เคล็ดลับ 5 ข้อสำหรับการภาพถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นและตกให้สวยขึ้น
ภาพถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกสามารถกระตุ้นความรู้สึกของคนได้ อาจเป็นเพราะว่ามันสื่อถึงการเริ่มต้นและการสิ้นสุดของวัน หรืออาจเป็นสีสันของแสงแดดที่เป็นสัญลักษณ์ของความงามแห่งธรรมชาติ ภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกที่ดีสามารถดึงดูดให้คนจ้องมองภาพอย่างเนิ่นนาน แต่คุณจะเริ่มจากตรงไหน และต้องใช้อุปกรณ์ใดบ้างสำหรับการถ่ายภาพอันน่าทึ่งเช่นนี้ ในบทความนี้ เราจะมาดูเคล็ดลับง่ายๆ ในการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก พร้อมกับชมภาพสวยๆ จาก Pierre Huang เป็นตัวอย่าง
จังหวะเวลา
EOS 6D Mark II, EF16-35mm f/2.8L II USM, f/4, ISO 160, 1/30s, 35 มม.
จังหวะเวลาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับภาพพระอาทิตย์ขึ้น/ตกที่ดี เมื่อคุณได้จังหวะเวลาที่เหมาะสม พระอาทิตย์ก็จะอยู่เหนือขอบฟ้าเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่จุดไหนและสภาพอากาศของท้องฟ้า เฉดสีจะเปลี่ยนแปลงในขณะที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นหรือตก แอปอย่างเช่น Photopill สามารถบอกคุณได้ว่าดวงอาทิตย์จะขึ้นและตก ณ เวลาใดตามตำแหน่งของคุณ และสามารถใช้งานได้ทั้งใน iOS และ Android
ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะมาพร้อมเข็มทิศดิจิตอลในตัวด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้เข็มทิศนั้นเพื่อหาทิศตะวันออกและตะวันตก ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังจะถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก
การสำรวจสถานที่
EOS 6D Mark II, EF16-35mm f/2.8L II USM, f/13, ISO 100, 2s, 16 มม.
การสำรวจสถานที่ในตอนกลางวันก่อนการถ่ายทำนั้นสำคัญ ด้วยวิธีนี้ คุณจะรู้ได้ว่าคุณต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะไปถึงที่นั่นและสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ ตัวอย่างเช่น การจราจรอาจเป็นอุปสรรคในบางประเทศ ดังนั้นผู้ที่ต้องการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกควรจัดเตรียมเรื่องการเดินทางให้เหมาะสม
สำหรับช่างภาพทต้องการถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น การมาถึงก่อนเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เนื่องจากเมื่อคุณไปถึงสถานที่ถ่ายภาพอาจจะยังมืดอยู่ คุณควรสังเกตดูว่ามีอันตรายใดๆ ในบริเวณนั้นที่คุณต้องระวังตัวหรือไม่
มาแต่เช้าและอยู่ต่อ
EOS 6D Mark II, EF16-35mm f/2.8L II USM, f/4, ISO 100, 1/15s, 20 มม.
อยู่ต่อไปแม้คุณคิดว่าคุณได้เห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแล้ว แต่คุณควรไปให้ถึงก่อนพระอาทิตย์โผล่ขึ้นเหนือขอบฟ้าเพื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปี ณ สถานที่ของคุณ สีสันบนท้องฟ้าอาจมีเฉดสีที่ต่างกันออกไป หรือเมฆอาจเคลื่อนเข้ามาและทำให้เกิดลำแสงอันสวยงามตระการตา
การเปิดรับแสง
ช่างภาพทิวทัศน์มักใช้การถ่ายคร่อมค่าการเปิดรับแสงเพื่อถ่ายภาพด้วยการตั้งค่าการเปิดรับแสงที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ให้ลองใช้เทคนิคนี้เพื่อจับภาพท้องฟ้า และนำภาพมาผสมผสานกันในกระบวนการแต่งภาพ Canon DPP ให้คุณควบคุมกระบวนการผสานภาพได้อย่างละเอียด ซึ่งจะทำให้คุณสามารถควบคุมปริมาณเงาและรายละเอียดของไฮไลท์ที่คุณต้องการให้อยู่ในภาพได้
คุณยังสามารถใช้โพลาไรเซอร์ทรงกลมกับเลนส์เพื่อเพิ่มคอนทราสต์ในภาพถ่ายได้อีกด้วย ข้อเสียเปรียบประการหนึ่งคือ คุณอาจสูญเสียรายละเอียดของเงาบางส่วนไป ดังนั้นให้ถ่ายภาพ RAW เพื่อรักษาไว้ให้มากที่สุด อีกหน้าที่หนึ่งของโพลาไรเซอร์ทรงกลมคือการควบคุมและลดแสงสะท้อนในภาพ แต่ก็จะลดปริมาณแสงที่เข้าสู่เลนส์ในขณะเดียวกัน ในกรณีที่คุณใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ควรใช้ขาตั้งกล้องเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด
ฉากหน้าที่น่าสนใจ
EOS 6D Mark II, EF16-35mm f/2.8L II USM, f/4, ISO 100, 1/15s, 20 มม.
มองหาสิ่งที่น่าสนใจในฉากหน้าเพื่อเพิ่มองค์ประกอบที่น่าสนใจให้กับภาพของคุณ ฉากหน้ายังให้บริบทของสถานที่อีกด้วย ทำให้ภาพถ่ายมีข้อมูลมากกว่าเป็นเพียงแค่ภาพถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก “อีกภาพหนึ่ง” อีกวิธีหนึ่งในการสร้างองค์ประกอบที่น่าสนใจในภาพก็คือการเลือกใช้เลนส์ เลนส์มุมกว้างหรือเลนส์มุมกว้างพิเศษจะช่วยให้คุณสามารถรวมสภาพแวดล้อมในภาพถ่ายของคุณได้มากขึ้น ในขณะที่เลนส์เทเลโฟโต้จะช่วยให้คุณสามารถเน้นไปที่ดวงอาทิตยเพื่อให้ได้ภาพที่แคบลงหากคุณต้องการเน้นสิ่งนั้น ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นในบทความนี้ การสำรวจสถานที่ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการถ่ายภาพ ซึ่งทำให้คุณไม่ลืมนำเลนส์ที่ต้องการติดตัวไปด้วย
ไม่ใช่ความลับที่การฝึกฝนจะทำให้เกิดความสมบูรณ์แบบ และสำหรับการถ่ายภาพก็เช่นเดียวกัน ภาพถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกในช่วงแรกของคุณอาจดูไม่ค่อยดีนัก แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่ยอมแพ้ พยายามค้นหาว่าภาพถ่ายมีความผิดพลาดอะไรบ้าง และปรับปรุงในครั้งต่อไป!
สำหรับบทความที่คล้ายกัน: