที่ต้องการความเร็ว โบเก้ ความอเนกประสงค์ และการเข้าใกล้ตัวแบบมากยิ่งขึ้น
คุณอาจสนใจบทความต่อไปนี้
เลนส์เดี่ยวหรือเลนส์ซูม: ควรซื้อแบบไหนดี
ขนาดและน้ำหนัก: เลนส์เดียวแต่รวมคุณสมบัติครบเครื่อง
พกพาอุปกรณ์น้อยลง แต่ถ่ายภาพได้มากขึ้นและหลากหลายยิ่งขึ้น
เลนส์ RF100-300mm f/2.8L IS USM ยาวกว่า EF300mm f/2.8L IS II USM ถึง 75.4 มม. และหนักกว่าประมาณ 240 กรัม แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือช่วงการซูม 3 เท่า พร้อมทั้งรูรับแสงกว้างสุดแบบคงที่ f/2.8 ซึ่งแต่เดิมจะต้องใช้เลนส์เพิ่มเติมอย่างน้อยหนึ่งหรือสองตัวจึงจะได้ความสามารถดังกล่าว
อีกทั้งยังคงความกะทัดรัดและน้ำหนักเบาไว้ได้เพราะการปรับใช้วัสดุและโครงสร้างเลนส์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างพิถีพิถัน ทีมพัฒนาเอาใจใส่อย่างยิ่งในการออกแบบให้เลนส์มีความสมดุลกับตัวกล้อง เพื่อให้จับถือได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้ง
เมื่อใช้เลนส์ RF100-300mm f/2.8L IS US ร่วมกับกล้อง EOS R3 จะได้ชุดอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักรวมเบากว่ากล้อง EOS-1D X Mark III กับเลนส์ EF300mm f/2.8L IS II USM ถึง 186 กรัม
เลนส์ | กล้อง | น้ำหนักรวม |
RF100-300mm f/2.8L IS USM (ประมาณ 2,590 กรัม) |
EOS R3 (ประมาณ 1,022 กรัม) |
ประมาณ 3,612 กรัม1 |
EF300mm f/2.8L IS II USM (ประมาณ 2,360 กรัม) |
EOS-1D X Mark III (ประมาณ 1,448 กรัม) |
ประมาณ 3,798 กรัม2 |
EF200-400mm f/4L IS USM Extender 1.4x (ประมาณ 3,620 กรัม) |
Nil | เฉพาะเลนส์: ประมาณ 3,620 กรัม |
1รวมยางรองตา ER-h, แบตเตอรี่ LP-E19 และการ์ด CFexpress 1 อัน
2รวมยางรองตา Eg, แบตเตอรี่ LP-E19 และการ์ด CFexpress 1 อัน
ตัวเลือกใหม่สำหรับกลุ่ม 3 เลนส์ซูม f/2.8 ทรงพลัง
รูรับแสงขนาดใหญ่ + เทเลโฟโต้ = โบเก้ที่ดูนุ่มนวลไม่เหมือนใคร
ก่อนที่ RF100-300mm f/2.8L IS USM จะถือกำเนิดขึ้น เลนส์ซูมเทเลโฟโต้ที่ยาวที่สุดของ Canon พร้อมด้วยรูรับแสงกว้างสุด f/2.8 คือ RF70-200mm f/2.8L IS USM ซึ่งยืดระยะได้ไกลสุด 200 มม. หากต้องการเข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้น เลนส์ซูมที่เร็วที่สุดคือ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสุดที่ f/4.5 แม้จะถ่ายภาพที่ระยะสุดฝั่งมุมกว้าง 100 มม.
เมื่อเทียบกันแล้ว RF100-300mm f/2.8L IS USM มีช่วงโฟกัสสูงสุดถึง 300 มม. โดยมีรูรับแสงกว้างสุดคงที่ f/2.8 ตลอดช่วงโฟกัส ระยะชัดตื้นที่ f/2.8 ช่วยเสริมโบเก้ให้เด่นชัดขึ้นเมื่อถ่ายด้วยทางยาวโฟกัสยาวๆ เช่น 300 มม. ซึ่งจะสร้างผลลัพธ์ที่ดูไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต งานแต่งงาน และแฟชั่น
ภาพกีฬาและภาพแอ็คชั่น: หยุดการเคลื่อนไหวในที่ที่มีแสงน้อยได้อย่างรวดเร็ว
รูรับแสงกว้างสุด f/2.8 ของเลนส์ช่วยให้คุณมีอิสระมากขึ้นในการตั้งความเร็วชัตเตอร์สูงๆ โดยไม่ต้องปรับความไวแสง ISO ให้สูงมาก แต่เมื่อใช้ร่วมกับคุณสมบัติความไวแสง ISO สูงๆ ของกล้องระบบ EOS R ก็จะยกระดับโอกาสในการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น ต่อไปนี้ผู้ใช้จะสามารถหยุดการเคลื่อนไหวพร้อมทั้งรักษาคุณภาพของภาพไว้ได้ แม้แต่เวลาถ่ายภาพกีฬาในร่ม คอนเสิร์ต หรือสัตว์ป่าช่วงโพลเพล้ที่มีแสงสลัว
ด้วยความสามารถในการซูมออกถึง 100 มม. การติดตามลูกบอลหรือนกป่าที่ไวเหมือนปรอทก็ขึ้นอยู่กับการหมุนวงแหวนซูมเท่านั้น ถึงแม้ว่าตัวแบบจะพุ่งเข้ามาหาคุณก็ตาม คราวนี้การรักษาตัวแบบให้อยู่ในเฟรมพร้อมทั้งรักษาองค์ประกอบภาพตามที่คุณต้องการก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น!
เลนส์ RF100-300mm f/2.8L IS USM
300 มม. ที่ ISO 6400, f/2.8, 1/2000 วินาที
เลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM
300 มม. ที่ ISO 6400, f/5.6, 1/500 วินาที
ที่ระยะ 300 มม. ของ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM (ภาพที่สอง) รูรับแสงกว้างสุดคือ f/5.6 ทำให้ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงไม่เกิน 1/500 วินาที ซึ่งนับว่าช้าเกินไปและส่งผลให้เกิดภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว แต่ที่ f/2.8 ของ RF100-300mm f/2.8L IS USM (ภาพแรก) ความเร็วชัตเตอร์ 1/2000 วินาทีซึ่งเร็วกว่ามาก จะช่วยให้ถ่ายภาพการเคลื่อนไหวเดียวกันได้อย่างคมชัดโดยไม่มีภาพเบลอ
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์: ประสิทธิภาพสมกับเลนส์ L ไปจนถึง 600 มม.
หรือ 960 มม. เมื่อใช้กับกล้อง APS-C
สำหรับสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องเข้าใกล้ตัวแบบให้มากขึ้น RF100-300mm f/2.8L IS USM สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ Extender RF1.4x และ Extender RF2x ซึ่งจะเปลี่ยนเลนส์นี้ให้กลายเป็นเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่มีความยาวและน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์ของ Canon ร่วมกันพัฒนาเลนส์รุ่นนี้ให้มีคุณภาพของภาพในระดับสูงและมีประสิทธิภาพ AF สมกับเลนส์ซีรีย์ L แม้แต่ในเวลาที่ติดอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์
เมื่อใช้ร่วมกับ… | ช่วงโฟกัสของเลนส์อยู่ที่…(เทียบเท่าฟูลเฟรม) |
Extender RF1.4x กับกล้องฟูลเฟรม | 140-420 มม. f/4 |
Extender RF1.4x กับกล้อง APS-C | 224-672 มม. f/4 |
Extender RF2x กับกล้องฟูลเฟรม | 200-600 มม. f/5.6 |
Extender RF2x กับกล้อง APS-C | 320-860 มม. f/5.6 |
คุณจะได้ช่วงโฟกัสทั้งหมดตั้งแต่ 24 ถึง 960 มม. โดยใช้เลนส์เพียงสองตัว ได้แก่ RF24-105mm f/4L IS USM และ RF100-300mm f/2.8L IS USM รวมถึงอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์สองอัน ครอบคลุมช่วงโฟกัสสูงสุดโดยใช้อุปกรณ์น้อยที่สุด เหมาะสำหรับเพิ่มความคล่องตัวสูงสุดให้กับกล้องระบบ EOS R
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 6 สต็อป* ผ่าน IS แบบประสานการควบคุม
IS ตามปกติสูงสุด 5.5 สต็อปที่ระยะสุดฝั่ง 300 มม. พร้อมโหมด IS 1 ถึง 3
สำหรับฉากที่คุณต้องการถ่ายให้ช้าลงเล็กน้อยโดยไม่ใช้ขาตั้ง เลนส์ RF100-300mm f/2.8L IS USM มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลภายในตัว (IS แบบออพติคอล) ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5.5 สต็อปที่ระยะสุดฝั่ง 300 มม. แต่เมื่อใช้กับกล้องที่มี IS ในตัว เช่น EOS R3 เลนส์รุ่นนี้จะรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 6 สต็อปผ่าน IS แบบประสานการควบคุม
*ตามมาตรฐาน CIPA ทิศทางแกนยก/แกนหัน
ทั้งสองภาพ: EOS R3/ RF100-300mm f/2.8L IS USM/ FL: 300 มม./ Manual exposure (f/6.3, 1/25 วินาที)/ ISO 100
โหมด IS 1 ถึง 3: เลือกโหมดที่เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายของคุณ
เช่นเดียวกับเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ RF ระดับมืออาชีพอื่นๆ RF100-300mm f/2.8L IS USM มีโหมดป้องกันภาพสั่นไหวสามโหมดที่เหมาะกับสถานการณ์ในการใช้งานต่างกัน
โหมดที่ 1: แก้ไขการสั่นไหวของกล้องในทุกทิศทาง เหมาะสำหรับตัวแบบที่อยู่นิ่ง
โหมดที่ 2: ไม่แก้ไขการสั่นไหวของกล้องที่เกิดขึ้นในทิศทางที่มีการตรวจจับการแพนกล้องได้ เหมาะสำหรับการถ่ายแบบแพนกล้อง
โหมดที่ 3: ระบบป้องกันภาพสั่นไหวจะทำงานในระหว่างการเปิดรับแสงเท่านั้น ช่วยให้มองเห็นผ่านช่องมองภาพได้ง่ายขึ้นเวลาติดตามตัวแบบที่มีการเคลื่อนไหวแบบคาดเดาไม่ได้
การควบคุม AF อย่างดีเยี่ยมที่ยังปรับปรุงคุณภาพด้านออพติคอลอีกด้วย
Nano USM แบบคู่ พร้อมระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากเพิ่มความคล่องตัวแล้ว อีกหนึ่งข้อได้เปรียบอันโดดเด่นของระบบกล้องมิเรอร์เลส EOS R คือ ระบบ AF ตรวจจับระยะตามระนาบภาพที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งช่วยให้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เลนส์ RF100-300mm f/2.8L IS USM เองได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากคุณสมบัติข้อนี้ โดยใช้ Nano USM (มอเตอร์อัลตร้าโซนิค) ขนาดจิ๋วแต่รวดเร็วและแม่นยำสองตัว เพื่อขับเคลื่อนกลุ่มโฟกัสที่เคยใช้ในเลนส์ EF ส่วนใหญ่ มอเตอร์ทั้งสองจะช่วยให้ตรวจจับและติดตามโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงอย่างได้ผล
ในขณะเดียวกัน Nano USM ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหลและมีการควบคุมที่แม่นยำเช่นกัน ซึ่งในข้อหลังนี้จะเป็นประโยชน์โดยเฉพาะกับการถ่ายวิดีโอ ช่วยให้เปลี่ยน AF ได้อย่างราบรื่นในขณะที่ติดตามตัวแบบ และโฟกัสได้นิ่งและต่อเนื่องในขณะที่ทำการซูม
นอกจากนี้ RF100-300mm f/2.8L IS USM ยังมีคุณสมบัติแก้ไขปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพ (Focus breathing) ซึ่งจะแก้ไขการเปลี่ยนแปลงมุมรับภาพที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการเปลี่ยนโฟกัส เลนส์รุ่นนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการถ่ายภาพแอ็คชั่นในระดับสูงสุดเพียงอย่างเดียว แต่ยังรองรับการผลิตวิดีโอและการถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพอีกด้วย
ประโยชน์ของ Nano USM แบบคู่
การใช้ Nano USM สองอันช่วยให้ขับเคลื่อนกลุ่มชิ้นเลนส์โฟกัสและกลุ่มชิ้นเลนส์แบบลอยตัวได้โดยอิสระจากกันในระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวที่ปรับปรุงใหม่ อัลกอริธึมการควบคุมแบบใหม่ช่วยให้ระยะการขับเคลื่อนของกลุ่มชิ้นเลนส์โฟกัสและกลุ่มชิ้นเลนส์แบบลอยตัวสามารถซ้อนทับกันได้ ทำให้จัดวางตำแหน่งเลนส์ได้อย่างยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถขยับเลนส์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับตำแหน่งการซูมและระยะโฟกัส ซึ่งจะช่วยให้ภาพมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
ปุ่มที่กำหนดเองได้เพื่อการควบคุม AF โดยสะดวก
RF100-300mm f/2.8L IS USM มีปุ่มควบคุมมากมายที่ช่วยให้ทำการโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างลื่นไหล ปุ่มฟังก์ชั่นของเลนส์ที่กำหนดเองได้ 3 ปุ่ม ช่วยให้คุณกำหนดฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น “หยุด AF” เพื่อการเข้าใช้งานง่ายไม่ว่าเลนส์หรือกล้องจะอยู่ในแนวใดก็ตาม ปุ่มตั้งค่าฟังก์ชั่นของเลนส์/โฟกัสล่วงหน้าแบบใหม่ ซึ่งสามารถเลือกฟังก์ชั่นได้ด้วยสวิตช์ด้านข้างเลนส์ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มือขวาเอื้อมถึงได้ง่ายแม้ว่าจะจับกริปของกล้องอยู่
ใช้งานได้ยืดหยุ่นแบบเลนส์ซูม แต่คุณภาพด้านออพติคอลแบบเลนส์เดี่ยว
ใช้งานได้ยืดหยุ่นแบบเลนส์ซูม แต่คุณภาพแบบเลนส์เดี่ยวซีรีย์ L
สัมผัสคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมตลอดช่วงการซูม
การรักษาคุณภาพของภาพให้ไร้ที่ติอย่างสม่ำเสมอนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับเลนส์ซูมมากกว่าเลนส์เดี่ยว เพราะผู้ใช้ต้องคำนึงถึงช่วงโฟกัสทั้งช่วงด้วย อย่างไรก็ตาม RF100-300mm f/2.8L IS USM รังสรรค์ขึ้นตามมาตรฐานเลนส์ซีรีย์ EF300mm f/2.8L ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในเรื่องคุณภาพด้านออพติคอล เป็นต้น เลนส์รุ่นนี้เป็นที่คาดหวังสูงในด้านต่างๆ และได้รับการออกแบบมาตามนั้น โดยมีคุณภาพของภาพเทียบเท่าเลนส์เดี่ยวซีรีย์ L ระดับมืออาชีพตลอดทั้งช่วงการซูม
โครงสร้างเลนส์
A: ชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์ / B: ชิ้นเลนส์ UD / C: เลนส์แก้ความคลาดทรงกลม / D: ASC
เคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนบนพื้นผิวเลนส์ด้านหน้า
โครงสร้างของเลนส์ประกอบด้วย
- เลนส์ฟลูออไรต์ 1 ชิ้น และเลนส์ UD 4 ชิ้น ซึ่งจัดวางอย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อแก้ความคลาดสี
- เลนส์แก้ความคลาดทรงกลมหล่อแก้วที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ 1 ชิ้นในกลุ่มเลนส์หลังสุด เพื่อลดการเกิดสีเพี้ยนให้น้อยที่สุดตั้งแต่กลางภาพไปจนถึงขอบภาพ
- การเคลือบแบบ Air Sphere Coating (ASC) ซึ่งจะควบคุมแสงหลอกและแสงแฟลร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่มีแหล่งกำเนิดแสงจ้าในเฟรม
ความทนทานและความน่าเชื่อถือระดับมืออาชีพ
ความทนทานและความน่าเชื่อถือระดับมืออาชีพ
ดีไซน์สมกับเป็นเลนส์ Big White ยอดนิยม
การเคลือบกันความร้อน
เลนส์ใช้การเคลือบป้องกันความร้อนสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งทำให้เลนส์เทเลโฟโต้ระดับมืออาชีพของ Canon รุ่นนี้มีชื่อเล่นว่า “Big White” การเคลือบจะช่วยรักษาคุณภาพของภาพเอาไว้ไม่ให้ลดลงเนื่องจากความร้อนที่สะสมอยู่ภายในเลนส์เมื่อถ่ายภาพกลางแจ้งในวันที่มีอากาศร้อน
นอกจากนี้ เลนส์รุ่นนี้ไม่มีฟิลเตอร์แบบ Drop-in เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านออพติคอลและความทนทาน
ดีไซน์ป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ
เลนส์ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นและหยดน้ำเข้ามาภายในเลนส์ด้วยซีลป้องกันสภาพอากาศบนวงแหวน สวิตช์ ข้อต่อ และปุ่มควบคุมต่างๆ จึงช่วยเพิ่มความทนทานและความน่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
RF100-300mm f/2.8L IS USM: ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
โครงสร้างเลนส์: 23 ชิ้นเลนส์ใน 18 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 1.8 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.16 เท่า
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 112 มม.
ขนาด: φ128×323.4 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 2,590 ก.
อุปกรณ์เสริมที่มีให้
เลนส์ฮูด ET-124
เคสใส่เลนส์ชนิดอ่อน LS100-300
เคสชนิดอ่อนที่มีน้ำหนักเบาเพื่อการจับถือได้สะดวกยิ่งขึ้น
ภาพตัวอย่าง
EOS R3/ RF100-300mm f/2.8L IS USM/ FL: 270 มม. / Manual exposure (f/2.8, 1/1600 วินาที)/ ISO 6400/ WB: 4300K
EOS R3/ RF100-300mm f/2.8L IS USM + Extender RF1.4x / FL: 420 มม. / Manual exposure (f/4, 1/2000 วินาที)/ ISO 8000/ WB: 5200K
EOS R3/ RF100-300mm f/2.8L IS USM/ FL: 100 มม./ Flexible-priority AE (f/2.8, 1/500 วินาที, EV -1)/ ISO 200/ WB: 5500K
EOS R5/ RF100-300mm f/2.8L IS USM/ FL: 300 มม. / Aperture-priority AE (f/2.8, 1/640 วินาที, EV +1)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ
คุณอาจสนใจบทความต่อไปนี้
ทำไมเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้จึงจำเป็นต่อการถ่ายภาพกีฬา
เลนส์ RF กับเลนส์ EF: แตกต่างกันอย่างไรและควรตัดสินใจเลือกอย่างไร