เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ระดับมืออาชีพที่ยาวที่สุดของ Canon เสริมทัพให้กลุ่มเลนส์ RF
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 Canon ได้เปิดตัว RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM เลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้ระดับมืออาชีพรุ่นใหม่สองรุ่นสำหรับเมาท์ RF เลนส์ทั้งสองมาพร้อมกับทางยาวโฟกัสสูงสุด (800 มม. และ 1200 มม. ตามลำดับ) พร้อมด้วยคุณภาพของภาพสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ซีรีย์ L และมีตัวกล้องที่เล็กลงและเบาขึ้นซึ่งจะเปิดโลกแห่งการถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ให้กับผู้ใช้จำนวนมากกว่าที่เคย
เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021 Canon ได้เปิดตัว RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM ซึ่งเป็นเลนส์เดี่ยวซูเปอร์เทเลโฟโต้สองรุ่นสำหรับเมาท์ RF ที่ให้ความน่าเชื่อถือระดับมืออาชีพและประสิทธิภาพด้านออพติคอลอันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ซีรีย์ L ในตัวกล้องขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา Canon ได้ต่อยอดจากการออกแบบเลนส์ทั้งสองรุ่นนี้โดยนำเอาชุดออพติคเพิ่มกำลังขยายมาใช้ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มทางยาวโฟกัสขึ้นสองเท่าเป็น 800 มม. และ 1200 มม. ตามลำดับเท่านั้น แต่ยังมีการปรับแต่งเพื่อให้ได้คุณภาพด้านออพติคอลสูงสุดแม้ทางยาวโฟกัสจะเพิ่มขึ้น ซึ่งดีกว่าการติดตั้งเลนส์ RF400mm f/2.8L IS USM หรือ RF600mm f/4L IS USM เข้ากับท่อต่อเลนส์ 2 เท่า ด้วยการออกแบบนี้ เลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM จึงถือกำเนิดขึ้น
เลนส์ทั้งสองใช้ได้กับ Extender RF1.4x และ Extender RF2x ซึ่งรุ่นหลังนี้จะเพิ่มทางยาวโฟกัสของเลนส์ RF1200mm f/8L IS USM เป็นสองเท่าที่ 2400 มม. ได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีระบบกล้องใดๆ สามารถเทียบได้ เมื่อรวมกับความคล่องตัวในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งจะทำให้ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เลนส์เหล่านี้จึงพร้อมขยายขอบเขตให้การถ่ายภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ทั้งตามความหมายโดยตรงและโดยนัย
ยักษ์ใหญ่ที่ผอมเพรียวลง: ขนาดและน้ำหนักที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากเวอร์ชัน EF
RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM มีเลนส์ในเวอร์ชันเมาท์ EF คือ EF1200mm f/5.6L USM และ EF800mm f/5.6L IS USM ซึ่งปัจจุบันไม่มีการผลิตแล้ว เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่มีระยะของทางยาวโฟกัสมากกว่า 800 มม. นั้นหาได้ยากมาก และในปัจจุบัน Canon เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่ผลิตเลนส์ 1200 มม. ซึ่งมีศักยภาพมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถ่ายภาพกีฬา สัตว์ป่า และการถ่ายภาพเพื่อการตรวจตรา อย่างไรก็ตาม ระยะดังกล่าวจะมาพร้อมกับขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ซึ่งจำกัดความสามารถในการใช้งานจริง เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เมาท์ RF รุ่นใหม่อันล้ำสมัยทำให้สามารถลดขนาดของเลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM ลงได้จนมีน้ำหนักเกิน 3 กก. เพียงเล็กน้อย ในขณะที่ยังคงความแข็งแกร่งทนทานของโครงสร้างและคุณภาพของภาพไว้เท่าเดิม
RF1200mm f/8L IS USM และ EF1200mm f/5.6L USM
เลนส์ EF1200mm f/5.6L USM ที่วางจำหน่ายในปี 1993 มีน้ำหนักมากถึง 16.5 กก. แม้จะไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลภายในเลนส์ (ระบบ IS แบบออพติคอล) เนื่องมาจากเทคโนโลยีในสมัยนั้น เมื่อเปรียบเทียบกัน RF1200mm f/8L IS USM ได้ลดน้ำหนักเลนส์ลงไปถึง 13 กก. (ประมาณ 82%) และลดความยาวลง 299 มม. (35%) แม้รูรับแสงกว้างสุดจะแคบลงหนึ่งสต็อปที่ f/8 แต่ก็ดูจะไม่เป็นข้อเสียอย่างที่คิดหากคุณพิจารณาถึงการนำระบบ IS แบบออพติคอลมาใช้ รวมถึงประสิทธิภาพความไวแสง ISO สูงอันยอดเยี่ยมของกล้องในระบบ EOS R ซึ่งเลนส์นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกัน
RF800mm f/5.6L IS USM และ EF800mm f/5.6L IS USM
เลนส์ EF800mm f/5.6L IS USM เปิดตัวในปี 2008 ซึ่งทำให้มีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันมากกว่า จึงมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กลงและเบากว่าหากเทียบกับขนาดและน้ำหนักของเลนส์หากถูกออกแบบในยุคเดียวกันกับ EF1200mm f/5.6L USM! อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีได้พัฒนาขึ้นมากนับตั้งแต่ปี 2008 ดังนั้น เลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM จึงสั้นลงประมาณ 29 มม. และเบากว่า EF800mm f/5.6L IS USM ประมาณ 1.3 กก.
ทั้งเลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM ไม่แตกต่างจาก RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM มากนักในแง่ของขนาดและน้ำหนัก
ภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่น่าทึ่ง: สร้างความประทับใจยิ่งขึ้นด้วยรายละเอียดอันน่าทึ่ง
ภาพซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่น่าทึ่ง: สร้างความประทับใจยิ่งขึ้นด้วยรายละเอียดอันน่าทึ่ง
ขนาดที่เล็กลงของเลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM ช่วยให้พกพาและเคลื่อนย้ายได้สะดวกยิ่งกว่าที่เคย ซึ่งทำให้สามารถถ่ายภาพที่ระยะเกิน 800 มม. ได้ง่ายขึ้นแม้จะถ่ายภาพโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกบนใบหน้าของผู้รักษาประตูที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสนามฟุตบอล หรือรายละเอียดบนเส้นขนของนกที่กำลังออกบินหรือบินผ่านมา ฉากเหล่านี้เป็นฉากที่ในอดีตเคยอยู่ไกลเกินกว่าจะเข้าถึงหรือจัดเฟรมภาพให้สวยงามได้ แต่ปัจจุบันคุณสามารถมองเห็น จัดองค์ประกอบภาพ และถ่ายภาพได้แล้วจากจุดที่คุณอยู่ และคุณยังสามารถใช้คุณสมบัติการบีบอัดเทเลโฟโต้ได้ด้วย ซึ่งจะทำให้วัตถุที่อยู่ในแบ็คกราวด์ดูเหมือนอยู่ใกล้ขึ้น เพื่อสร้างภาพถ่ายที่ไม่มีใครจินตนาการได้มาก่อน เช่น ภาพเครื่องบินกำลังบินผ่านดวงจันทร์ขนาดยักษ์ดังภาพด้านล่าง
EOS R3/ RF1200mm f/8L IS USM/ FL: 1200 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/1250 วินาที, EV -0.3)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
เพิ่มระยะให้ไกลขึ้นด้วยท่อต่อเลนส์
ทั้ง RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM ใช้ได้กับท่อต่อเลนส์ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x ถ่ายในโหมดครอป 1.6 เท่าด้วยระบบกล้อง EOS R ของคุณเพื่อให้ได้ระยะที่ไกลยิ่งขึ้น! ทางยาวโฟกัสที่เพิ่มขึ้นเป็นดังต่อไปนี้:
RF800mm f/5.6L IS USM | RF1200mm f/8L IS USM | |
Extender RF1.4x | 1120 มม. | 1680 มม. |
Extender RF2x | 1600 มม. | 2400 มม. |
Extender RF1.4x + โหมดครอป 1.6 เท่า | 1792 มม. | 2688 มม. |
Extender RF2x + โหมดครอป 1.6 เท่า | 2560 มม. | 3840 มม. |
แม้ในโหมดครอป 1.6 เท่าจะใช้เพียงบางส่วนของเซนเซอร์ภาพเท่านั้น แต่สำหรับกล้องที่มีจำนวนพิกเซลสูง เช่น EOS R5 ไฟล์ที่ได้จะมีขนาดประมาณ 17.3 ล้านพิกเซล ซึ่งยังถือว่าเพียงพอสำหรับการพิมพ์โฆษณา
RF800mm f/5.6L IS USM: 800 มม.
RF1200mm f/8L IS USM: 1200 มม.
RF800mm f/5.6L IS USM + Extender RF1.4x: 1120 มม.
RF1200mm f/8L IS USM + Extender RF1.4x: 1680 มม.
RF800mm f/5.6L IS USM + Extender RF2x: 1600 มม.
RF1200mm f/8L IS USM + Extender RF2x: 2400 มม.
*ตัวอย่างด้านบนถูกครอปเพื่อใช้เป็นภาพตัวอย่างเท่านั้น
ภาพด้านบนอาจดูเหมือนถูกถ่ายจากด้านข้างของนักกีฬาเจ็ตสกี แต่ความจริงแล้ว ดังที่ภาพเบื้องหลังแสดงให้เห็น ช่างภาพอยู่บนบกที่ค่อนข้างไกลจากตัวนักกีฬาเจ็ตสกีในทะเล! ระยะซูเปอร์เทเลโฟโต้ของเลนส์ช่วยให้ได้ภาพระยะใกล้ที่มีพลังและน่าประทับใจ
การรองรับและพื้นที่ครอบคลุม AF
ประสิทธิภาพ AF ยอดเยี่ยมรวมกับระบบ EOS R
ด้วยระบบ Dual Pixel CMOS AF ในกล้องระบบ EOS R ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพผ่าน EVF หรือ Live View การโฟกัสโดยใช้ AF ความแม่นยำสูงด้วย Phase Detection AF ก็สามารถทำได้บนพื้นที่ภาพกว้างกว่าที่เคยแม้ใช้ f/8 คุณสมบัตินี้ช่วยให้เอาชนะข้อจำกัดที่สำคัญข้อหนึ่งที่ผู้ใช้เคยเผชิญเมื่อใช้ท่อต่อเลนส์กับกล้อง DSLR ซึ่งจุด AF เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถทำงานได้ที่รูรับแสงกว้างสุด f/8 ขณะถ่ายผ่านช่องมองภาพ
พื้นที่ครอบคลุม AF สูงสุดของ Dual Pixel CMOS AF
เลนส์ + ท่อต่อเลนส์ | RF800mm f/5.6L IS USM(แนวนอน × แนวตั้ง) (แนวนอน × แนวตั้ง) |
RF1200mm f/8L IS USM(แนวนอน × แนวตั้ง) (แนวนอน × แนวตั้ง) |
EOS R3/R5 | ประมาณ 100% × 100% | ประมาณ 100% × 100% |
EOS R3/R5 + RF1.4x | ประมาณ 100% × 100% | ประมาณ 80% × 80% |
EOS R3/R5 + RF2x | ประมาณ 80% × 80% | ประมาณ 40% × 60% |
EOS R | ประมาณ 88% × 100% | ประมาณ 88% × 100% |
EOS R + RF1.4x | ประมาณ 88% × 100% | ประมาณ 80% × 80% |
EOS R + RF2x | ประมาณ 80% × 80% | ประมาณ 40% × 60% |
การรองรับ AF ที่ได้รับการปรับปรุงจะทำให้ผู้ใช้ที่ใช้เลนส์และท่อต่อเลนส์กับกล้อง EOS R3, EOS R5 และ EOS R6 มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้ประโยชน์จากระบบตรวจจับและติดตามตัวแบบ EOS iTR AF X ที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึก ซึ่งได้แก่ Animal Detection AF และความสามารถในการตรวจจับดวงตา ศีรษะ และลำตัวของสัตว์ เช่น นก
EOS R5/ RF1200mm f/8L IS USM + Extender RF2x/ FL: 2400 มม./ Manual exposure (f/16, 1/640 วินาที)/ ISO 10000/ WB: แสงแดด
วงแหวนโฟกัส: แรงบิดที่สะดวกสบายด้วยความเร็วในการโฟกัสต่างกัน 3 ระดับ
วงแหวนโฟกัสขับเคลื่อนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งความเร็วของ USM (มอเตอร์อัลตร้าโซนิค) ในการเคลื่อนที่ชุดโฟกัสจะแตกต่างกันไปตามระดับการหมุนวงแหวนของคุณ แรงบิดอยู่ในระดับที่ให้ความรู้สึกสบายและทำให้การโฟกัสแบบแมนนวลเป็นเรื่องง่าย สำหรับการโฟกัสแบบแมนนวล ดังที่คาดหวังได้จากระบบโฟกัสแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะมีความเร็วในการโฟกัสให้เลือก 3 ระดับเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกันตั้งแต่การโฟกัสแบบรวดเร็วไปจนถึงการปรับโฟกัสที่มีความแม่นยำกว่า
แม้เลนส์ทั้งสองรุ่นจะไม่มีวงแหวนควบคุมสำหรับควบคุมค่าการเปิดรับแสงโดยเฉพาะ แต่สามารถกำหนดฟังก์ชั่นของวงแหวนควบคุมให้วงแหวนโฟกัสได้ในกล้องที่รองรับการตั้งค่าแบบกำหนดเองดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เลนส์จะมาพร้อมกับโหมดโฟกัสทรงพลัง ซึ่งจะขับเคลื่อนโฟกัสด้วยความเร็วคงที่ ทำให้มีโฟกัสที่ราบรื่นเหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอ
ฟังก์ชั่นการตั้งค่าโฟกัสล่วงหน้าสามารถจัดเก็บตำแหน่งโฟกัสแบบกำหนดเองได้สูงสุด 2 ตำแหน่ง หากต้องการใช้งาน เพียงแค่หมุนวงแหวน Playback โฟกัสก็จะย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าทันที
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลในตัว
ระบบ IS แบบออพติคอล: ประมาณ 4.5 สต็อปและ 4 สต็อปตามลำดับ
RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลภายในเลนส์ (ระบบ IS แบบออพติคอล) ซึ่งให้ประสิทธิภาพการป้องกันภาพสั่นไหวที่ทรงพลังสูงสุดเทียบเท่าความเร็วชัตเตอร์ 4.5 และ 4 สต็อปโดยประมาณ* ตามลำดับ และสามารถลดการสั่นของกล้องที่มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อถ่ายภาพแบบซูเปอร์เทเลโฟโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรดทราบว่าเลนส์ไม่รองรับระบบ IS แบบประสานการควบคุม ซึ่งระบบ IS แบบออพติคอลจะทำงานร่วมกับระบบ IS ในบอดี้กล้องในกล้องรุ่นที่เข้ากันได้
*เมื่อใช้กล้อง EOS R/R5/R3 ตามมาตรฐาน CIPA ในทิศทางแกนยก/แกนหัน
EOS R3 / เปิด IS
EOS R3 / ปิด IS
ทั้งสองภาพ: EOS R3/ RF1200mm f/8L IS USM/ FL: 1200 มม./ Manual exposure (f/8, 1/80 วินาที)/ ISO 32000/ WB: อัตโนมัติ
ระบบ IS 3 โหมดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับตัวแบบที่มีลักษณะแตกต่างกัน
เช่นเดียวกับ RF400mm f/2.8L IS USM และ RF600mm f/4L IS USM เลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM มีระบบ IS 3 โหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ IS ให้กับตัวแบบและฉากที่แตกต่างกัน
โหมด 1: ชดเชยการสั่นของกล้องในทุกทิศทาง เหมาะสำหรับตัวแบบที่อยู่นิ่ง
โหมด 2: ไม่สามารถชดเชยการสั่นของกล้องในทิศทางที่เลนส์กำลังเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับการถ่ายแบบแพนกล้อง
โหมด 3: ชดเชยการสั่นของกล้องเฉพาะระหว่างเปิดรับแสงเท่านั้น ทำให้ง่ายต่อการจับตามองตัวแบบที่เคลื่อนที่แบบคาดเดาไม่ได้เมื่อมองผ่านช่องมองภาพ
สืบทอดออพติคอันเหนือชั้นและขนาดกะทัดรัดของเลนส์ RF400mm และ RF600mm
หากดูด้วยตา RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM จะเหมือนกับเลนส์ RF600mm f/4L IS USM และ RF400mm f/2.8L IS USM ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดี แต่ความเหมือนไม่ได้อยู่ที่ภายนอกเท่านั้น เนื่องจากเลนส์รุ่นที่ยาวกว่าได้นำการออกแบบออพติคอลของเลนส์ทั้งสองแบบหลังมาปรับปรุงโดยใส่ชุดออพติคเพิ่มกำลังขยายเข้าไปที่ส่วนท้ายเพื่อเพิ่มทางยาวโฟกัสเป็นสองเท่า ชุดออพติคเพิ่มกำลังขยายถูกแสดงด้วยสีแดงในแผนภูมิแสดงโครงสร้างเลนส์ด้านล่าง
โครงสร้างเลนส์
A: ชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์
B: ชิ้นเลนส์ UD, Super UD
C: ASC
เคลือบฟลูออรีนป้องกันรอยเปื้อนบนพื้นผิวเลนส์ด้านหน้า
เพื่อไม่ให้ดูเหมือนว่า RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM เป็นเพียงแค่เลนส์ RF600mm f/4L IS USM และ RF400mm f/2.8L IS USM ที่มีท่อต่อเลนส์ในตัว RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM จึงใช้ชิ้นเลนส์ UD (Ultra-low Dispersion) หนึ่งชิ้น ซึ่งไม่มีในท่อต่อเลนส์ Extender RF2x เนื่องจากการออกแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับเลนส์ คุณจึงคาดหวังได้เลยว่าคุณภาพของภาพจะสูงกว่าการใช้ Extender RF2x คู่กับเลนส์ RF400mm หรือ RF600mm และการที่มีชุดออพติคเพิ่มกำลังขยายติดตั้งไว้ภายในตัวเลนส์ยังทำให้คุณสามารถยืดระยะให้ไกลขึ้นได้โดยการติดตั้งท่อต่อเลนส์
ทั้ง RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM มีชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์ (ฉบับภาษาอังกฤษ) 2 ชิ้น เลนส์ Super UD 1 ชิ้น และเลนส์ UD 1 ชิ้น ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขความคลาดสีอย่างหมดจดและเพื่อให้ได้ความละเอียดและความเปรียบต่างที่ยอดเยี่ยม และการใช้เทคโนโลยีการเคลือบแบบ ASC (Air Sphere Coating) (ฉบับภาษาอังกฤษ) ของ Canon ยังช่วยลดการเกิดแสงหลอกและแสงแฟลร์ได้แม้จะมีแหล่งกำเนิดแสงที่สว่างจ้าอยู่ในเฟรมภาพ
EOS R5/ RF800mm f/5.6L IS USM/ FL: 800 มม./ Manual exposure (f/5.6, 1/1250 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
ถ่ายที่ระยะประมาณ 400 ม. จากริมฝั่งแม่น้ำ การเคลื่อนไหวในอากาศอาจส่งผลต่อความชัดเจนและความคมชัดเมื่อถ่ายภาพจากระยะไกลเช่นนี้ แต่พื้นผิวของอิฐและกระเบื้องก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม
ความน่าเชื่อถือและความทนทานระดับมืออาชีพ
ความน่าเชื่อถือและความทนทานระดับมืออาชีพ
การเคลือบกันความร้อน
เลนส์ใช้การเคลือบกันความร้อนสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะช่วยรักษาคุณภาพของภาพเอาไว้ไม่ให้ลดลง เนื่องจากความร้อนที่สะสมอยู่ภายในเลนส์เมื่อถ่ายภาพกลางแจ้งในวันที่มีอากาศร้อน
ดีไซน์กันฝุ่นและหยดน้ำ
เลนส์ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นและหยดน้ำเข้ามาภายในเลนส์ด้วยซีลป้องกันสภาพอากาศบนวงแหวน สวิตช์ ข้อต่อ และปุ่มควบคุมต่างๆ จึงช่วยเพิ่มความทนทานและความน่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
ข้อมูลจำเพาะ: RF1200mm f/8L IS USM
RF1200mm f/8L IS USM
ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
โครงสร้างเลนส์: 26 ชิ้นเลนส์ใน 18 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 4.3 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.29 เท่า
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 52 มม. (ฟิลเตอร์แบบ Drop-in)
ขนาด: φ163×537 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 3,340 ก.
ข้อมูลจำเพาะ: RF800mm f/5.6L IS USM
RF800mm f/5.6L IS USM
ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
โครงสร้างเลนส์: 26 ชิ้นเลนส์ใน 18 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 2.6 ม.
กำลังขยายสูงสุด: 0.34 เท่า
จำนวนม่านรูรับแสง: 9 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: 52 มม. (ฟิลเตอร์แบบ Drop-in)
ขนาด: φ163×432 มม.
น้ำหนัก: ประมาณ 3,140 ก.
อุปกรณ์เสริมที่มีให้
เลนส์ฮูด
ET-155(WIII) สำหรับ RF800mm f/5.6L IS USM
ET-160(WIII) สำหรับ RF1200mm f/8L IS USM
ฝาครอบเลนส์
E-180 สำหรับ RF800mm f/5.6L IS USM
E-185 สำหรับ RF1200mm f/8L IS USM
เมาท์สำหรับขาตั้งกล้อง
มีรูปทรงกริปที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
เคสใส่เลนส์ชนิดอ่อน LS600 หรือ LS1200
เคสชนิดอ่อนที่มีน้ำหนักเบาเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น
ตัวล็อคฟิลเตอร์เกลียวแบบ Drop-in ขนาด 52 (WIII) พร้อมฟิลเตอร์ป้องกัน 52 มม.
อุปกรณ์เสริมอื่นๆ (แยกจำหน่ายต่างหาก)
เลนส์ฮูดชนิดสั้น
ET-155B สำหรับ RF800mm f/5.6L IS USM
ET-160B สำหรับ RF1200mm f/8L IS USM
เมาท์สำหรับขาตั้งกล้องแบบขาเดียว
(การสนับสนุนบริการ)
ฟิลเตอร์โพลาไรซ์ทรงกลมแบบ Drop-in รุ่น PL-C52 (WIII)
ตัวล็อคฟิลเตอร์เจลาตินแบบ Drop-in 52 (WIII)
ภาพตัวอย่าง
EOS R3/ RF1200mm f/8L IS USM/ FL: 1200 มม./ Manual exposure (f/8, 1/2000 วินาที)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
EOS R3/ RF1200mm f/8L IS USM/ FL: 1200 มม./ Manual exposure (f/8, 1/2500 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
EOS R3/ RF1200mm f/8L IS USM + Extender RF1.4x / FL: 1680 มม./ Program AE (f/13, 1/1000 วินาที, EV -1)/ ISO 500/ WB: อัตโนมัติ
EOS R5/ RF800mm f/5.6L IS USM/ FL: 800 มม./ Shutter-priority AE (f/7.1, 1/640 วินาที, EV -0.7)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาว SNAPSHOT
ลงทะเบียนตอนนี้!