เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพอย่างมืออาชีพ (3): ดึงความสามารถสูงสุดของเลนส์มาใช้
เราได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ ในการจัดองค์ประกอบภาพไปแล้วในบทความก่อนหน้า แต่อย่าลืมว่าเลนส์และทางยาวโฟกัสที่คุณใช้ก็มีความสำคัญต่อการจัดองค์ประกอบภาพเช่นกัน! บทความนี้จะให้คำแนะนำสั้นๆ เกี่ยวกับเลนส์มุมกว้าง เลนส์มาตรฐาน และเลนส์เทเลโฟโต้ รวมถึงเทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพเพื่อดึงความสามารถของเลนส์มาใช้ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด (เรื่องโดย: Tatsuya Tanaka)
เลนส์มุมกว้าง
คำจำกัดความ
เลนส์เดี่ยวมุมกว้าง: ทางยาวโฟกัสต่ำกว่า 35 มม.
เลนส์ซูมมุมกว้าง: ช่วงทางยาวโฟกัสต่ำกว่า 35 มม.
ช่วงทางยาวโฟกัสมุมกว้าง: ได้ถึง 35 มม.
เลนส์มุมกว้างอัลตร้าไวด์: ทางยาวโฟกัสต่ำกว่า 24 มม.
*ช่วงทางยาวโฟกัสทั้งหมดเทียบเท่าฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.
มุมรับภาพแบบมุมกว้าง
A: มุมรับภาพ
B: เลนส์
ตามที่ชื่อได้บอกไว้แล้ว เลนส์มุมกว้างจะมีมุมรับภาพในแนวนอนที่กว้าง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 60º - 100º หากเทียบกัน สายตาของมนุษย์มีระยะชัดลึกโดยประมาณที่ 40º - 60º หากไม่ขยับดวงตา
มุมรับภาพที่กว้างกว่าทำให้เลนส์มุมกว้างสามารถถ่ายฉากที่อยู่เบื้องหน้าคุณได้กว้างขึ้น แม้คุณอาจไม่สังเกตเห็นในทันที
เคล็ดลับน่ารู้: สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระยะ 24 มม. เป็นทางยาวโฟกัสที่นิยมใช้ในการถ่ายภาพทิวทัศน์คือ มุมรับภาพจากระยะนี้ (74º ในแนวนอน, 53º ในแนวตั้ง) มีขนาดใกล้เคียงกับมุมรับภาพของสายตามนุษย์เมื่อมองของสิ่งหนึ่งจากระยะไกล
ใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อให้ระยะห่างดูเกินจริง
ปรากฏการณ์เปอร์สเป็คทีฟทำให้วัตถุที่อยู่ใกล้ดูมีขนาดใหญ่ขึ้น และวัตถุที่อยู่ไกลดูมีขนาดเล็กลง เลนส์มุมกว้างจะทำให้ปรากฏการณ์นี้ดูเกินจริงมากขึ้น วัตถุที่ใกล้กับกล้องมากกว่าจึงดูใหญ่ขึ้นแบบผิดสัดส่วน และวัตถุที่อยู่ไกลจากกล้องจะดูเล็กลง เอฟเฟ็กต์นี้เรียกว่าเอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟเกินจริง
* เอื้อเฟื้อภาพถ่ายโดย Canon
น้ำแข็งที่ลอยอยู่ในแม่น้ำ เอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟเกินจริงทำให้ก้อนน้ำแข็งดูมีขนาดใหญ่ขึ้นและอยู่ใกล้ขึ้น ในขณะที่พื้นดินในแบ็คกราวด์ดูมีขนาดเล็กลง ดูห่างออกไปและกว้างไกลมากกว่า
เคล็ดลับการจัดองค์ประกอบภาพ: ใช้เอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟเกินจริงทำให้ตัวแบบในโฟร์กราวด์ของคุณโดดเด่นขึ้น ในภาพนี้ ผมให้ก้อนน้ำแข็งอยู่ตรงกลางในบริเวณสามส่วนล่างตามหลักการจัดองค์ประกอบภาพแบบกฎสามส่วน ซึ่งทำให้ก้อนน้ำแข็งมีน้ำหนักทางสายตามากขึ้นและอยู่ใกล้กล้องมากกว่า
ใช้เลนส์มุมกว้างในภาพที่มีเส้นนำสายตา
เอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟเกินจริงจะเห็นได้ชัดเป็นพิเศษบนถนน แม่น้ำ ทางเดิน และตัวแบบอื่นๆ ที่มีเส้นขนานเพราะเกิดเอฟเฟ็กต์การบรรจบกัน เอฟเฟ็กต์นี้สามารถนำมาใช้ในการสร้างเส้นนำสายตา ซึ่งเป็นตัวนำความสนใจของผู้ชมไปยังจุดรวมสายตา
ในภาพนี้ เอฟเฟ็กต์การบรรจบกันเกิดขึ้นสองจุดจากตัวอาคารและถนน โดยทำให้เกิดเส้นนำสายตาในแนวทแยงที่นำความสนใจของผู้ชมไปยังจุดที่เอฟเฟ็กต์ทั้งสองตัดกัน ซึ่งในภาพนี้ คือคนที่อยู่ตรงกลางภาพ
สำหรับเลนส์มุมกว้าง ทางยาวโฟกัสที่ต่างกัน 2 มม. มีความสำคัญอย่างมาก
ความแตกต่างของมุมรับภาพในแนวนอนระหว่างทางยาวโฟกัส 16 มม. และ 18 มม. อยู่ที่ประมาณ 7º (96.7º และ 90º เมื่อดูจากเครื่องมือคำนวณมุมรับภาพนี้ (ฉบับภาษาอังกฤษ)) และทำให้เกิดความแตกต่างดังที่เห็นด้านล่าง
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของมุมรับภาพจะน้อยลงเมื่อใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาวขึ้น (เลนส์มาตรฐานและเลนส์เทเลโฟโต้) ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใช้เลนส์เทเลโฟโต้ ความแตกต่าง 50 มม. ระหว่างระยะ 200 มม. (10.3º) กับ 250 มม. (8.2º) จะทำให้มุมรับภาพแตกต่างกันเพียง 2º
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวการจัดองค์ประกอบภาพด้วยเลนส์มุมกว้างได้ที่นี่:
สำรวจเลนส์มุมกว้างตอนที่ 2: เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพสำหรับเลนส์มุมกว้าง
เลนส์มาตรฐาน
คำจำกัดความ
เลนส์เดี่ยวมาตรฐาน: ทางยาวโฟกัสระหว่าง 40-60 มม.* (50 มม. จะพบได้บ่อยที่สุด)
เลนส์ซูมมาตรฐาน: สำหรับ Canon คือเลนส์ที่มีช่วงโฟกัส* 24-70 มม., 28-70 มม., 24-105 มม., ฯลฯ
ช่วงโฟกัสมาตรฐาน: ระหว่าง 35-135 มม.*
(หมายเหตุ: 70-135 มม. ก็นับเป็นช่วง “เทเลโฟโต้ระยะกลาง” ด้วยเช่นกัน)
*ช่วงทางยาวโฟกัสทั้งหมดเทียบเท่าฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.
มุมรับภาพแบบมาตรฐาน
A: มุมรับภาพ
B: เลนส์
โดยทั่วไป มุมรับภาพแนวนอนของเลนส์มาตรฐานจะอยู่ระหว่าง 25º ถึง 40º ซึ่งจัดว่าอยู่ระหว่างมุมรับภาพของเลนส์มุมกว้างและเลนส์เทเลโฟโต้ ซึ่งเรียกว่ามุมรับภาพแบบ “มาตรฐาน” หรือ “ปกติ” เนื่องจากให้ระยะชัดลึก ความลึก และเปอร์สเป็คทีฟที่ใกล้เคียงกับสายตาของมนุษย์
หมายเหตุ: เลนส์ซูมมาตรฐานยังครอบคลุมทางยาวโฟกัสที่จัดว่าเป็นแบบ “มุมกว้าง” และ “เทเลโฟโต้ระยะกลาง” ด้วย จึงสามารถใช้งานได้สารพัดประโยชน์อย่างมาก!
ใช้เลนส์ซูมมาตรฐานในการถ่ายภาพตัวแบบโดยไม่เกิดความบิดเบี้ยว
หากคุณใช้เลนส์มุมกว้างในการถ่ายภาพตัวแบบที่มีเส้นตรง เช่น อาคารสูง เอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟเกินจริงจะทำให้เส้นเหล่านั้นบิดเบี้ยวไปแม้คุณจะไม่ได้เอียงกล้องขึ้นด้านบน การใช้ทางยาวโฟกัสมาตรฐานสามารถช่วยกำจัดการบิดเบี้ยวนี้ได้
* เอื้อเฟื้อภาพถ่ายโดย Canon
FL: 50 มม.
FL: 35 มม.
อาคาร สะพาน และโครงสร้างอื่นๆ ที่มีเส้นตรงจะพบได้มากในทิวทัศน์เมือง จะเห็นว่าในภาพตัวอย่างที่ใช้ระยะ 35 มม. (มุมกว้าง) เส้นที่เกิดจากด้านข้างของตัวโบสถ์ดูเหมือนจะเอียงเข้าหาจุดกึ่งกลาง นี่คือผลของเอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟเกินจริง หากเทียบกัน เส้นจะอยู่ในแนวตรงในตัวอย่างที่ใช้ระยะ 50 มม. ซึ่งถ่ายจากตำแหน่งเดียวกัน
เคล็ดลับ: ตั้งกล้องให้ได้ระดับ การเอียงกล้องขึ้นหรือลงจะทำให้เปอร์สเป็คทีฟบิดเบี้ยวไปไม่ว่าจะใช้เลนส์ใดก็ตาม
เลนส์มาตรฐานก็เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวเช่นกัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่
เทคนิคการถ่ายภาพด้วยเลนส์มาตรฐาน: การใช้มุมมองเพื่อดึงให้คนดูเข้าไปอยู่ในภาพ
เลนส์เทเลโฟโต้
คำจำกัดความ
เลนส์เดี่ยวเทเลโฟโต้: ทางยาวโฟกัส 200 มม. หรือมากกว่า
เลนส์ซูมเทเลโฟโต้: เลนส์ซูมที่มีระยะเทเลโฟโต้ 200 มม. หรือมากกว่า
ช่วงโฟกัสเทเลโฟโต้ระยะกลาง: ประมาณ 70-135 มม. (คำจำกัดความบอกว่า 85-135 มม.)
เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้: ทางยาวโฟกัสมากกว่า 300 มม.
*ช่วงทางยาวโฟกัสทั้งหมดเทียบเท่าฟอร์แมตฟิล์ม 35 มม.
มุมรับภาพแบบเทเลโฟโต้
A: มุมรับภาพ
B: เลนส์
เลนส์เทเลโฟโต้ทำให้วัตถุที่อยู่ไกลมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยการ “ดึง” วัตถุเข้ามาเพื่อทำให้ดูเหมือนอยู่ใกล้ขึ้น ซึ่งทำให้มุมรับภาพในแนวนอนแคบลงด้วย โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 10º - 15º
ข้อควรรู้: หลายๆ คนมักจะนึกถึงเลนส์มุมกว้างเมื่อต้องถ่ายภาพทิวทัศน์ แต่การถ่ายภาพทิวทัศน์ด้วยเลนส์เทเลโฟโต้ก็ทำให้ได้ภาพที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน มุมรับภาพที่แคบกว่าทำให้ง่ายต่อการแยกองค์ประกอบต่างๆ ที่คุณต้องการให้ผู้ชมสนใจ
เลนส์เทเลโฟโต้ทำให้คุณเข้าใกล้วัตถุที่อยู่ไกลได้มากขึ้น
ทางยาวโฟกัสเทเลโฟโต้จะดึงตัวแบบที่อยู่ไกลเข้ามาเพื่อให้ดูใหญ่และใกล้ขึ้น จึงมีประโยชน์ในการถ่ายโคลสอัพตัวแบบเมื่อคุณไม่สามารถหรือไม่ต้องการเขยิบเข้าไปใกล้ตัวแบบ
FL: 50 มม.
FL: 300 มม.
สองภาพด้านบนถ่ายจากตำแหน่งเดียวกันด้วยเลนส์คนละชนิด ทางยาวโฟกัสที่ 300 มม. ทำให้สามารถถ่ายภาพแนวพื้นดินและคลื่นที่กำลังซัดสาดเข้าฝั่งได้แบบโคลสอัพ โดยใช้การจัดองค์ประกอบภาพในอัตราส่วน 6:3
ดูเพิ่มเติมได้ที่: เคล็ดลับการจัดองค์ประกอบภาพที่ทำให้หมอกสวยงามเตะตา
เลนส์เทเลโฟโต้สามารถบีบระยะห่างระหว่างตัวแบบได้
ทางยาวโฟกัสเทเลโฟโต้ไม่เพียงแต่ทำให้สิ่งของที่อยู่ไกลดูใกล้ขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้สิ่งของดูเหมือนอยู่ใกล้กันมากขึ้นด้วย ซึ่งเรียกว่า “เอฟเฟ็กต์การบีบมุมมองภาพ” “เอฟเฟ็กต์การบีบภาพระยะไกล” หรือ “เอฟเฟ็กต์แบบวางซ้อน”
ในภาพนี้ซึ่งถ่ายที่ระยะ 500 มม. เทือกเขาที่อยู่ในโฟร์กราวด์ดูเหมือนถูก “บีบ” ให้อยู่ในระนาบเดียวกันกับดวงจันทร์ ซึ่งความจริงแล้ว ดวงจันทร์นั้นอยู่ไกลออกไปจากด้านหลังเทือกเขามาก เอฟเฟ็กต์นี้ทำให้ผมวางดวงจันทร์เอาไว้ตรงจุดตัดของตารางตามกฎสามส่วนได้ คุณสามารถใช้เอฟเฟ็กต์นี้ได้เพื่อวัตถุประสงค์ทางศิลปะ หรือเพื่อให้วัตถุในภาพดูหนาแน่นขึ้น
ข้อควรรู้ (1): ช่วงทางยาวเทเลโฟโต้ต่างๆ นิยมใช้เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
- 85 ถึง 135 มม.: ให้ระยะห่างจากตัวแบบที่ทำให้รู้สึกสบายตา จึงมักใช้ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต
- 150 ถึง 300 มม.: เหมาะสำหรับการดึงความสนใจไปยังองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งในภาพทิวทัศน์ เป็นที่นิยมใช้ในหมู่ช่างภาพทิวทัศน์ธรรมชาติ
- ซูเปอร์เทเลโฟโต้ (ทุกระยะเกินกว่า 300 มม.): เลนส์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการถ่ายภาพสัตว์ป่า นก และกีฬา
ข้อควรรู้ (2): กล้องจะเกิดการสั่นได้ง่ายกว่าเมื่อใช้เลนส์เทเลโฟโต้
เนื่องจากเลนส์เหล่านี้มีความยาวมากกว่าเลนส์ชนิดอื่น ใช้ความระมัดระวังเพื่อป้องกันการเกิดภาพสั่นไหว เช่น ใช้ขาตั้งกล้องแบบสามขา ขาตั้งกล้องแบบขาเดียว หรือใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูงขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์ได้ที่นี่: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเลนส์
ดูบทความอื่นๆ ในบทความต่อเนื่องชุดนี้:
1. เส้นนำสายตา จังหวะที่ไม่คาดคิด และการตัดส่วนเกิน
2. “รูปแบบและจังหวะ” และ “เส้นโค้งรูปตัว S”
4. การใช้งานเลนส์พิเศษ
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
เกิดเมื่อปี 1956 Tanaka เป็นหนึ่งในช่างภาพที่หาตัวจับยาก ซึ่งได้สร้างผลงานไว้หลากหลายแนวจากมุมมองที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง เขาถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ มากมายตั้งแต่สิ่งที่มองเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น แมลงและดอกไม้ ไปจนถึงภาพทิวทัศน์ ตึกสูง และดวงดาวบนท้องฟ้าเลยทีเดียว นอกเหนือจากการถ่ายภาพแล้ว Tanaka ยังพัฒนาวิธีการของตัวเองในกระบวนการปรับแต่งภาพรวมทั้งการรีทัชและการพิมพ์ขึ้นมาอีกด้วย