ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

การจัดแสงพื้นฐาน: แสงแข็งและแสงนุ่ม

2021-10-20
0
2 k
ในบทความนี้:

คุณเคยดูรูปถ่ายและมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคุณภาพของแสงที่โดดเด่นออกมาหรือไม่ คุณอาจพบว่าแสงอาจจะแข็งเกินไปและมีเส้นเงาที่ชัดเจน หรือคุณอาจดูภาพบุคคลและตระหนักว่าคุณภาพของแสงให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล และดูเหมือนว่าจะห่อหุ้มตัวแบบ ดังนั้นแสงนุ่มและแสงแข็งเป็นอย่างไร และคุณจะสร้างมันได้อย่างไร 

 

ในบทความที่เข้าใจได้ง่ายนี้ เราจะมาดูว่าแสงแข็ง/นุ่มคืออะไร และเราสามารถแสงเหล่านี้ได้โดยการปรับเพียงสองปัจจัย คือ ขนาดของแหล่งกําเนิดแสงและระยะห่างของแหล่งกําเนิดแสงไปยังตัวแบบของคุณ 

 

ทําความเข้าใจกับแสงที่แข็ง/นุ่ม

ที่ใดมีแสงก็ต้องมีเงา พื้นที่ซึ่งได้รับแสงสว่างเรียกว่าไฮไลต์ ส่วนบริเวณที่มืดก็คือเงา อย่างไรก็ตามในระหว่างนั้นเป็นพื้นที่ที่เราเรียกว่าเงาสลัว ขนาดของเงาสลัวคือสิ่งที่จะบอกเราว่าแสงนั้นแข็งหรือนุ่ม 

โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งเงาสลัวบางลงเท่าไร แสงก็จะยิ่งแข็งขึ้นเท่านั้น และในทางกลับกัน ยิ่งเงาสลัวหนาขึ้นหรือแผ่ออกมากขึ้น แสงก็ยิ่งนุ่มขึ้นเท่านั้น  

 

ขนาดของแหล่งกําเนิดแสง

ตอนนี้เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าอะไรทำให้แสงแข็งหรืออ่อน คุณก็สามารถลองสร้างมันขึ้น 

ปัจจัยแรกที่คุณสามารถควบคุมได้คือขนาดของแหล่งกําเนิดแสง กฎทั่วไปคือ:

แหล่งกําเนิดแสงขนาดใหญ่ 60 ซม. สร้างเงาจางๆ (ซ้าย) เทียบกับแหล่งกําเนิดแสงขนาดเล็ก 10 ซม. สร้างเงาแข็ง (ขวา) แสงนั้นตั้งอยู่ที่ตําแหน่งเดียวกันสําหรับทั้งสองภาพ 

แหล่งกําเนิดแสงขนาดใหญ่จะห่อหุ้มแสงรอบตัวแบบ ซึ่งช่วยลบเงาซึ่งทำให้เกิดภาพที่นุ่มนวลขึ้น อย่างไรก็ตาม แหล่งกําเนิดแสงที่เล็กกว่าจะกระทบกับตัวแบบ ทําให้เกิดเงาที่ดูคมมากขึ้น 

ด้วยข้อมูลนี้ คุณสามารถตรวจสอบภาพที่คุณถ่ายบนหน้าจอ LCD ด้านหลังของกล้องของคุณและพิจารณาดูว่าคุณต้องการเพิ่มขนาดของแหล่งกําเนิดแสงของคุณหรือไม่ หาก Speedlite ของคุณเป็นแบบอยู่นอกกล้อง คุณอาจลองใช้ซอฟต์บ็อกซ์ ครอบมันไว้ หากคุณกําลังถ่ายภาพโดยใช้ Speedlite บนกล้อง คุณสามารถสะท้อนแสงจากเพดานหรือผนังเพื่อจําลองแหล่งกําเนิดแสงที่ใหญ่ขึ้นได้เสมอ 

 

ระยะห่างของแหล่งกําเนิดแสง 

ระยะห่างของแหล่งกําเนิดแสงจากตัวแบบเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ในการสร้างแสงที่นุ่มหรือแข็ง เพียงแค่ปรับระยะห่าง คุณก็สามารถเปลี่ยนลักษณะของแสงได้ สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ด้วยกฎกำลังสองผกผันซึ่งเป็นสูตรที่สามารถใช้ในการคํานวณความเข้มของแสงได้ คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎยกกำลังสองผกผันได้ที่นี่ 

เมื่อแสงเข้าใกล้ตัวแบบ (ซ้าย) ที่ระยะ 1 ม. เงาจะนุ่มนวลกว่าเมื่อเทียบกับเงาแข็งเมื่อแสงถูกเคลื่อนห่างออกไปไกลที่ระยะ 3 ม. 

หากแฟลชของคุณยึดติดกับฐานแฟลชของกล้อง และคุณต้องการขยับเข้าใกล้หรือออกห่างจากตัวแบบมากขึ้น คุณต้องพิจารณาเลือกเลนส์ที่คุณใช้ การใช้ เลนส์ซูม จะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนกรอบได้อย่างรวดเร็วเมื่อคุณเคลื่อนเข้าหาหรือออกห่างจากตัวแบบ พร้อมกับเปลี่ยนลักษณะแสงได้ตามต้องการ 

อีกประเด็นหนึ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการปรับระยะห่างของแสงกับตัวแบบก็คือความเข้มของแสงจะเปลี่ยนไปด้วย หากแสงของคุณอยู่ใกล้ขึ้น ความจำเป็นในการใช้พลังงานจะลดลง และหากคุณย้ายแสงให้ห่างจากตัวแบบ คุณจะต้องชดเชยระยะห่างนั้นด้วยการใช้พลังงานมากขึ้น การชดเชยนี้มักจะทําโดยการปรับกําลังแสงแฟลชแทนการปรับความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสง 

 

การใช้ขนาดและระยะห่างร่วมกัน

ตอนนี้คุณคงเข้าใจแล้วว่า ขนาดและระยะห่างของแหล่งกําเนิดแสงมีผลต่อลักษณะของแสงอย่างไรคุณสามารถปรับปัจจัยทั้งสองอย่างนี้ให้เป็นประโยชน์สำหรับคุณ ตัวอย่างเช่นหากอยู่ในพื้นที่จํากัด และคุณไม่สามารถเคลื่อนย้ายไฟของคุณเพื่อควบคุมแสง คุณสามารถลองปรับให้แหล่งกําเนิดแสงมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงเพื่อให้ได้แสงที่แข็งหรือนุ่ม ในทํานองเดียวกัน หากคุณไม่สามารถเปลี่ยนขนาดของแหล่งกําเนิดแสงได้ คุณจะต้องพิจารณาย้ายแหล่งกําเนิดแสงให้เข้าใกล้หรือห่างจากตัวแบบมากขึ้นจนกว่าคุณจะได้ลักษณะแสงที่ต้องการ 

ตอนนี้คุณคงมีไอเดียแล้วว่าแสงที่แข็งและนุ่มคืออะไร และคุณสามารถสร้างมันขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งจะทําให้คุณเป็นช่างภาพที่ดีขึ้น เนื่องจากคุณสามารถควบคุมการจัดแสงได้ ทั้งนี้การถ่ายภาพก็คือการวาดภาพด้วยแสง ซึ่งตอนนี้คุณสามารถควบคุมมันได้ตามความต้องการของคุณเพื่อสร้างภาพที่คุณจินตนาการไว้ได้ 

 

สำหรับบทความที่คล้ายกัน:

มากกว่าความเร็วชัตเตอร์: การใช้ระยะเวลาของแฟลชเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว

[เทคนิคแฟลช] วิธีสร้างสีสันอันน่าทึ่งด้วยการย้อนแสง

การถ่ายภาพแฟชั่นในสตูดิโอ

 

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา