ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

[บทที่ 1] เสน่ห์ของกล้อง DSLR

2014-02-13
21
21.2 k
ในบทความนี้:

เสน่ห์ของกล้อง DSLR อยู่ที่ระบบซึ่งสามารถขยายศักยภาพได้และคุณภาพภาพถ่ายที่สูงเต็มเปี่ยม ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ถึงลักษณะเฉพาะของกล้องดิจิตอล DSLR โดยเปรียบเทียบกับกล้องดิจิตอลคอมแพค (เรื่องโดย: Ryosuke Takahashi)

พลังการถ่ายทอดรายละเอียดที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

เอฟเฟ็กต์โบเก้จากกล้องดิจิตอล SLR

ขนาดของเซนเซอร์ภาพในกล้อง SLR ที่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับกล้องดิจิตอลคอมแพคช่วยให้การสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ง่ายขึ้น แบ็คกราวด์ที่เบลอมากๆ จะช่วยขับเน้นตัวแบบหลักให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

เอฟเฟ็กต์โบเก้จากกล้องดิจิตอลคอมแพค

ในทางกลับกัน กล้องดิจิตอลคอมแพคมีเซนเซอร์ภาพขนาดเล็ก และไม่รองรับการถอดเปลี่ยนเลนส์ จึงยากต่อการสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ขนาดใหญ่

ผลจากขนาดของเซนเซอร์ภาพต่อเอฟเฟ็กต์โบเก้

นอกจากรูปลักษณ์ภายนอก กล้อง DSLR และกล้องดิจิตอลคอมแพคยังต่างกันในเรื่องโครงสร้างภายในกล้องด้วย ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือ เซนเซอร์ภาพ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำหรับการรับแสงและสร้างภาพ ในขณะที่กล้องดิจิตอลคอมแพคมีเซนเซอร์ภาพขนาดเล็กเพียง 1/2 นิ้ว เซนเซอร์ขนาด APS-C ซึ่งใช้กับกล้อง DSLR โดยทั่วไปกลับมีพื้นที่ใหญ่กว่าประมาณ 10 เท่า เซนเซอร์ภาพที่ใหญ่กว่าทำให้แต่ละพิกเซลรับแสงได้มากขึ้น และช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบมากมายให้กับคุณสมบัติทางไฟฟ้า เช่น ระดับจุดรบกวนต่ำ นอกจากนี้ ความรู้สึกของภาพที่ได้ก็ต่างกันอย่างมากเมื่อมีแบ็คกราวด์เบลอ ในแง่นี้ กล้อง DSLR ซึ่งถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ จึงเหนือกว่ากล้องดิจิตอลคอมแพค ความแตกต่างของเอฟเฟ็กต์โบเก้ตามขนาดเซนเซอร์ภาพส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับทางยาวโฟกัสของเลนส์ หากเราเปรียบเทียบภาพสองภาพที่มีการจัดวางองค์ประกอบเหมือนกัน ทางยาวโฟกัสมีแนวโน้มจะสั้นกว่า (มุมกว้างกว่า) เมื่อพื้นที่ตรงนั้นถ่ายด้วยเซนเซอร์ภาพที่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้สร้างแบ็คกราวด์เบลอได้ยาก ดังนั้น เหตุผลหนึ่งที่ภาพถ่ายออกมาดูแตกต่างกันมากเมื่อใช้กล้อง DSLR อาจเป็นเพราะขนาดเซนเซอร์ภาพ

ขนาดเซนเซอร์ภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

1: 35 มม.
2: 24 มม.
3: 36 มม.
พื้นที่ที่ถ่ายได้ด้วยฟิล์ม 35 มม. อยู่ที่ประมาณ 24 x 36 มม. ชื่อ “35 มม.” มาจากความกว้างของฟิล์ม

1: 24 มม.
2: 36 มม.
เซนเซอร์ฟูลเฟรมถ่ายภาพพื้นที่เดียวกันได้เหมือนกับฟิล์ม 35 มม. เซนเซอร์ชนิดนี้ส่วนใหญ่พบได้ในกล้อง EOS ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นระดับสูง

1: 14.9 มม.
2: 22.3 มม.
เซนเซอร์ชนิดนี้ใช้กับกล้องหลากหลายประเภท ตั้งแต่ระดับเริ่มใช้งานไปจนถึงระดับกลาง เอื้อให้ออกแบบกล้องได้มีขนาดกะทัดรัดโดยคงคุณภาพของภาพถ่ายไว้ที่ระดับสูง

1: 4.8 มม.
2: 6.4 มม.
ภาพนี้คือเซนเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว สำหรับกล้องดิจิตอลคอมแพค มีการใช้เซนเซอร์ CMOS หลายขนาด เช่น 1/2.5 นิ้วและ 1/1.7 นิ้ว

คุณภาพภาพถ่ายขึ้นอยู่กับขนาดเซนเซอร์ภาพเช่นกัน

ด้านบนนี้เป็นการเปรียบเทียบขนาดเซนเซอร์ภาพทั่วๆ ไปกับฟิล์ม 35 มม. เป็นหลัก เราจะเห็นได้ว่า แม้สำหรับเซนเซอร์ขนาด APS-C ซึ่งใช้กันอย่างกว้างขวาง ก็มีพื้นที่ใหญ่เพียงพอ และเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับเซนเซอร์ของกล้องดิจิตอลคอมแพค พื้นที่ของเซนเซอร์ขนาด APS-C ใหญ่กว่าเซนเซอร์ขนาด 1/2 นิ้วซึ่งใช้กับกล้องดิจิตอลคอมแพคประมาณ 10 เท่า และยิ่งมีช่องว่างกว้างกว่าเมื่อเป็นเซนเซอร์ฟูลเฟรม ซึ่งใหญ่กว่าประมาณ 28 เท่า นอกจากเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เกิดจากขนาดเซนเซอร์ภาพที่ใหญ่กว่าแล้ว แต่ละพิกเซลภายในเซนเซอร์ภาพยังสามารถรับแสงได้มากกว่า ภาพที่ได้จึงเกิดเม็ดเกรนน้อย (มีจุดรบกวนน้อย) ขณะเดียวกัน การเกลี่ยสีจากขาวไปดำยังเป็นการขยายพื้นที่สำหรับการถ่ายด้วยเซนเซอร์ภาพอีกด้วย

การขยายขีดจำกัดการถ่ายทอดอารมณ์ด้วยความหลากหลายของเลนส์

ด้วยจำนวนเลนส์มากกว่า 70 รุ่น เลนส์ซีรีย์ EF ของ Canon ถือเป็นหนึ่งในผู้นำอันดับต้นๆ ในโลกด้านอุตสาหกรรมการถ่ายภาพ

ขยายศักยภาพของกล้อง DSLR ได้มากขึ้นด้วยเลนส์หลายชนิด

กล้องดิจิตอล SLR มีต้นกำเนิดมาจากกล้องฟิล์ม SLR และสามารถจัดการกับความต้องการด้านการถ่ายภาพที่แตกต่างกันออกไปได้ด้วยการใช้เลนส์แบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ในทางกลับกัน กล้องดิจิตอลคอมแพคใช้เลนส์ซึ่งไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้น ไม่ว่าเลนส์ซูมจะมีพลังมากแค่ไหน ก็เทียบไม่ได้กับเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้สำหรับกล้อง DSLR ที่มีให้เลือกมากมาย กล้อง Canon ซีรีย์ EOS มาพร้อมกับเลนส์ EF แบบถอดเปลี่ยนได้ มีทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 8 มม. ถึง 800 มม. และชนิดต่างๆ มากมายกว่า 60 ชนิด เลนส์ EF เหล่านี้ยังมีการจัดระดับการใช้งานตามคุณสมบัติ เช่น ความสว่างและลักษณะเฉพาะของเลนส์ ดังนั้น เสน่ห์ของกล้อง DSLR จึงอยู่ที่ความสามารถในการใช้คุณสมบัติของเลนส์อย่างเต็มศักยภาพ และจุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดคือ คุณสามารถถ่ายภาพที่ต้องการได้ง่ายๆ เพียงแค่เปลี่ยนเลนส์ ทำให้ได้ภาพที่ขยายตัวแบบให้ใหญ่ขึ้น หรือภาพมุมกว้างที่เก็บเอาบรรยากาศโดยรอบเข้าไว้ด้วย

ถ่ายภาพด้วยเลนส์ EF8-15mm f/4L Fisheye USM

EF8-15mm f/4L Fisheye USM

เลนส์นี้สามารถสร้างเอฟเฟ็กต์เปอร์สเป็คทีฟที่ชัดเจน ทำให้ถ่ายทอดภาพด้วยมุมภาพที่กว้างกว่าที่ตาเรามองเห็นปกติ

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดสเปคเลนส์

ภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ EF300mm f/2.8L IS II USM

EF300mm f/2.8L IS II USM

คุณสามารถสร้างภาพที่สวยสะดุดตาอย่างภาพนี้ได้ เพียงแค่ประกอบเลนส์เทเลโฟโต้เข้ากับกล้อง ซึ่งจะหยุดการเคลื่อนไหวของตัวแบบเพื่อถ่ายทอดภาพที่คมชัดออกมา

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดสเปคเลนส์

จับภาพช่วงเวลาสำคัญ

ช่องมองภาพออพติคอลช่วยให้คุณจับภาพช่วงเวลาสำคัญได้

เวลาที่คุณใช้กล้องดิจิตอลคอมแพค จะมีการหน่วงเวลาการทำงานของกล้อง

เมื่อคุณถ่ายภาพโดยมองจอ LCD บนกล้องดิจิตอลคอมแพค กล้องไม่สามารถเก็บการเคลื่อนไหวของตัวแบบได้ทันท่วงที นี่เป็นอุปสรรคสำหรับช่างภาพที่จะปล่อยชัตเตอร์ให้ตรงกับช่วงเวลาที่ต้องการ หากคุณกำลังถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพของกล้อง SLR คุณจะสามารถถ่ายตัวแบบในเวลาที่ต้องการได้

ตอบสนองรวดเร็ว สามารถถ่ายภาพชั่วขณะที่กำลังผ่านไปอย่างรวดเร็วได้

เทียบกับกล้องดิจิตอลคอมแพค คุณสมบัติอย่างหนึ่งในการใช้กล้อง DSLR ก็คือ ความล่าช้าในการทำงานของกล้องมีน้อย กล้องดิจิตอลคอมแพคหลายรุ่นถ่ายภาพโดยใช้จอ LCD อย่างไรก็ตาม หากกล่าวกันตามจริงแล้วละก็ สิ่งที่คุณมองเห็นบนหน้าจอนั้นไม่ใช่ภาพที่กำลังเกิดขึ้นจริง แต่เป็นภาพการเคลื่อนไหวที่ผ่านไปแล้ว นี่เป็นเพราะการหน่วงเวลาที่เกิดขึ้นจากการสร้างภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตรงกันข้าม กล้อง DSLR ใช้ประโยชน์จากช่องมองภาพออพติคอล ทำให้คุณมองเห็นภาพจริงแบบไม่ดีเลย์ จึงไม่มีความล่าช้าระหว่างการเคลื่อนไหวของตัวแบบกับสิ่งที่คุณมองเห็นผ่านกล้อง นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นโฟกัสอัตโนมัติ และกลไกต่างๆ รวมถึงกลไกสำหรับการเลื่อนชัตเตอร์บนกล้อง DSLR ยังสามารถทำงานได้รวดเร็วกว่า เหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ช่างภาพถ่ายภาพวินาทีสำคัญได้อย่างทันท่วงที ด้วยกล้อง DSLR คุณสามารถถ่ายภาพหลายสิ่งได้ง่ายๆ อาทิ การแข่งขันกีฬา และการแสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของตัวแบบภาพพอร์ตเทรต ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากหากคุณใช้กล้องดิจิตอลคอมแพค

จดจ่อกับตัวแบบของคุณผ่านช่องมองภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อจับภาพช่วงนาทีที่ใช่

Ryosuke Takahashi

เกิดที่จังหวัดไอชิเมื่อปี 1960 Takahashi เริ่มทำงานอิสระในปี 1987 หลังจากทำงานในสตูดิโอภาพโฆษณาและสำนักพิมพ์ และเนื่องจากรับถ่ายภาพให้กับนิตยสารชื่อดัง เขาจึงได้เดินทางจากทำเลหลัก คือ ญี่ปุ่นและจีน ไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลก

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา