ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

[ตอนที่ 1] รู้จักท่าทางในการถ่ายภาพที่ถูกต้อง ปรับสีสันและความสว่าง

2013-10-31
2
3.95 k
ในบทความนี้:

ด้วยคุณสมบัติ "Smart Auto" ของกล้องตระกูล IXUS ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่มีเสน่ห์ได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้หลักพื้นฐานในการถ่ายภาพจะช่วยเพิ่มความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ภาพของคุณได้อีกมาก และทำให้คุณได้รับความเพลิดเพลินกับประสบการณ์การถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น ในบทความต่อไปนี้ ผมจะนำเสนอหลักพื้นฐาน 8 ข้อ ซึ่งคัดสรรแล้วว่าเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ใน [ตอนที่ 1] นี้ เราจะคุยถึงเรื่องพื้นฐานที่ควรทราบในการใช้งานกล้องคอมแพคท์ดิจิตอล เช่น ท่าทาง การปรับสีสันและความสว่าง (เรื่องโดย: Koichi Isomura)

หน้า: 1 2

ถือกล้องให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ดี

เพื่อป้องกันอุบัติเหตุกล้องตกระหว่างถ่ายภาพ ให้นำสายคล้องมือมาต่อเข้ากับตัวกล้อง ขณะใช้งาน ให้สอดมือเข้าไปในสายคล้องมือ แล้วถือกล้องด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมกับกดข้อศอกทั้งสองแนบกับลำตัว แม้กล้องรุ่น IXUS จะเบาและกะทัดรัดจนคุณถ่ายภาพด้วยมือเดียวได้ แต่การทำเช่นนั้นอาจทำให้กล้องไม่นิ่ง ส่งผลให้เกิดภาพสั่นไหวในขณะที่คุณลั่นชัตเตอร์ได้ โปรดทราบว่าภาพที่สั่นไหวนั้นจะมีโอกาสเกิดมากขึ้นหากคุณถ่ายภาพในที่แสงน้อย วางนิ้วชี้ของคุณพักไว้หลวมๆ บนปุ่มชัตเตอร์ตลอดเวลา เมื่อต้องการลั่นชัตเตอร์ ให้คุณกดปุ่มลงด้วยปลายนิ้ว

ท่าทางในการถือกล้อง

เมื่อถ่ายภาพแนวนอน

คล้องสายคล้องมือเข้ากับข้อมือของคุณ แล้วถือกล้องให้มั่นคงด้วยมือทั้งสองข้าง วางนิ้วชี้ข้างขวาของคุณพักไว้หลวมๆ บนปุ่มชัตเตอร์ ขณะเดียวกัน คอยระวังไม่ให้มือซ้ายของคุณบังแฟลช วางตำแหน่งกล้องให้อยู่ตรงหน้าคุณพอดี เพื่อคุณจะได้มองเห็นภาพบนหน้าจอ LCD อย่างชัดเจน กดข้อศอกลงเข้าหาลำตัวเพื่อป้องกันปัญหากล้องสั่น

เมื่อถ่ายภาพแนวตั้ง

เพื่อช่วยให้ถือกล้องได้ง่ายขึ้น ให้มือข้างหนึ่งจับที่ด้านบนของตัวกล้อง และถือกล้องให้มั่นคงด้วยมือทั้งสองข้างในแบบเดียวกับเมื่อถ่ายภาพแนวนอน ทำให้กล้องนิ่งด้วยการกดข้อศอกลงเข้าหาลำตัว

มุมต่ำ

ย่ิอตัวลงโดยให้เข่าข้างหนึ่งจรดพื้นเพื่อให้ศูนย์โน้มถ่วงของร่างกายคุณต่ำลง และได้ท่าทางการถ่ายภาพที่มั่นคง ระหว่างที่คุณปรับมุมในการถ่ายภาพ ให้คุณปรับหรือเอียงกล้องโดยไม่เปลี่ยนแปลงท่าทางของร่างกายส่วนบน

แล้วการกดปุ่มชัตเตอร์ทำอย่างไร?

เมื่อคุณถ่ายภาพ ให้คุณกดปุ่มชัตเตอร์เป็นสองขั้นตอน เริ่มจาก "กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง" ตามด้วยการ "กดปุ่มชัตเตอร์ลงเต็มที่" ถ้าหากคุณกดปุ่มชัตเตอร์ลงเต็มที่เลยในครั้งเดียว โดยไม่กดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งก่อน กล้องอาจจะไม่จับโฟกัส และทำให้ภาพออกมาเบลอ

ปกติ

ปุ่มชัตเตอร์ยังไม่ถูกกด ในขั้นนี้ ให้คุณวางนิ้วชี้พักไว้หลวมๆ บนปุ่มชัตเตอร์

กดปุ่มลงครึ่งหนึ่ง

การกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งจะทำให้ฟังก์ชั่น AF (ระบบโฟกัสอัตโนมัติ) ของกล้องทำงาน เมื่อปุ่มค้างอยู่ในสถานะนี้ จะมีเสียงบี๊พดังขึ้น เพื่อแจ้งว่ากล้องทำการโฟกัสและวัดแสงเรียบร้อยแล้ว

กดปุ่มลงเต็มที่

ปุ่มชัตเตอร์ถูกกดลงเต็มที่ คุณจะได้ยินเสียงชัตเตอร์ และภาพจะถูกบันทึก

การป้องกันอาการ "ภาพสั่นไหว" 2 แบบ

มีเหตุผลหลักๆ สามอย่างที่ทำให้ภาพถ่ายออกมาเบลอ เหตุผลแรก คือ ภาพ "หลุดโฟกัส" หมายความว่ากล้องไม่สามารถจับโฟกัสบนตัวแบบที่ต้องการได้ แต่ในกรณีของกล้อง IXUS การโฟกัสนั้นไม่ซับซ้อน คุณจึงไม่ต้องกังวลกับปัญหาภาพ "หลุดโฟกัส" มากนัก เหตุผลอีกสองข้อถัดมา คือ "การสั่นไหวของกล้อง" และ "ตัวแบบเบลอ" ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากในที่แสงน้อย เมื่อไม่ใช้แฟลช กล้องสั่น หมายถึง ภาพเบลอเนื่องจากการเคลื่อนไหวของตัวกล้อง เมื่อถ่ายภาพโดยใช้มือถือกล้อง การถือกล้องให้มั่นคงสามารถช่วยป้องกันกล้องสั่นได้ระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าคุณควรหาวิธีป้องกัน เช่น วางกล้องไว้บนวัสดุที่มั่นคงขณะถ่ายภาพในที่มืด ส่วนตัวแบบเบลอนั้น เกิดขึ้นเมื่้อตัวแบบที่คุณถ่ายภาพเคลื่อนไหวในขณะที่คุณลั่นชัตเตอร์พอดี เมื่อคุณถ่ายภาพในที่แสงน้อยโดยไม่ใช้แฟลช ให้ระมัดระวังดูให้แน่ใจว่าตัวแบบอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหว

การป้องกันภาพสั่นไหว

ตั้งโหมด IS มาที่เปิด

ตั้งโหมด IS มาที่ปิด

กล้องรุ่น IXUS เกือบทั้งหมดมาพร้อมกับคุณสมบัติการป้องกันภาพสั่นไหว (IS) แบบเลนส์ชิฟท์ เมื่อตั้ง [โหมด IS] มาที่ [เปิด] อาการสั่นของกล้องในสี่ทิศทางจะได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ

การป้องกันตัวแบบเบลอ

เมื่อตัวแบบนิ่งอยู่กับที่

เมื่อตัวแบบเคลื่อนไหว

เมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อยโดยไม่ใช้แฟลช ปัญหาตัวแบบเบลอจะเกิดขึ้นหากตัวแบบเคลื่อนไหวก่อนกระบวนการถ่ายภาพจะเสร็จสิ้น เืพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ พยายามให้ตัวแบบของคุณอยู่ิ่นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

ปรับสีสันเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

แสงชนิดต่างๆ ที่เรามักเห็นกันตามปกตินั้นมีหลากหลายสี ตัวอย่างส่วนหนึ่งก็เช่น แสงแดดสีขาว และแสงเทียนสีแดง สีสันของแสงสามารถแสดงเป็นค่าตัวเลขได้ เรียกว่า "อุณหภูมิสี" สำหรับกล้อง IXUS สามารถใช้คุณสมบัติ "สมดุลแสงขาว" เพื่อปรับแก้สีเพี้ยน ซึ่งเกิดจากอุณหภูมิสีที่แตกต่างกันในแหล่งกำเนิดแสง ให้ถูกต้องได้ โดยเฉพาะตัวเลือก AWB (ค่าสมดุลแสงขาวแบบอัตโนมัติ) มีประโยชน์มาก เพราะจะตรวจสอบชนิดของแหล่งกำเนิดแสงอัตโนมัติ เพื่อถ่ายทอดสีสันให้ใกล้เคียงกับสีที่เราเห็นจริงด้วยตาเปล่า แต่ขณะเดียวกัน คุณก็สามารถขับเน้นความรู้สึกของบรรยากาศในภาพให้ชัดเจนขึ้นไปอีกได้ โดยใช้คุณสมบัติสมดุลแสงขาวเพื่อปรับเปลี่ยนสีสันอย่างจงใจตามฉากถ่ายภาพนั้นๆ

ปรับเปลี่ยนสีสันด้วยการตั้งค่าสมดุลแสงขาว

ค่าสมดุลแสงขาว: อัตโนมัติ

มีแหล่งกำเนิดแสงหลายประเภทอยู่ในห้องที่ถ่ายภาพ เมื่อตั้งค่าสมดุลแสงขาวไปที่ [อัตโนมัติ] กล้องจะตรวจสอบชนิดของแหล่งกำเนิดแสงและความเข้มแสงโดยอัตโนมัติ และถ่ายทอดสีสันให้ใกล้เคียงกับที่ตาเราเห็น

ค่าสมดุลแสงขาว: หลอดไฟทังสเตน

แสงที่เข้มข้นและเด่นชัดที่สุดที่ให้ความสว่างแก่ตัวแบบคือแสงไฟทังสเตน ดังนั้น เมื่อเลือกการตั้งค่า [หลอดไฟทังสเตน] สีสันที่ถ่ายทอดในภาพจึงใกล้เคียงกับสิ่งที่ตาเรามองเ็ห็นมากที่สุด

ค่าสมดุลแสงขาว: แสงแดด

นี่เป็นภาพตัวอย่างเมื่อเลือก [แสงแดด] เพราะการตั้งค่าแตกต่างจากชนิดของแหล่งกำเนิดแสงจริง สีที่เป็นเอกลักษณ์ของหลอดไฟจึงไม่สามารถแก้ไขได้ และภาพที่ออกมาจึงมีโทนสีเหลือง

เปลี่ยนสีภาพอย่างจงใจ

ค่าสมดุลแสงขาว: อัตโนมัติ (A)

ค่าสมดุลแสงขาว: แสงแดด (B)

ค่าสมดุลแสงขาว: แสงไฟฟลูออเรสเซนต์ (C)

ค่าสมดุลแสงขาว: แสงแดด (D)

ดังที่แสดงในภาพตัวอย่าง (B) หากคุณต้องการสร้างบรรยากาศอีกแบบหนึ่งให้กับภาพโดยใช้สีของหลอดไฟ คุณสามารถตั้งค่าสมดุลแสงขาวไปที่ [แสงแดด] อย่างจงใจ เพื่อเพิ่มสีเหลืองให้กับภาพ แทนที่จะใช้การตั้งค่า [อัตโนมัติ] ดังในตัวอย่าง (A) ที่ถ่ายทอดสีของภาพตามจริง เทคนิคนี้สามารถนำไปใช้ได้กับกรณีที่คุณถ่ายภาพอาหารในที่ร่ม หรือภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืน ในภาพตัวอย่าง (C) และ (D) ผมถ่ายภาพอาคารซึ่งสว่างด้วยแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ โดยใช้การตั้งค่าสมดุลแสงขาวที่แตกต่างกัน การตั้งค่าสำหรับภาพ (C) นั้นใกล้เคียงกับสีที่ผมมองเห็นมากที่สุด เมื่อตั้งค่าแบบ [แสงแดด] ตามตัวอย่าง (D) โทนสีเหลืองแดงช่วยเติมโทนอุ่นของสีให้กับภาพถ่าย

การแก้ไขให้ได้ความสว่างตามที่ต้องการ

กล้อง IXUS ส่วนใหญ่มาพร้อมกับโหมด Smart Auto ที่ให้คุณสามารถบันทึกภาพฉากส่วนใหญ่ได้ด้วยระดับความสว่างที่เหมาะสม แต่ก็มีบางกรณีที่ระบบวัดแสงของกล้องอาจทำงานได้ไม่เที่ยงตรงนัก ตัวอย่างเช่น วัตถุสีขาวและสว่างจะดูมืดลงเล็กน้อยเมื่อถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ ขณะที่วัตถุสีดำหรือสีเข้มจะสว่างขึ้นกว่าความเป็นจริงนิดหน่อย เมื่อคุณพบสถานการณ์เช่นนี้ ให้ลองปรับระดับความสว่างที่คำนวณด้วยกล้อง คุณสามารถปรับความสว่างได้ตามความตั้งใจในการถ่ายภาพของคุณโดยใช้คุณสมบัติ "การชดเชยแสง" สำหรับกล้อง IXUS การชดเชยแสงทำได้ง่ายในโหมดโปรแกรมระดับแสงอัตโนมัติ (Program AE) และในโหมดฉากถ่ายภาพส่วนใหญ่ ยกเว้นโหมดอัตโนมัติ ขอแนะนำให้คุณเรียนรู้ขั้นตอนในการชดเชยแสง เพราะเป็นประโยชน์มากและจะช่วยให้คุณถ่ายภาพออกมาได้อย่างที่ต้องการ

ตัวอย่างการชดเชยแสง

การชดเชยแสง: -0.3 สต็อป

เพราะมีหินสีดำจำนวนมากกินพื้นที่กว่าครึ่งขององค์ประกอบ ภาพทั้งภาพจะออกมาสว่างหากไม่ทำการชดเชยแสง เมื่อตั้งค่าการชดเชยแสงมาที่ -0.3 สต็อป ผมจึงสามารถถ่ายภาพโดยไม่ทำให้ท้องฟ้าและทะเลสว่างเกินไปได้

การชดเชยแสง: -0.7 สต็อป

ภาพถ่ายท้องทะเลสว่างด้วยแสงแรกของอาทิตย์ยามเช้าตรู่ ผมทำให้ทั้งภาพนี้มืดลงอย่างมาก โดยทำการชดเชยแสงที่ -0.7 สต็อปเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ที่ดูเหนือจริง

เอฟเฟ็กต์การชดเชยแสง

การชดเชยแสง: -2 สต็อป

การชดเชยแสง: -1 สต็อป

การชดเชยแสง: ±0 สต็อป (ไม่มีการชดเชยแสง)

การชดเชยแสง: +1 สต็อป

การชดเชยแสง: +2 สต็อป

การตั้งค่าการเปิดรับแสงสูงขึ้นจะทำให้ทั่วทั้งภาพสว่างขึ้น การแสดงสีขาวจึงทำได้ง่ายขึ้น ในทางตรงกันข้าม ค่าการเปิดรับแสงที่ลดลงจะทำให้ภาพมืดลง และใ้ช้ได้ผลดีในการสร้างโทนสีดำที่หนักแน่นยิ่งขึ้น ดังนั้น หลักการพื้นฐาน คือ ใช้ค่าการชดเชยแสงเป็นบวกสำหรับสีสันที่สว่าง และค่าการชดเชยแสงเป็นลบสำหรับสีมืดทึม

การตั้งค่าปริมาณการชดเชยแสง

แสดงแถบค่าการชดเชยแสงบนหน้าจอ LCD โดยเลือกคุณสมบัติการชดเชยแสง เพิ่มความสว่างในภาพ โดยการเลื่อนตัวชี้ระดับการเปิดรับแสงมาทางขวา (ค่าการชดเชยแสงเป็นบวก) ลดความสว่างในภาพลง โดยการเลื่อนตัวชี้ระดับการเปิดรับแสงมาทางซ้าย (ค่าการชดเชยแสงเป็นลบ)

การชดเชยแสง: -1 สต็อป

การชดเชยแสง: +1 สต็อป

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา