การถ่ายภาพทิวทัศน์ด้วย EOS 5D Mark IV: แนวทางการถ่ายภาพที่ต่างกัน 2 สไตล์
ขณะที่คุณติดตามช่วงเวลาที่แสงเปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลาเพื่อเก็บภาพช่วงเวลาอันน่าทึ่งที่สุดได้อย่างสวยงาม ร่างกายและกล้องถ่ายภาพของคุณจะต้องประสานเป็นหนึ่งเดียว EOS 5D Mark IV คือคำตอบสำหรับการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบซึ่งช่างภาพทิวทัศน์ทุกคนต่างใฝ่หา ในบทความนี้ ผมจะแนะนำแนวทางการถ่ายภาพที่ต่างกัน 2 สไตล์เพื่อให้ได้ภาพถ่ายทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ (เรื่องโดย Toshiki Nakanishi)
แนวทางที่ 1: ถ่ายภาพทิวทัศน์ให้มีสีสันสดใสพร้อมกับรักษาบรรยากาศอันละเอียดอ่อน
ตั้งค่าความอิ่มตัวของสีเป็น "+1" ด้วยรูปแบบภาพ Fine Detail
เพื่อสื่อถึงความรู้สึกอันชุ่มฉ่ำของแม่น้ำที่ไหลผ่านผืนป่า ผมตั้งใจเลือกถ่ายภาพนี้ในวันที่ฝนตก เพราะในบรรยากาศเช่นนี้ จะมีม่านหมอกเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิบนผิวน้ำกับอากาศ ทำให้เกิดสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายภาพ เพราะพื้นที่ทั้งหมดจะแวดล้อมไปด้วยอากาศชื้น
ในกล้อง EOS 5D Mark IV มีการเพิ่มตัวเลือกรูปแบบภาพใหม่คือ "Fine Detail" แม้ว่าสำหรับฉากประเภทนี้ ในกล้อง EOS 5D Mark III คุณอาจต้องการใช้ตัวเลือก “Standard” หรือ “Landscape” มากกว่า แต่สำหรับกล้อง EOS 5D Mark IV ผมขอแนะนำให้ใช้ “Fine Detail” แทน เฉพาะรูปแบบภาพ "Fine Detail" เท่านั้นที่สามารถให้ความละเอียดที่ประมาณ 30.4 ล้านพิกเซลและการไล่เฉดสีดูโดดเด่นกว่ามาก อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ภาพได้หลากหลายแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของตัวแบบ
ค่าเริ่มต้นสำหรับความอิ่มตัวของสีใน "Fine Detail" จะเทียบเท่ากับค่าเริ่มต้นสำหรับความอิ่มตัวของสีใน "Standard" ค่าเริ่มต้นสำหรับความอิ่มตัวของสีจะไม่ถูกตั้งไว้สูงนัก ดังนั้น คุณจึงสามารถเพิ่มค่าสำหรับการตั้งค่าความอิ่มตัวของสีได้หากจำเป็น แม้ว่าการใช้ค่าเริ่มต้นจะช่วยให้คุณได้ภาพถ่ายที่สวยพอ แต่การเพิ่มความหนาแน่นของสีเล็กน้อยจะช่วยขับเน้นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในภาพให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ส่วนตัวผม ผมชอบเพิ่มความหนาแน่นของสีเพื่อแสดงพลังในการถ่ายทอดรายละเอียด ผมจึงใช้ "+1" เป็นค่าพื้นฐาน และปรับแต่งรายละเอียดตามฉากที่ถ่าย
EOS 5D Mark IV/ EF24-105mm f/4L IS II USM/ FL: 40 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 2 วินาที, EV±0)/ ISO 100/ WB: แสงแดด
บริเวณริมฝั่งแม่น้ำดูสวยสดงดงามในวันที่ฝนตก ใบไม้และก้อนหินที่เปียกชุ่ม และแม้แต่ม่านหมอกที่กำลังเคลื่อนตัวล้วนมีส่วนช่วยเสริมบรรยากาศให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณควรเลือกความเร็วชัตเตอร์ที่เหมาะสมกับสายน้ำที่กำลังไหล
ปกติ
Fine Detail
ความอิ่มตัวของสี +1
การใช้กล้องดิจิตอลเพื่อถ่ายทอดรายละเอียดของป่าไม้อันเขียวขจีเป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำได้ยาก แม้ว่าภาพที่ได้จะดูน่าประทับใจพอสมควรเมื่อใช้รูปแบบภาพ "Standard" แต่คุณจะเห็นว่าการใช้ "Fine Detail" ทำให้เราถ่ายทอดรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งทำให้ภาพทั้งภาพเป็นสีเขียว และค่าความอิ่มตัวของสี +1 ทำให้ผมสามารถถ่ายทอดต้นไม้อันเขียวขจีให้ดูหนาแน่นมากขึ้นได้
สำหรับการเพิ่มความหนาแน่น ให้ตั้งค่าความอิ่มตัวของสีเป็น +1
กดปุ่ม Quick Control เพื่อแสดงหน้าจอรูปแบบภาพ และเมื่อเลือก "เน้นรายละเอียด" แล้ว ให้กดปุ่ม Info เมื่อหน้าจอการตั้งค่าละเอียดปรากฏขึ้น ให้ตั้งค่า "ความอิ่มตัวของสี" เป็นค่า "+1" จุดสำคัญสำหรับการตั้งค่า "เน้นรายละเอียด" คือ ให้ตั้งค่าความอิ่มตัวของสีเป็นค่าบวก
แนวทางที่ 2: เน้นส่วนที่เป็นไฮไลต์ในภาพทิวทัศน์
EOS 5D Mark IV/ EF24-70mm f/4L IS USM/ FL: 50 มม./ Aperture-priority AE (f/11, 1/250 วินาที, EV-1.7)/ ISO 200/ WB: แสงแดด
ภาพของม้วนฟางที่วางอยู่กลางทุ่งนาผสานกับฉากหลังที่เป็นภาพทิวทัศน์อันงดงามตระการตาทำให้ผมนึงถึงช่วงฤดูร้อนในฮอกไกโด เพราะเห็นว่าแสงจากมุมต่ำในยามเย็นนั้นจะทำให้ภาพดูน่าประทับใจ ผมจึงรอถ่ายภาพในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ตั้งค่าการปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติไปที่ "สูง"
ผมเชื่อว่าการจัดแสงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในภาพถ่าย เนื่องจากวิธีจัดแสงในภาพจะส่งผลต่อผลภาพที่ได้และความรู้สึกที่สื่อผ่านภาพถ่ายเป็นอย่างมาก แสงและเงาเปรียบเสมือนสองด้านของเหรียญเดียวกัน ซึ่งจะคอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ดังนั้น การคำนึงถึงแสงและเงาขณะถ่ายภาพจะช่วยให้คุณสามารถผลิตผลงานภาพถ่ายที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้นได้
สำหรับภาพนี้ ผมใช้ประโยชน์จากแสงในยามเย็นและรอคอยเวลาที่รัศมีของแสงส่องส่องผ่านเนินเขาเข้ามา แม้ว่านี่จะเป็นฉากที่มีความเปรียบต่างสูง แต่ส่วนที่เป็นไฮไลต์กลับดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และเงายังแคบลงเมื่อผมตั้งค่าการชดเชยแสงเป็นลบโดยตั้งค่าการปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติไปที่ "สูง" จึงทำให้ได้ภาพถ่ายที่น่าประทับใจ
การดูตัวอย่างเอฟเฟ็กต์การปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติใน Live View
กดปุ่ม Quick Control เพื่อแสดงการปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ และเมื่อคุณตั้งค่าไปที่ "ต่ำ" หรือ "สูง" การเปลี่ยนแปลงจะแสดงขึ้นในตัวอย่างภาพทันที คุณจึงสามารถดูความแตกต่างระหว่างเอฟเฟ็กต์แบบต่างๆ ในภาพ Live View ได้ง่าย
ความแตกต่างของเอฟเฟ็กต์แบบต่างๆ ที่เกิดจากการปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติ
สูง
ต่ำ
ไม่ใช้งาน
การปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติจะใช้เมื่อคุณต้องการทำให้ฉากที่มีความเปรียบต่างสูงดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ขณะที่ความเปรียบต่างยังคงเห็นได้ชัดเจนแม้ว่าจะปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้ไปแล้ว แต่คุณจะสามารถดูได้ว่าส่วนที่ไฮไลต์ถูกขับเน้นมากขึ้นแค่ไหนโดยการตั้งค่าเป็น "ต่ำ" และจากนั้นเพิ่มขึ้นเป็น "สูง"
ใช้การชดเชยแสงเป็นลบเพื่อลดเงา
การตั้งค่าการปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติเป็น "สูง" จะทำให้ส่วนที่ไฮไลต์ดูโดดเด่น และทำให้ภาพโดยรวมสว่างขึ้นเล็กน้อยในเวลาเดียวกัน ดังนั้น ควรใช้การชดเชยแสงเป็นลบเพื่อลดเงา
เคล็ดลับ: การปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติมีเอฟเฟ็กต์เพียงเล็กน้อยในฉากที่มีความเปรียบต่างต่ำ
สูง
ไม่ใช้งาน
ในสภาวะที่มีการใช้แสงจากด้านหน้า เช่น ในวันที่เมฆครึ้ม เอฟเฟ็กต์ของการปรับแสงเหมาะสมอัตโนมัติจะลดลงค่อนข้างมาก
โปรดดูบทความเกี่ยวกับ เหตุผล 5 ข้อว่าทำไม EOS 5D Mark IV คือกล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์
รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพ รวมถึงเคล็ดลับและกลเม็ดต่างๆ ได้โดย ลงทะเบียนกับเรา!
EOS 5D Mark IV (Body)
EF24-105mm f/4L IS II USM
EF24-70mm f/4L IS USM
เกิดปี 1971 ในโอซาก้า หลังจากศึกษาการถ่ายภาพด้วยตัวเอง Nakanishi ย้ายสถานที่ดำเนินกิจกรรมถ่ายภาพของตนไปยังเมือง Biei ที่อำเภอ Kamikawa-gun ในฮอกไกโด นอกจากถ่ายภาพทิวทัศน์ที่โฟกัสที่แสงเป็นหลักแล้ว เขายังสร้างสรรค์ผลงานที่เน้นถึงความงามของธรรมชาติในจินตนาการอีกด้วย เขามีตำแหน่งเป็นหัวหน้า PHOTO OFFICE ของ atelier nipek
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation