ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

ความรู้พื้นฐานในการถ่ายภาพสายฟ้า

2025-09-18
0
219

ลืมโชว์แสงเลเซอร์ไปได้เลย เพราะไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจไปกว่าการแสดงที่ธรรมชาติสร้างขึ้นขณะเกิดพายุฟ้าคะนอง ความหลงใหลในการถ่ายภาพพายุและสายฟ้าของ Chris Ambler (@chris.ambler) ทำให้เขามีภาพถ่ายอันน่าทึ่งมากมายที่บันทึกทั้งพลังและความสวยงามของพายุเหล่านั้นไว้ในแบบที่เราไม่มีวันมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาจะมาเล่าให้เราฟังว่าจะเริ่มต้นถ่ายภาพได้อย่างไร

EOS R5 Mark II + RF15-35mm f/2.8L IS USM ที่ 18 มม., f/6.3, 3.2 วินาที, ISO 100
เวลาถ่ายภาพ: 19.30 น.

ในบทความนี้:

1. บทนำ

บทนำ: ผมเริ่มถ่ายภาพพายุได้อย่างไร

ความหลงใหลในสภาพอากาศเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นเด็กน้อยในเกาะบริเตนใหญ่ ผมจำได้ว่าแม่จะปลุกผมขึ้นมาเพื่อที่เราจะได้นั่งดูพายุด้วยกัน ผมเริ่มถ่ายภาพสภาพอากาศในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาด ผมกักตัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตนเองและตัดสินใจว่าจะใช้วิวทะเลอันน่าทึ่งให้เป็นประโยชน์

ผมคิดว่าตนเองหลงใหลการบันทึกภาพทิวทัศน์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงชั่วครู่แต่สวยอลังการซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศ โดยเฉพาะสายฟ้านั้นเป็นปรากฏการณ์ที่น่าประทับใจมาก และการถ่ายภาพสภาพอากาศยังเป็นการผ่อนคลายแบบหนึ่งสำหรับผม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ภาพโปรดของผมมักจะเป็นภาพที่ถ่ายในยามดึกหรือเช้าตรู่ในขณะที่ทั้งเมืองยังคงหลับใหล

ภาพสายฟ้าภาพแรกของผมถ่ายด้วย EOS R และ EF-S10-22mm f/3.5-4.5 USM แต่ทุกวันนี้ผมจะถ่ายภาพด้วยเลนส์ RF15-35mm f/2.8L IS USM กับกล้อง EOS R5 Mark II เป็นส่วนใหญ่

2. อุปกรณ์

คุณต้องใช้อุปกรณ์ใดบ้างในการถ่ายภาพสายฟ้า

อุปกรณ์ขั้นต่ำที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการถ่ายภาพสายฟ้า ได้แก่:

- กล้องที่คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้
การที่สามารถตั้งค่ากล้องได้ด้วยตนเองจะช่วยให้คุณควบคุมกล้องได้ดีกว่าและมีโอกาสถ่ายภาพได้สำเร็จมากขึ้น
- ขาตั้งกล้องที่ดีและมั่นคง (หรือตัวหนีบ ขึ้นอยู่กับสถานที่ถ่ายภาพ)
เพื่อให้อุปกรณ์ของคุณมั่นคงและอยู่นิ่ง เพราะคุณจะต้องเปิดรับแสงนานท่ามกลางลมแรงเป็นส่วนใหญ่!
- วิธีลั่นชัตเตอร์จากระยะไกล
หากไม่มีอุปกรณ์ลั่นชัตเตอร์ระยะไกล คุณสามารถใช้การถ่าย Live View ระยะไกลหรือฟังก์ชั่นควบคุมระยะไกลด้วย Bluetooth ในแอปสมาร์ทโฟน Camera Connect ของ Canon
- ที่คลุมกันฝน/ถุงพลาสติกเพื่อปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากสภาพอากาศที่เปียกชื้น
แม้อุปกรณ์ของคุณจะมีซีลป้องกันสภาพอากาศ แต่การปกป้องเสริมอีกชั้นย่อมดีกว่าเสมอ!
- ผ้าไมโครไฟเบอร์สำหรับเช็ดน้ำออกจากเลนส์
เพื่อให้ภาพของคุณคมชัดหมดจดท่ามกลางสายฝน

หากคุณต้องการถ่ายภาพผ่านกระจกหน้าต่าง อย่าลืมใช้เลนส์ฮูดป้องกันแสงสะท้อนด้วย

เลนส์ที่ควรใช้จะขึ้นอยู่กับฉาก
สำหรับมือใหม่ ผมขอแนะนำให้ใช้มุมรับภาพกว้าง เนื่องจากสามารถเก็บภาพพายุให้อยู่ในเฟรมได้ง่ายกว่า ใช้เลนส์เทเลโฟโต้หากฉากแบ็คกราวด์ที่คุณต้องการนั้นอยู่ไกลออกไป ผมมักจะใช้เลนส์ RF15-35mm f/2.8L IS USM เพราะผมชอบถ่ายฉากกว้างไกลจากมุมสูงที่ผมใช้ถ่ายภาพเป็นประจำ

EOS R5 Mark II + RF15-35mm f/2.8L IS USM ที่ 15 มม., f/5, 0.5 วินาที, ISO 100
เวลาถ่ายภาพ: 02.00 น.

สายฟ้าขนาดใหญ่ที่ผ่าลงมาบนเครนยกสินค้าในท่าเรือ จำนวนพิกเซลที่มากถึง 45 ล้านพิกเซลของกล้อง EOS R5 Mark II ทำให้มีพื้นที่มากมายในการครอปภาพ

ผมจะใช้ขาตั้งกล้อง ตัวหนีบ หรือขาตั้งแบบสุญญากาศอย่างใดอย่างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับสถานที่ถ่ายภาพ เมื่อต้องถ่ายภาพจากที่สูง ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญพอๆ กับความมั่นคง เพราะผมไม่อยากให้อุปกรณ์ร่วงลงไปโดนคนที่อยู่ข้างล่าง!

ระบบรองรับของผมรวมถึงหัวบอลสามารถรับน้ำหนักได้เกินกว่าอุปกรณ์ทั้งหมดของผมมาก ผมจะทดสอบการรับน้ำหนักกับตัวหนีบและขาตั้งกล้องแบบสุญญากาศก่อนจะใช้ถ่ายภาพจริง


อุปกรณ์ใดอีกที่เป็นประโยชน์

อุปกรณ์ต่อไปนี้จำเป็นน้อยกว่าแต่ถือว่ามีประโยชน์เมื่อคุณจริงจังกับงานอดิเรกนี้มากขึ้น!

- ตัวตั้งช่วงเวลาถ่าย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกล้องของคุณไม่มีอุปกรณ์นี้ในตัว): ช่วยให้ลั่นชัตเตอร์ได้อัตโนมัติ คุณจึงถ่ายพลาดน้อยลง
- ตัวลั่นชัตเตอร์เมื่อเกิดสายฟ้า: ทำหน้าที่ลั่นชัตเตอร์เมื่อตรวจพบสายฟ้า
- ขาตั้งกล้องแบบกันน้ำ: ผมลงทุนซื้อมาหนึ่งอันเพราะตนเองทุ่มเทให้กับการถ่ายภาพสภาพอากาศ!

 

เคล็ดลับสำหรับนักล่าพายุ: เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมหยิบใช้ได้ทันที

เมื่อมีการแจ้งเตือนพายุเข้า คุณไม่ควรต้องเสียเวลาอันมีค่า! ผมจะจัดเตรียมอุปกรณ์จำเป็นทั้งหมดใส่กระเป่าไว้ รวมถึงแบตเตอรี่ที่ชาร์จจนเต็มและการ์ดหน่วยความจำสำรอง เพื่อที่เวลามีแจ้งเตือนพายุ ผมจะสามารถคว้ากระเป๋าและออกเดินทางไปยังสถานที่ที่ต้องการถ่ายภาพได้ทันที

3. ที่ไหนและเมื่อใด

รู้ได้อย่างไรว่าจะถ่ายภาพสายฟ้าได้ที่ไหนและเมื่อไหร่

เฝ้าดูการเคลื่อนตัวของพายุ

การเข้าถึงข้อมูลสภาพอากาศที่แม่นยำจะช่วยให้คุณได้ภาพที่สวยงามตระการตายิ่งขึ้น ที่สิงคโปร์ เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาสิงคโปร์ (ฉบับภาษาอังกฤษ)จะแสดงข้อมูลการพยากรณ์อากาศแบบเรียลไทม์โดยละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เกิดพายุฟ้าคะนองและฟ้าแลบ

และยังมีแอปที่สามารถส่งการแจ้งเตือนพายุแบบเรียลไทม์ไปยังโทรศัพท์ของคุณด้วย


ปลอดภัยไว้ก่อน!

สถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับผมคือจากที่สูงที่มองเห็นโดยรอบได้เป็นอย่างดี แต่มีที่กำบังเพื่อให้คุณปลอดภัย คุณสามารถเก็บภาพแบ็คกราวด์สวยๆ จากพื้นที่อยู่ต่ำกว่าได้ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ!

หลีกเลี่ยง:
- อยู่ที่จุดสูงสุดของพื้นที่โล่ง 
- อยู่ข้างๆ จุดสูงสุดในที่โล่ง เช่น ต้นไม้ สายฟ้าสามารถเดินทางผ่านพื้นดินได้!
- ยืนในน้ำ

EOS R+ RF15-35mm f/2.8L IS USM ที่ 18 มม., f/4.5, 6 วินาที, ISO 100
เวลาถ่ายภาพ: 21.33 น.

พายุนี้เกิดขึ้นในขณะที่ผมกำลังถ่ายภาพดวงดาวในกัมพูชา บางครั้งเมื่อมีโอกาส คุณก็ต้องคว้าเอาไว้ โชคดีที่มีที่กำบังอยู่ใกล้ๆ!


เคล็ดลับ: พูดคุยกับชุมชนนักดูพายุในท้องถิ่นของคุณ

นักดูพายุในชุมชนจะบอกเคล็ดลับให้คุณได้ว่าจะสามารถสังเกตการณ์/ถ่ายภาพพายุได้ที่ไหน รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่คุณหาไม่ได้จากที่อื่น ตัวอย่างเช่น ชุมชนผู้ติดตามพายุสิงคโปร์ในท้องถิ่นได้จัดทำแผนที่แสดงจุดสูงไว้โดยละเอียดและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และการได้พบกับเพื่อนๆ ที่หลงใหลในพายุเหมือนกันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี!

4. การตั้งค่ากล้อง

คุณใช้การตั้งค่ากล้องใดบ้าง และตัดสินใจเลือกใช้อย่างไร

EOS R + RF15-35mm f/2.8L IS USM ที่ 15 มม., f/5, 6 วินาที, ISO 100
เวลาถ่ายภาพ: 00.00 น.


ความเร็วชัตเตอร์: ความเร็วต่ำเพื่อจับภาพสายฟ้าทั้งหมด

หัวใจสำคัญของภาพสายฟ้าที่สวยคือชัตเตอร์ความเร็วต่ำ ไม่ใช่ความเร็วสูง! หากความเร็วชัตเตอร์สูงเกินไป คุณอาจไม่สามารถถ่ายภาพสายฟ้าได้ทั้งหมด

ผมจะตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ก่อน จากนั้นจึงปรับรูรับแสงและความไวแสง ISO ตามที่ต้องการ

การตั้งค่าเริ่มแรกของผมจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวันและลักษณะของสายฟ้า แต่แม้กระทั่งในตอนกลางวัน ผมมักจะเริ่มต้นที่อย่างน้อย 1/60 วินาที ในเวลากลางคืนผมจะใช้ความเร็วต่ำลงอีก คือเหลือเพียง 3 ถึง 6 วินาที ขึ้นอยู่กับความแรงของพายุ

ผมใช้โหมดตั้งค่าระดับแสงด้วยตนเอง (M) เพื่อให้ควบคุมการตั้งค่าระดับแสงได้อย่างเต็มที่ ขณะที่พายุเคลื่อนตัวและระดับความรุนแรงเปลี่ยนแปลงไป คุณจะต้องคอยปรับค่าระดับแสงให้เหมาะสม!

ความเร็วชัตเตอร์เริ่มแรกของ Chris:
- แสงแดด: 1/60 วินาที
- พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก: 1 ถึง 2 วินาที
- กลางคืน: 3 ถึง 6 วินาทีขึ้นอยู่กับความแรงของพายุ

 

ภาพรวม: ถ่ายแบบ RAW และเปิดรับแสงน้อย

สายฟ้าจะช่วยเพิ่มแสงให้การเปิดรับแสง ฟ้าผ่าขนาดใหญ่อาจทำให้ภาพทั้งภาพสว่างจ้าได้ง่ายๆ!

ผมมักจะลดการเปิดรับแสงลง 1 ถึง 2 สต็อป เพราะการกู้คืนรายละเอียดจากภาพที่มืดสามารถทำได้ง่ายกว่าภาพที่สว่างเกินไป แม้แต่การถ่ายภาพในตอนกลางคืน ผมจะพยายามไม่เปิดรูรับแสงกว้างกว่า f/4 เพื่อลดความเสี่ยงที่จะได้รับแสงมากเกินไป หากต้องการภาพที่สว่างขึ้น ผมจะปรับค่าความไวแสง ISO

ภาพที่สว่างเกินไป (ก่อนแก้ไข)
ภาพที่สว่างเกินไป (หลังพยายามแก้ไข)

ลองสังเกตรัศมีแปลกๆ ที่อยู่รอบสายฟ้าในภาพ "หลัง" คุณจะได้สิ่งแปลกปลอมเช่นนี้เมื่อพยายามจะกู้คืนรายละเอียดจากภาพที่ได้รับแสงมากเกินไป

โฟกัส: โฟกัสด้วยตนเอง

EOS R5 Mark II มีโฟกัสอัตโนมัติประสิทธิภาพสูงที่ผมชอบใช้เวลาถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวเช่น กีฬาแข่งรถ และยังสามารถล็อคโฟกัสบนดวงดาวขณะถ่ายภาพดวงดาวได้ด้วย! แต่สำหรับการถ่ายภาพสายฟ้า ผมจะใช้โหมดโฟกัสด้วยตนเองเพื่อล็อคตำแหน่งโฟกัสในทุกภาพ

ฟีเจอร์หนึ่งของระบบ EOS R ที่ผมชื่นชอบคือ Focus Guide ซึ่งเป็นตัวช่วยนำสายตาในการโฟกัสด้วยตนเอง ฟีเจอร์นี้จะใช้ข้อมูลจากระบบ Dual Pixel CMOS AF ของ Canon เพื่อความแม่นยำที่มากยิ่งขึ้น

ผมชอบใช้ Focus Guide มากกว่า focus peaking เนื่องจากทำให้เห็นตัวอย่างภาพฉากได้ชัดเจนกว่า เช่นเดียวกับการถ่ายภาพทิวทัศน์ทั่วไป ผมวางจุดโฟกัสไว้ที่ตำแหน่ง 1/3 ในฉาก

 

เคล็ดลับระดับมือโปร: รู้จักกล้องของคุณให้ดีพอที่จะใช้งานในความมืด

เพราะคุณจะต้องปรับการตั้งค่าอยู่เสมอตามสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา พยายามสร้างความคุ้นเคยกับปุ่มควบคุมต่างๆ ของกล้องว่าอยู่ที่ใด วิธีนี้จะช่วยให้คุณไม่พลาดโอกาสถ่ายภาพเพราะมัวแต่คลำหาปุ่มควบคุมบนกล้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังถ่ายภาพในความมืด!


ตั้งค่าปุ่มลัดเพื่อให้เปลี่ยนการตั้งค่าได้เร็วขึ้น

ผมชอบเมนูแบบแท็บของ Canon มาก เพราะทำให้หาฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น กล้องในระบบ EOS R ยังสามารถปรับแต่งได้เพื่อความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น คุณสามารถเพิ่มฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยที่สุดเข้าไปในแท็บ MyMenu ได้เพื่อการเข้าถึงที่ง่ายดายและกำหนดฟังก์ชั่นแบบกำหนดเองให้ปุ่มต่างๆ ได้

แท็บ MyMenu ของผมมีฟังก์ชั่นถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้า ตั้งช่วงเวลาถ่าย และ "ฟอร์แมตการ์ด" ที่สำคัญอยู่ในหน้าแรก!


EOS R + EF-S10-22mm f/3.5-4.5 USM ที่ 15 มม. (เทียบเท่า 24 มม.), f/13, 0.8 วินาที, ISO 100
เวลาถ่ายภาพ: 16.30 น.

 

5. ฟังก์ชั่นที่เป็นประโยชน์

ฟีเจอร์ของกล้องที่มีประโยชน์ในการกำหนดจังหวะถ่ายภาพ

การลั่นชัตเตอร์ในเวลาที่เหมาะเจาะพอดีอาจเป็นเรื่องยาก ด้านล่างนี้คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น


ตัวตั้งช่วงเวลาถ่าย

กล้องในซีรีย์ Canon EOS R รุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะมีตัวตั้งช่วงเวลาถ่ายในตัวเพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพตามจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตามช่วงเวลาที่ต้องการได้ ผมมักจะเว้นช่วงการถ่ายสั้นๆ คือใช้เวลาของชัตเตอร์บวก 1 วินาที เพื่อให้มีเวลา 1 วินาทีระหว่างภาพแต่ละภาพ วิธีนี้ทำให้ผมถ่ายภาพพลาดน้อยลง และยังสามารถใช้เฟรมภาพมาทำวิดีโอแบบไทม์แลปส์ได้ด้วย!


โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องล่วงหน้าของกล้อง EOS R5 Mark II

EOS R5 Mark II + RF15-35mm f/2.8L IS USM ที่ 15 มม., f/6.3, 0.5 วินาที, ISO 250
เวลาถ่ายภาพ: 19.30 น./ ภาพ

โหมดถ่ายตภาพ่อเนื่องล่วงหน้าที่มีในกล้อง EOS R5 Mark II สามารถบันทึกภาพล่วงหน้าตามจำนวนที่กำหนดได้นับจากเวลาที่คุณเริ่มกดปุ่มชัตเตอร์ ฟังก์ชั่นนี้มีประโยชน์หากคุณกำลังประสบปัญหาในการหาจังหวะลั่นชัตเตอร์!

ข้อควรรู้: ความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุดที่คุณตั้งค่าได้จะถูกจำกัดไว้ที่ 0.5 วินาที ดังนั้น ให้เพิ่มค่าความไวแสง ISO หากจำเป็น

6. การปรับแต่ง

คุณปรับแต่งภาพอย่างไร

สไตล์ของผม: ถ่ายทอดฉากออกมาตามจริง

สำหรับผม การถ่ายภาพสายฟ้าเป็นวิธีหนึ่งในการบันทึกความงดงามของปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างที่ตาเห็น ผมจึงมักจะถ่ายทอดฉากออกมาตามจริง ผมจะปรับสมดุลแสงขาว กู้รายละเอียด และเลือกใช้การปรับแต่งที่ช่วยให้สายฟ้าและฉากโดดเด่นออกมา ผมเคยลองสไตล์อื่นๆ มาแล้ว ซึ่งบางครั้งก็ได้ผลตอบรับที่ดีมากบนโซเชียลมีเดียเมื่อเทียบกับภาพปกติของผม และยอดไลค์ก็เป็นอะไรที่ดึงดูดใจมาก แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมอยากให้การถ่ายสายฟ้าเป็นหนทางในการระบายความเครียดต่อไป ผมจึงเลือกที่จะถ่ายภาพตามใจตัวเอง

 

 

การรวมภาพ

การรวมภาพ 6 ภาพที่ถ่ายในช่วงเวลา 30 นาทีผ่านกระจก
EOS R + EF-S10-22mm f/3.5-4.5 USM ที่ 13 มม. (เทียบเท่า 21 มม.) รูรับแสงระหว่าง f/5.6 ถึง f/10 ความเร็วชัตเตอร์ระหว่าง 1 ถึง 3 วินาที, ISO 100
เวลาถ่ายภาพ: 18.30 ถึง 19.00 น.


ไทม์แลปส์

คุณจะสามารถถ่ายภาพเช่นนี้ได้อย่างง่ายดายหากใช้ตัวตั้งช่วงเวลาถ่ายเพื่อถ่ายภาพหลายภาพต่อเนื่องกัน! (ดูฟีเจอร์ของกล้องที่เป็นประโยชน์)

แน่นอนว่าคุณยังสามารถนำภาพไปทำอย่างอื่นได้อีก ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและวัตถุประสงค์ของคุณ!


เคล็ดลับในการทำงาน: ใช้ปุ่ม RATE หากกล้องคุณมีปุ่มนี้

ผมจะใช้ปุ่ม RATE เพื่อทำเครื่องหมายกำกับภาพที่ผมต้องการเก็บไว้ วิธีนี้จะช่วยให้กระบวนการคัดเลือกภาพง่ายดายยิ่งขึ้น

7. จะเก่งขึ้นได้อย่างไร

จะเก่งขึ้นได้อย่างไร

ในช่วงหลังนี้ ผมพยายามฝึกฝนการพิมพ์ภาพถ่าย และขอแนะนำให้ทุกคนทำแบบเดียวกัน การพิมพ์ภาพจะทำให้คุณใส่ใจรายละเอียดและข้อบกพร่องมากขึ้น ซึ่งสามารถเปลี่ยนวิธีการถ่ายภาพและปรับปรุงเทคนิคของคุณให้ดีขึ้นได้

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา