ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์: ชื่อเลนส์มีความหมายอย่างไรและทำไมเลนส์บางรุ่นจึงเป็นสีขาว

2021-05-28
2
1.71 k
ในบทความนี้:

มีอะไรอยู่ในชื่อเลนส์บ้าง ทำไมเลนส์บางรุ่นจึงเป็นสีขาวและบางรุ่นจึง “ประดับ” ด้วยวงแหวนสีแดง มาไข “รหัสลับ” บนเลนส์ของคุณในบทความนี้กัน

- ไขปริศนาชื่อเลนส์
- วงแหวนสีแดงและวงแหวนสีเขียว
- เลนส์สีขาว
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของชื่อเลนส์

 

มีอะไรอยู่ในชื่อเลนส์บ้าง

สิ่งแรกที่ช่วยให้เราแยกแยะความแตกต่างระหว่างเลนส์หนึ่งกับอีกเลนส์ได้คือชื่อของเลนส์นั้นๆ

เลนส์ส่วนใหญ่มีชื่อเลนส์พิมพ์ไว้ที่ด้านหน้าเลนส์ แต่สำหรับเลนส์บางรุ่นอาจจะพิมพ์ชื่อไว้ที่อื่น เช่น ที่ด้านบนของท่อเลนส์หรือใกล้กับเมาท์

ตัวเลขและสัญลักษณ์ที่เรียงกันเป็นแถวบนเลนส์อาจชวนให้สับสน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไปตามรูปแบบเดียวกัน ได้แก่

A) ซีรีย์เมาท์/เลนส์
1: ซีรีย์เลนส์ (อาจเป็น EF, EF-S, EF-M, TS-E, MP-E)

B) ทางยาวโฟกัส 
2: ช่วงทางยาวโฟกัส (เทียบเท่าฟูลเฟรม)

C) ช่วงรูรับแสงกว้างสุด
3: ค่ารูรับแสง/ช่วงรูรับแสงกว้างสุด

D) ประเภทของเลนส์
4: บ่งบอกถึงเลนส์ (ซีรีย์ L) ระดับมืออาชีพ
5: บ่งบอกถึงระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง
6: หมายเลขรุ่นของเลนส์ (บ่งบอกถึงรุ่นใหม่ของเลนส์ที่มีอยู่เดิม)
7: ประเภทของมอเตอร์ AF (อาจเป็น ‘STM’ ได้เช่นกัน)

ข้อมูลอื่นๆ ที่คุณอาจพบได้ใน D):
- “Macro” (มาโคร) (เช่น เลนส์ RF35mm f/1.8 Macro IS STM): บ่งบอกถึงเลนส์ที่มีกำลังขยายอย่างน้อย 0.5 เท่า
- “Fisheye” (ฟิชอาย) (เช่น เลนส์ EF8-15mm f/4L Fisheye USM): บ่งบอกถึงเลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์ชนิดพิเศษ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

คลิกลิงก์ด้านบนเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละข้อ

 

วงแหวนสีแดง วงแหวนสีเขียว: ไม่ได้ใช้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น

เลนส์ก็มีสัญลักษณ์แสดงสถานะเช่นกัน! วงแหวนสีแดงรอบๆ ท่อเลนส์บ่งบอกว่าเลนส์นั้นเป็นเลนส์ซีรีย์ L ‘L’ ย่อมาจากคำว่า ‘Luxury’ (ความหรูหรา) แต่เลนส์ซีรีย์ L มีคุณสมบัติมากกว่านั้น เพราะสร้างขึ้นมาเพื่อมอบความเชื่อถือได้ ความทนทาน และคุณภาพภาพถ่ายในระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้มือโปรที่ถ่ายภาพเป็นอาชีพ

อันได้แก่:
- ซีลป้องกันสภาพอากาศ: ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำเพื่อความทนทานยิ่งขึ้นในสภาพอากาศที่ท้าทาย
- ออพติกคุณภาพระดับสูงขึ้น กระจกและการเคลือบแบบพิเศษจะช่วยแก้ไขความคลาดของเลนส์ แสงหลอก และแสงแฟลร์ รวมถึงให้ประสิทธิภาพด้านออพติคอลที่ดีที่สุด


วงแหวนสีเขียวรอบๆ ท่อเลนส์บ่งบอกว่าเลนส์นั้นมีออพติคแบบกระจายแสง (Diffractive Optics) หรือชิ้นเลนส์ DO ชิ้นเลนส์ DO เป็นกระจกชนิดพิเศษที่ใช้ประโยชน์จากการกระจายแสงเพื่อลดความคลาดสี และการใช้ชิ้นเลนส์เหล่านี้ก็ช่วยทำให้เลนส์เทเลโฟโต้มีน้ำหนักเบาขึ้น

ตัวอย่างเลนส์สองรุ่นที่เป็นที่ชื่นชอบกันมาก ได้แก่
- EF70-300mm f/4.5-5.6 DO IS USM
- EF400mm f/4 DO IS II USM

ข้อควรรู้: เลนส์บางรุ่นใช้ชิ้นเลนส์ DO แต่ไม่มีวงแหวนสีเขียว เช่น RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM

 

ความพิเศษของเลนส์สีขาวคืออะไร

หากคุณเห็นเลนส์สีขาว ก็อาจเป็นไปได้ว่าเป็นเลนส์ซูมเทเลโฟโต้หรือเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ซีรีย์ L เลนส์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้ในการถ่ายภาพกีฬา สัตว์ป่า และภาพทิวทัศน์ ซึ่งมักใช้เวลาถ่ายภาพนานหลายชั่วโมงท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ การเคลือบกันความร้อนสีขาวสะท้อนแสงสูงจะป้องกันรังสีอินฟราเรดในแสงแดดและช่วยป้องกันความร้อนที่สะสมภายในเลนส์ ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพคงที่

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังเลนส์สีขาวของ Canon ได้ในบทความนี้ (ฉบับภาษาอังกฤษ)

 

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดในชื่อเลนส์


1. ซีรีย์เลนส์

ปัจจุบันซีรีย์เลนส์ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมีอยู่ 6 ซีรีย์ด้วยกัน ประกอบด้วยซีรีย์เลนส์ออโต้โฟกัส 4 ซีรีย์ ได้แก่
1) RF: เมาท์ RF ที่ออกแบบมาสำหรับระบบกล้องมิเรอร์เลส EOS R
2) EF: เมาท์ EF ที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง DSLR แบบฟูลเฟรม
3) EF-S: พัฒนามาจากเมาท์ EF แต่ออกแบบมาสำหรับกล้อง DSLR ที่มีเซนเซอร์ภาพแบบ APS-C ที่เล็กลง
4) EF-M: อีกหนึ่งซีรีย์ที่พัฒนามาจากเมาท์ EF และออกแบบมาเพื่อใช้กับกล้องมิเรอร์เลสซีรีย์ EOS M ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา

สำหรับเลนส์ 2 ซีรีย์ที่เหลือนั้นเป็นเลนส์โฟกัสแบบแมนนวลชนิดพิเศษที่ใช้เมาท์ EF ได้แก่
5) TS-E: เลนส์ทิลต์-ชิฟท์
6) MP-E: MP ย่อมาจาก “Macro Photo” หมายถึง MP-E65mm f/2.8 1-5x Macro Photo ซึ่งเป็นเลนส์มาโครชนิดพิเศษที่รองรับกำลังขยายได้ถึง 5 เท่า


2. ช่วงทางยาวโฟกัส (เทียบเท่าฟูลเฟรม)

ช่วงทางยาวโฟกัสบ่งบอกถึงมุมรับภาพของเลนส์ เมื่อติดตั้งเลนส์กับกล้องที่มีเซ็นเซอร์ภาพ APS-C แล้ว ทางยาวโฟกัสที่มีประสิทธิภาพจะเท่ากับ 1.6 เท่าของตัวเลขที่ระบุไว้ ตัวอย่างเช่น มุมรับภาพที่ใช้ได้ของเลนส์ EF-M15-45mm จะเทียบเท่ากับ 24-72 มม. ของกล้องฟูลเฟรม

นอกจากนี้สำหรับเลนส์บางรุ่น ทางยาวโฟกัสจะระบุไว้อย่างชัดเจนที่ด้านบนของท่อเลนส์เพื่อให้เห็นได้ง่ายยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพอย่างมืออาชีพ (3): ดึงความสามารถสูงสุดของเลนส์มาใช้


3. ค่ารูรับแสงกว้างสุด
ข้อมูลนี้บ่งบอกถึงระยะที่กว้างที่สุดที่รูในเลนส์ของคุณสามารถเปิดได้ (= เส้นผ่านศูนย์กลางรูรับแสง) โดยปกติจะแสดงเป็นค่า f (หรือที่เรียกกันว่า ‘อัตราส่วนโฟกัส’) 

สำหรับเลนส์ที่มีรูรับแสงแบบปรับได้ จะแสดงเป็นช่วงของค่า f ค่า f ต่ำ หมายถึง ค่ารูรับแสงกว้างสุดที่สุดฝั่งมุมกว้าง ขณะที่ค่า f สูง หมายถึง ค่ารูรับแสงกว้างสุดที่สุดฝั่งเทเลโฟโต้


ข้อมูลนี้บอกเราว่าสำหรับเลนส์ RF24-105mm f/4-7.1 IS STM นั้น รูรับแสงกว้างสุดคือ f/4 ที่สุดฝั่งมุมกว้าง 24 มม. และ f/7.1 ที่สุดฝั่งเทเลโฟโต้ 105 มม.

รูรับแสงกว้างสุดมีผลต่อภาพถ่ายของคุณอย่างไร 

เมื่อถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือสลัว เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง (“ความไวแสงสูง“) จะรับแสงได้มากกว่า คุณจึงสามารถถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงขึ้นและความไวแสง ISO ต่ำลงได้ สำหรับกล้องมิเรอร์เลสและระหว่างการถ่ายภาพ Live View ด้วยกล้อง DSLR นั้น แสงที่ผ่านเข้ามาถึงเซนเซอร์ได้มากขึ้นยังช่วยให้ AF ทำงานได้ดีขึ้นในสภาวะแสงน้อยด้วย 

และเนื่องจากรูรับแสงเกี่ยวข้องกับระยะชัดของภาพ รูรับแสงกว้างสุดที่กว้างขึ้นจึงหมายถึงโบเก้ที่ชัดมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เลนส์ความไวแสงสูงจึงมักเป็นที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต

อ่านเพิ่มเติมได้ที่เลนส์ไวแสงทำให้มองเห็นผ่านช่องมองภาพได้ง่ายขึ้นหรือไม่


ข้อควรรู้: บางครั้งค่ารูรับแสงกว้างสุดจะเขียนเป็นอัตราส่วน เช่น “1:4”

หรือเรียกได้ว่าเป็นค่าผกผันของค่า f ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการระบุค่ารูรับแสงกว้างสุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูรับแสงได้ที่นี่:
[บทที่ 3] เรียนรู้เกี่ยวกับรูรับแสง


4. เลนส์ซีรีย์ L
ดูที่วงแหวนสีแดง วงแหวนสีเขียว: ไม่ได้ใช้เพื่อการตกแต่งเท่านั้น


5. IS: ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง

“IS” ย่อมาจาก “Image Stabilizer” (ระบบป้องกันภาพสั่นไหว) IS ในเลนส์มีอีกชื่อหนึ่งว่า IS แบบออพติคอล และจะตรวจจับการสั่นไหวของกล้องและเคลื่อนชุดออพติคแก้ไขเพื่อทำการชดเชย ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดยิ่งขึ้นแม้ว่าคุณจะถ่ายโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้องก็ตาม

แม้ว่าเอฟเฟ็กต์การป้องกันภาพสั่นไหวจะแตกต่างกันไปตามฉากและเลนส์ แต่เลนส์รุ่นใหม่ๆ ก็สามารถให้ประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5 สต็อปหรือมากกว่านั้นได้ นอกจากนี้เลนส์ RF บางรุ่นยังรองรับ IS แบบประสานการควบคุม ซึ่งจะทำงานร่วมกับ IS ในตัวกล้องสำหรับกล้องรุ่นที่เข้ากันได้เพื่อป้องกันภาพสั่นไหวได้ดียิ่งขึ้น


6. หมายเลขรุ่นของเลนส์

เมื่อเลนส์ใหม่มีเมาท์ ทางยาวโฟกัส รูรับแสง สถานะการมี IS หรือไม่มี IS สถานะเลนส์ L และมอเตอร์ที่เหมือนกับรุ่นที่มีอยู่เดิม เลนส์นั้นจะถือว่าเป็นเลนส์รุ่นใหม่และจะมีหมายเลขรุ่นเป็นตัวเลขโรมัน เช่น EF400mm f/2.8L IS III USM

ส่วนเลนส์ที่เป็นรุ่นแรกจะไม่มีหมายเลขรุ่นระบุไว้


7. มอเตอร์ขับเคลื่อน AF

มีมอเตอร์ 2 ประเภทหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อนระบบ AF ของเลนส์


USM

Canon เป็นผู้ผลิตกล้องรายแรกที่ประสบความสำเร็จในการจำหน่าย USM (มอเตอร์อัลตร้าโซนิค) ซึ่งจะแปลงแรงสั่นสะเทือนแบบอัลตราโซนิคเพื่อเคลื่อนกลุ่มโฟกัสในเลนส์ มอเตอร์ที่ว่านี้ขึ้นชื่อในเรื่องการขับเคลื่อน AF อย่างรวดเร็ว

USM มีหลากหลายประเภทซึ่งคุณสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ ประเภทใหม่ล่าสุดคือ Nano USM ซึ่งผสาน USM แบบดั้งเดิมเข้ากับการทำงานที่ลื่นไหล ความเงียบ และความแม่นยำของ STM


STM

Stepping Motor (STM) ได้รับการเปิดตัวในปี 2012 และเป็นที่ทราบกันดีว่ามีระบบขับเคลื่อน AF ที่นุ่มนวลกว่าและเงียบกว่า USM รุ่นก่อนๆ จึงเหมาะมากสำหรับการบันทึกวิดีโอ 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี USM และ STM ได้ที่นี่ (ฉบับภาษาอังกฤษ)

 

---

ในตอนถัดไปของบทความชุดนี้ เราจะมาศึกษาสวิตช์และปุ่มควบคุมต่างๆ ที่คุณอาจพบได้บนท่อเลนส์

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์และวิธีใช้งานได้ที่บทความ:
จุดโฟกัส: พื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์

 


รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT

ลงทะเบียนตอนนี้!

บทความที่เกี่ยวข้อง

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา