ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ที่ผ่านมา Canon ได้แถลงเปิดตัวกล้องใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ "EOS 5DS" และ "EOS 5DS R" ซึ่งมีจำนวนพิกเซลสูงที่สุดในกล้องซีรีส์ EOS ในชุดบทความต่อเนื่อง 4 ตอนนี้ ผมจะนำสิ่งที่น่าสนใจของกล้องทั้งสองรุ่นนี้มาเล่าให้ฟัง (ภาพโดย: Takashi Mochizuki, เรื่องโดย: Ryosuke Takahashi)
EOS 5DS R
กำลังในการแยกรายละเอียดภาพที่ถ่ายทอดภาพได้ละเอียด
ประณีตอย่างน่าทึ่ง
ภาพถ่ายรายละเอียดสูงโดยยกเลิกการใช้เอฟเฟ็กต์ของฟิลเตอร์ Low-pass
นอกจากจะมีจำนวนพิกเซลสูงอย่างมากแล้ว กล้อง EOS 5DS R ยังมอบภาพความละเอียดสูงจนถึงรายละเอียดย่อยของภาพได้ โดยยกเลิกการใช้เอฟเฟ็กต์ของฟิลเตอร์ Low-pass ในภาพตัวอย่าง คุณจะมองเห็นขนตาแต่ละเส้นของนางแบบได้ รวมทั้งรูปทรงของกิ่งก้านใบไม้ที่ล้อมรอบอยู่ได้รับการถ่ายทอดอย่างละเอียดประณีต แสดงให้เห็นถึงระดับความคมชัดของภาพถ่ายเมื่อยกเลิกการใช้เอฟเฟ็กต์ของฟิลเตอร์ Low-pass ขณะเดียวกันภาพก็แสดงการเกลี่ยแสงที่ดีเยี่ยม เห็นได้จากการไล่โทนสีที่เนียนเป็นเนื้อเดียวทั้งที่เสื้อผ้าและผิวนางแบบ กล้องรุ่นนี้เป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับกำลังในการแยกรายละเอียดภาพเป็นพิเศษ ทั้งสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ตามแหล่งธรรมชาติหรือการถ่ายภาพในสตูดิโอ
EOS 5DS R/ EF24-70mm f/2.8L II USM/ FL: 35 มม./ Manual exposure (1/15 วินาที, f/11)/ ISO 400/ WB: อุณหภูมิสี (5,200K)/ รูปแบบภาพ: Fine Detail
ภาพขยาย 100%
เพราะมีจำนวนพิกเซลที่สูงมาก รายละเอียดจึงไม่พร่ามัวแม้จะเปิดภาพแบบขยาย 100% และการถ่ายภาพระยะไกลยังทำให้ผมรู้สึกทึ่งเพราะมองเห็นขนตาแต่ละเส้นของนางแบบได้ชัดเจน การยกเลิกการใช้เอฟเฟ็กต์ของฟิลเตอร์ Low-pass ให้ผลที่ทรงพลังยิ่งกว่าที่คาดคิด
EOS 5DS
ภาพความละเอียดสูงสุดยอดได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในยุคใหม่
มิติต่างๆ ที่มองเห็นได้ชัดซึ่งถ่ายทอดด้วยพิกเซลที่มีความละเอียดสูง
กำลังในการแยกรายละเอียดภาพที่เห็นได้จากกล้อง EOS 5DS นั้นนับว่าน่าทึ่งทีเดียวสำหรับกล้องที่ใช้ฟิลเตอร์ Low-pass ภาพด้านล่างนี้ถ่ายในสตูดิโอซึ่งมีแหล่งแสงที่ปรับเพื่อให้แสงระดับสูง แม้ว่ามีการลดแสงลง ผมก็ยังคงทึ่งในคุณภาพการถ่ายทอดลักษณะของผิวและรายละเอียดย่อยต่างๆ ที่ออกมาอย่างสมจริง กำลังในการแยกรายละเอียดที่ทรงพลังของกล้องนี้ช่วยส่งให้ลักษณะของรูปแบบภาพ [Fine Detail] แสดงออกมาได้เต็มที่ จึงถ่ายทอดภาพได้อย่างมีเอกลักษณ์ด้วยโฟกัสที่คมชัดท่ามกลางความนุ่มนวลของภาพ แม้ว่าแสงจะค่อนข้างแบน แต่มิติของภาพกลับแสดงออกมาอย่างโดดเด่นเพราะพิกเซลที่ละเอียด คุณภาพของภาพเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยพบในกล้อง EOS รุ่นไหนมาก่อน
EOS 5DS/ EF70-200mm f/2.8L IS II USM/ FL: 170 มม./ Manual exposure (1/125 วินาที, f/8)/ ISO 100/ WB: อุณหภูมิสี (5,200K)/ รูปแบบภาพ: Fine Detail
คุณจะเห็นได้ชัดเจนถึงรายละเอียดที่แตกต่างกันระหว่างวิกผมกับผมธรรมชาติ แม้แต่ขนบนใบหน้าและความหนาของมาสคาร่าที่ถ่ายทอดออกมาได้ราวกับใช้แว่นขยาย เลนส์ที่ใช้คือเลนส์ EF70-200mm f/2.8L IS II USM ซึ่งให้ประสิทธิภาพทัดเทียมกันกับกล้องที่มีจำนวนพิกเซลสูงรุ่นนี้ สำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตแฟชั่น กล้อง EOS 5DS อาจเป็นประโยชน์กว่า เพราะเกิดปัญหาสีเพี้ยนและเอฟเฟ็กต์มอเร่บนเสื้อผ้าน้อยกว่า
การสร้างเอฟเฟ็กต์เทเลโฟโต้ง่ายๆ ด้วยฟังก์ชั่นการถ่ายครอป
EOS 5DS/ EF200-400mm f/4L IS USM Extender 1.4x/ FL: 329 มม./ Aperture-priority AE (1/250 วินาที, f/4, ±0EV)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ (เน้นบรรยากาศ)/ รูปแบบภาพ: Fine Detail
×1.3→30.5M
×1.6→19.6M
เมื่อเทียบกับภาพต้นฉบับในภาพแรก ผลภาพจากฟังก์ชั่นการถ่ายครอปที่การตั้งค่ากำลังขยายต่างๆ ปรากฏให้เห็นชัดเจน ไม่ต้องบอกเลยว่า คุณสมบัตินี้เป็นประโยชน์เมื่อคุณไม่สะดวกที่จะขยับเข้าใกล้ตัวแบบ ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากระยะห่างระหว่างแบ็คกราวด์และตัวแบบไม่เปลี่ยน คุณจึงสามารถใช้เอฟเฟ็กต์โบเก้ที่เกิดขึ้นในภาพเป็นตัวช่วยสร้างภาพสวยได้ นอกจากนี้ บริเวณขอบภาพซึ่งไวต่อการเกิดความคลาดเคลื่อนถูกครอปออก จึงเหมาะสำหรับภาพถ่ายทิวทัศน์แบบแพนโฟกัส ความละเอียดของภาพประมาณ 20 ล้านพิกเซลในโหมดครอป 1.6 เท่า จึงแทบไม่หลงเหลือข้อบกพร่องใดๆ สำหรับคุณภาพของภาพถ่าย
คุณบอกได้จากข้อมูลการถ่ายภาพว่ากล้องอยู่ห่างจากตัวแบบแค่ไหน แต่รายละเอียดเหล่านี้กลับถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดีแม้จะอยู่ไกลจากตัวแบบ ซึ่งเป็นเพราะอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากจำนวนพิกเซลสูง ภาพเหล่านี้ถ่ายโดยใช้การถ่ายภาพต่อเนื่อง แต่กลับไม่เห็นความเบลอของภาพที่เกิดจากอาการกล้องสั่นแม้จะใช้ความเร็วที่ 1/250 วินาที จึงเป็นคุณสมบัติอเนกประสงค์ที่ใช้กับการถ่ายภาพนอกสถานที่ได้เช่นกัน
* บทความนี้เขียนขึ้นโดยอ้างอิงจากผลิตภัณฑ์รุ่นทดลอง ข้อมูลบางอย่างเช่นลักษณะของผลิตภัณฑ์และคุณภาพของภาพอาจแตกต่างจากผลิตภัณฑ์จริงบ้างเล็กน้อย
เกิดที่จังหวัดไอชิเมื่อปี 1960 Takahashi เริ่มทำงานอิสระในปี 1987 หลังจากทำงานในสตูดิโอถ่ายภาพโฆษณาและสำนักพิมพ์ และเนื่องจากรับถ่ายภาพให้กับนิตยสารชื่อดัง เขาจึงได้เดินทางจากที่อยู่ประจำ คือ ญี่ปุ่นและจีน ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก และเขาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Japan Professional Photographers Society (JPS) ด้วย