ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

หรือค้นหาโดย

หัวข้อ

Article
Article

Article

e-Book
e-Book

e-Book

Video
Video

Video

Campaigns
Campaigns

Campaigns

Architecture
กล้องคอมแพค

กล้องคอมแพค

Architecture
DSLRs

DSLRs

Architecture
การถ่ายวีดิโอ

การถ่ายวีดิโอ

Architecture
ภาพดาราศาสตร์

ภาพดาราศาสตร์

Architecture
กล้องมิลเลอร์เลส

กล้องมิลเลอร์เลส

Architecture
ภาพสถาปัตยกรรม

ภาพสถาปัตยกรรม

Architecture
เทคโนโลยีของแคนนอน

เทคโนโลยีของแคนนอน

Architecture
การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

การถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อย

Architecture
การสัมภาษณ์ช่างภาพ

การสัมภาษณ์ช่างภาพ

Architecture
ภาพวิวทิวทัศน์

ภาพวิวทิวทัศน์

Architecture
การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพมาโคร

Architecture
การถ่ายภาพกีฬา

การถ่ายภาพกีฬา

Architecture
การถ่ายภาพท่องเที่ยว

การถ่ายภาพท่องเที่ยว

Architecture
การถ่ายภาพใต้น้ำ

การถ่ายภาพใต้น้ำ

Architecture
แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

แนวคิดการถ่ายภาพและการประยุกต์ใช้

Architecture
การถ่ายภาพสตรีท

การถ่ายภาพสตรีท

Architecture
กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

กล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม

Architecture
เลนส์และอุปกรณ์เสริม

เลนส์และอุปกรณ์เสริม

Architecture
Nature & Wildlife Photography

Nature & Wildlife Photography

Architecture
การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

การถ่ายภาพพอร์ตเทรต

Architecture
การถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืน

Architecture
การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

การถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง

Architecture
โซลูชั่นการพิมพ์

โซลูชั่นการพิมพ์

Architecture
รีวิวผลิตภัณฑ์

รีวิวผลิตภัณฑ์

Architecture
การถ่ายภาพงานแต่งงาน

การถ่ายภาพงานแต่งงาน

ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

[ตอนที่ 2] เรื่องราวของกล้อง PowerShot G1 X Mark II – เลนส์และท่อเลนส์

2014-04-10
1
1.67 k
ในบทความนี้:

ตอนที่ 2 ของบทสัมภาษณ์นักพัฒนากล้อง PowerShot G1 X Mark II จะบอกเล่าเรื่องของ "เลนส์" มาดูกันถึงรายละเอียดประสิทธิภาพออพติคอลอันละเอียดประณีตของเลนส์ที่ใช้ในกล้อง PowerShot G1 X Mark II PowerShot G1 X Mark II เป็นกล้องระดับเรือธงของซีรีย์ PowerShot G ซึ่งอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุดของ Canon ในบทความต่อเนื่องชุดนี้ นักพัฒนากล้องรุ่นนี้ได้บอกเล่าถึงความท้าทายต่างๆ ที่พวกเขาเผชิญกว่ากล้องรุ่นนี้จะทำออกมาได้เสร็จสมบูรณ์

หน้า: 1 2

(จากซ้าย)
Norihiro Nanba, ปฏิบัติการแผนก Image Communications Product, ศูนย์พัฒนา ICP 1, วิศวกร / Shuichi Mogi, ปฏิบัติการแผนก Image Communications Product, ศูนย์พัฒนา ICP 1 / Tomoyuki Kudo, ปฏิบัติการแผนก Image Communications Product, ศูนย์พัฒนา ICP 3, วิศวกรอาวุโส

ความท้าทายแรกของ Canon สู่ระดับใหม่

― มุมรับภาพที่กว้างขึ้น กำลังขยายในการซูม และค่า f …รายละเอียดต่างๆ ด้านออพติคอลล้วนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำอย่างไรถึงสามารถทำสำเร็จทั้งที่ยังคงขนาดกล้องแบบคอมแพคไว้ได้ครับ?

Mogi กล้อง G1 X Mark II ใช้โครงสร้างเลนส์ 6 กลุ่ม มากที่สุดสำหรับกล้องคอมแพคตระกูล Canon กล้อง G1 X ใช้โครงสร้างเลนส์ 4 กลุ่ม กล้องรุ่นใหม่จึงมีอิสระในการกระจายเลนส์ และความหลากหลายในด้านการออกแบบที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเรานำสิ่งที่ดีที่สุดจากทุกๆ ส่วนทั้งรูปทรงของกล้อง วัสดุแก้ว การกระจายตัวของเลนส์ ไปจนถึงการเคลือบชิ้นเลนส์ 14 ชิ้น จึงทำการพัฒนารายละเอียดสเปคในทุกแง่มุมได้สำเร็จ

Nanba เมื่อเราเพิ่มกลุ่มเลนส์ขึ้นอีกชุดหนึ่ง ก็ทำให้เกิดลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการความแม่นยำในการควบคุมตำแหน่งเลนส์ แต่ระดับความยากในการผลิตก็เพิ่มตามมา นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมโครงสร้างเลนส์แบบ 6 กลุ่มจึงไม่ถูกนำมาใช้จนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การออกแบบด้วยกลุ่มเลนส์ 6 กลุ่มมีอิสระมากกว่า และมีข้อดีที่สามารถเพิ่มกำลังขยายได้แม้ในพื้นที่ที่จำกัด ดังนั้น เราจึงให้เวลามากกว่าแต่ก่อนในการทดสอบแบบจำลองบนคอมพิวเตอร์ และมุ่งมั่นออกแบบกล้องโครงสร้างเลนส์ 6 กลุ่มให้เกิดขึ้นจริง การใช้โครงสร้างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยนับเป็นความท้าทายหลัก แต่หลังจากขั้นตอนสร้างแบบจำลอง พวกเราจึงได้ทำการทดสอบและทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพระดับสูงโดดเด่น จนเกิดเป็นโครงสร้างปัจจุบันในที่สุด

การซูมแบบออพติคอล 5 เท่า (24-120 มม.) F2.0(W) -F3.9(T)

การเคลือบเมมเบรนหลายชั้นบนเลนส์ทุกชิ้นช่วยลดแสงหลอกและความคลาดเคลื่อน

A: กลุ่มที่ 1: เลนส์ชิ้นบางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่
วัสดุแก้วที่มีการหักเหของแสงสูงทำให้ช่วงการเลื่อนซูมที่สั้นลง
B: กลุ่มที่ 5: โฟกัสภายใน
แม้ว่ากล้อง G1 X ใช้ระบบการโฟกัสด้านหลัง แต่กล้อง G1 X mark II ใช้ระดับการโฟกัสภายในซึ่งช่วยให้มีการเคลื่อนไหวเลนส์น้อยมาก การโฟกัสอัตโนมัติรวดเร็วขึ้น รูปทรงกะทัดรัด และประสิทธิภาพการถ่ายภาพมาโครที่ดีกว่า
C: เลนส์ทรงกลม 3 ชิ้น
เลนส์แก้ความคลาดทรงกลม 3 ชิ้นซึ่งมีเลนส์ UA รวมอยู่ด้วยนั้นสามารถชดเชยความคลาดเคลื่อนต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

― โครงสร้างเลนส์แบบ 6 กลุ่มนี้เป็นความพยายามครั้งแรกซึ่งยากมากในการผลิต อะไรที่ทำให้เป้าหมายนี้เป็นไปได้?

Nanba เนื่องจากเป็นโครงสร้างที่ต้องมีความไวในการตอบสนองต่อการควบคุมเลนส์ในระดับสูง เราได้พูดคุยกันหลายครั้งกับแผนกที่ออกแบบท่อเลนส์ นอกจากนั้นแล้ว เรายังพัฒนาเลนส์โดยร่วมมือกับโรงงานผลิตอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำหรับการผลิตจำนวนมาก ผมเชื่อว่า การร่วมมือกันในการทำงานนี่แหละที่เป็นปัจจัยสำคัญให้เราถึงเส้นชัยที่ยากแสนยากนี้ได้

Mogi กล้องในซีรีย์ G และซีรีย์ S อันเป็นกล้องคอมแพครุ่นพรีเมี่ยมนั้นผลิตที่บริษัท Canon ในจังหวัดนางาซากิ การเดินทางไปมาและได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันนับครั้งไม่ถ้วนนับเป็นประโยชน์อย่างมาก เราหารือกันด้วยความกระตือรือร้นหลายครั้งโดยมีเป้าหมายอย่างเดียวกัน แล้วระบบการผลิตสำหรับเลนส์กล้อง G1 X Mark II ก็เริ่มก่อร่างขึ้น

Kudo ถ้ามองในเรื่องของท่อเลนส์สำหรับกล้องนี้ ชิ้นส่วนกลไกทำหน้าที่ในการควบคุมระดับความไวในการตอบสนองได้เป็นอย่างดี เนื่องจากวิธีการเดิมๆ ที่ใช้อยู่นั้นไม่สามารถสร้างความแม่นยำอย่างที่ต้องการได้ การปรับในส่วนนี้จึงเป็นภารกิจที่ยากมากจริงๆ เราได้จับมือกับแผนกพัฒนาอัลกอริธึม และสามารถคิดค้นการควบคุมเลนส์โดยใช้วิธีการใหม่ขึ้นมาได้ นอกจากนี้ วิธีการในการผลิตแบบใหม่ๆ ของโรงงานก็เป็นปัจจัยสำคัญด้วยเช่นกัน เพื่อให้ได้ความแม่นยำระดับสูง การผลิตท่อเลนส์สำหรับกล้อง G1 X Mark II ต้องมีกระบวนการขั้นตอนมากมายกว่าเดิม แต่เพราะเราได้นำเอาอุปกรณ์ใหม่ๆ มาใช้ ในที่สุดการผลิตในปริมาณมากโดยคงความแม่นยำในรายละเอียดที่เล็กที่สุดก็ประสบความสำเร็จได้

กลุ่มเลนส์ 6 กลุ่ม
(บน จากซ้าย): กลุ่มที่ 1/ กลุ่มที่ 2/ กลุ่มที่ 3
(ล่าง จากซ้าย): กลุ่มที่ 4/ กลุ่มที่ 5/ กลุ่มที่ 6

― กล้อง G1 X Mark II มีเลนส์เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ ไม่ทราบว่าได้ใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ของเลนส์ EF ด้วยหรือเปล่าครับ?

Nanba แผนกที่ทำงานด้านออพติคหลายแผนกของ Canon อยู่ที่อุสึโนะมิยะ นักออกแบบด้านออพติคที่ไม่ใช่แค่ในส่วนของ SLR แต่ยังมีส่วนอื่นๆ อีก เช่น อุปกรณ์วัดแสงด้วยสารกึ่งตัวนำ และอุปกรณ์บรอดแคส ก็มารวมตัวกัน เป็นบรรยากาศที่ทำให้การประสานพลังความคิดที่มีประสิทธิผลเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย ที่นี่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็นประจำ สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลา และคุณสามารถมองเห็นว่าแผนกอื่นๆ กำลังออกแบบอะไรอยู่ โดยเฉพาะแผนกเลนส์ EF ซึ่งทำงานเหมือนๆ กันกับกล้องหลายรุ่น การจัดการกับข้อมูลอย่างพิถีพิถันจึงเป็นจุดแข็งของพวกเขาอย่างแท้จริง

Mogi ความจริงแล้ว เทคโนโลยีของเลนส์ EF และเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้ของ EOS M ได้ให้แนวทางที่สำคัญในการพัฒนาเลนส์เอาไว้ให้พวกเรา และในอดีต ผมก็เคยรับมือกับการออกแบบด้านออพติคสำหรับกล้องวิดีโอมาแล้ว เช่น กล้องวิดีโอสำหรับใช้ในครัวเรือนเกือบทุกรุ่นมีเลนส์รูรับแสงกว้าง f/1.8 เป็นต้น ประสบการณ์และความรู้ดังกล่าวเป็นประโยชน์เมื่อผมออกแบบเลนส์เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ในครั้งนี้

― ชิ้นส่วนป้องกันเลนส์ที่ไม่มีในกล้อง G1 X ได้นำมาใส่ไว้ในกล้องรุ่นนี้ด้วยนะครับ

Kudo เป็นเพราะผู้ใช้กล้อง G1 X มีความต้องการชิ้นส่วนนี้อย่างมาก เราจึงมองหาความเป็นไปได้ในการใส่ชิ้นส่วนป้องกันเลนส์เข้าไปตั้งแต่เริ่มการพัฒนาเลนส์
อย่างไรก็ดี ด้วยความพยายามที่จะใส่ชิ้นส่วนป้องกันเลนส์ที่ครอบคลุมเลนส์ชิ้นหน้าที่มีขนาดใหญ่ได้ทั้งหมด จึงทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของท่อเลนส์เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตรงจุดนี้ เราใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสำหรับกล้อง PowerShot G15 เมื่อทำให้โครงสร้างการเปิดของตัวป้องกันเลนส์มีขนาดเล็กลง จึงสามารถลดพื้นที่การเก็บม่านป้องกันเลนส์ ซึ่งหมายความว่า เรายังสามารถลดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกได้เช่นกัน นอกเหนือจากนี้ สำหรับกล้อง G1 X Mark II เราได้เพิ่มจำนวนกลีบ โดยพัฒนาชิ้นส่วนป้องกันเลนส์ 8 กลีบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้สามารถลดขนาดการเปิดได้ เราจึงสามารถรักษาความเป็นคอมแพคเช่นนี้ไว้ได้พร้อมกับมีชิ้นส่วนป้องกันเลนส์

― ระยะโฟกัสใกล้สุดระหว่างการถ่ายภาพมาโครลดลงอย่างชัดเจนจริงหรือครับ?

Mogi ระยะโฟกัสใกล้สุดเป็นประเด็นหนึ่งที่มีผู้ใช้ร้องขอเข้ามามาก เราจึงได้หาข้อสรุปกันอย่างจริงจัง ว่าเราควรจะมุ่งไปไกลแค่ไหนสำหรับสเปคกล้องตัวนี้ ในการลดระยะโฟกัสใกล้สุด สิ่งสำคัญคือจะต้องลดจำนวนการเคลื่อนที่ของกลุ่มเลนส์โฟกัส ถึงจุดนี้ เราเกิดไอเดียที่จะเปลี่ยนจากวิธีการโฟกัสด้านหลังที่ใช้อยู่เป็นการโฟกัสภายใน

Nanba เซนเซอร์มีขนาดใหญ่ขึ้น เลนส์ที่วางอยู่ลำดับท้ายสุดจะใหญ่ขึ้นด้วย เพื่อจะนำแสงที่พอเหมาะกับขนาดเซนเซอร์เข้าไปได้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อใช้วิธีการโฟกัสด้านหลัง กลุ่มเลนส์ส่วนท้ายจะเคลื่อนที่เป็นกลุ่มเลนส์โฟกัส วิธีนี้เหมาะกับเซนเซอร์ขนาดเล็ก แต่ไม่ได้ผลดีนักกับเซนเซอร์ขนาดใหญ่ นี่เป็นเพราะเมื่อเลนส์ใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น การขับเคลื่อนและควบคุมเลนส์ก็จะยากขึ้นตาม ดังนั้น สำหรับกล้อง G1 X Mark II ซึ่งใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ การใช้วิธีการโฟกัสภายในซึ่งสามารถเลื่อนกลุ่มเลนส์ที่เล็กกว่าจึงมีประสิทธิภาพมาก

Kudo เพื่อขจัดความผิดปกติในการทำงานของทางยาวโฟกัสแต่ละระยะ การเคลื่อนที่ของกลุ่มเลนส์จึงได้รับการควบคุมอย่างแม่นยำในท่อเลนส์ และผ่านการปรับเพื่อให้ถ่ายภาพได้สวยตั้งแต่ระยะไกลจนถึงระยะใกล้ นอกจากนี้ เนื่องจากสามารถลดระยะการเคลื่อนที่ของกลุ่มเลนส์โฟกัสลงได้ด้วยการโฟกัสภายใน การโฟกัสอัตโนมัติก็ทำงานได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

― จริงไหมครับที่ว่าพวกคุณทุ่มเทให้กับลักษณะของภาพที่มองเห็นผ่านช่องมองภาพด้วย EVF?

Mogi ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ภายนอก (EVF) เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เพราะเป็นครั้งแรกของกล้องคอมแพคของ Canon เช่นกัน ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นการออกแบบ เราทดลองและทดสอบซ้ำๆ หลายครั้ง จึงผ่านการพัฒนาที่ผสมผสานทุกเทคโนโลยีของ Canon ที่มีอยู่ ในการออกแบบ EVF นี้ เราทำด้วยความกระตือรือร้นด้วยเป้าหมายที่จะให้เป็นที่สุดของโลก

Nanba เทคโนโลยีช่องมองภาพแบบออพติคอลของ EOS ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากตั้งแต่ได้รับการออกแบบขึ้น จุดสำคัญอยู่ที่มุมรับภาพและภาพที่มองเห็นว่ามีคุณภาพดีแค่ไหน เราดำเนินการปรับปรุงหลายครั้งกับเลนส์หลากรุ่น รวมถึงโครงสร้าง และกลไกการปรับแก้สายตา

― เราคาดหวังถึงการทำแบ็คกราวด์เบลอสวยๆ อย่างกล้อง SLR จากกล้องตัวนี้ได้มั้ยครับ?

Mogi การเบลอแบ็คกราวด์ให้สวยอย่างที่พบได้เฉพาะในกล้องเซนเซอร์ขนาดใหญ่เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาในครั้งนี้ซึ่งเราให้ความสำคัญมากที่สุด เราทำการทดลองวิธีต่างๆ หลากหลายตั้งแต่ขั้นตอนแรกเพื่อคุณสมบัตินี้ ควบคู่กับการปรึกษาหารือกันหลายครั้งถึงการทำให้เส้นผ่าศูนย์กลางกว้างขึ้น ในที่สุด เราจึงได้ค่า f ที่ f/2.0 (W) - f/3.9 (T) โดยดึงเอาประโยชน์จากเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1.5 นิ้ว* มาใช้ให้มากที่สุด
*จำนวนพิกเซลทั้งหมด : ประมาณ 15.0 ล้านพิกเซล
จำนวนพิกเซลที่ใช้จริง : ประมาณ 12.8 ล้านพิกเซล (3:2)

Kudo เราใส่ไดอะแฟรมรูรับแสง 9 กลีบเพื่อให้กล้องสามารถสร้างแบ็คกราวด์เบลอที่สวยงามได้ ซึ่งทำให้สามารถถ่ายทอดความเบลอในลักษณะเป็นโค้งวงให้สวยงามได้โดยแทบจะเป็นรูปวงกลมเลยทีเดียว และเมื่อใช้แบบ 9 กลีบโดยที่แต่ละกลีบเล็กลง ก็ควบคุมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของท่อเลนส์ให้เป็นไปตามต้องการได้สำเร็จ

ขนาดการเปิดรูรับแสงขึ้นอยู่กับค่า f จากซ้าย f/2.8, f/5.6 และ f/11

― กล้อง G1 X Mark II มีข้อดีอะไรบ้างที่จะมอบให้แก่ผู้ใช้?

Mogi แม้ว่ากล้อง G1 X Mark II มีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1.5 นิ้ว* เป็นจุดเด่น แต่ทางยาวโฟกัสและค่า f ตลอดจนถึงระยะโฟกัสใกล้สุด ทำให้สเปคของกล้องตัวนี้น่าดึงดูดใจอย่างมาก ด้วยความสามารถในการถ่ายที่หลากหลาย คุณสามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตให้มีแบ็คกราวด์เบลอได้โดยเปิดรูรับแสงกว้าง และหากลดรูรับแสงก็สามารถถ่ายภาพให้ชัดใสที่สุดได้เมื่อคุณต้องการให้ระยะทั้งหมดของภาพจากหน้าถึงหลังอยู่ในโฟกัสอย่างเช่นภาพทิวทัศน์ และเพราะกล้องตัวนี้สามารถถ่ายภาพสวยได้ตั้งแต่

แบ่งปันภาพถ่ายของคุณใน My Canon Story แล้วร่วมลุ้นโอกาสเผยแพร่ผลงานบนโซเชียลมีเดียของเรา