เคล็ดลับที่มืออาชีพใช้ในการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ต (3): เก็บภาพบรรยากาศของการแสดงสด
Hajime Kamiiisaka จะมาเผยเคล็ดลับเชิงลึกบางประการในการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ตที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมในตอนที่ 3 ของบทความต่อเนื่องเรื่องการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ตนี้ การเพิ่มชั้นเชิงในวิธีจัดองค์ประกอบภาพ เลือกมุม เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้ภาพของคุณโดดเด่นยิ่งขึ้น พยายามถ่ายภาพให้ออกมาสวยงามมากที่สุดพร้อมกับปรับตัวให้เข้ากับความตื่นเต้นของคอนเสิร์ตได้อย่างเป็นธรรมชาติ (เรื่องโดย Hajime Kamiiisaka)
f/16, 1/30 วินาที, ISO 2500
บันทึกช่วงเวลาสำคัญที่ศิลปินดูโดดเด่นที่สุด
เมื่อคุณเข้าใจเทคนิคการถ่ายภาพที่กล่าวถึงใน ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 ในระดับหนึ่งแล้ว ต่อไปลองมาศึกษาวิธีการจัดองค์ประกอบภาพกัน เมื่อคุณรวมเครื่องดนตรีและกลอง และเอฟเฟ็กต์ต่างๆ บนเวที เช่น ควันในส่วนแบ็คกราวด์เอาไว้ในเฟรมภาพแล้ว บรรยากาศของการแสดงคอนเสิร์ตจะน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น
ในภาพนี้ การรวมวงดนตรีไว้ในส่วนแบ็คกราวด์ช่วยถ่ายทอดบรรยากาศของการแสดงคอนเสิร์ตได้ดีทีเดียว
เมื่อถ่ายภาพศิลปินเดี่ยว เราสามารถจัดองค์ประกอบภาพในแนวตั้งได้ง่ายขึ้น โดยตั้งจุดโฟกัสไว้ที่ใดที่หนึ่งภายในบริเวณที่คุณต้องการจะถ่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ใบหน้าของศิลปิน จากนั้น ถ่ายภาพโดยเก็บส่วนหนึ่งของฉากไว้ขณะที่ตัดตัวแบบที่ไม่จำเป็นออกจากเฟรมภาพ และคุณจะได้องค์ประกอบภาพที่มีความสวยงาม นอกจากนี้ ให้ลองปรับความเร็วชัตเตอร์ตามการเคลื่อนที่ของตัวแบบ
f/4.5, 1/50 วินาที, ISO 2500
แม้ว่าคุณจะไม่ได้ถ่ายภาพศิลปินแบบเต็มตัวก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด การถ่ายภาพส่วนต่างๆ ที่คุณต้องการจะถ่ายทอดเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้ในการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ต
ตรวจสอบสถานที่จัดงานก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่มขึ้นเพื่อจินตนาการว่าคุณจะถ่ายภาพแบบใด และถ่ายภาพทั้งในแนวตั้งและแนวนอน เพื่อที่คุณจะสามารถจัดองค์ประกอบภาพได้อย่างผ่อนคลายระหว่างการถ่ายภาพจริง
เคล็ดลับ: ครอปภาพหากไม่สามารถใช้วิธีอื่นได้
แม้ว่าผมจะไม่แนะนำวิธีนี้อย่างยิ่ง แต่หากสถานที่ที่ถ่ายหรืออุปกรณ์ไม่ทำให้คุณได้ภาพตามที่ต้องการ คุณอาจใช้วิธีครอปภาพในระหว่างกระบวนการปรับแต่งภาพ เพราะความสุขอย่างหนึ่งในการถ่ายภาพคือ การได้ภาพถ่ายที่ออกมาใกล้เคียงกับที่คุณนึกภาพไว้ ด้วยการลองผิดลองถูกหลายครั้ง คุณจะเก่งมากขึ้นในการเลือกอุปกรณ์และสถานที่ที่ถ่ายในการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ตครั้งต่อไป
กล้าถ่ายภาพจากมุมต่ำเพื่อให้ภาพดูมีพลัง
หากสถานที่แห่งเดียวที่คุณสามารถใช้ถ่ายภาพได้อยู่ในระดับต่ำกว่าความสูงของเวที ลองทดสอบตัวเองด้วยการถ่ายภาพจากมุมต่ำเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง การใช้ระยะมุมกว้างของเลนส์ซูมเพื่อถ่ายภาพฉากให้ดูกว้างที่สุดช่วยให้เราเก็บภาพทั้งศิลปินและฉากหลังบนเวทีไว้ในเฟรมได้ง่ายขึ้น และหากคุณสามารถเก็บภาพแสงที่สาดส่องจากบนเพดานเหนือเวทีเพื่อให้ภาพมีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นได้ก็นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจ โดยส่วนตัวผมมักใช้เลนส์ฟิชอายเพื่อถ่ายภาพบรรยากาศการแสดงสดแบบต่างๆ
อย่าล้มเลิกความพยายามแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ถ่ายภาพ การใช้องค์ประกอบภาพที่หนักแน่นจะช่วยสื่อถึงพลังของคอนเสิร์ต
การถ่ายภาพจากมุมต่ำจะช่วยให้เราเก็บภาพใบหน้าของมือกีตาร์และศิลปินคนอื่นๆ ที่มักจะเอียงศีรษะต่ำขณะทำการแสดงได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มุมกล้องต่ำยังช่วยให้ได้ภาพที่ดูมีพลังมากขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อศิลปินกระโดด
สับสนว่าตำแหน่ง/ระดับของกล้องและมุมกล้องแตกต่างกันอย่างไรใช่หรือไม่ โปรดดูที่:
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตั้งค่ากล้อง #7: ตำแหน่งของกล้อง (ระดับ) และมุมกล้องแตกต่างกันอย่างไร
หากคุณถ่ายภาพจากมุมสูง คุณจะสามารถเก็บภาพมุมกว้างของเวทีไว้ได้ทั้งหมด
เมื่อถ่ายภาพจากมุมสูง ควรพยายามเก็บภาพบรรยากาศโดยรวมของงานให้ได้ทั้งหมด เนื่องจากคุุณจะสามารถแสดงให้เห็นถึงขนาดของผู้ชม และยังเก็บภาพมือกลองและมือคีย์บอร์ดที่อยู่ด้านหลังซึ่งโดยปกติจะถ่ายจากมุมอื่นๆ ได้ยากได้อีกด้วย การถ่ายภาพนักแสดงที่กำลังยืนบนเวทีคือตัวอย่างภาพถ่ายที่สามารถถ่ายได้จากตำแหน่งที่สูงกว่าเท่านั้น
f/2.8, 1/160 วินาที, ISO 2500
เมื่อถ่ายภาพจากมุมสูง คุณจะสามารถถ่ายทอดบรรยากาศโดยรวมของงานได้ ส่วนการเก็บภาพมุมกว้างของเวทีได้ทั้งหมดนั้นถือเป็นของแถม
แง่มุมที่น่าสนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ตคือ คุณจะมีอิสระในการเลือกวิธีถ่ายทอดอารมณ์ภาพได้มาก เพลิดเพลินกับการพยายามได้ภาพถ่ายที่คุณพึงพอใจ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ถ่ายภาพ หลังจากทดลองถ่ายภาพหลายครั้งแล้วคุณจะเริ่มเข้าใจว่ามุมภาพใดเหมาะกับคุณมากที่สุด
เก็บภาพพื้นผิวและสีสันที่สดใสของเครื่องแต่งกายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของศิลปิน
การเก็บภาพความมีชีวิตชีวาของเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับของศิลปินเป็นอีกหนึ่งเทคนิคของการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ต การมีแสงไฟสาดส่องลงมาที่ตัวศิลปินหรือไม่นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ หากศิลปินอยู่ท่ามกลางแสงไฟที่ดูเป็นธรรมชาติ พื้นผิวเครื่องแต่งกายจะดูโดดเด่นแม้ว่าจะเป็นภาพในระยะใกล้ ดังนั้น ลองถ่ายที่ค่า f ที่ f/5-f/5.6 หรือสูงกว่า แล้วคุณจะสามารถถ่ายทอดรายละเอียดของพื้นผิวบนเครื่องแต่งกายได้
หากคุณต้องการถ่ายทอดรายละเอียดของเครื่องแต่งกาย ให้สังเกตเอฟเฟ็กต์แสง จากนั้นพยายามให้ได้ภาพถ่ายที่มีแสงไฟที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ควรทราบว่าการดึงเอาพื้นผิวของเครื่องแต่งกายที่อาบไล้ไปด้วยแสงจ้า เช่น เมื่อมีเอฟเฟ็กต์สีแดงหรือสีฟ้าในภาพ นั้นทำได้ยาก ดังนั้น หากเป็นไปได้ให้ลองกำหนดล่วงหน้าว่าศิลปินจะแต่งเครื่องแต่งกายแบบใด ในวันที่มีการแสดงคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง ผมไม่เคยลืมไปที่ด้านหลังเวทีเพื่อดูว่าศิลปินจะเปลี่ยนชุดเมื่อใดและใส่ชุดใดในระหว่างการแสดง
สั่งสมประสบการณ์การถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ตให้มากที่สุด
ในชีวิตประจำวันไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ตเลย อีกทั้งงานแสดงคอนเสิร์ตยังจัดขึ้นในสถานที่ที่พิเศษและแตกต่างท่ามกลางสภาพแวดล้อมหลายอย่างที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายภาพ ทั้งสถานที่มืดสนิท แสงสว่างเต็มไปด้วยสีสัน มุมกล้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และตัวแบบก็เคลื่อนที่เร็ว คุณจึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
การพกกล้องไปในการแสดงคอนเสิร์ตจริงคือวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการพัฒนาฝีมือการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่คุณจะฝึกฝนถ่ายภาพคอนเสิร์ตกับตัวแบบอื่นๆ อีกวิธีหนึ่งคือการขอถ่ายภาพนักดนตรีตามท้องถนนหรือเพื่อนๆ ที่เล่นอยู่ในวงดนตรีสมัครเล่น อย่าลังเลที่จะร้องขอ และหากคุณขอพวกเขาอย่างสุภาพ เหล่านักแสดงอาจอนุญาตให้คุณถ่ายภาพพวกเขาก็เป็นได้ [หรือคุณอาจ เข้าร่วมงาน Canon Photo Party คลิกลิงค์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม]
นอกจากนี้ คุณยังสามารถฝึกฝนถ่ายภาพอย่างสม่ำเสมอในตอนกลางคืนพร้อมกับลดการสั่นของกล้อง ตลอดจนศึกษาภาพถ่ายการแสดงคอนเสิร์ตของช่างภาพคนอื่นๆ ทางออนไลน์ไปพร้อมๆ กับนึกถึงวิธีถ่ายภาพคอนเสิร์ตของคุณเอง ผู้ที่หมั่นฝึกฝนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ระหว่างการถ่ายภาพการแสดงคอนเสิร์ตจะสามารถถ่ายภาพได้อย่างเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
f/4, 1/100 วินาที, ISO 1600
รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข่าวสาร เคล็ดลับและลูกเล่นในการถ่ายภาพได้โดย ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับเรา!
เข้าทำงานที่ Epic/Sony Records ในปี 1993 โดยทำงานในฝ่ายผลิตการออกแบบหลังจากสั่งสมประสบการณ์ในฐานะผู้จัดคอนเสิร์ตและในฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปิน เขาลาออกในปี 2002 เพื่อมาเป็นผู้ช่วยของช่างภาพแฟชั่นอย่าง JFKK ก่อนที่จะออกมารับงานถ่ายภาพด้วยตัวเอง นับแต่นั้นมา เขามีผลงานในวงการแฟชั่นเชิงพาณิชย์ ภาพยนตร์ ดนตรี และทัศนศิลป์เป็นหลัก